Custom Search

Dec 17, 2017

FORTUNE FAVORS THE BOLD DRAWINGS OF ‘POMME CHAN’


นิตยสารไม่ตาย เน้นสร้างจุดต่าง

นายดวงฤทธิ์ บุญนาค ผู้ก่อตั้งและบรรณาธิการบริหาร บริษัท เรวูโลชั่น เดฟโฟดิลส์ จำกัด ผู้ผลิตนิตยสารมอเตอร์ไซค์ รับเบอร์สแมกกาซีน (RubbersMagazine) และนิตยสารศิลปะ ไลฟ์สไตล์ เดอะ แจม แฟคตอรี่ แมกกาซีน (The jam factory magazine) 

เปิดเผยว่า ธุรกิจนิตยสารอยู่ในขาลง แต่ยังไม่ถึงกับตาย โดยมองว่านิตยสารที่เจาะเนื้อหาเฉพาะกลุ่มยังคงอยู่ได้ โดยผู้ประกอบการจะต้องปรับตัว และทำนิตยสารที่สร้างความแตกต่าง ลงลึกไปยังกลุ่มคนอ่าน




'ดิฉัน' ปิดตัว!!หลังออกฉบับสุดท้าย ปก 'เวียร์-เบลล่า'





คู่สร้างคู่สม ฉบับสุดท้าย




ใช่เธอใช่เลย Ost.พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง (2017)





เพลง ใช่เธอใช่เลย (เพลงประกอบละคร พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง) (2017)
ศิลปิน   นนท์ ธนนท์
คำร้อง   ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์
ทำนอง/เรียบเรียง เต็น ธีรภัค

เต็น - ธีรภัค มณีโชติ รัฐบุรุษแห่งเสียงเพลง


"เต็น" ทำเพลงด้วยหัวใจ สร้างคุณค่าประดับวงการ




เสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2560


อีกหนึ่งศิลปินคุณภาพที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ
ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันตลอดสำหรับศิลปิน
และโปรดิวเซอร์คนเก่ง เต็น-ธีรภัค มณีโชติ


อีกหนึ่งศิลปินคุณภาพที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ
ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันตลอดสำหรับศิลปิน
และโปรดิวเซอร์คนเก่ง เต็น-ธีรภัค มณีโชติ
ที่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหนุ่มคนนี้มีซิงเกิ้ลเพลงสุดพิเศษ
อาทิ ดีลีท, ราชสีห์กับหนู และเคมี
ที่บอกเล่าเรื่องราวความรัก 5 รูปแบบ
ผ่านผู้ชายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้ง 5 คน
ในชื่อโปรเจคท์พิเศษ “ซิมเปิ้ล แมน” (Simple man)
ซึ่ง “ศิรินทร์”
ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่มเต็นถึงการทำงานครั้งนี้
และการปรับตัวของคนดนตรีใน
วันที่วงการเพลงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจะเป็นอย่างไร
ติดตามในบทสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ

จุดเริ่มต้นบนเส้นทางนักดนตรี?

“อาชีพนักดนตรีเป็นความใฝ่ฝันของผมมาตั้งแต่เด็ก
พอเข้ามหาวิทยาลัยมีโอกาสได้ไปอัดเพลงในค่ายของ
พี่เบิร์ด-สุทธิพงศ์ กับ พี่ฮาร์ท-กุลพงษ์
แล้วก็ทำงานในห้องอัดมาเรื่อย ๆ พอเรียนจบก็ไป
เป็นครูสอนดนตรี เล่นแบ๊กอัพให้ศิลปิน
ระหว่างนั้นก็ชวน ดิษ-ประดิษฐ์ วรสุทธิพิสิทธิ์,
หนึ่ง-พนัส อภิชาติพงศ์บุตร และ เชษฐ์-วรเชษฐ์ เอมเปีย
รวมตัวกันเป็นวง “สมาย บัฟฟาโล่” ในปี 2538
มีอัลบั้มแรกกับค่าย อีเอ็มไอ อีไมเนอร์
เปิดตัวด้วยเพลง “ดีเกินไป” ประสบความสำเร็จมาก
จากนั้นอัลบั้มที่ 4 เราย้ายมาอยู่แกรมมี่
พออัลบั้มชุดที่ 5 สมาชิกทุกคนรู้สึกอิ่มตัว
และตัดสินใจหยุดทำวง
ผมหันมาจับงานเบื้องหลังเต็มตัว
ก่อนจะกลับมาทำอัลบั้มเดี่ยว “เต็น โซโล่”
จากนั้นก็ทำทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังสลับกันไป
ปัจจุบันดูแลงานเกี่ยวกับดนตรีให้


การทำงานในปัจจุบันแตกต่างจากสมัยก่อนอย่างไรบ้าง?

