คอลัมน์ แท็งก์ความคิด
นฤตย์ เสกธีระ
max@matichon.co.th
มติชน
วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
สัปดาห์นี้มีเรื่องราวดีๆ
ในเดือนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่มาฝากครับ
งานนี้มีชื่อยาวเหยียด เพิ่งแถลงข่าวไปเมื่อวันก่อน
ที่อาคารสำนักงานบริษัท ข่าวสด จำกัด
ชื่องานว่า "หนองคายกินดีอยู่ดี ไอซีทีเปิดประตูสู่อินโดจีน
Thailand Food Forward-SME Family Day 2009"
จำง่ายๆ สั้นๆ ว่า "หนองคายกินดีอยู่ดี"
งานนี้จัดกันที่ ศาลากลางจังหวัดหนองคาย
มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคายเป็นเจ้าที่
มีกระทรวงไอซีที สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม
และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม ร่วมเป็นเจ้าภาพ
จัดกันระหว่าง วันที่ 7-10 ธันวาคม
พลิกเอกสารแถลงข่าวและรายละเอียดภายในงานแล้ว
...พลาดไม่ได้นะครับ
เพราะถ้าพลาดอาจเสียโอกาส
งานนี้ไอซีทีเตรียมทุนการศึกษาเอาไว้
แจกให้วันละ 10 ทุน ทุนละ 5,000 บาท
การสื่อสารแห่งประเทศไทย
เปิดจำหน่าย CDMA แบบซื้อ 1 แถม 1
ไปรษณีย์ไทยร่วมกับ สสว.
เปิดอบรมธุรกิจเอสเอ็มอีและอีคอมเมิร์ซ
ซิป้าอบรมให้ความรู้เยาวชนเกี่ยวกับ Digtal Content
นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย
ยังนำโอท็อป สุดยอดสินค้าท้องถิ่น
มาเปิดให้ผู้เข้าร่วมงานจับจ่ายซื้อของ
สถาบันอาหารนำอาหารราคาถูกสุดสุดมาขาย
แถมยังเปิดอบรมอาชีพทั้งการสร้างเว็บไซต์
การขายสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ต
การทำกาแฟโบราณแบบบูรณาการ
รวมทั้งผัดไทยแชมป์โลก 4 สูตรเด็ด !
และอื่นๆ อีกมากมาย
หากบรรยายไปมากเดี๋ยวจะไม่ตื่นเต้น
คาดกันว่า งานนี้จะมีคนหนองคาย
และคนจังหวัดใกล้เคียงเดินทางไปร่วมกันคึกคัก
งานแบบนี้ไม่ควรพลาดนะครับ
เหตุเพราะเจ้าที่และเจ้าภาพที่จัดงานนี้ขึ้นมา
มีความตั้งใจเชื้อเชิญให้ชาวบ้านเข้าร่วมงานจริงๆ
ดูได้จากการประชาสัมพันธ์ชักชวนให้คนไปเที่ยวงาน
ทั้ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย
ทั้งกระทรวงไอซีที ทั้งสถาบันอาหาร
และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ไม่เพียงแต่ตระเตรียมองค์ความรู้
ที่อยากเผยแพร่สู่ประชาชนเท่านั้น
ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังใช้
กลยุทธ์เพื่อชักชวนให้คนมาเที่ยวงานด้วย
ทั้งลด ทั้งแลก ทั้งแจก ทั้งแถม และให้ความบันเทิง
ครบสูตร !
