Custom Search

Feb 28, 2014

Feb 25, 2014

ครอบครัวอุดมสุข

http://teetwo.blogspot.com/2012/07/blog-post_23.html
http://teetwo.blogspot.com/2012/03/blog-post_14.html
http://teetwo.blogspot.com/2012/04/blog-post_1250.html
http://teetwo.blogspot.com/2013/10/mirror-neuron.html

สะพานสายรุ้ง 161
ช่วง ครอบครัวอุดมสุข
เทปพิเศษสนทานากับ ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ





ค้นพบตัวเองเร็วเท่าไรก็ยิ่งเป็นผลดี
ผลงานเล่มล่าสุด “สำเร็จ…ได้อีก”
ของนักเขียน ดร.วรภัทร์ ภู่เจริญ
ที่แนะหลักคิดการวางแผนชีวิตด้วย
การเริ่มต้นค้นหาตัวเอง
เพื่อค้นพบอาชีพที่เหมาะสม
นสพ.โพสต์ทูเดย์ หน้า 10 วันที่ 27 พฤษภาคม 2556


Feb 22, 2014

วาทะกรรมทางการเมือง ๒๕๕๗ #๓


หม่อมราชวงศ์ ปรีดียาธร เทวกุล 
ส่งจดหมายเปิดผนึกให้รักษาการณ์นายกรัฐมนต­รี 
เรียกร้องให้ ลาออก เปิดทางให้ประเทศเดินหน้า
เพราะรัฐบาลหมดความน่าเชื่อถือในการบริหารประเทศ





<

คอลัมน์ “อาหารสมอง” กรุงเทพธุรกิจ > ดึงดันทำให้ประเทศหยุดนิ่ง

วรากรณ์ สามโกเศศ
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
21 มกราคม 2557 

Pomme Chan...นักวาดภาพประกอบระดับโลก

ภาพประกอบ : ไทยรัฐ
http://teetwo.blogspot.com/2006/10/blog-post.html

"ปอม" ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง" ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยศิลปากร ออกแบบตกแต่งภายใน คณะมัณฑนศิลป์รุ่น 43 นักวาดภาพประกอบระดับโลกและโด่งดังมากที่สุดในอังกฤษชั่วโมงนี้

ทำในสิ่งที่รัก และรักในสิ่งที่ทำ
คือ เคล็ดลับความสำเร็จของ “ปอม-ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง” นักวาดภาพประกอบสาวสวยชาวไทย วัย 32 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักระดับอินเตอร์ในฐานะ “Pomme Chan” เธอเปลี่ยนความหลงใหลในเส้นสายลายตวัดจากปลายปากกา ถ่ายทอดออกมาเป็นผลงานสร้างสรรค์ระดับโลก ซึ่งเป็นที่ต้องการของแบรนด์ดังๆมากมายนับไม่ถ้วนไล่ตั้งแต่ Marc Jacobs, MTV, Nike, Adidas, Microsoft, Mercedes-Benz, Volkswagen, Sony, DVF ไปจนถึง Topshop และห้างสรรพสินค้า Selfridges


“ปอม ชาน” จบปริญญาตรีจากคณะมัณฑนศิลป์ สาขาออกแบบตกแต่งภายใน มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่ไม่เคยทำงานอินทิเรียดีไซน์อย่างที่ร่ำเรียนมาเลย กระทั่งได้ไปฝึกงานด้านกราฟฟิกดีไซน์ และทำงานกับบริษัทเอเจนซี่โฆษณาชื่อดังในตำแหน่งกราฟฟิกดีไซเนอร์ ทำให้ค้นพบตัวเองว่ามีความสุขจากการขีดเขียนวาดลายเส้น เธอจึงตัดสินใจบินลัดฟ้าไปศึกษาต่อด้านกราฟฟิกดีไซน์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น ที่วิทยาลัยลอนดอนคอลเลจ ออฟ คอมมิวนิเคชั่น และวิ่งสู้ฟัดทุกทาง เพื่อแจ้งเกิดในฐานะนักวาดภาพประกอบแถวหน้าของอังกฤษ

