Custom Search

Apr 3, 2008

อภินิหารพระดิน ตอนที่ 3 : PRAPAS.COM

ประภาส ชลศรานนท์
19 ก.ย. 2547
http://www.prapas.com/

เกือบค่อนคืนแล้วที่เจ้าแก้วมันมานอนคอยอยู่ที่ดงกระถินข้างเพิงพระ
กลิ่นเถ้าถ่านของต้นไม้ที่ถูกฟ้าผ่าเมื่อสามสี่อาทิตย์ก่อนยังหลงเหลือเข้าจมูกจางๆ มันนอนคว่ำหน้าตามองนิ่งเข้าไปยังเพิงพระ

ไม่รู้จะด้วยฤทธิ์เหล้าหรือแรงเคียดทำให้ตาของมันมีสีแดงไม่แพ้คราบเลือดที่ติดอยู่ข้างแก้ม ส่วนเจ้าไม้คนเฝ้าเพิงพระนั่งสัปหงกจะหลับมิหลับแหล่อยู่ที่เสาด้านหน้า
ความตั้งใจแต่เมื่อตอนบ่ายที่มันคว้าขวดเหล้าของสัปเหร่อโผง
เดินรี่ตรงมายังเพิงพระด้วยความแค้นผสมกับความน้อยเนื้อต่ำใจนั้นลดความเข้มข้นลงไปบ้างแล้ว แต่ถึงกระนั้นน้ำตาของเจ้าแก้วก็ยังคงคลอๆ อยู่

"หลวงพ่อนะหลวงพ่อ ฉันไปทำอะไรให้หลวงพ่อเดือดร้อน" ถ้
าเสียงในใจเจ้าแก้วมันดังออกมาข้างนอกอกได้ คนทั้งบางก็คงได้ยินคำพูดนี้

"ทำไมหลวงพ่อทำกับฉันอย่างนี้ หลวงพ่อทำให้ชาวบ้านชาวช่องเขาเกลียดชังฉันทำไม
แม้แต่พ่อของฉันเองยังตีฉันเลย"
เสียงในหัวใจของเจ้าแก้วนั้นแม้จะต่อว่าต่อขาน แต่ก็แฝงความตัดพ่ออยู่ในที

"นี่ถ้าฉันไม่กลัวเจ้าไม้มันต่อยตีเอา เมื่อตอนบ่ายหลวงพ่อก็คงจะถูกฉันเผาวอดไปแล้ว"
เจ้าแก้วยกมือปาดน้ำตา แล้วจู่ๆ มันก็ยกมือขึ้นจบหัว
เหมือนจะรู้ตัวว่าตัวเองพูดลามปามพระพุทธรูปมากไป

"จริงๆ นะหลวงพ่อ ฉันชักจะอยากรู้เสียแล้วว่าถ้าฉันเผาหลวงพ่อจริงๆ หลวงพ่อจะมีปาฏิหาริย์มาดับไฟอย่างที่ชาวบ้านเขาพูดกันไหม"

เจ้าแก้วยังคงคิดร้ายๆ ตามประสาคนที่เจ็บปวดทั้งตัวทั้งใจ คิดแล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาอีก ความสับสนทำให้หัวของเจ้าแก้วยิ่งปวดหนึบ เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นที่เพิงพระ

"พี่ไม้ อย่าเพิ่งหลับสิ" เสียงเจ้าม้วนนั่นเอง มันคงนั่งหลบอีกมุมหนึ่งที่เจ้าแก้วมองไม่เห็น "เดี๋ยวฉันจะไปที่ร้านแม่แต้มหน่อย จะไปซื้อโอเลี้ยง พี่ไม้จะเอาอะไรอีกหรือเปล่า"
เจ้าไม้ส่ายหน้าแล้วก็โบกมือไล่เจ้าม้วนด้วยความง่วง พอเจ้าม้วนเดินออกจากเพิงพระไป เจ้าแก้วก็พลิกตัวนอนหงาย ข้างในหัวของมันตอนนี้เหมือนมีพายุลูกย่อมๆ หมุนควงอยู่

เจ้าแก้วปรือตาที่คลอไปด้วยน้ำตามองขึ้นไปบนฟ้า คืนนี้ฟ้าปิดไม่แพ้คืนเกิดเหตุคืนนั้น
แสงแปล๊บๆ จากหลังเขาไกลๆ นู่นทำให้เจ้าแก้วยิ่งนึกถึงคืนนั้น เจ้าม้วนเดินลับโค้งไปนานแล้ว กว่ามันจะกลับมาอีกก็คงไม่ต่ำกว่าชั่วโมง