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้คนสนใจและเข้ามาเที่ยวงานมากๆ
คนมาเที่ยวงานมากๆ จะได้มารับทราบความรู้
ที่หน่วยงานต่างๆ อยากเผยแพร่มากๆ
จัดงานจัดกิจกรรมให้แลดูน่าสนใจมากๆ
เพื่อให้สื่อมวลชนแขนงต่างๆ
นำเอาความรู้ที่ได้จากหน่วยงานต่างๆ ไปเผยแพร่มากๆ
ทุกอย่างก็เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์มากที่สุด
งานแบบนี้ประชาชนที่เข้าชมงานจึงชอบ
ประชาชนชอบหน่วยงานที่จัดก็ได้ชื่อเสียง
หน่วยงานมีชื่อเสียง ผลงานเป็นที่รู้จัก
คนที่จัดก็พลอยได้รับคำชม
ทุกอย่างเริ่มต้นจากส่วนตัว
ที่คิดเพื่อคนส่วนใหญ่
แล้วผลที่ก่อประโยชน์ให้แก่
คนส่วนใหญ่ก็จะสะท้อนกลับมาถึงส่วนตัว
เป็นเหมือนการขว้าง "บูมเมอแรง"
ใช่แล้วครับ เป็นเหมือนบูมเมอแรงที่ชาวอะบอริจิน
ชนพื้นเมืองในทวีปออสเตรเลีย
ใช้ในการล่าสัตว์และจับนกมาเป็นอาหาร
ลักษณะของบูมเมอแรงหลายคนคงเคยเห็นนะครับ
ส่วนใหญ่จะเป็นรูปตัววี แต่มีคนบอกว่า
บูมเมอแรงรูปตัวที ตัวเอ๊กซ์ และตัววาย ก็มีเหมือนกัน
ความพิเศษของบูมเมอแรงคือ
เมื่อเราขว้างไปแล้ว
ตัวบูมเมอแรงจะวกกลับมาหาเรา
แต่จะกลับมาหาเรา
เมื่อไหร่ก็แล้วแต่วงรอบที่เราขว้างออกไป
คิดไปคิดมาก็คงเหมือนกรรมเวรที่เราก่อขึ้น
ถ้าทำสิ่งดีๆ ออกไป
ในที่สุดเราก็จะได้รับสิ่งดีๆ กลับคืนมา
ยิ้มให้เขา เขาก็จะยิ้มตอบ
มีน้ำใจต่อเขา เขาก็จะมีน้ำใจตอบกลับ
แต่บางครั้งสิ่งที่กลับคืนอาจจะช้า
หรือเร็ว ก็แล้วแต่คนที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วย
บางคนที่มีพื้นฐานจิตใจดี คิดดีต่อเราอยู่แล้ว
เขาก็จะมีปฏิกิริยาดีๆ ตอบกลับเราเร็ว
บางคนที่คิดไม่ดีต่อเรา
กระทั่งเข้าใจเราผิด
กว่าเขาจะเข้าใจและ
มีปฏิกิริยากลับมาดีๆ ก็คงต้องใช้เวลา
เช่นเดียวกับการกระทำสิ่งไม่ดีเหมือนกัน
ทำสิ่งไม่ดีกับคนที่ไม่ไว้ใจเราอยู่แล้ว
เขาก็จะมีปฏิกิริยาตอบกลับมาเร็ว
แต่ถ้าทำสิ่งไม่ดีกับคนที่เขาไม่มีอคติอะไรต่อเรา
แรกๆ เขาก็คงยังไม่รู้เรื่อง
แต่พอเวลาผ่านไป เขาก็คงโต้กลับ
เหมือนบูมเมอแรงเช่นกัน
ดังนั้น ใครที่ทำดีกับใคร
แต่รู้สึกว่ายังไม่ได้รับผลดีต่อกลับ
แสดงว่าวงรอบของบูมเมอแรงมาไม่ถึง...อย่าเพิ่งท้อใจ
ส่วนใครที่ทำไม่ดีกับใครเอาไว้
แต่คนที่เราอาฆาตมาดร้ายยังไม่รู้สึกตัว
สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกก็คือ
หยุดการกระทำไม่ดีนั้นเสีย
การหยุดทำไม่ดี เท่ากับ
การลดแรงของบูมเมอแรงลง
บางทีบูมเมอแรงแห่งความเลวร้าย
อาจอ่อนแรงและ
ตกลงก่อนย้อนมาถึงตัวเราก็ได้
สวัสดี
หน้า 17