กว่าจะโด่งดังเป็นที่ยอมรับในอังกฤษ ต้องผ่านเส้นทาง ขรุขระขนาดไหน

ทั้ง รุ่นที่เรียนจบกราฟฟิกดีไซน์กว่า 80 คน มีแค่ 5 คน ที่ได้ทำงานวงการนี้ แต่การที่ไปเริ่มต้นอาชีพนี้ในต่างประเทศก็มีข้อดีเยอะ ทุกคนมีต้นทุนเท่ากันหมด ไม่มีใครสนใจว่าคุณเป็นหัวดำ หรือหัวทอง ช่วง 2-3 ปีแรก ยอมรับว่าลำบากมาก ต้องหาเลี้ยงตัวเองด้วยการรับจ็อบทำงานทุกอย่าง ตอนกลางวันเป็นพนักงานเสิร์ฟ, พนักงานเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง และแจกใบปลิว พอตกกลางคืนถึงมีเวลาทำงานด้านอิลลัสเตรชั่น ช่วงนั้นยอมทำงานฟรีๆไม่เอาสตางค์ เพราะอยากให้คนเห็นผลงานมากที่สุด ทำอยู่อย่างนั้น 2 ปีกว่า เป็นชีวิตที่เหนื่อยมาก กระทั่งรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว เลยตัดสินใจเดินเข้าธนาคารขอกู้เงิน เพื่อทำเว็บไซต์เปิดพอร์ตโฟลิโอของตัวเอง ตอนนั้นลุยเองหมดติดต่อกับบริษัทต่างๆเพื่อเอาผลงานเข้าไปเสนอ ทำให้เริ่มมีงานเข้ามา และมีโอกาสได้เริ่มต้นอาชีพนี้จริงจัง

ชิ้นไหนคือผลงานแจ้งเกิดทำให้นักวาดภาพ ประกอบไทยเป็นที่รู้จักในอังกฤษ

ผล งานแจ้งเกิดงานแรกคือ การทำงานร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ ของอังกฤษ และได้วาดภาพประกอบให้หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ระดับท็อปของอังกฤษ ตอนหลังวาดภาพประกอบให้หนังสือพิมพ์อีกหลายสำนักทั้งเดอะ การ์เดียน และไฟแนนเชียล ไทม์ส จากเดิมที่ต้องวิ่งหาลูกค้าเอง คราวนี้ลูกค้าเริ่มวิ่งเข้าหาเรา จึงต้องพึ่งเอเจนต์มาช่วยดูแลทุกอย่างให้เป็นระบบ ช่วยคุยกับลูกค้า สกรีนงานให้เรา มาถึงวันนี้ “ปอม” มีเอเจนต์ คอยดูแลงานให้ทั้งในอเมริกา, อังกฤษ และญี่ปุ่น ในต่างประเทศระบบเอเจนต์มีความสำคัญกับศิลปินมาก ช่วยให้ศิลปินฝีมือดีๆมีโอกาสเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น เพื่อให้งานของเราอยู่ถูกที่ถูกเวลา คือถ้าผลงานดี แต่ไม่มีคนเห็น หรือมีคนเห็นแต่เป็นคนไม่สำคัญ มันก็ไม่เกิดประโยชน์

อะไรคือจุดแข็งของ “ปอม ชาน” ที่มีเอกลักษณ์ ต่างจากศิลปินทั่วไป

ความ ใส่ใจในรายละเอียดน่าจะเป็น จุดเด่นนะคะ งานของ “ปอม” จะดีเทลเยอะมากและมีความเป็นผู้หญิงสูง อาจเป็นเพราะมีพื้นฐานศิลปะจากศิลปากร ทำให้การวาดรูปค่อนข้างเป๊ะไม่ เหมือนฝรั่งที่ไม่ได้ฝึกฝนหนักเท่าเมืองไทย เสน่ห์ของงาน “ปอม” คงอยู่ที่การวาดมือเกิน 50% เพราะเชื่อว่ามันเป็นความซื่อสัตย์ต่อตัวเอง เวลาเราเห็นลายเส้น แต่ละคนจะรู้เลยว่าเขามีความตั้งใจกับงานแค่ไหน เขาสงบตอนที่วาด หรือวาดลวกๆด้วยความอ่อนประสบการณ์ฝีมือและสโตรคของลายเส้นมันหลอกไม่ได้ เป็นการสื่อสารระหว่างความคิด และความรู้สึกผ่านมือออกมา ส่วนคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือเสริมในการแก้ไขงานกับลูกค้า