“ในตัวเนื้องานไม่มีความแตกต่างกันเลยครับ
แต่ภาษาที่ใช้ในการแต่งเพลงมีความกระด้างมากขึ้น
ตามความนิยมของคนสมัยนี้ที่ต้องการความรวดเร็ว
เน้นความสะใจ ชัดเจนตรงไปตรงมาก
ต่างจากสมัยก่อนที่เนื้อเพลงมีถ้อยคำสละสลวย
ภาษาคล้องจอง กว่าจะพูดคำว่ารักได้ต้องพรรณนาอยู่หลายคำ
ซึ่งคนทำงานต้องเปิดใจยอมรับกับความเปลี่ยนแปลง
ทำเพลงให้ร่วมสมัยแต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่ความเป็นตัวเองลงไป
ถ้าในเรื่องของรายได้สมัยนี้ไม่ได้มาจากการขายเทป ซีดี
แต่มาจากการดาวน์โหลด และงานจ้างเป็นหลัก
ผมว่าก็เป็นข้อดีนะ
เพราะบางเพลงก็มีคนมาขอลิขสิทธิ์ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ
ศิลปินมีเพลง 1-2 เพลง
ก็สามารถทัวร์คอนเสิร์ตได้เป็นปี ๆ แล้ว”

โปรเจคท์ซิม เปิ้ลแมน มีที่ มาอย่างไร?

“โปรเจคท์นี้ผมตั้งใจแต่งเพลงเพื่อบอกเล่าเรื่องราว
ความรักในมุมของผู้ชาย ผ่าน 5
นักร้องชายที่มีความโดดเด่นในตัวเอง
เพลงแรก “ดีลีท” (Delete)
เป็นเรื่องราวผู้ชายอกหักที่อยากจะลบความรัก
ที่เพิ่งจบลงออกจากชีวิต ถ่ายทอดโดย แหนม-รณเดช
ต่อมาคือ “ราชสีห์กับหนู” โดย “สิงโต นำโชค”
ที่มาบอกเล่าเรื่องราวของผู้ชายเกเรที่
ยอมหยุดทุกอย่างไว้ที่ครอบครัว
ล่าสุดกับคือเพลง “เคมี” เพลงรักจังหวะสนุกพูดถึง
ความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ต่างกันมากแต่ลงตัว
โดย “โย่งอาร์มแชร์” ฟีดแบ็กจากแฟน ๆ
ก็ค่อนข้างโอเค ดีใจที่ส่วนใหญ่เข้ามาชื่นชม
ส่วนอีก 2 เพลงน่าจะปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันเร็ว ๆ นี้ครับ”

แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงของเรามาจากไหน?

“ผมเป็นคนไม่ชอบคิดเพลงจากจินตนาการ
เพราะกลัวจะทำออกมาได้ไม่ดี
ฉะนั้นทุกเพลงที่ผมแต่งมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงรอบ ๆ ตัว
ทั้งที่เกิดขึ้นกับตัวเองและคนใกล้ตัว
การเขียนเพลงจากความจริงทำให้เราได้ตกตะกอน
และรู้สึกตามไปกับเรื่องราวเหล่านั้น
ทุกตัวหนังสือกลั่นออกมาจากหัวใจ
ผมไม่สนด้วยว่าเพลงนั้นจะดังหรือเปล่า
ขอแค่คนฟังมีความสุขกับเพลงนั้น ๆ
เราเองก็สนุกกับการคิดค้นไอเดียในการแต่งเพลง
จะหยุดทำก็ต่อเมื่อสมองคิดอะไรไม่ออกแล้ว
อย่างเพลง นับหนึ่ง ถือว่าเป็น
เพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของผม
เพราะเป็นเพลงที่แต่งและร้องด้วยเสียงของตัวเอง
ในฐานะศิลปินเดี่ยวครั้งแรก
ทำให้ทุกคนรู้ว่าผมร้องเพลงได้ และจดจำผมในชื่อของ
เต็น-ธีรภัค อีกเพลงคือเพลง “อาย”
ที่แต่งให้ สิงโต-นำโชค ร้องเพลงนี้ดังมาก
ทุกคนร้องตามได้หมดครับ (ยิ้ม)”

ธุรกิจเพลงค่อนข้างซบเซา มีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร?