เจ้าแก้วมันรู้ดี อันที่จริงกะอีแค่เดินไปเดินกลับแล้วก็ซื้อโอเลี้ยงนั้นคงใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที
แต่แม่แต้มแม่ค้าขายโอเลี้ยงคนนี้น่ะสิ หนุ่มในบางคนไหนบ้างเล่าที่ไม่เคยขายขนมจีบให้แม่แต้ม ยิ่งกับเจ้าม้วนจอมชีกอคนนี้ด้วยแล้วต้องเรียกว่าติดแม่แต้มอย่างหนัก
เจ้าไม้เริ่มกรนแล้ว เจ้าแก้วพลิกตัวมานอนคว่ำท่าเดิม ตาของมันยังหลับอยู่เหมือนจะพยายามจะไล่ความสับสนให้ออกไปจากหัวสมอง มือของมันเริ่มควานหาไม้หน้าสามที่มันเตรียมไว้ตั้งแต่พลบ ฟ้าแล่บขึ้นมาอีกครั้ง

"อยากรู้นัก ว่าหลวงพ่อจะศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน" เจ้าแก้วกำไม้แน่น
"คราวนี้ ฉันจะตีหลวงพ่อให้ขาดสองท่อนเลย" เจ้าแก้วพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งยองๆ
"หลวงพ่อมีอภินิหารอะไรหลวงพ่อก็งัดออกมาให้หมดก็แล้วกัน" เจ้าแก้วพูดกับตัวเองไม่ทันขาดคำ ก็ได้ยินเสียงโครมใหญ่เหมือนของหนักๆตกลงพื้นดังลั่นมาจากเพิงพระ

เจ้าแก้วจ้องนิ่งเข้าไปในเพิง แล้วมันก็หยุดยืนตัวแข็งด้วยไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เจ้าไม้ที่นั่งสัปหงกอยู่นั้นตอนนี้ลงไปกองอยู่กับพื้น บนอกของเจ้าไม้มีเท้าของชายฉกรรจ์สองคนกำลังกระทืบอยู่

"เฮ้ย..มึงเป็นใครวะ" เจ้าไม้ร้องออกมาด้วยไม่คุ้นหน้า ชายร่างใหญ่ไม่ปล่อยให้เจ้าไม้ตั้งตัว รีบประเคนหมัดล้วนๆ เข้าหน้าเจ้าไม้อีกนับไม่ถ้วน เลือดสดๆ ไหลออกมาจากทั้งปาก และจมูกเต็มไปหมด ชายร่างใหญ่อีกคนหนึ่งถอยหลังออกมาสองก้าว แล้วก็เงื้อเท้าขึ้น

"หลีกไป" มันบอกพรรคพวกมัน เจ้าคนที่กำลังชกหน้าเจ้าไม้อยู่ถอยออกบ้าง แล้วเจ้าคนที่เงื้อเท้าก็เตะเข้าที่หัวเจ้าไม้ที่กำลังโงขึ้นมาอย่างเต็มแรง เจ้าไม้กรอกตาไปมาอยู่สองทีแล้วก็แน่นิ่งไป ทางเจ้าแก้วนั้นแม้จะไม่ได้ถูกทำร้ายอะไร แต่ตัวมันตอนนี้กลับยืนนิ่งไม่ต่างอะไรกับคนที่ถูกเตะสลบเช่นกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น เจ้าสองคนนั้นมันใครกัน แล้วมันมาทำร้ายเจ้าไม้ทำไม เจ้าแก้วมันถามตัวเอง มันต่างหากที่จะเป็นคนที่เข้าไปทำร้ายเจ้าไม้ เจ้าสองคนนั่นยังมองไม่เห็นเจ้าแก้ว

"เร็วๆ สิโว้ย แกไปเอาถุงมา" เจ้าคนที่เตะเจ้าไม้จนสลบ ออกคำสั่งไปยังอีกคนหนึ่ง แล้วมันก็เดินเข้าไปหาพระดิน
"สวยตรงไหนวะองค์นี้" มันล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงล้วงเอาสิ่วอันเล็กๆ ออกมา
"เสี่ยเขาจะอยากได้ไปทำไมวะ"
"ไม่รู้สิพี่ เห็นเสี่ยเขาบอกว่าองค์นี้ศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองไม่ให้ไฟไหม้” เจ้าคนที่เป็นลูกน้อง กางถุงผ้าที่มันเตรียมมาออก

"มันจะใส่ได้หรือวะไอ้ควาย ทำไมเอาถุงมาเล็กนัก" เจ้าคนที่เป็นหัวหน้าบ่น พลางเอาสิ่วค่อยๆ เลาะที่ฐานพระ
"มันฉาบปูนหุ้มฐานไว้นี่หว่า เฮ้ยแกไปหาไม้มาสักท่อนหนึ่ง เอามาตอกสิ่วแทนค้อนหน่อยท่าทางจะแข็งว่ะ..เร็วๆ ด้วย เดี๋ยวไอ้คนเฝ้าอีกคนกลับมา"
เจ้าคนที่เป็นลูกน้องรีบเดินออกมาจากเพิงพระตามคำสั่งลูกพี่ทันที
"ท่อนนี้น่าจะได้" เจ้าคนที่เป็นลูกน้องค่อยๆ งัดกิ่งไม้กิ่งหนึ่งในกอขึ้นมา
"อันนี้ได้ไหมพี่" มันตะโกนเข้าไปในเพิงพระ ฟ้าลั่นขึ้นมาอีกครั้ง
คราวนี้เสียงดังจนทำให้เพิงพระสะเทือนไหวๆ
"อันไหนก็เอามาเถอะ หัดดูเองเสียบ้างสิไอ้ควาย"
ลูกพี่ตะโกนกลับไป มันคงง่วนอยู่กับการแซะที่ฐานพระเสียจนไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง เพราะถ้าเจ้าลูกพี่มันหันมามองเสียหน่อย มันก็คงเห็นเจ้าคนลูกน้องมันชอบด่าว่าเป็นควาย นอนกองอยู่กับพื้นโดยมีเจ้าแก้วยืนถือไม้หน้าสามค้ำร่างมันอยู่

