Custom Search

Aug 7, 2009

รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ "ผมถือว่าทำงานบรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้"





คอลัมน์ รู้เขารู้เรา
ศีล มติธรรม
มติชน
วันที่ 08 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ปลุกปั้น
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.)
(http://www.mfu.ac.th)
มาตั้งแต่ต้น

พร้อมนั่งเก้าอี้อธิการบดีมา 2 สมัย
สิ้นเดือนกันยายนนี้
รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ จะหมดวาระแล้ว
และแม้จะอยู่ในวัย 60 กว่า
แต่ร่างกายยังแข็งแรงและใจยังสู้
เจ้าตัวประกาศว่า ยังมีสติปัญญาและมีกำลังพอ
ที่จะทำงานรับใช้สังคมในด้านการศึกษาต่อไป

แต่จะไม่ขอทำงานประจำหรืองานการเมืองใดๆ

มาฟังกันว่าที่ผ่านมาอาจารย์วันชัยทำอะไรให้กับ
มหาวิทยาลัยในกำกับรัฐบาลแห่งนี้บ้าง
โดยนโยบายหนึ่งคือ จะต้องหาเลี้ยงตัวเองให้ได้ ซึ่ง
"วนาศรม" รีสอร์ทเพื่อการพัฒนาสุขภาพและความงามเป็นแหล่งที่
มฟล.พยายามทำให้เป็นรายได้เสริมขององค์กรแห่งนี้

เป้าหมาย"วนาศรม"

มหาวิทยาลัยไทยในอนาคตจะหวังพึ่งงบประมาณแผ่นดินไม่ได้
ฉะนั้นจึงต้องหารายได้ที่ใช้ความรู้ความสามารถของ
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ในความคิดของผม ทำอย่างไรจะเลี้ยงตัวเองได้มากที่สุด
ในส่วนธุรกิจของ มฟล.ก็มี เวลเนสรีสอร์ทก็ทำวนาศรม
ทางด้านการโรงแรมแพทย์แผนไทยประยุกต์
และทางด้านเครื่องสำอาง เพื่อที่จะใช้กับลูกค้าของเรา
และจะเป็นแหล่งหารายได้ของมหาวิทยาลัย
พร้อมกันนั้นจะเน้นเปิดสอนทางด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย

ซึ่งไม่ใช่เรื่องของความงามอย่างเดียว รวมเรื่องโรคผิวหนังด้วย

ถือเป็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดสาขานี้

คิดว่าในอนาคตจะช่วยได้
จึงได้เปิดโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ
เป็นโรงพยาบาลโรคผิวหนังและชะลอวัย

อยู่แถวกลางซอยอโศก ใกล้ๆ แกรมมี่ อาคารอโศกชั้น 1
ให้การรักษาเกี่ยวกับโรคผิวหนัง การชะลอวัย
จะเปิดเป็นทางการ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552 นี้
ที่โรงพยาบาลดังกล่าวจะเปิดสอนปริญญาโท

สาขาเวชศาสตร์ชะลอวัย คนที่เรียนต้องเป็นแพทย์เท่านั้น

วนาศรม จริงๆ อยู่ในขั้นเริ่มต้นทำ
เป้าหมายคือต้องการให้คนมาดูแลสุขภาพ
โดยเฉพาะสร้างเสริมสุขภาพ
กลุ่มเป้าหมายไม่ใช่นักท่องเที่ยวทั่วไป
แต่เป็นนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพเป็นหลัก
กำลังสร้างห้องพักเพิ่ม มีห้องสัมมนา

ผู้มาสัมมนาต้องการตรวจสุขภาพเบื้องต้นก็จะจัดให้
แต่ตอนนี้ที่เราให้บริการก็เป็นพวกที่มาสัมมนาอยู่แล้ว


ประสบความสำเร็จในการสร้างและบริหารจัดการมฟล.

ผมถือว่าทำงานบรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้คือ
1.ผลิตบัณฑิตตามเป้าหมายที่วางไว้
2.เปิดสาขาวิชาที่อยากจะเปิด

3.สร้างอนุสาวรีย์สมเด็จย่าสำเร็จ
4.สร้างพระประธานประจำมหาวิทยาลัยได้สำเร็จ

5.ความฝันที่จะพัฒนาครูชนบทให้สำเร็จเป็นส่วนใหญ่ และ
6.มีความรู้สึกว่าลูกศิษย์ที่จบออกไปประสบความสำเร็จ


มฟล.เป็นมหาวิทยาลัยในกำกับ
ความเป็นมหาวิทยาลัยเปิดใหม่

ถ้าทำงานเช้าชามเย็นชามก็ไม่ต้องเติบโต
เราต้องคิด ต้อง active อยู่ตลอดเวลา

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงทำอย่างไรถึงจะต่างจากที่อื่น
1.สอนเป็นภาษาอังกฤษ
2.ภูมิประเทศสวย ฉะนั้นต้องคิดใหม่ว่าถ้าเราอยากให้ดี

ต้องคิดว่าสาขาที่เราเปิดสาขาอะไร ที่ขาดแคลนและที่จำเป็น
3.เป็นสาขาใหม่ที่ไม่มีใครเปิดสอน

เพราะถ้าเปิดแบบที่เขาเปิดแล้วไม่มีทางทันเขาหรอก

หลักการบริหารจัดการ


การทำงานทุกอย่างคือปัญหาของคน
ต้องหาคนที่มีความรู้ความสามารถ อย่างอื่นจะเป็นเรื่องรองลงมา
จากประสบการณ์ของผมคิดว่ามหาวิทยาลัยเปิดใหม่
ควรจะเป็นมหาวิทยาลัยนอกระบบตั้งแต่แรก
เพราะจะทำให้ระบบการบริหารการจัดการง่ายและคล่องตัวกว่า