เวลาสร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้นต้องใช้เวลามากไหม

ใน ความคิดของ “ปอม” การทำงานหนักไม่จำเป็นต้องทำงานนาน ถ้าเราทำงานนานแปลว่าบริหารเวลาไม่เป็น จะวางแผนไว้เลยว่าถ้าต้องส่งงานพรุ่งนี้ “ปอม” จะทำงานเสร็จล่วงหน้าตั้งแต่วันนี้เลย เพื่อที่ว่าพรุ่งนี้เช้าจะได้ตื่นขึ้นมาอย่างเฟรชที่สุด แล้วมาตรวจดูงานอีกรอบหนึ่ง “ปอม” ไม่ใช่คนที่จะเผางานในนาทีสุดท้ายรีบทำรีบส่ง แบบนั้นทำไม่เป็น!! ปกติทำงานอาทิตย์ละ 6 วัน จะขอเบรกพักสมองวันเสาร์ ส่วนใหญ่ “ปอม” จะทำงานคนเดียว ไม่มีทีมงานใหญ่โต อาจมีผู้ช่วยบ้างในกรณีที่เป็นโปรเจกต์ใหญ่มากๆ หรือต้องการความถนัดเฉพาะทาง

ช่วงไหนสมองแล่น ไอเดียบรรเจิดที่สุด

ช่วง บ่ายหลังนอนกลางวันนิดหนึ่ง ส่วนช่วงเช้าจะเป็นเวลาตอบอีเมล์ ปกติจะตื่น 8 โมงครึ่ง อาบน้ำแต่งตัวเช็กอีเมล์ เริ่มทำงานตั้งแต่ 11 โมง ถึงบ่ายโมง พักเบรกทานข้าว หลังจากนั้นทำงานอีกนิดหนึ่ง ถ้าง่วงจริงๆก็จะงีบตอนบ่ายสาม ช่วงที่แอคทีฟจริงๆคือ บ่ายสี่โมงถึงสองทุ่ม แล้วก็ทำกับข้าว พักผ่อน ไปเข้านอนตอนเที่ยงคืน “ปอม” จะไม่ทำงานตอนกลางคืนเลย ถ้าวันไหนคิดไม่ออกจะปิดคอมพิวเตอร์ ออกไปเดินเล่นและสูดอากาศ ไปเข้าร้านหนังสือ ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ไม่เกี่ยวกับดีไซน์ แล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่ เวลาทำงานแค่ปากกาแท่งเดียว ไม่ต้องคิดอะไรมาก พอสมองแล่นก็วาด เลย รวดเดียวจบ เรารู้จักสโตรคมือของตัวเองอยู่แล้ว

อยู่วงการนี้มาหลายปีมีใครเป็นโรลโมเดลไหม

ศิลปิน ที่ประทับใจคือ “Non-Format” เคยร่วมงานกับพวกเขาตั้งแต่ทำงานยุคแรก เป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์สองคนมารวมตัวกัน สองคนนี้เปรียบเหมือนครูคนแรกในวงการ “ปอม” ชอบความ เจ๋งของพวกเขา แม้จะเก่งขนาดนี้ แต่ก็ยังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง พวกเขาเป็นคนแรกๆ ที่สอนว่า เราควรทำงาน เท่าไหร่ถึงจะพอ บางครั้งการคิดเยอะเกินไป แล้วทำออกมาล้นเกินไป ก็ไม่เวิร์ก!! สิ่งที่เราต้องสื่อสารกับคนดูให้ได้คือ มองแล้วสวย และเข้าใจล่ะ อย่าลึกมาก!! การทำงานให้พอดีกับที่ถูกจ้างมาก็สำคัญ ไม่ใช่ถูกจ้างมาร้อย แต่ทุ่มเป็นหมื่นเป็นพัน อันนี้ก็ไม่พอดี

