Custom Search

Mar 13, 2024

"ทักษิณ" เข้าเฝ้าพระสังฆราชฯ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567


ภาพจากไทยรัฐ


"ทักษิณ" เดินทางเข้าวัดราชบพิธฯ เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชฯ หลังจากได้รับการพักโทษ ลักษณะสวมชุดสูทสีดำ ใส่แมสสีขาว เฝือกคอ-แขนไม่มี เดินเหินได้ปกติ ก่อนเดินทางกลับด้วยรถหรู ROLLS-ROYCE ทะเบียน ภษ 9999 กรุงเทพมหานคร


Mar 8, 2024

อาจารย์ สุรเดช แก้วท่าไม้ (2506 - 2567)





วันศุกร์ ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2567


เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 มีรายงานข้าวแจ้งว่า "อาจารย์ สุรเดช แก้วท่าไม้" ศิลปินอิสระที่มีผลงานแสดงภาพเขียนทั้งในและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังเคยเป็นนักแสดงและนักร้องเพลงประกอบหนังของท่านมุ้ย ได้จากไปก่อนวัยอันควร สิริอายุ 60 ปี

อาจารย์ สุรเดช เป็นชาวจังหวัดสมุทรสาคร เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2506 ก้าวเข้าสู่วงการศิลปะโดยได้รับแรงบันดาลใจจากภาพเขียนนางในวรรณคดีของ อาจารย์ จักรพันธุ์ โปษยกฤต จบการศึกษาที่คณะจิตรกรรมประติกรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร


อาจารย์เคยให้สัมภาษณ์กับ Hello Magazine ว่างานศิลปะต้องมี 3 เสา ดังนี้ คือ ฝีมือ ไอเดีย และรสนิยม จะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้เพื่อให้งานมีความสมบูรณ์แบบน่าสนใจน่ามองมากยิ่งขึ้น และเมื่อมองย้อนกลับไปตอนที่เขายังอยู่เพียง ป.1 เขาเห็นหน้าปกวารสารในห้องสมุดโรงเรียนที่คุณพ่อเขาเป็นครู เป็นรูปนักเรียนเพาะช่างนั่งอยู่กับขาหยั่งศิลปะเขาบอกคุณพ่อว่า โตขึ้นอยากเป็นแบบนี้

Mar 7, 2024

อ.อากิระ โทริยามะ (1955 - 2024)

Dragonball creator Akira Toriyama has died at age 68

วันที่ ๑๗ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๔๗๕


พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี


 

Mar 3, 2024

เปิดสักการะ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ จากอินเดีย ที่สนามหลวง 24 ก.พ. – 3 มี.ค. 67



พิธีอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุ จากอินเดีย มาที่สนามหลวง เปิดสักการะ 24 ก.พ. – 3 มี.ค. 67

workpointTODAY

23 ก.พ. 2567

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธานพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะจากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย
โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์
กระทรวงวัฒนธรรม จัดริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ
ออกจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนครมายังมณฑลพิธีท้องสนามหลวง
โดยมีนายราเชนทร์ วิศวนาถ อัรเลกัร ผู้ว่าการรัฐพิหาร เป็นผู้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มอบให้แก่นายกรัฐมนตรี
ขณะที่ ดร.วิเรนทร์ กุมาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและเพิ่มพลังทางสังคมเป็นผู้อัญเชิญพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตร
มอบให้แก่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี
และนายนาเคส สิงห์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย เป็นผู้อัญเชิญพระอรหันตธาตุของพระโมคคัลลานะ
มอบให้แก่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนมณฑป

Mar 2, 2024

เพลง Fast car ของ Tracy Chapman



ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย


- หนึ่งในโมเมนต์ดีๆ จากงาน Grammy Awards 66th 
Tracy Chapman นักร้องหญิงชาวอเมริกันในตำนาน ปรากฏตัวขึ้นเวทีอีกครั้งในรอบ 15 ปี
มาเล่นเพลง Fast Car ร่วมกับ Luke Combs นักร้องเพลงคันทรี่หนุ่มที่กำลังโด่งดังในยุคนี้
เมื่อปีที่แล้ว Luke Combs หยิบเพลง Fast Car ในตำนานเมื่อปี 1988 ของ Tracy Chapman
ซึ่งเป็นเพลงโปรดของเขาตั้งแต่เด็ก
มาคัฟเวอร์ลงอัลบั้ม Gettin' Old ของตัวเอง แล้วประสบความสำเร็จมากๆ มียอดสตรีมใน Spotify ทะลุ 375 ล้านครั้ง
จนเพลงเวอร์ชั่นต้นฉบับกลับมาฮิตอีกรอบ
และเนื่องในโอกาสที่เพลง Fast Car เวอร์ชั่นของ Luke Combs ได้เข้าชิงรางวัลศิลปินคันทรี่เดี่ยวยอดเยี่ยม
ผู้จัดก็ได้เชิญ Luke Combs กับ Tracy Chapman มาร้องเพลง Fast Car
ร่วมกันบนเวที เรียกเสียงเฮจากศิลปินที่มาร่วมงานอย่างมาก เพราะได้ฟังศิลปินต้นฉบับมาร้องเพลงในตำนานให้ฟังแบบสดๆ
แม้แต่ Taylor Swift
ป๊อปสตาร์หญิงระดับโลก ยังอยู่เฉยไม่ไหว ลุกขึ้นมาฮัมเพลงตามไปด้วย
การแสดงของ Tracy ครั้งนี้ถือว่าฮือฮามากเพราะเธอไม่ได้สะพายกีต้าร์ร้องเพลงสดๆ บนเวทีต่อหน้าคนดูมานานแล้ว
ตั้งแต่ออกทัวร์ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2009 ขณะเดียวกัน Tracy ใช้ชีวิตแบบเงียบๆ เป็นส่วนตัว ไม่เล่นโซเชียลฯ
ผู้คนก็เลยไม่เห็นความเคลื่อนไหวของเธอในที่สาธารณะ
แม้จะร้างเวทีมานาน 15 ปี แต่พอกลับมาคืนสนามชั่วคราว นักร้องหญิงผิวดำในตำนานคนนี้
ก็ยังเป็นคนเดียวกับสาวน้อยวัย 24 ปี ที่แจ้งเกิดไปทั่วโลกจากการยืนร้องเพลง Fast Car
ต่อหน้าคนดูกว่า 70,000 คนที่เวมบลีย์ ในงานคอนเสิร์ตวันเกิด 70 ปีของ เนลสัน แมนเดล่า ในปี 1988
เพราะ Tracy Chapman ในวัย 59 ปี วันนี้ ยังคงร้องเพลงและเล่นดนตรีได้อย่างยอดเยี่ยม
เปี่ยมคุณภาพเหมือนเคย แบบที่เราเคยได้ยินได้ฟังกันครั้งแรกเมื่อ 36 ปีที่แล้ว



Tracy Chapman & Luke Combs Deliver Gripping Performance Of "Fast Car" | 2024 GRAMMYs Tracy Chapman and Luke Combs pulled out all the stops with a performance of four-time GRAMMY winner and 13-time nominee Tracy Chapman’s “Fast Car” at the 2024 GRAMMYs. Luke Combs is a giant of country music, with seven GRAMMY nominations under his belt prior to the 2024 GRAMMYs. The legendary Tracy Chapman made her first televised performance in many years at the 66th Annual GRAMMY Awards. She first performed “Fast Car” at the 1989 GRAMMYs where she won the award for Best Female Pop Vocalist. At the 2024 GRAMMYs, Combs was nominated for his rendition of the track for Best Country Solo Performance.