สิ่งสำคัญที่ผู้บริหารต้องมี
1.ภาวะผู้นำสูงที่สามารถจะคิดจะนำได้

2.มีความซื่อสัตย์มาก
3.ต้องมีกลยุทธ์ในการจัดการบริหาร ต้องรู้ทุกเรื่อง
ต้องมีลักษณะกล้าตัดสินใจ
ที่สำคัญคือมีลักษณะที่กล้าที่
จะทำในสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อองค์กร
ทำในเรื่องที่เป็นประโยชน์ขององค์กรมากที่สุด
ต้องทำให้มหาวิทยาลัยเข้มแข็ง


มฟล.แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งของเชียงราย

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางการศึกษา
มีคนมาท่องเที่ยวเพื่อดูว่าใช้บริการอะไรได้บ้าง
เรามีห้องฝึกอบรมสัมมนา
ส่วนใหญ่จะมาดูวิวทิวทัศน์ของแคมปัส
2.ดูศูนย์จีน

3.ไปไหว้พระเจ้าล้านทอง
4.เข้ามาใช้บริการวนาศรม
5.การแวะเข้าไปตรวจสุขภาพของโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง
ซึ่งที่นี่ในส่วนค่าบริการ

ไม่คิดอัตราแบบราชการหรือแบบเอกชน
แต่ให้บริการดีเท่ากับเอกชน

แนะอย่ากลัวจีน


ที่ มฟล.มีศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร

นักศึกษาจีนมาเรียนก็เรียนหลักสูตรภาษาไทย
และเรียนเกือบทุกหลักสูตร

เวลานี้เส้นทางจีนกับไทยติดต่อกันง่าย
ถ้าอยากให้เราได้ประโยชน์กับจีน
อันแรกคือต้องเพิ่มพูนศักยภาพของนักธุรกิจไทยก่อน
ที่จะไปทำมาค้าขายกับจีน

เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจีนจะได้เปรียบกว่าไทย

หน้า 23
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
ฝากอธิการบดีคนใหม่ ต้องรอบรู้ กว้างขวาง และบริหารทรัพย์สินเก่ง
เพื่อให้สามารถพัฒนามหาวิทยาลัยได้สำเร็จ
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงรอบ
ด้านรองศาสตราจารย์วันชัย ศิริชนะ
เปิดเผยภายหลังส่งมอบงาน
ในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง หรือ มฟล.
ให้รองศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์เทอด เทศประทีป
ว่าที่ผ่านมาได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดี มฟล.ได้อย่างครบถ้วน
และมีความสำเร็จในทุกด้านจนถึงวันสุดท้ายของการทำงาน
โดยหลักการที่ยึดมาโดยตลอด
คือเมตตาธรรม สุจริตธรรม วิริยะธรรมและกตัญญูตาธรรม
และนับจากนี้ไปจะทำงานให้กับมูลนิธิต่างๆ ที่ทำไว้
ทั้งมูลนิธิ 100 ปี สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
มูลนิธิมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อพัฒนาครูชนบท
และกองทุนสิรินธรเพื่อการพัฒนาครูสอนภาษาจีน
ซึ่งเป็นความตั้งใจที่อยากพัฒนาการศึกษาไทยให้ดียิ่งขึ้น
และคงช่วยงานใน มฟล. ต่อไป เพราะเป็นความผูกพัน
สำหรับสิ่งที่อยากฝากถึงอธิการบดีคนใหม่
คือ การเป็นอธิการบดี มฟล. เป็นสิ่งที่เหนื่อยยากกว่า
การเป็นอธิการบดีธรรมดา เพราะต้องทำหน้าที่เสมือนซีอีโอ
ต้องรู้ทุกเรื่อง จึงจะสามารถนำมหาวิทยาลัยไปสู่การพัฒนาได้
ดังนั้น ต้องเตรียมพร้อม อย่างไรก็ตาม
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน
อธิการบดีจำเป็นต้องรอบรู้ รอบคอบ กว้างขวาง
มีภาวะความเป็นผู้นำสูง และที่สำคัญคือความซื่อสัตย์ สุจริต
นอกจากนี้ แม้การบริการวิชาการมีความสำคัญ
แต่การบริหารทรัพย์สินก็สำคัญเช่นกัน
เพราะหากเก่งโดยไม่มีเงินก็อยู่ไม่ได้

“ผมมีวลีประจำใจอยู่ว่า ได้ทำในสิ่งที่คิด
ได้เห็นผลในสิ่งที่ทำ และได้ให้โอกาสทางการศึกษาแก่ผู้ด้อยโอกาส
ซึ่งหลักการทำงานที่ผมยึดในการทำหน้าที่อธิการบดี มฟล.มาโดยตลอด
คือ เมตตาธรรม สุจริตธรรม วิริยะธรรม และกตัญญูตาธรรม
ผมทำงานใน มฟล.จนคิดว่างานอดิเรกเป็นงานประจำ
งานประจำเป็นงานอดิเรก
ทำให้ผมมีความสุขกับการทำงานให้กับ มฟล. มาโดยตลอด”
รศ.ดร.วันชัย กล่าว


ด้านรองศาสตราจารย์นายสัตวแพทย์เทอด กล่าวว่า
จากการดำรงตำแหน่งรองอธิการบดี
ช่วยงานบริหารรองศาสตราจารย์วันชัย
มาตั้งแต่ปี 2544 ทำให้ได้ศึกษา
และเรียนรู้ความคิดและวิธีการทำงานของอดีตอธิการบดี
ซึ่งจะได้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติในการบริหารงาน มฟล.
ให้มีประสิทธิภาพและเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพ
เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค
และระดับนานาชาติในอนาคต