การแข่งขันขับ เคี่ยวรุนแรงไหม มีอุป-สรรคจากความเป็นเอเชียหรือเปล่า

การ แข่งขันสูงมาก!! มีคนจบด้านนี้เป็นพันๆคนทุกปี เราจะทำยังไงถึงไม่ถูกคลื่นลูกใหม่ซัดหลุดไป และประคองตัวอยู่ให้ได้ คนที่อยู่ระดับท็อปอยู่แล้ว ทำยังไงก็รักษาความเป็นหนึ่งไว้อย่างนั้น เราไม่มีทางข้ามพวกเขาไปได้หรอก แต่สำหรับคนที่อยู่ตรงกลางอย่างเราต้องโดนกดดันไปซะทุกด้าน จะทำยังไงให้อยู่ตรงกลางได้เรื่อยๆ เราต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเอง และอย่าคิดว่าตัวเองเจ๋ง ความเป็นเอเชียไม่ได้ทำให้ถูกกีดกัน เพราะสิ่งที่แข่งขันกันคือฝีมือ

ค้นหาแรงบันดาลใจอย่างไรไม่ให้หมดไฟ

การ เดินทางทำให้ได้รีเฟรชตัวเอง ยิ่งเราเห็นมากรู้มากมันซึมซับเข้ามาเองโดยไม่รู้ตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้หล่อหลอมกลายเป็นเทสต์ หรือรสนิยม ที่ไม่สามารถหาซื้อที่ไหนได้ ถึงจะเปิดหนังสือดูกี่ร้อยเล่ม ก็ไม่เท่ากับเราไปพบเห็นและจับต้องของจริงด้วยตัวเอง “ปอม” จะเดินทางท่องเที่ยวเดือนละหน เพื่อเก็บเกี่ยวแรงบันดาลใจใหม่ๆ และต้องไปนิวยอร์กปีละหนเพื่อพบปะลูกค้า เดินทางมาเยอะประทับใจนิวยอร์กที่สุด เพราะได้เจอคนใหม่หลากหลายวงการ เคยเจอลูกค้าที่เป็นค่ายเพลง พอเปิดพอร์ตงานให้ดู เขาบอกว่าชอบๆ ให้เราออกแบบหน้าปกซีดี แต่ขอส่งงานพรุ่งนี้เลยนะ โอ้โห!! ทำงานกับคนนิวยอร์กเป็นอะไรที่สนุกมาก มีโอกาสเปิดกว้างรออยู่ เป็นสังคมอเมริกันดรีมแท้ๆ

สำหรับน้องๆรุ่นใหม่ที่อยากโกอินเตอร์บ้าง มีเคล็ดลับแนะนำไหม

ถ้า หวังจะรวยเร็วมีรถเป็น 10 คัน จากอาชีพนี้ บอกเลยว่าไม่มีทาง!! แต่มันคือความท้าทายในอาชีพ ได้เห็นตัวเองพัฒนา ขึ้นไปเรื่อยๆ เอาเป็นว่าเลี้ยงตัวเองได้ มีเงินเหลือเที่ยวเหลือช็อปปิ้งสบายๆ รายได้จาก อาชีพนี้พูดเป็นตัวเลขยาก เริ่มต้นการวาดหนึ่งรูปสตาร์ตที่ 5 หมื่นบาท แต่ถ้าเป็นงานคอมเมอร์เชียลที่นำไปใช้ในวงกว้างต้องคิดอีกเรตหนึ่ง เพราะมีเรื่องลิขสิทธิ์ ที่ผ่านมามีน้องๆ ลองมาทำงานที่อังกฤษ หลายคน แต่ส่วนใหญ่ท้อแท้กลับไปซะก่อน

ทำงานเก็บเงินเก็บทองได้เยอะ แล้ว ตั้งเป้าไหมว่าเมื่อไหร่ จะกลับเมืองไทย

“ปอม” อยู่อังกฤษมา 10 ปีแล้ว แต่ยังไม่คิดกลับเมืองไทยถาวร ชอบที่จะไปๆมาๆมากกว่า ความฝันของ “ปอม” ไม่ใช่ความรวยแต่เป็นคนที่มีสิ่งอยากทำเยอะมากในชีวิต สมัยก่อนอยากทำงานคอมเมอร์เชียล แต่พอได้ทำงานคอมเมอร์เชียลมา 5-6 ปีแล้ว ก็อยากลองทำไลน์แฟชั่นเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่บ้าง เมื่อปีที่แล้วเลยเปิดบริษัทกับเพื่อนชื่อว่า What If โดยนำผลงานลายเส้นของตัวเองมาพรินต์เป็นลวดลายบนผ้า จากนั้นก็อยากทำพวกของตกแต่งภายใน ทำโซฟา, หมอน และผ้าม่าน เป็นอีกแนวหนึ่งที่น่าสนใจ

