Custom Search

May 31, 2019

LINEกนก พระนางเรือล่ม 21 มกราคม 2561


สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี


สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี หรือที่ชาวบ้านเรียกพระนามว่า สมเด็จพระนางเรือล่ม
(10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2403 – 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2423)
อัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 





May 28, 2019

Perspective EP.16 : ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ - ศิริวัฒน์เเซนด์วิช [12 พ.ค 62]



เจาะใจ : ก้าวที่กล้า | หนึ่ง จักรวาล...กล้าที่จะเดินหน้า [25 มี.ค. 60]

เจาะใจ : ก้าวที่กล้า | หนึ่ง จักรวาล...กล้าที่จะเดินหน้า 1 [25 มี.ค. 60] Full HD

เจาะใจ : ก้าวที่กล้า | หนึ่ง จักรวาล...กล้าที่จะเดินหน้า 2 [1 เม.ย. 60] Full HD


หนึ่ง-จักรวาล มีวันนี้ได้ เพราะเพียรพยายาม จากขอเล่นฟรี สู่นักดนตรีแถวหน้า


ผลงานนับไม่ถ้วน “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร สมัยที่ 2 ในชีวิต


 "ชวน หลีกภัยประธานสภาผู้แทนราษฎร คนใหม่ และเป็นครั้งที่ 2 
ในชีวิตการเมืองที่ดำรงตำแหน่งนี้
ภายหลังเปิดการสภาผู้แทนราษฎร ครั้ง 1 ในวันที่ 25 พ.ค. พ.ศ. 2562





  • http://teetwo.blogspot.com/2008/04/blog-post_7425.html
  • คิดอย่างผู้ชนะ” ฉบับเทรนเนอร์คู่กาย “Michael Jordan”





    เปิดเคล็ดลับ “คิดอย่างผู้ชนะ” ฉบับเทรนเนอร์คู่กาย “Michael Jordan”
    ตำนานของนักบาสเกตบอล
    Michael Jordan คืออดีตนักบาสเกตบอลอาชีพที่พาทีมชิคาโก บูลส์ คว้าแชมป์ NBA 6 สมัย
    และก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาที่รวยที่สุดในโลก
    หนึ่งในเบื้องหลังสำคัญของความสำเร็จนี้ คือ ‘Tim Grover’
    เทรนเนอร์ผู้อยู่เคียงข้างเขามายาวนานกว่า 15 ปี
    ในปีนี้ Grover เขียนหนังสือ “Winning: The Unforgiving Race to Greatness”
    ขึ้นมาเพื่อเล่าถึงมุมมองของเขาเกี่ยวกับความสำเร็จ ซึ่ง Michael Jordan
    ได้เขียนคำนิยมไว้ว่า “Tim Grover เข้าใจเรื่องวิธีปั้นผู้ชนะดีกว่าใคร”
    และนี่คือส่วนหนึ่งของแนวคิดแบบ “ผู้ชนะ” ในหนังสือเล่มนี้