เจ้าแก้วก้มลงมองเจ้าคนลูกน้องที่นอนแน่นิ่งอยู่อีกที แผลที่ทัดดอกไม้ที่เจ้าแก้วฟาดเข้าเต็มแรงไม่มีเลือดออกเลย แต่ที่จมูกของมันเลือดไหลออกมาปริ่มๆ รูจมูกแล้ว ฟ้าแล่บขึ้นมาอีกครั้ง ฝนเม็ดเล็กๆ เริ่มโปรยลงมา เจ้าแก้วถือไม้เดินเลี่ยงไปอีกทางหนึ่ง

“เฮ้ย.... เฮ้ย" เจ้าคนลูกพี่ชักเอะใจที่ลูกน้องเงียบไป มันลุกขึ้นเดินมามองหาลูกน้อง
“ให้ไปหาไม้ แล้วหายไปไหนวะ .." ฝนเริ่มลงเม็ดหนักขึ้น
“เร็วๆนะโว้ย เราต้องทำเวลา” ตัวหัวหน้าตะโกนเข้าไปในความมืด
เจ้าแก้วเห็นว่าเจ้าคนหัวหน้ายืนชะเง้ออยู่ จึงค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลัง
แล้วมันก็เหวี่ยงไม้หน้าสามเข้าที่หัวของเจ้าหัวหน้าขโมยพระทันที มันล้มกลิ้งลงไปตามแรงตี เจ้าแก้วตามเข้าไปซ้ำอีกสามสีทีจนมันนิ่งไป

"ไอ้เดรัจฉาน มึงจะขโมยหลวงพ่อหรือไง" เจ้าแก้วยืนหอบด้วยความเหนื่อย
ฟ้าลั่นขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าแก้วหันกลับไปมองที่พระดิน

"หลวงพ่อ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์นักไม่ใช่หรือ" ความสับสนวิ่งกลับเข้ามาในหัวของมันอีกครั้ง "หลวงพ่อมีอภินิหารทำไมหลวงพ่อ ไม่จัดการกับไอ้พวกขโมยพระพวกนี้เสียเองเล่า"
เสียงของมันแตกพร่าด้วยความอ่อนล้า เจ้าแก้วค่อยๆ เดินกะเผลกขาเข้าไปหาหลวงพ่อ มือขวาของมันยังคงกำไม้หน้าสามที่เปื้อนเลือดของโจรขโมยพระอยู่

"หลวงพ่อแสดงอภินิหารออกมาเลยสิ" เจ้าแก้วตะโกนขึ้นพลางเงื้อไม้ขึ้นกวัดแกว่ง
"ฉันจะฟาดหลวงพ่อให้ขาดสองท่อนเลย หลวงพ่อแสดงถทธิ์ออกมาเลย" น้ำตาของมันไหลออกมาอีกจนท่วมหน้า

"ไม่หลวงพ่อก็เสกให้ฟ้าผ่าฉันให้ตายลงตรงนี้ไปเลย" แสงจากฟ้าแลบสะท้อนมายังองค์พระจนดูเหมือนกับว่าหลวงพ่อดินจะยิ้มน้อยๆ เจ้าแก้วเหวี่ยงไม้ไปมาสักพักแล้วก็ต้องหยุดยืนหอบด้วยความเหนื่อย ดวงตาของมันแม้จะมีน้ำตาขวางอยู่เต็มไปหมด

แต่มันก็ยังคงมององค์พระอย่างไม่ละ ฝนลงหนักเม็ดแล้ว เจ้าแก้วค่อยๆ วางไม้หน้าสามลงที่ฐานพระ ไม่มีใครรู้ว่ามันคิดอะไรอยู่ มันค่อยๆเดินลากขาตากฝนออกไปจากเพิงพระอย่างไร้จุดหมาย พรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ชาวบ้านจะลืออะไรกันอีก ร่างไร้สติของเจ้าไม้คนเฝ้าเพิงพระและเจ้าโจรขโมยพระทั้งสองคนยังนอนนิ่งอยู่ที่พื้น ไม้หน้าสามเปื้อนเลือดก็ยังพิงอยู่ที่ฐานพระ