เศรษฐกิจอังกฤษซบเซาขนาดนี้ ทำมาหากิน ฝืดเคืองขึ้นไหม


การแข่งขันสูงอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ยิ่งได้รับผลกระทบหนักขึ้น แต่สำหรับ “ปอม” เชื่อว่า ทำไมเราไม่เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เราต้องพัฒนาทักษะหลายอย่างเพื่อสร้างจุดขายในตัวเรามากขึ้น ที่สำคัญอย่าเกี่ยงงาน ต้องอึดและตรงเวลา รับรองว่ามีงานให้ทำเยอะแยะ ไม่ว่างานชิ้นเล็กชิ้นน้อยแค่ไหน ก็สามารถต่อยอดได้

ทำงานมาสารพัด ยังมีอะไรท้าทายให้อยากทำอีก


“ปอม” เป็นคนไม่ค่อยหยุดนิ่ง และอยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่พอเสร็จงานหนึ่งจะภูมิใจอยู่พักหนึ่ง หลังจากนั้นก็มองหางานใหม่ที่ท้าทายความสามารถมากขึ้น อยากพัฒนาสิ่งที่ทำในตอนนี้ คือเรื่องของตกแต่งบ้าน ให้แตกไลน์ออกไปอีก มันยังมีอะไรให้ทำได้อีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการพรินต์ลายลงบนพื้นผิวเซรามิกและกระเบื้อง อยากจะพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆแบบไม่หยุดยั้ง แต่บั้นปลายชีวิตต้องกลับเมืองไทยแน่นอน.

ทีมข่าวหน้าสตรี

โดย: นสพ.ไทยรัฐ ทีมข่าวหน้าสตรี : http://m.thairath.co.th/content/life/400475

#suapp



ภาพแห่งผู้หญิง - ธัชมาพรรณ จันทร์จำรัสแสง
ออกอากาศวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2556
นักวาดภาพประกอบสาวสวยชาวไทยที่ผลงานของเธ­อปรากฎอยู่ทั้งในสื่อสิ่งพิมพ์
และแบรนด์สินค้าระดับโลกมากมาย www.pommepomme.com 

"ถ้าอยากจะหาลายเซนต์ของตัวเอง วาดรูปทุกวันเป็นเวลา 3 เดือนกระดาษ 90 แผ่นนั้นแหละ คือลายเซนต์" 
~Pomme Chan 




Feb 19, 2014

พลังแห่งแรงบันดาลใจ

By โดย คุณานันท์ แสงอาทิตย์


The Reader's Digest Association, Inc
The Reader's Digest Association, Inc 
โดย คุณานันท์ แสงอาทิตย์
ที่มา :The Reader's Digest Association, Inc



https://www.facebook.com/rewat.forever 

นักแต่งเพลง นิติพงษ์ ห่อนาค กับเรวัต พุทธินันทน์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทแกรมมี่

ผม เป็นนักแต่งเพลงอาชีพคนแรกของเมืองไทยที่มีเงินเดือนประจำ พี่เต๋อ หรือเรวัต พุทธินันทน์ มองเห็นศักยภาพและเชื่อมั่นในตัวผมมาก เขาเป็นแบบอย่างของคนทำงานที่มีความกล้าคิดสิ่งใหม่และลงมือทำจริงจังเพื่อ ให้วงการเพลงไทยสากลเปลี่ยนแปลง มั่นใจที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าโดยไม่ห่วงเรื่องล้มเหลวผิดหวังหากไม่ประสบ ความสำเร็จ เขายื่นโอกาสที่ดีให้ผมแสดงออกถึงพลังในการสร้างสรรค์บทเพลงออกมาได้มากมาย ยาวนานเกือบ 30 ปี (ร่วมงานตั้งแต่ปี 2526)