    1) ผู้ชนะไม่เดินตามรอยใคร แต่จะสร้างเส้นทางใหม่ขึ้นมาเอง Grover มองว่า การอ่านโควทเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ หรือการตามรอยความสำเร็จของคนอื่น เป็นสิ่งที่มือสมัครเล่นเท่านั้นที่จะทำ เพราะในความเป็นจริงแรงจูงใจและ วิธีการของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน ดังนั้น สิ่งที่ควรทำมากกว่าคือทดลองหาหนทางไปสู่เป้าหมายตามสไตล์ของตัวเอง พร้อมกับปรับเปลี่ยนแผนไปเรื่อยๆ เมื่อคุณค่อยๆ เก่งขึ้น 2) ผู้ชนะเห็นความเป็นไปได้ในทุก ๆ อย่าง ผู้ชนะจะมองเห็นความเป็นไปได้ที่คนทั่วไปมองไม่เห็นเสมอ Grover อธิบายว่า “ผู้ชนะไม่ได้คิดนอกกรอบ เพราะพวกเขาไม่สร้างกรอบไว้ตั้งแต่แรก” นอกจากนั้น พวกเขายังเชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเอง และถึงแม้การตัดสินใจเหล่านั้นจะผิดพลาด พวกเขาก็มองว่ามันเป็นเพียงบันไดอีกขั้นที่ต้องก้าวข้ามไปก่อนเดินทางถึงเป้าหมาย 3) ผู้ชนะกลัว แต่ไม่สงสัยในความพยายามของตัวเอง ผู้ชนะย่อมเข้าใจดีว่า ‘ความกลัว’ กับ ‘การสงสัยในความสามารถตัวเอง’ นั้นแตกต่างกัน เพราะความกลัวเป็นสิ่งปกติที่เกิดขึ้นได้ แม้แต่ Jordan ที่มีประสบการณ์มากมายก็ยังตื่นเต้นทุกครั้งก่อนลงสนาม แต่ เขาสยบความกลัวของตัวเองด้วยวิธีนึกภาพการซ้อมทั้งหมดที่ผ่านมา อีกทั้งยังพยายามพลิกความเชื่อที่ว่าตัวเองยังไม่เก่งพอของเพื่อนร่วมทีมอยู่บ่อยๆ เนื่องจากความคิดเหล่านี้อาจนำไปสู่ความพ่ายแพ้ได้ 4) ผู้ชนะยอมรับว่าคนส่วนใหญ่อาจไม่เข้าใจพวกเขา เป็นธรรมดาที่คนส่วนใหญ่อาจไม่เข้าใจว่าทำไมผู้ชนะถึงต้องทุ่มเทความตั้งใจทั้งหมดให้กับเป้าหมาย หรือทำไมถึงกระหายความสำเร็จถึงเพียงนั้น เช่นเดียวกับที่ Jordan ตั้งใจฝึกให้หนักแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดย Grover แนะนำว่า “ถ้าอยากชนะก็อย่านำความคิดเห็นของใครมาบดบังความตั้งใจของคุณ” แม้คนอื่น ๆ จะมองว่าคุณหมกมุ่นหรือคุณบ้าเกินไปก็ตาม แม้ว่าไมเคิล จอร์แดนจะมีความสามารถเก่งกาจขนาดไหน เขาก็ทำตัวเหมือน ‘ฟองน้ำ’ คือพร้อมรับฟังความคิดเห็น เรียนรู้ และปรับตัว ที่สำคัญ เขายังตั้งคำถามกับความรู้หรือความเชื่อของตัวเองอยู่บ่อยๆ เพื่อพัฒนาวิธีคิดให้ติดจรวดความสำเร็จขึ้นไปอีก

    - - -
    ติดตามสาระดี ๆ จากแปดบรรทัดครึ่งได้ตามช่องทางเหล่านี้ครับ
    LINE: @eighthalf (มี @ ด้วย)
    Podcast: eighthalf.podbean.com และช่องทางพอดคาสต์อื่น ๆ

    May 25, 2019

    สิ้นรัฐบุรุษ “พล.อ.เปรม”



    ภาพจาก ไทยพีบีเอส
    ข่าว จาก ครอบครัวข่าว 3

    วันที่ 26 พ.ค. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ ได้ถึงแก่อสัญกรรมที่ รพ.พระมงกุฏฯ เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ด้วยวัย 99 ปี

    ทั้งนี้เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. นายทหารประจำบ้านสี่เสาเทเวศร์ได้นำ พล.อ.เปรม ส่ง รพ.พระมงกุฎฯ เพื่อรักษาอาการด่วน แต่ในเวลาประมาณ 09.00 น. พล.อ.เปรมก็ถึงอสัญกรรมอย่างสงบ

    May 23, 2019

    วรรคทอง พี่เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์

    นิตยสารแพรว 

    https://th-th.facebook.com/rewat.forever/



    วรรคทองของผู้ชายหนวดงาม พี่เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ ที่เคยฝากไว้กับแพรวตั้งแต่ปีพ.ศ. 2526 (ฉ.10 พ.ค. 26) ใครเห็นด้วยว่ายังคลาสสิคและเป็นจริงอยู่ในปัจจุบันบ้าง





    รอยแย้มพระสรวล ร.10 ทรงเรียกฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ กลับแล้วลูก


    เปิดใจเจ้าของภาพ "รอยแย้มพระสรวล ร.10 ทรงเรียกฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ กลับแล้วลูก"


    Bright TV

    9 พฤษภาคม เวลา 23:55 น.