 ความหมายในบทเพลงจากกาลเวลา By 'จารย์โอ๋





เพลง Fast car ของ Tracy Chapman
"เส้นทางลัดสู่ชีวิตใหม่ ที่สดใสกว่าวันนี้..."
เพลงนี้เป็นของศิลปินที่มีผลงานออกมาไม่มากนัก แต่ออกมาทีไรเหมือนปล่อยหมัดเด็ดออกมาทุกที เป็นอัน
"โดนใจ" คนฟังเต็มๆ ตลอด
โดยส่วนตัวผู้แปลชอบเธอมากครับ เพราะความมีเอกลักษณ์ในน้ำเสียงของเธอ ดังนั้น
เลยขอเล่าเรื่องเกียวกับตัวเธอสักหน่อยเพื่อนำร่อง ปูทางตามท้องเรื่อง ก่อนนะครับ
Tracy Chapman เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง ชาวอเมริกัน ในแนว Folk ที่มีกลิ่นอาย ของ Rock และ R&B
ในช่วงสหัสวรรษที่ 20 เธอน่าจะเป็น นักร้องหญิงผิวดำ คนเดียวของ สังคมมะริกัน ที่พูดถึง ชีวิตความเป็นอยู่ของคนผิวดำ
ในสังคมบริโภคนิยมเต็มตัวแบบอเมริกันชน พูดถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
พูดถึงความไม่เป็นธรรมที่คนดำไม่ได้รับในโลกเสรีแบบสหรัฐอเมริกา
ในช่วงเข้าวงการแรกๆ เธอต้องไปรอเพื่อเป็นนักดนตรี Stand by แสดงก่อนเวลาในคอนเสิร์ตของศิลปินคนอื่น
เพื่อถ่วงเวลาในกรณีที่ศิลปินเจ้าของงานนั้นๆ มาสาย  ทุกครั้งเธอต้องนั่งรอตั้งแต่เช้าจนดึก โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้แสดงหรือเปล่า
มีแค่ กีตาร์ตัวเดียว ไม่มีวง Back up ไม่มีคนรู้จัก รอแค่โอกาสที่ใครซักคนมาขึ้นเวทีไม่ทัน เธอถึงจะได้ออกไปร้อง.....
และโอกาสก็เป็นของ Tracy เมื่อเวลามีเหลือเพราะมีศิลปินดังหนึ่ง เกิดมาไม่ทัน เธอจึงได้ออกไปแสดง
เพื่อถ่วงเวลาหน้าเวทีใหญ่ หลังจากนั้นเพียงแค่ไม่กี่นาที โลกก็รู้จัก Tracy Chapman....
หลังจากนั้นก็เริ่มมีชื่อเสียงจากเพลง Fast Car, Talking about a revolution,
Baby can I Hold You, Give Me One Reason ได้รับรางวัล แผ่น Platinum
และรางวัล Grammy หลายรางวัล...ในปี 1988 ได้ออกผลงานชุด Tracy Chapman (1988)
ซึ่งได้รับความสนใจและได้รับความชื่นชมมากจากนักวิจารณ์
เธอเริ่มออกแสดงดนตรีในที่ต่างๆ เริ่มมีกลุ่มแฟนเพลงมากขึ้นเรื่อย
จนปัจจุบัน...
เพลง Fast car นี้ ถือว่าได้รับความนิยมมากที่สุดเพลงหนึ่งของเธอ ความหมายของคำว่า "Fast Car"
ในเพลงนี้ มิได้หมายถึง "รถซิ่ง" "รถแรง" ตามที่หลายๆ ท่านเข้าใจกันนะครับ แต่ความหมายที่เธอสื่อถึงคือ
"อะไรบางอย่างที่มีค่ามาก
(ทรัพย์สิน เงินทอง) ที่ใครๆ ก็อยากมี แต่ก็ไม่สามารถทีจะมีได้ทุกคน" หรือเป็น "ทางลัดสู่ชีวิตใหม่ ที่สดใสกว่าวันนี้"
ฉะนั้นผู้แปลจะขอแทนคำศัพท์คำนี้ในการแปลว่า Fast car ทับศัพท์ไปเลยนะครับ จะได้ไม่ต้องเขียนยาวแบบนี้อีก
เพลงนี้เป็นเพลง "เพื่อชีวิต" ของฝรั่งเขาครับ เล่าถึงสาวคนหนึ่งที่ไปเจอกับชายหนุ่มคนที่มีเจ้า "Fast car"
นี่แหละ เธอจึงพยายามที่จะ "โน้มน้าว" ให้คนๆ นั้นมาร่วมใช้ชีวิต และสร้างชีวิตกับเธอใหม่
โดยหวังว่าเธอจะมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้... และเธอก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับเธอที่เป็น
ปัญหาสังคมของคนมะริกันผิวดำให้เราฟังไปด้วย เพลงเลยค่อนข้างยาว ลองอ่านความหมายในเพลงดูนะครับ....
You got a fast car
