Custom Search

Sep 28, 2009

เชาวน์ปัญญาและวุฒิภาวะ


นายแพทย์สุรพงศ์ อำพันวงษ์

เมื่อพ่อแม่เริ่มจะสร้างครอบครัวและมีบุตรย่อมปรารถนาที่จะให้บุตร
เป็นคนดี มีวิชาความรู้ มีอาชีพ ดูแลตนเองได้ มีความก้าวหน้าในชีวิต
อันจะนำไปสู่ความมีชื่อเสียง มีการงานระดับสูงและก่อรายได้พอเพียง
ท่านทราบหรือไม่ว่า ความปรารถนานี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ
บุตรของท่านจะต้องมีระดับเชาวน์ปัญญาที่อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย
หรือสูงกว่า และจะต้องมีวุฒิภาวะ ทางอารมณ์และจิตใจ
อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยหรือมากกว่า
เชาวน์ปัญญา
ในด้านของเชาวน์ปัญญานั้นเป็นเรื่องของความสามารถ
ของสมองเป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม
เกี่ยวข้องกับอวัยวะอื่นๆ ทำงานสนับสนุนทั่วร่างกายประกอบกัน
ให้เกิดเป็นความสามารถของสมอง
แสดงออกในแง่ของเชาวน์ปัญญา ความฉลาด
ความสามารถในการเรียน การรู้ การจำ
การนำมาดัดแปลง คิดค้น จนนำมาปฏิบัติเป็นผลงาน
เป็นความก้าวหน้า และเป็นรายได้
เชาวน์ปัญญาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้

เรียกง่ายๆ เป็นที่เข้าใจกันว่า "ไอคิว" (Intelligence Quoteint)
เชาวน์ปัญญาหรือไอคิวนั้น สามารถทดสอบวัดระดับความสามารถของบุคคล
โดยเอาไปเปรียบเทียบกับคนกลุ่มที่มีลักษณะ และระดับอายุเดียวกัน
ว่ามีความสามารถแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด อยู่ในระดับต่ำ
หรือสูงกว่าเกณฑ์เฉลี่ย แปรผลออกมาเป็นคะแนน
ถ้าไอคิวมีคะแนนสูง เมื่อเทียบกับเกณฑ์เฉลี่ยก็นับได้ว่าผู้นั้นมี
ระดับ เชาวน์ปัญญา สูง มีความสามารถในการเรียนการรู้
การพัฒนาความรู้ ความสามารถได้มากกว่า ซึ่งในเดิมๆ
ดูเหมือนจะแปรผลบัญญัติไตรยางค์โดยตรงกับการ "เรียนเก่ง"

ในโลกของความจริง ลูกๆ ไม่ได้อยู่ในโรงเรียนตลอดชีวิต
ถึงเขาจะเรียนเก่งมากเพียงใดก็ตาม
ชีวิตในสถาบันการศึกษากับการดำรงชีวิตข้างนอก
ในสังคมที่มีความหลากหลายนั้นแตกต่างกันมาก
แตกต่างจนกระทั่ง กติกามารยาทที่เคยใช้เคยอยู่

ในขณะที่เป็นนักศึกษานั้น เมื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
อาจจะทำให้เกิดปัญหาคับข้องใจ แก่ผู้ใช้อย่างมากมายก็ได้

คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเรียนเก่ง เรียนดี ย่อมมีความภาคภูมิใจ
ในตัวลูกคนนั้นมาก ในขณะเดียวกันก็มีความเชื่อแฝงอยู่ด้วยว่า
"ลูกคนนี้อนาคตต้องดี ต้องรุ่งโรจน์แน่
คงจะเป็นที่พึ่งของครอบครัวในวันข้างหน้า"
แต่ถ้าลองพิจารณาดูผู้คนในสังคมโดยเฉพาะ
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วหลายๆ คนไม่ใช่เป็นเด็กเรียนดี
หรือเป็นเด็กเก่งในชั้นเลย แต่เขาประความสำเร็จในชีวิตได้อย่างไร
ในขณะที่เพื่อนคนที่เรียนดี ไอคิวสูงกับไม่ประสบความสำเร็จในการดำรงชีวิต
บางคนอาจจะเรียกว่า ล้มเหลวด้วยซ้ำ คำตอบในเรื่องนี้
จึงเชื่อมโยงมาถึงความสำเร็จของ วุฒิภาวะ
ดังได้กล่าวแล้วว่าเรื่อง เชาวน์ปัญญาหรือไอคิว
เป็นเรื่องทางโครงสร้างของร่างกาย สมอง พันธุกรรม
แต่วุฒิภาวะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยการเลี้ยงดู ความรัก
ความอบอุ่นในครอบครัว การพร่ำสอน พร่ำอบรม
ของบุคคลแวดล้อม ตั้งแต่วัยทารกไปจนกระทั่งเติบใหญ่
วุฒิภาวะ
วุฒิภาวะที่กล่าวถึงนี้เรียกง่ายๆ เป็นที่เข้าใจกันว่า
อีคิว (Emotional Quotient)
ซึ่งปัจจุบันเราจะได้ยินคำนี้บ่อยขึ้นจากปัญหา อาชญากรรม
ที่เกิดขึ้นชุกชุมในสังคม จากเดิมที่คนทั่วไปเชื่อว่า

