Custom Search

Apr 24, 2008

ฝึกลูกให้ประหยัด

ที่มา: http://www.dhamma.net/q_a/family/15.htm

มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจงอย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน.. "สุนทรภู่"
พ่อแม่จะฝึกลูกให้มีนิสัยประหยัดได้อย่างไร ?

ลูกจะมีนิสัยประหยัดได้ พ่อแม่ต้องประหยัดเป็นแบบอย่างให้ลูกดูเสียก่อน การเพาะนิสัยประหยัดให้ลูก ทำได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก คือ

๑.ฝึกลูกให้รู้จักคุณค่าของเงิน เมื่อลูกขอเงินต้องซักถามให้ละเอียดก่อนว่า จะเอาเงินนี้ไปทำอะไร มีความจำเป็นแค่ไหนจึงต้องใช้เงิน ถ้าลูกขอโดยไม่มีเหตุผลก็ไม่ควรให้ต้องชี้แจงให้ลูกทราบด้วยว่าเพราะเหตุใดจึงไม่ให้ แม้ลูกจะไม่พอใจก็ต้องทำใจแข็งไว้ อย่าให้เงินลูกเพียงเพื่อตัดความรำคาญ อย่าให้ลูกมีความคิดว่าเงินได้มาอย่างง่ายๆ ต้องสอนให้ลูกรู้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อแม่หามาได้ หมายถึงหยาดเหงื่อแรงงานของพ่อแม่ ลูกจะได้รู้คุณค่าของเงิน
และใช้เงินอย่างคุ้มค่า
๒.ฝึกให้เว้นของฟุ่มเฟือย สิ่งใดที่เห็นว่าเป็นของฟุ่มเฟือยไม่จำเป็น พ่อแม่อย่าซื้อหาให้ลูก ถ้าขัดไม่ได้ก็หาอย่างอื่นที่ราคาไม่แพงแต่ใช้ทดแทนกันได้มาให้ หาวิธีอธิบายให้ลูกรู้ว่าของดีไม่จำเป็นต้องมีราคาแพง ฝึกให้ลูกรู้จักใช้ของอย่างคุ้มค่า ให้ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ไม่ใช้ทิ้งๆ ขว้างๆ เมื่อของเสียหายต้องสอนให้รู้จักซ่อมแซมของนั้นด้วยตัวเอง
๓.ฝึกให้ลูกรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สอนลูกให้รู้จักทำของใช้เอง เป็นการเสริมสร้างปัญญาให้ลูก โดยเฉพาะของเล่น ให้ลูกรู้จักประดิษฐ์ขึ้นเองหรือประกอบจากชิ้นส่วนเอง ลูกจะได้รู้จักช่วยตัวเองเป็น และมีความภาคภูมิใจในความสำเร็จ มีกำลังใจสูงขึ้นนอกจากนั้นควรฝึกให้ลูกรู้จักวิธีตัดทอนงบประมาณค่าใช้จ่ายของลูกเอง เพื่อลูกจะได้รู้จักวิธีอดออม และรู้จักทำงานให้ได้เงินด้วยตัวเอง
๔.ฝึกลูกให้รู้จักเก็บออมทรัพย์ หากระป๋องออมสินให้ลูกสำหรับเก็บเงินที่เหลือจากค่าขนมหรือค่าใช้จ่ายประจำ พาลูกหรือสอนลูกให้เอาเงินที่เก็บออมได้ไปฝากเข้าบัญชีในธนาคาร เมื่อลูกได้เงินพิเศษจากญาติผู้ใหญ่ในวันสำคัญของลูก เช่น วันเกิด วันขึ้นปีใหม่ ฯลฯ พ่อแม่ควรสอนให้ลูกเก็บเงินส่วนนี้ไว้ในธนาคารเพื่อเป็นทุนการศึกษา อย่าให้ลูกรู้สึกว่าเงินนี้ได้มาง่าย เพราะจะเป็นเหตุให้ลูกไม่เห็นคุณค่าของเงิน
๕.เลือกเพื่อนที่มีนิสัยประหยัดให้ลูกคบ เพื่อนที่มีนิสัยฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย ไม่รู้จักค่าของเงินต้องหาวิธีป้องกันอย่าให้ลูกไปคบหาสมคมด้วย
๖.ฝึกให้รู้จักรักษาศีล ๘ ในวันพระหรือวันหยุด เมื่อเห็นว่าลูกโตพอสมควรแล้วควรพาไปวัด หัดให้รู้จักรักษาศีล ๘ เพื่อให้ลูกรู้ว่าบางสิ่งที่เราคิดว่าจำเป็นสำหรับชีวิตนั้น แท้จริงเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย เช่น การดูหนัง ดูละคร แต่งหน้า ทาปาก แต่งตัวตามแฟชั่น สิ่งเหล่านี้เมื่อทดลองรักษาศีล ๘ สักระยะหนึ่งแล้ว

จะรู้ด้วยตนเองว่าไม่จำเป็นเลย และเพื่อให้ได้ผลดีพ่อแม่ต้องรักษาศีล ๘ เป็นตัวอย่างให้ลูกดูด้วย การรักษาศีล ๘ จะช่วยให้ลูกมีนิสัยประหยัดและรู้จักประมาณในการใช้ปัจจัย ๔ เพื่อการดำรงชีวิตได้เอง

หากทุกครอบครัวทำได้อย่างนี้ จะส่งผลถึงสังคม ถึงประเทศชาติด้วย ประเทศไทยจะไม่ต้องเสียดุลการค้ากับต่างประเทศอีกต่อไป ค่านิยมในสินค้าต่างประเทศก็จะลดลงไปด้วย