I want a ticket to anywhere
Maybe we make a deal
Maybe together we can get somewhere
Anyplace is better
Starting from zero got nothing to lose
Maybe we'll make something
But me myself I got nothing to prove
คุณมี "Fast car" (คำนี้ผู้แปลอธิบายความหมายไปแล้วด้านบน)
ฉันอยากมีตั๋วที่ไปไหนได้ทุกที่
บางที่..เราอาจจะมาตกลงกันได้นะ...
บางที..เราอาจไปไหนด้วยกันสักที่
ที่ไหนก็ได้ ที่ดีกว่าตรงนี้
เริ่มต้นจากศูนย์...ที่ไม่มีอะไรจะเสีย
บางที...เราอาจจะทำอะไรบางอย่างขึ้นมา
แต่สำหรับฉันแล้ว.. ไม่ได้ทำเพื่อพิสูจน์อะไรเลย (ตั้งใจทำจริงๆ)
You got a fast car
And I got a plan to get us out of here
I been working at the convenience store
Managed to save just a little bit of money
We won't have to drive too far
Just 'cross the border and into the city
You and I can both get jobs
And finally see what it means to be living
คุณมี "Fast car" (คำนี้ผู้แปลอธิบายความหมายไปแล้วด้านบน)
และฉันก็มีแผนที่จะพาเราออกไปจากที่นี่
ฉันทำงานอยู่ในร้านโชห่วย (ร้านสะดวกซื้อ)
มีเงินเก็บสะสมเพียงไม่กี่บาท
เราคงไม่ต้องไปไหนไกลๆ
เอาแค่ข้ามเขต เข้าไปในเมืองพอ
คุณกับฉันก็จะมีงานทำละ
และในที่สุด ก็จะได้รู้ถึงความหมายของการใช้ชีวิตจริงๆ
You see my old man's got a problem
He live with the bottle that's the way it is
He says his body's too old for working
I say his body's too young to look like his
My mama went off and left him
She wanted more from life than he could give
I said somebody's got to take care of him
So I quit school and that's what I did
คุณก็รู้ว่าพ่อของฉันมีปัญหา
เขามีขวดเหล้าเป็นเพื่อนข้างๆ ตลอด (ติดเหล้า)
เขาบอกว่าเขา "แก่เกินจะทำงาน" แล้ว
แต่ฉันบอกว่า จริงๆ เขาควรจะ "ดูหนุ่มกว่านี้" (ถ้าไม่ติดเหล้า)
แม่ของฉัน ทิ้งเขา และจากไป
เธอ (แม่) ต้องการอะไรๆ ในชีวิตมากกว่าที่เขา (พ่อ) จะให้ได้
ฉันว่าต้องมีใครสังคนที่ต้องดูแลเขา (พ่อ)
ฉันเลยต้องออกจากโรงเรียนมาแบบนี้แหละ
You got a fast car
But is it fast enough so we can fly away
We gotta make a decision
We leave tonight or live and die this way
คุณมี "Fast car" (คำนี้ผู้แปลอธิบายความหมายไปแล้วด้านบน)
ว่าแต่ว่ามันจะ "แรง" พอที่ทำให้เราสามารถโบยบินไปได้ไหม
เราคงต้องตัดสินใจกันแล้วล่ะว่า
เราจะไปกันคืนนี้เลย หรือ จะอยู่กันแบบนี้จนตาย...
I remember we were driving driving in your car
The speed so fast I felt like I was drunk
City lights lay out before us
And your arm felt nice wrapped 'round my shoulder
And I had a feeling that I belonged
And I had a feeling I could be someone, be someone, be someone
ฉันยังจำได้ถึงครั้งที่ฉันเอารถของคุณไป "ขับซิ่ง"
มันเร็วจนฉันรู้สึกเมาเลย
แสงสีของเมือง มันส่องจ้าตรงหน้าเรา
และมีมือนุ่มๆ ของคุณ โอบที่ไหล่ฉันอยู่
และฉันก็รู้สึกว่า ฉันเป็นส่วนหนึ่งของคุณ
และฉันก็รู้สึกได้ด้วยว่า ฉันเป็น "คนสำคัญ" ของคุณ