“ผมมองว่ามันคือช่วงผลัดใบ
และทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป เพราะก่อนหน้านี้
ก็มีช่วงหนึ่งที่วงการเพลงย่ำแย่สุด ๆ
เพลงน่าเบื่อมาก แต่อยู่ ๆ วงการก็เข้าสู่ยุคเพลงอัลเทอเนทีฟ
นักร้องหันไปออกเพลงกับค่ายอินดี้มากขึ้น
เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการเพลง
แต่ผมเชื่อว่าดนตรีไม่มีวันตาย
มียุคนึงที่เขาจะไม่ให้เล่นดนตรีไทย สุดท้ายยังรอดมาได้
แค่นี้เองยังไงก็รอด
ดูเหมือนอยู่ในช่วงอันตราย แต่ถ้าอยู่ได้
เราจะอยู่รอดและอยู่ได้นานบนเส้นทางนี้
ตอนนี้เราทำได้แค่รอ พยุงตัวเอง
และปรับตัวให้เข้ากับธุรกิจเพลงในปัจจุบัน
ท้อไปก็ไม่มีประโยชน์ สำหรับผมแล้วเพลง
คืองานศิลปะที่เราถ่ายทอดออกมา
คาดหวังให้คนชอบและมีรายได้จากตรงนั้น
ถ้าไม่ได้ตามที่หวังต้องบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร
ถ้ายังรักและมีแรงก็ทำต่อ ช่วยกันทำเพลงดี ๆ
เราก็สร้างคุณค่าประดับวงการ
และสร้างความภูมิใจให้ลูกหลานได้ครับ”

แพลนอนาคตในวงการของตัวเองไว้อย่างไรบ้าง?

“ผมจะเป็นโปรดิวเซอร์ นักร้อง
นักแต่งเพลงอย่างนี้ตลอดไป
ดนตรีมันเข้าไปอยู่ในสายเลือดแล้ว
ไม่ว่าจะหลุดไปอยู่ในอาชีพไหนก็ยังมีคนให้
ผมทำงานเกี่ยวกับดนตรีอยู่ดี
แต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่นร้องบ้าง ร้องเองบ้าง
ทำโปรเจคท์เพลงที่อยากทำไปเรื่อย ๆ ครับ
แค่นี้ก็แฮปปี้ที่สุดแล้ว สำหรับน้อง ๆ ศิลปินรุ่นใหม่ ๆ
ที่เพิ่งจะเข้ามาในวงการ
ถ้าน้องรักในสิ่งนี้จริง ๆ ทำไปเลยครับ ทำให้ดีที่สุด
ไม่ต้องคำนึงถึงรายได้
ถือซะว่าเราได้ทำผลงานดี ๆ ฝากไว้ให้คนไทยได้ฟังกัน
ที่สำคัญต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเองครับ”

ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานของเราสักหน่อย?

“ฝากติดตามความรักหลาย ๆ แง่มุมของผู้ชายทั้ง 5 คน
ในโปรเจคท์ซิมเปิ้ลแมนของผมด้วยนะครับ
ตอนนี้ปล่อยออกมาให้ฟังกัน 3 เพลงแล้ว
ส่วนอีก 2 เพลงที่เหลือ อีกไม่นานเกินรอคงได้ฟังกัน
ทุกเพลงแต่งออกมาจากหัวใจผมจริง ๆ
หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับสุดท้ายนี้
ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่คอยติดตาม
และเป็นกำลังใจมาให้ผมตลอด
ขอบคุณมาก ๆ ครับ”

จากการนั่งพูดคุยกันในครั้งนี้เราสัมผัสได้ถึง
ความตั้งใจทำเพลงดี ๆ
ที่กลั่นออกมาจากจิตวิญญาณเพื่อคนฟังโดยแท้จริง
ฝากแฟน ๆเป็นกำลังใจให้กับศิลปินฝีมือดีคนดี
ในการสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ
ประดับวงการเพลงของเราต่อไปด้วยนะคะ
ศิรินทร์







https://youtu.be/DVl0dGaJXo0 (เต็น ธีรภัค สัมภาษณ์พิเศษ@ GuitarSiam.com)
https://youtu.be/dBEJk-NiNk8  (E-D-S Music Tonight: เต็น ธีรภัค + สิงโต นำโชค)
https://youtu.be/SjEQrlpshSw (สิงโต นำโชค - อาย (แจ่มจันทร์ โปรเจค)


























Dec 16, 2017

วันนี้คุณประสบความสำเร็จแล้วหรือยังครับ?