อาชญากรรมหรือผู้ร้าย มักจะเป็นคนยากจน
ขาดการศึกษาอบรม อันธพาล บ้านแตกมาจากเด็กเร่ร่อน จรจัด
แต่เมื่อสืบสาวลงไปแล้ว คดีที่ร้ายแรง หลายเรื่องที่
ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของผู้คนนั้น
ผู้ก่อเหตุมีภูมิหลังที่ตรงข้ามจากที่คิดเอาไว้โดยสิ้นเชิง
หลายคนมีการศึกษาดีเยี่ยม จบการศึกษาในมหาวิทยาลัย
และคณะที่ดีเด่นอันดับต้นๆ ที่เด็กๆ ใฝ่ฝัน อยากจะเข้าเรียน
คนเหล่านี้มาจากครอบครัวร่ำรวย ไม่ได้ขาดแคลนอะไร
เหตุร้ายที่เกิดขึ้นจึงทำให้สังคมตื่นตระหนกมาก
และหันกลับมาใคร่ครวญว่า เด็กที่สติปัญญาดี ไอคิวสูง
เรียนเก่งอย่างเดียวเพียงพอหรือไม่ ที่ทำให้คนหนึ่งเติบโต
ขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีความสุขในอนาคต

ในต่างประเทศมีการวิจัยหลายเรื่องเกี่ยวกับ วุฒิภาวะทางอารมณ์
ทั้งในด้านที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงดูเด็ก
โรงเรียนควรจะจัดการเรียนการสอนอย่างไร
ความยืนยาวของชีวิตสมรส บริษัทต่างๆ
มีหลักการอะไรในการว่าจ้าง หรือรับรองบุคคลากรเข้าทำงาน เป็นต้น
การวิจัยหลายเรื่องเปิดเผยว่า ผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต
หลายคนไม่ใช่คนเรียนหนังสือเก่งที่สุดในชั้น
ไอคิวเป็นองค์ประกอบหนึ่งในจำนวนหลายๆ อย่าง

ที่จะนำพาให้คนประสบความสำเร็จ และมีความสุขในชีวิต
อีคิวหรือวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีองค์ประกอบ รู้จักตนเอง
รู้ว่าตนเองเป็นใคร มาจากไหน ต้องการอะไรในชีวิต
ความสามารถในการจัดการควบคุมอารมณ์ตนเอง
มีวินัยสูง บังคับใจตนเองได้ รู้จักผิดชอบชั่วดี
มีความสามารถในการจัดการอารมณ์ของคนอื่น

คนที่มี EQ อีคิวสูงแสดงออกโดย เป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ดี
เข้ากับคนอื่นได้ รู้จักการทำงานเป็นทีม
สามารถสร้างสัมพันธภาพกับคนอื่นได้ และรักษาให้ยืนยาว
รู้จักเห็นอกเห็นใจ เข้าใจความรู้สึกคนอื่นเป็นอย่างดี
เมื่อเกิดปัญหาในชีวิต รู้จักจัดการกับปัญหาอย่างสร้างสรรค์
ไม่จมอยู่กับความเศร้านานเกินไป ไม่ท้อแท้ หรือท้อถอย
ความรู้สึกเหล่านี้อาจเกิดขึ้นบางครั้งบางคราวได้
เมื่อพบกับปัญหาอุปสรรคในชีวิต
แต่สามารถหาทางออกให้กับตนเองได้ด้วยดี
โดยไม่ทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น คือ
สามารถแก้ปัญหาได้อย่างสร้างสรรค์นั่นเอง
รวมทั้งเป็นผู้มีความสามารถในการปรับตัวในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างดี
อีคิวอาจจะไม่มีความสัมพันธ์กับ ไอคิว หรือระดับความฉลาดเลย
ส่วนคนที่มี ไอคิวสูง แต่ล้มเหลวในชีวิต
เพราะมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำหรืออีคิวต่ำ ทำ ให้เขาไม่สามารถ
ควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดี ไม่มีความอดทน
อดกลั้นต่อสถานการณ์ที่กดดันอยู่ รวมทั้งไม่เข้าใจความรู้สึก
ความต้องการของคนอื่น มุ่งแต่สนองความต้องการ ของตนเองเป็นใหญ่
โอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งกันจึงเป็นไปได้สูงมาก
พูดจาสื่อสารกับคนอื่นไม่ได้ดี เพราะขาดทักษะ