You got a fast car
And we go cruising to entertain ourselves
You still ain't got a job
And I work in a market as a checkout girl
I know things will get better
You'll find work and I'll get promoted
We'll move out of the shelter
Buy a big house and live in the suburbs
คุณมี "Fast car" (คำนี้ผู้แปลอธิบายความหมายไปแล้วด้านบน)
และเราจะล่องเรือไป เพื่อให้ความสุขกับตัวเราเอง
คุณคงยังไม่มีงานอะไรทำ
และฉันก็ทำงานเป็นพนักงานในตลาด
ฉันรู้ว่าสิ่งต่างๆ จะต้องดีขึ้น
คุณจะมีงานทำ และฉันจะได้เลื่อนตำแหน่ง
เราจะย้ายออกจาก "รังหนู" แห่งนี้
และซื้อบ้านหลังใหญ่ ที่ชานเมือง
I remember we were driving driving in your car
The speed so fast I felt like I was drunk
City lights lay out before us
And your arm felt nice wrapped 'round my shoulder
And I had a feeling that I belonged
And I had a feeling I could be someone, be someone, be someone
ฉันยังจำได้ถึงครั้งที่ฉันเอารถของคุณไป "ขับซิ่ง"
มันเร็วจนฉันรู้สึกเมาเลย
แสงสีของเมือง มันส่องจ้าตรงหน้าเรา
และมีมือนุ่มๆ ของคุณ โอบที่ไหล่ฉันอยู่
และฉันก็รู้สึกว่า ฉันเป็นส่วนหนึ่งของคุณ
และฉันก็รู้สึกได้ด้วยว่า ฉันเป็น "คนสำคัญ" ของคุณ
You got a fast car
And I got a job that pays all our bills
You stay out drinking late at the bar
See more of your friends than you do of your kids
I'd always hoped for better
Thought maybe together you and me would find it
I got no plans I ain't going nowhere
So take your fast car and keep on driving
คุณมี "Fast car" (คำนี้ผู้แปลอธิบายความหมายไปแล้วด้านบน)
และฉันก็มีงานทำ สามารถที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายของเราได้
คุณสามารถที่จะดื่มเหล้าที่บาร์จนดึกๆ ได้
พูดคุย และมีเวลาให้เพือน มากว่าเวลาที่จะให้ลูกๆ ได้
ฉันหวังถึงวันทีมีจะดีกว่านี้เสมอ
และฉันก็ไม่มีแผนอื่นใด ฉันจะไม่ไปจากคุณแน่นอน
ขอให้คุณสบายใจได้ เรื่อง "Fast car" ที่คุณมีอยู่...
I remember we were driving driving in your car
The speed so fast I felt like I was drunk
City lights lay out before us
And your arm felt nice wrapped 'round my shoulder
And I had a feeling that I belonged
And I had a feeling I could be someone, be someone, be someone
ฉันยังจำได้ถึงครั้งที่ฉันกับคุณไป "ขับซิ่ง" ด้วยกัน
มันเร็วจนฉันรู้สึกเมาเลย
แสงสีของเมือง มันส่องจ้าตรงหน้าเรา
และมีมือนุ่มๆ ของคุณ โอบที่ไหล่ฉันอยู่
และฉันก็รู้สึกว่า ฉันเป็นส่วนหนึ่งของคุณ
และฉันก็รู้สึกได้ด้วยว่า ฉันเป็น "คนสำคัญ" ของคุณ
You got a fast car
But is it fast enough so we can fly away
We gotta make a decision
We leave tonight or live and die this way
คุณมี "Fast car" (คำนี้ผู้แปลอธิบายความหมายไปแล้วด้านบน)
ว่าแต่ว่ามันจะ "แรง" พอที่ทำให้เราสามารถโบยบินไปได้ไหม
เราคงต้องตัดสินใจกันแล้วล่ะว่า
เราจะไปกันคืนนี้เลย หรือ จะอยู่กันแบบนี้จนตาย...