ขอบคุณพี่ Boy's Thought ครับผม

Singto Numchok สิงโต นำโชค




Boy's Thought

วันนี้ผมได้พบกับความหมายของคำว่า "ประสบความสำเร็จ"
ในอีกแง่มุมที่งดงามมาก จากรายการ The Voice
สิงโต นำโชค พูดไว้ได้ดีมาก ๆ
เขาพูดกับ 2 ผู้เข้าประกวด
ที่จะต้องมีใครคนใดคนนึงตกรอบว่า
"มีคนถามผมว่าถ้าไม่ประสบความสำเร็จทางด้านดนตรี
ชีวิตนี้จะไปทำอะไรต่อ?
ผมก็เลยถามเขากลับไปว่า
แล้วอะไรคือคำว่าประสบความสำเร็จทางด้านดนตรี?
ต้องมีชื่อเสียงโด่งดังใช่มั้ย? ต้องมีเพลงฮิตใช่มั้ย?
แบบนี้ใช่มั้ยถึงจะเรียกว่าสำเร็จ ถึงจะมีความสุข?"
ชายสวมหมวกผู้ทำให้อูคูเลเล่ฮิตทั่วเมือง พูดต่อว่า
"ผมว่าจริงๆ แล้วการที่เราได้ขึ้นมาร้องเพลงบนเวที
การที่เราได้หยิบกีตาร์มาร้องเพลงในร้านอาหาร
ผมว่าสิ่งนี้แหละคือความสำเร็จแล้ว
"ถ้ากลับบ้านไป มีคนถามคุณว่าประสบความสำเร็จมั้ย?
ให้คุณตอบไปเลยว่าประสบความสำเร็จ
ตั้งแต่วันที่กล้าก้าวเข้ามาประกวดบนเวทีแห่งนี้แล้ว
เพราะฉะนั้น ไม่มีเหตุผลเลยที่คุณจะหยุดร้องเพลง
เพียงเพราะไม่ได้ถูกผมเลือกให้เข้ารอบต่อ"
พอสิงโต นำโชคพูดจบ คนก็ปรบมือกันทั้งห้องส่ง
เป็นไงครับ ฟังแล้วน้ำตาจิไหล
แม้แต่ตัวคนพูดเอง ถ้าผมตาไม่ฝาด
เหมือนสิงโตจะน้ำตาคลอไปกับคำพูดของเขาเองด้วยซ้ำ
ฟังแล้วผมก็นึกเรื่องราวของเราหลายคน
คนที่ชอบนิยามคำว่า "ประสบความสำเร็จ" ได้คับแคบเหลือเกิน
คับแคบจนมันบีบรัดหัวใจให้เราไม่มีความสุข
เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ
คือสิ่งที่เราหลายคนเอามาเป็นหลักวัดความสำเร็จ
โดยละเลยแง่มุมอื่น ๆ ของชีวิตไป
เช่น ความสุขของครอบครัว ความสงบภายในใจ
ที่แย่กว่านั้น เราชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
แล้วเฝ้าบอกตัวเองเสมอว่า ฉันยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะฉันยังมีน้อยกว่าคนอื่น
และที่แย่ที่สุดก็คือ
เราให้ใครก็ไม่รู้มาติดป้ายบอกสรรพคุณตัวเราว่า
แบบนี้เรียกว่าคุณประสบความสำเร็จแล้วนะ
แบบนี้เรียกว่าคุณยังไม่ประสบความสำเร็จ
สิ่งที่ผมอยากจะบอก
และเชื่อว่าเป็นสิ่งเดียวกับที่สิงโต นำโชค ต้องการสื่อ ก็คือ
การประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องของ "ปลายทาง"
แต่มันเป็นเรื่องของ "ระหว่างทาง"
ระหว่างทางที่เราเดินไปในแต่ละวัน
เรากล้าบอกกับตัวเองมั้ยว่า
ฉันมีความสุขในสิ่งที่ทำ
ฉันภูมิใจและรักในสิ่งที่ทำ
ถ้ากล้าบอก กล้าพูดเต็มปาก
เราก็ประสบความสำเร็จไปตั้งนานแล้วล่ะครับ
อย่าเอาความสำเร็จไปแขวนไว้ปลายทาง
แล้วไปรอมีความสุขที่จุดนั้น
แต่จงประสบความสำเร็จในทุกวัน
แล้วชีวิตจะมีความสุขในทุกวัน
วันนี้คุณประสบความสำเร็จแล้วหรือยังครับ?
================
บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
www.boywisoot.com
เป็นเพื่อนกันได้ที่ LINE : @boywisoot.com