    Shutter ประวัติศาสตร์ ภาพแห่งความปิติล้นของปวงชนชาวไทย

    "รอยแย้มพระสรวล ร.10 ทรงเรียกฟ้าหญิงสิริวัณณวรีฯ กลับแล้วลูก"

    เปิดใจช่างภาพฝีมือพระกาฬ "สืบพงษ์ อิทธิธนกุล" ผู้ลั่น Shutter แห่งประวัติศาสตร์ พระฉายาลักษณ์ที่ได้รับการเผยแพร่และถูกส่งต่อในโลกโซเชี่ยลมากที่สุด ณ ตอนนี้ เป็นพระฉายาลักษณ์ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ ทรงโบกพระหัตถ์และแย้มพระสรวลให้กับประชาชนที่มารอชื่นชมพระบารมี ด้านหลังพระองค์นั้นก็ปรากฎภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มพระสรวลด้วยเช่นกัน

    มาร่วมเปิดรับแรงบันดาลใจ และเรื่องราวแห่งความภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ สถาบันที่เป็นดั่งศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ

    #เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ #สืบพงษ์_อิทธิธนกุล #shutterประวัติศาสตร์




    May 15, 2019

    FIN | ถ้าม้าตายไป แล้วใครจะหาเมียให้ผม | กรงกรรม | Ch3Thailand


    บางประโยคก็กลายเป็นคำพูดฝังใจไปเลย
    ถึงจะรู้ว่าคนพูดไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ
    แต่มันเสียความรู้สึกไปแล้วอะ มันก็จำได้อยู่ดี