ตอนแรก ผมเขียนบทและกำกับรายการโทรทัศน์อยู่ที่บริษัทเจเอสแอล รู้สึกชื่นชมพี่เต๋อในฐานะนักร้องอาชีพตั้งแต่อยู่กับวงดิอิมพอสสิเบิลและวง โอเรียนทัลฟังก์ เรารู้จักกันเป็นทางการจากงาน พี่เต๋อเป็นแขกรับเชิญในรายการเพชฌฆาตความเครียด ความสุภาพเป็นกันเอง ยิ้มแย้มแจ่มใสและอารมณ์ดีทำให้ผมประทับใจ และติดตามฟังพี่เต๋อร้องเพลงที่คลับในโรงแรมนานเป็นปีจนเราสนิทสนมกันดี

ต่อ มา ผมกับเพื่อนๆร่วมกันตั้งวงเฉลียงและออกอัลบั้มชุดแรก เรานำบทเพลงไปให้พี่เต๋อลองฟัง ซึ่งได้ความเห็นสั้นๆว่า ผมชอบนะ ส่วนพี่เต๋อกับเพื่อนก็ก่อตั้งบริษัทแกรมมี่ขึ้นมา

ในปี 2526 พี่เต๋อขอให้ผมแต่งเพลงให้สามเพลงในอัลบั้ม เต๋อ 1 โดยกำหนดแนวคิดหลักมาให้ก่อน ผมเล่นดนตรีได้จึงไม่รู้สึกกดดัน พออ่านเนื้อเพลงที่ผมแต่ง พี่เต๋อจะพูดดีมากว่าพี่ชอบงานนี้แต่ขอแก้หรือเพิ่มเติมบางคำให้เหมาะกับ เสียงดนตรี ผลงานออกมาน่าพอใจ และผมได้โอกาสแต่งเพลงใหม่ขายให้เรื่อยมาอีกหลายปี ผมยังเก็บแผ่นเสียงแรกที่มีลายเซ็นของพี่เต๋อพร้อมประโยคว่า หวังว่าต่อไปเราคงได้ร่วมงานกัน

วันหนึ่ง พี่เต๋อโทรศัพท์มาหาผม อธิบายยาวนานเกี่ยวกับความมั่นคงของบริษัทฯและเป้าหมายที่วางไว้ในอนาคต แล้วสรุปท้ายด้วยคำเชิญชวนมาร่วมงานด้วย ผมไม่ลังเลที่จะตอบตกลงเพราะรอคอยคำนี้มานานแล้ว

การร่วมทำงานกับพี่ เต๋อทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงมากพอๆกับที่วงการเพลงไทยเติบโตรวดเร็วมาก แล้วก็เข้าใจว่าทำไมใครๆก็รักพี่เต๋อ นอกจากอัธยาศัยที่ดีแล้วยังเป็นคนเก่งมาก มีสมาธิและคิดอะไรล้ำสมัยตลอดเวลา เป็นผู้นำที่ประนีประนอมแต่ก็เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองสูงมาก ซึ่งทำให้บริษัทก้าวหน้าทันกระแสโลก ผมเรียนรู้ในความซื่อตรงและทำงานเป็นระบบชัดเจน

พี่เต๋อเปลี่ยนแนว ทางการทำงานศิลปะเพลงให้สอดประสานกับวิธีดำเนินธุรกิจบันเทิงอย่างลงตัว เขาสร้างระบบทำงานเพลงแบบใหม่โดยกำหนดท่วงทำนองขึ้นมาก่อน และอธิบายว่า ภาษาไทยมีเสียงวรรณยุกต์ จึงมีเสียงสูงต่ำขึ้นๆลงๆ หากจะใส่ทำนองทีหลังก็จะถูกตีกรอบเรื่องจังหวะเสียงดนตรี แล้วผมก็เขียนถ้อยคำออกมาจนสอดคล้องกับเสียงตัวโน้ตแต่ละตัว ผลงานเพลงของเราจึงสร้างความแปลกใหม่และปลุกกระแสคนฟังที่กำลังนิยมแนวเพลง ตะวันตกให้หันมายอมรับมากขึ้น

ผมทำงานอยู่เบื้องหลังมาตลอดและไม่คิด ว่าวันหนึ่งคนฟังจะสนใจว่าใครเป็นคนแต่งเพลง ทุกวันนี้ ผมยังไม่รู้จักคำว่าหมดไฟ ไม่ต้องมีสายลมแสงแดดหรือสายน้ำก็หลั่งไหลถ้อยคำออกมาได้ถ้ามีสมาธิที่ดี