บางครั้งไม่ได้เจตนาจะพูดร้าย พูดไม่ดี
แต่การสื่อสารบกพร่องก็ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้
เขาจึงไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต
บางครั้งขาดความเชื่อมั่นตนเองไปเลย
จึงต้องอยู่ในโลกของตนเอง ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต
ถึงแม้จะฉลาดก็ตาม
การเลี้ยงดูในวัยเด็กมีผลกระทบ
ต่อวุฒิภาวะทางอารมณ์มาก มนุษย์ตั้งแต่แรกคลอด
กว่าจะเติบโตจนสามารถพึ่งพาตนเองได้ใช้เวลานานมาก
ในช่วงที่เขายังช่วยเหลือตนเองไม่ได้
โดยเฉพาะในวัยทารกและวัยเด็กนั้น
ชีวิตจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ขึ้นอยู่กับพ่อแม่ผู้ปกครองอยู่มาก
จึงพบว่า คนที่ฉลาดไอคิวสูง แต่ล้มเหลวในชีวิตได้รับความกดดัน
จากครอบครัวมาแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นกรณี เด็กขาดรัก
ขาดความอบอุ่น หรือเป็นกรณีที่ เด็กล้นรักมากเกินไปจนไม่รู้จักตนเอง
ไม่รู้จักความต้องการ ของชีวิตด้วยตนเอง

ไม่มีความสามารถในการควบคุมตนเอง ขาดวินัย
ขาดการบังคับใจตนเอง ขาดความรู้จักผิดชอบชั่วดี
ต้องมีคนอื่นตัดสินใจให้เสมอ โตขึ้นจึงมีปมด้อย
ไม่มีความสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างเหมาะสม
ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเอง หรือตอบรับอารมณ์คนอื่น
ไม่มีอารมณ์ร่วมกับคนอื่นในครอบครัว ในสถานศึกษา
ในสถานที่ทำงาน ได้อย่างเหมาะสม อันนำไป
สู่ความล้มเหลวของชีวิต
ระดับไอคิวนั้นทดสอบได้เป็นตัวเลขเลย
แต่วุฒิภาวะอีคิวนั้นเป็นเรื่องของนามธรรม จับต้องได้ยาก
แต่เป็นเรื่องน่าสนใจในปัจจุบัน

ชีวิตหลังเสื้อกาวน์ของหมอสุรพงศ์
เรียนหมอไม่เก่งก็เป็นหมอได้
เจ้าของสถิติรายการทีวีออนแอร์ยาวนานที่สุด

ทำความรู้จักกับ ตัวตนของ
"นายแพทย์ สุรพงศ์ อำพันวงษ์"

ตั้งแต่ความเป็นมาในชีวิตนับจากเด็กจนโต
จนจับพลับจับผลูมาเรียนหมอและได้เป็นหมอ
ได้ทำรายการทีวี "ปัญหาชีวิตและสุขภาพ"
ซึ่งเป็นรายการที่ได้รับการออกอากาศอย่างต่อเนื่อง
และยาวนานถึง 32 ปี จนเป็น
รายการที่มีอายุยาวนานที่สุดที่
ยังไม่มีรายการไหนลบสถิติ ได้เดินทางไปต่างประเทศ
ทั้งงานราษฎร์
งานหลวงมาค่อนโลก
และยังช่วยงานสังคม งานกุศลอีกเป็นร้อยงาน
หากคุณมองเขาเป็นเพียงแพทย์ที่เคร่งขรึม
คงแก่วิชา เพราะหนวดเคราครึ้มใส่แว่นหนา
เตอะแล้วล่ะก็ หนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนคิดนั้นของคุณ!