    May 14, 2019

    อย่าทึกทักความเห็นพ้องจากคนอื่น

    รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ 
    15 ธันวาคม 2558
    กรุงเทพธุรกิจ
    ​​​
    แม่ครัวที่ชอบกินเค็มมักปรุงอาหารออกเค็มเสมอ เช่นเดียวกับคนชอบดนตรีประเภทไหน ก็มักจะทึกทักว่า
    คนอื่นก็ชอบดนตรีประเภทเดียวกับตน สำหรับคนบางกลุ่มไปไกลถึงขนาดเห็นว่า คนที่มีรสนิยมไม่เหมือนกับตนเป็นคนโง่เง่าเต่าตุ่นเอาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้มีส่วนทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดอยู่บ่อยๆ จนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
    ​มนุษย์ทุกคนที่ทำงานต้องเคยทำอะไรผิดพลาด ยิ่งไปกว่านั้นมนุษย์ทุกคนล้วนเคยตัดสินใจผิดพลาดมาด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเป็นกระทำหรือการตัดสินใจที่ผิดพลาด ซึ่งมีผลกระทบไม่มากต่อผู้อื่นและตนเองแล้ว ความผิดพลาดเช่นนี้ก็ไม่กระไรนัก แต่ถ้าหากผิดพลาดแล้วก่อให้เกิดผลกระทบอย่างกว้างไกลแล้ว ก็จะเป็นปัญหาอย่างมาก
    ​ขึ้นรถเมล์ผิดสาย ลืมเอาพาสปอร์ตติดตัวไปสนามบิน ซื้อของราคาแพงกว่าความเป็นจริง ถูกต้มตุ๋นเงินไม่มาก ขับรถหลงทาง เหล่านี้ไม่น่ากลัว แต่ถ้าเป็นการเลือกคู่ผิดพลาด ใช้ยาเสพติด คบโจร ได้โอกาสทองเรียนหนังสือแต่เกเร เข้าใจผิดว่าตนเองเก่งกว่าความเป็นจริง จนมีพฤติกรรมที่เป็นผลเสียต่อตนเอง ทึกทักว่าความคิดของกลุ่มตนนั้นถูกต้อง ส่วนของคนอื่นผิดเสมอ นโยบายผิดๆ ที่รัฐเลือกให้นี้ถูกต้องแน่นอน ความผิดพลาดเช่นนี้ทำความเสียหายได้รุนแรง
    ​Rolf Dobelli ในหนังสือชื่อ “The Art of Thinking Clearly” (2013) เรียกปรากฏการณ์ที่ทึกทักว่า คนอื่นต้องเหมือนตน และไปไกลถึงกับว่ากลุ่มตนนั้นถูกต้องเสมอว่า “False-consensus Effect”
    ​ถ้าถามคนทั่วไปว่า ชอบดนตรีสมัย ‘80 หรือ 60’ ก็มักได้คำตอบที่เป็นไปในลักษณะที่คนชอบดนตรีสมัยไหน ก็คิดไปโดยอัตโนมัติว่า คนอื่นชอบเหมือนกลุ่มตนด้วย มนุษย์เรามักประเมินความเป็นเอกฉันท์เกินความจริงเช่นนี้อยู่บ่อยๆ
    ​False-consensus Effect หรือผลที่เกิดขึ้นจากปรากฏการณ์เข้าใจความเห็นพ้องอย่างผิดพลาดเกิดขึ้นกับพรรคการเมือง กลุ่มผลประโยชน์ NGO’s จนทำให้ประเมินความนิยมที่คนอื่นมีต่อกลุ่มของตนเองเกินความเป็นจริงอยู่บ่อยๆ ตัวอย่างก็คือเรื่อง Climate Change ผู้คนทั่วไปมักเชื่อว่า คนส่วนใหญ่เห็นเหมือนกับตนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง แต่ผลสำรวจจากโพลในประเทศจำนวนมาก ระบุว่า คนส่วนใหญ่ไม่เห็นว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย
    ​​นักการเมืองและพรรคการเมืองในทุกประเทศ มักประเมินความนิยมของประชาชนเกินความเป็นจริงอยู่เสมอ จนทำให้เกิดการพลิกล็อกอยู่บ่อยๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีล็อกให้พลิก กล่าวคือความ (ไม่) นิยมของประชาชนก็เป็นเช่นนั้น เพียงแต่นักการเมืองประเมินเข้าข้างตัวเองเกินความเป็นจริง และสามารถทำให้สื่อและประชาชนบางส่วนเข้าใจตามนั้น เมื่อมีการลงคะแนนประชาชน ก็ลงคะแนนตามความชอบที่มีอยู่ ผลจึงออกมาว่ามีการพลิกล็อก
    ​ถ้า NGO’s และนักการเมืองระวังเรื่อง False-consensus Effect แล้ว ก็จะมีการตระหนักถึงทางโน้มในการประเมินความนิยมเกินความเป็นจริง การดำเนินแผนกลยุทธ์ก็จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม
    ​นักร้องนักแสดง ตลอดจนนักเทคโนโลยีที่หลงใหลผลิตภัณฑ์ของตนก็หนีไม่พ้น False-consensus Effect เช่นกัน ในกรณีของนักร้อง นักแสดง ก็มักทึกทักว่ามีจำนวนแฟนคลับ และมีคนชื่นชมนิยมในตัวเองเกินความเป็นจริงอยู่เสมอในทุกประเทศ จนอาจนำไปสู่การต่อรองค่าตัวที่เกินเลยความเป็นจริง และทำให้ไม่ได้งานในที่สุดก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ
    สำหรับนักเทคโนโลยีที่ชื่นชอบผลงานของตนเองเป็นพิเศษอย่างเกินเลยความเป็นจริง อาจตกอยู่ในสภาวะ “ตาบอด” จนมองข้ามความก้าวหน้าของคู่แข่งและต้องเสียใจในเวลาต่อมาเพราะปรับตัวไม่ทัน
    ​หลายสินค้าเทคโนโลยีที่ออกสู่ตลาด และหลายบริษัทผู้ผลิตมีอันเป็นไปในที่สุด ถึงแม้ในสายตาของผู้ผลิตแล้ว สิ่งนี้คือสุดยอดของสินค้า ยามเมื่อปล่อยสินค้าออกมานั้น มั่นใจอย่างเต็มที่ว่า ผู้บริโภคจะหลงใหลและชื่นชอบเหมือนที่ตนเองเป็น หากไม่มี False-consensus Effect แล้วก็อาจมีการวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดอย่างรอบคอบ และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมก็เป็นได้
    ​กลุ่มมังสวิรัติมักบอกคนทั่วไปว่า การกินมังสวิรัติมิใช่ทางเลือก หากเป็นสิ่งที่ต้องเลือก เพราะไม่มีสิ่งอื่นที่ดีกว่าอีกแล้ว ดังนั้นต้องกระทำเหมือนพวกตน กลุ่มคนที่กระทำความดีก็เช่นเดียวกัน มักมีลักษณะที่ฝรั่งเรียกว่า มี Hubris คือมีความภาคภูมิใจ มีความเชื่อมั่นอย่างมากในความสำคัญของตนเอง ซึ่งในกรณีนี้มาจากความเชื่อว่า ตนเองได้ทำสิ่งที่ถูกต้องดีงามแล้ว นักปฏิบัติธรรมบางส่วนก็เข้าหรอบนี้เช่นเดียวกัน คนอื่นๆ ก็ควรต้องทำตัวเหมือนตน เพราะเป็นทางเดินเดียวที่ถูกต้องงดงาม
    ​มนุษย์ถูกลวงตาและลวงใจได้ไม่ยาก อันเนื่องมาจากความเอนเอียงอันเป็นผลจากการรับรู้รับทราบ (perception) ที่บิดเบี้ยวว่าคนอื่น (ควร) จะต้องเหมือนตน และหากไม่เหมือนก็จะกลายเป็นคนแปลกประหลาด ผิดปกติ หรือไม่ก็เป็นศัตรูกันไปเลย
    ​ปัญหาแบ่งแยกสี แบ่งศาสนาจนเกิดความวุ่นวาย ส่วนหนึ่งก็เป็นผลพวงจาก False-consensus Effect อย่างไม่ต้องสงสัย คนบางกลุ่มไม่เข้าใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงโง่เหลือทน และอีกฝ่ายก็มีความเห็นในลักษณะเดียวกันเพียงแต่ความโง่ย้ายฝั่งเท่านั้น
    แต่ละฝ่ายก็มีเหตุผลและข้อเท็จจริงสนับสนุนความเชื่อของตนเอง ส่วนใครจะ “ฉลาด” ในการตีความข้อเท็จจริงกับการใช้เหตุใช้ผลเก่งกว่ากันนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
    ​การตระหนักถึงการมีอยู่จริงของ False-consensus Effect ของแต่ละฝ่าย อาจช่วยให้ข้อขัดแย้งน้อยลงก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยอมรับก่อนว่า มันมีปรากฏการณ์นี้อยู่จริง
    มนุษย์เป็น “สัตว์สังคม” ที่เปราะบางต่อการทำลายตนเองเพราะมีอีโก้ (Ego) เป็นชิพฝังอยู่ลึกในจิตใจ เฉพาะคนที่ตระหนักว่า ตนเองอาจมีความเชื่อมั่นในตัวเองที่สูงเกินความเป็นจริง และตนเองอาจมีความสามารถในระดับที่ต่ำกว่า ที่ตนเองเชื่อเท่านั้นที่พอเยียวยา