ผม ไม่เคยคิดว่างานแต่งเพลงจะเป็นอาชีพที่สร้างชื่อเสียงและให้ชีวิตมั่นคงได้ มากขนาดนี้ พี่เต๋อเปิดโลกใหม่ให้วงการเพลงไทย ผมซึมซับหลายสิ่งดีๆจากเขา จนบางคนทักว่าผมมีบุคลิกและวิธีเจรจาเวลาทำงานคล้ายพี่เต๋อ แม้พี่เต๋อจากไปแล้ว แต่เพื่อนฝูงพี่น้องที่เคยร่วมงานกับเขา รวมทั้งผมก็ยังระลึกถึงเขาอยู่ โดยเฉพาะเวลาที่เจอปัญหาอะไรยากๆ ยิ่งคิดถึง

Feb 14, 2014

วันมาฆบูชา วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๗


มาฆบูชา (คำกลอน)
โดย พระภาสกร ภูริวฑฺฒโน ภาวิไล


ประจวบกาล มาฆะ ปุณณะมี
ฤกษ์ดิถี จันทร์เด่น เพ็ญเดือนสาม
ขอเราผอง ตรองตรึก ระลึกตาม
น้อมปณาม ตถาคต พจนีย์

ครั้งแสดง โอวาท ปาติโมกข์
เลิศประโยค แด่สาวก ธรรมวาสี
พันสองร้อย ห้าสิบถ้วน ล้วนยินดี
นรสีห์ ขีณาสพ สมภพตรง

ล้วนเอหิ ภิกขุ อุปสมบท
มิกำหนด ฦๅหมายนัด จัดรวมสงฆ์
ณ เวฬุ วนาราม นามยืนยง
จาตุรงค์ สันนิบาต ประกาศชัย

ตะวันฉาย บ่ายนั้น วันมาฆะ
วิสุทธะ อุโบสถ พรตสดใส
ปาติโมกข์ โอวาทล้ำ ธรรมหัวใจ-
พุทธศาสน์ไซร้ ให้ดำรง มั่นคงนาน

หนึ่งคือศีล เว้นชั่ว ไม่มัวหมอง
บุญเป็นสอง กอปรกุศล ดลสุขศานต์
สามคือใจ ชำระรอบ สุขุมาล
ควรสมภาร ปฏิบัติ วิวัฒน์ชัย

มงคลกาล ประจวบมา ณ บัดนี้
ปุณณะมี มาฆะฤกษ์ เกริกสมัย
พระจันทร์เพ็ญ เด่นแดนสรวง ดวงวิไล
น้อมหัวใจ ปฏิบัติ ธรรมบูชา

เราทั้งหลาย หมายพร้อม ประชุมแล้ว
ยึดตามแนว ศีลธรรม นำสิกขา
จักน้อมมา ปฏิบัติ ด้วยปัญญา
ปิ่มสัทธา บูชาเทิด เลิศวลัญชน์

ถือธูปเทียน บุปผา คารวะ
สักการะ จิตกายา เกษมสันต์
ประทักษิณ ปฏิมา ภควันต์
ระลึกมั่น เจดีย์ ที่รวมใจ

ข้าแต่องค์ ทรงธรรม ชินสีห์
โดยอตี-ตารมณ์ สมวิสัย
ประจักษ์แจ้ง ในพระคุณ อบอุ่นใจ
สามรอบไซร้ ประทักษิณ มุนินทร.

รจนาถวายเป็นพุทธบูชา
โดย พระภาสกร ภูริวฑฺฒโน ภาวิไล
วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๕
เวลา ๐๗.๑๕ น.


Feb 11, 2014

วาทะกรรมทางการเมือง ๒๕๕๗ #๒




 Dr. Somkiat Onwimon addresses the international community in English


เจาะข่าวตื้น 101 : จำนำข้าว


ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เวทีอโศก

Feb 8, 2014

"ขอความสุขคืนกลับมา"




แม่ประไพเอ๋ย...
ฉันเขียนสถานะทุกคืน...
พยายามไม่อยากเขียนอะไรรุนแรง
อยากเขียนเรื่องราวสนุก ๆกับเพื่อน
ทั้งเพื่อนจำกัดห้าพันคน...
และเพื่อนที่ติดตามได้สี่หมื่นกว่าคน...
แล้วเปิดสาธารณะด้วย..เพราะพูดตามที่คิด...
ก็จะมีขาจรจำนวนหนึ่ง มาติดตาม...
เพื่อจะหาเรื่องด่าฉันฟรี ๆ
จะได้นอนหลับสบาย...

โดยเฉพาะช่วงนี้
ซึ่งไม่มีใครไม่รู้สึกรู้สาหรอกกับเรื่องการเมือง...
โดนยุงขาจรมากัด มาวิ้งๆ
บางทีก็อดหงุดหงิดไม่ได้ ก็ต้องตบไปบ้างนะ..
ขอแถลงการณ์ตรงนี้ละกันนะ...

หนึ่ง...ฉันไม่เอาด้วยกับรัฐบาลชุดนี้...
ด้วยเหตุผลที่ทุกคนก็รู้เหมือนกัน
สอง...ฉันเห็นว่าเลือกตั้ง ควรโมฆะ...
ซึ่งเป็นความเห็นของฉัน..จะทำไม
สาม...ฉันเห็นด้วยว่า ควรพูดคุยกัน หากติกาใหม่
จะนานแค่ไหนก็ต้องยอม แล้วค่อยแข่งกันใหม่...
เมื่อได้กติกาใหม่ กติกาที่รับกันได้ทุกฝ่าย
ถ้าหากแพ้อีก....ก็จงยอมรับเสียให้ชัดเจน
ทีนี้เป็นเรื่องส่วนตัวนะ...
ฉันรำคาญมาก...
ยังมีขาจรมาด่าฉันว่า..

ฉันเป็นเสื้อแดง.... เป็นเสื้อแดงแล้วเพิ่งกลับใจ
เป็นเสื้อแดงแล้วทำเป็นแอ๊บเป็นกลาง
เป็นเสื้อแดงแล้วทำเป็นด่ารัฐบาล...
ทุกวันนี้ ฉันก็ยังนึกไม่ออกว่าเคยเป็นเสื้อแดงตรงไหน
เพื่อนช่วยคิด.. อ้อ มึงทำงานแกรมมี่
เจ้าของแกรมมี่เป็นเพื่อนทักษิณ ...ฉันก็ตอบว่า
แล้วเกี่ยวไรกะกู แล้วรู้บ้างไหมว่า
ในที่สุด เขาก็หมางใจกัน
แล้วตอนนี้กูก็ไม่ได้อยู่แกรมมี่มาตั้งสองสามปีแล้ว

จู่ ๆ ก็มีเหตุน้องโจ นูโว มาด่าฉันเป็นเสื้อแดง เละเทะ
แล้วโจ ก็มาขอโทษฉัน ว่าเข้าใจผิด
ฉันก็ยังรักน้องเหมือนเดิม
ฉันยืนยันต่อไปว่า

ฉันพยายามศึกษาความขัดแย้งนี้
และไม่ฟันธงว่าแนวคิดใดจะประเสริฐสุดยอด..
แนวคิดในแต่ละกลุ่มแต่ละฝ่าย ก็มีเหตุผลของเขา
ฉันไม่คิดว่าใครผิดหมด...ฉันจะมองในแต่ละเคส
ว่าใครทุเรศ ในสายตาของข้าพเจ้า...
วันนี้....ความทุเรศมันจัดเต็ม
ฉันจะร่วมรบกับแนวร่วมทั้งปวงที่จะกำจัดรัฐบาลนี้ได้....
แต่อย่าคิดว่าวิธี หรืออารมณ์จะเป็นเหมือนกัน ฉันรำคาญ
และจะไม่เอาด้วย กับคนที่อยู่ข้างเดียวกัน
แล้วบังคับให้ฉันโมโห
เกลียดชังฝ่ายตรงข้ามเยอะเยอะเหมือนกัน
จะรบกับเขา...เราเสือกมานั่งโมโหกันว่า
ทำไมมึงไม่โมโหฝ่ายตรงข้ามเท่ากู....
อันนี้ไม่เท่เลย....ไม่ได้ประโยชน์...จำไว้



"ขอความสุขคืนกลับมา"

นิติพงษ์ ​ห่อนาค/อภิไชย เย็นพูนสุข