    “Social media is training us to compare our lives, instead of appreciating everything we are. No wonder why everyone is always depressed. ” - Bill Murray



    May 4, 2019

    5 พ.ค. 2562 พระราชพิธีเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์

    วันนี้ (๕ พฤษภาคม ๒๕๖๒) เวลา ๐๙.๐๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯ จากพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานไปยัง พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เสด็จออกพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทวราชมเหศวร เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร รัชกาลที่ ๑ - ๙ และพระพุทธมณีรัตนปฏิมากร ประทับพระราชอาสน์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ อาลักษณ์ กองอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อ่านประกาศพระบรมราชโองการเฉลิมพระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย และสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์พระบรมวงศ์ ดังนี้
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระปรมาภิไธยพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ แห่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ ขึ้นเป็น พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑ ด้วย
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระนามาภิไธย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ขึ้นเป็น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจจการิณีพิรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ ๑๐ ชั้นที่ ๑ ด้วย
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน์ วรขัตติยราชนารี
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุธนารีนาถ
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนธิราเทพยวดี
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์
    ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ
    ขณะนั้น พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงาน ประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร ดุริยางค์ พระบรมวงศ์ที่ได้รับสถาปนาพระฐานันดรศักดิ์ เข้าไปเฝ้าฯ หน้าพระราชอาสน์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูมและทรงเจิม แล้วพระราชทานพระสุพรรณบัฏพระนามาภิไธยและพระนามที่ได้รับสถาปนา ขณะพระราชทานน้ำพระมหาสังข์ ใบมะตูม และทรงเจิม พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร และดุริยางค์ จบแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับดอกไม้ธูปเทียนแพจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายชีพ จุลมนต์ ประธานศาลฎีกา และพลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานข้าราชบริพารในพระองค์

    การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๕๖๒ (The Royal coronation ceremony 2019)

    ภาพ จาก ไทยรัฐ