Custom Search

Sep 29, 2009

นรุตม์ เด็กหนุ่มวัย 19 ผู้ต่อสู้กับมะเร็งที่กระดูกเชิงกราน


น้องรุต หรือนาย นรุตม์ มงคลศิริภัทรา อายุ 19 ปี
เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2532 เป็นคนจันทบุรี
สมัยประถมเรียนที่ ร.ร. สฤดิเดช จ.จันทบุรี
มัธยมต้นเรียนที่ ร.ร. เบญจมราชูทิศ จ.จันทบุรี
พอมัธยมปลายสอบติดที่ ร.ร. เตรียมอุดมศึกษา กรุงเทพฯ
ด้วยน้องรุตเป็นเด็กขยัน เรียนเก่ง
และยังชอบร่วมกิจกรรมต่างๆ กับทางโรงเรียน

น้องรุตเค้าชอบตี กลองมากๆ เริ่มหัดตีกลองตั้งแต่ ป.3
ตอนเรียนก็จะอยู่วงดุริยางค์ของโรงเรียนมาโดยตลอด
อีกทั้งยังเป็นมือกลองของโรงเรียนเตรียมอุดมอีกด้วย
เพราะด้วยความที่น้องรุตเป็นเด็กขยัน
และตั้งใจเรียนมาโดยตลอดเลยเอนทรานซ์ติดที่
คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
แต่น้องรุตยังไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดนิสิต
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเลย
ด้วยเหตุจากน้องมักมีอาการปวดขาเลย
มาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลก็พบก้อน
บริเวณ สะโพกขนาด 14 ซม.
และพบว่าเป็น “มะเร็งที่กระดูกเชิงกราน”
หรือEwing’s Sarcoma ระยะที่ 2
โดยหลังจากตรวจพบโรคร้ายดังกล่าว
น้องรุต จึงต้องทำการมอบตัว
และรายงานตัวที่โรงพยาบาลแทน
และได้ Drop เรียน และ
รักษาสภาพนักศึกษาเอาไว้
เลยยังไม่ได้มีโอกาสไป
เรียนมหาวิทยาลัยตามที่ตั้งใจเอาไว้
ตอนนี้
น้องรุตรับการรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช
และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากคณะแพทย์
และพยาบาลทุกท่าน
โดยคุณหมอเจ้าของไข้ของน้อง
คือ อ.จันทนรัศมิ์ จันทนยิ่งยง
ซึ่งน้องรุตได้ให้คีโมมาแล้ว 3 คอร์ส
และฉายแสงมาแล้วถึง 31 ครั้ง
แต่ก็ตอบสนองไม่ดีเท่าที่ควร
เพราะตัวก้อนยังคงโตขึ้นอีกประมาณ 30%
และตอนนี้น้องไม่สามารถเดินได้แล้ว
ได้แต่นอนบนเตียงอย่างเดียว
แต่น้องเค้าก็ไม่เคยท้อแท้
หรือหมดกำลังใจ
แต่ยังมุ่งมั่นเพื่อโอกาสที่จะหาย
และได้กลับไปเรียนที่จุฬาตามที่ตั้งใจไว้

อาการ update ล่าสุด โดย จากเดิมในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2551 ที่ผ่านมา
น้องรุตต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่
คือการตัดกระดูกเชิงกรานออก
และตัดกระดูกที่ท่อนขาประมาณ 2 นิ้ว
มารองกระดูกสันหลังแทน
อีกทั้งยังต้องย้ายลำไส้ และกระเพาะปัสสาวะออกมาไว้
เป็นกระเป๋าด้านหน้าอีกด้วย
และหลังจากการผ่าตัดเสร็จจะให้คีโมต่ออีก 3 คอร์ส
ซึ่งอาจจะเป็นทางเลือกเพียงไม่กี่ทางที่
น้องรุตม์จะมีโอกาสได้กลับมาเรียน อีกครั้ง
แต่เส้นทางแห่งความหวังดังกล่าว
ก็ต้องเลือนลางลงไปอีก
เมื่อคุณหมอได้ตรวจพบว่า
เซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปที่ปอดแล้ว
ทำให้ระยะของโรคเพิ่มขึ้น
จึงยังไม่สามารถทำการผ่าตัดได้!!!
คุณหมอจึงต้องเปลี่ยนแผนการรักษาใหม่จากการผ่าตัด
เป็นการให้เคมีบำบัดแทน ซึ่งความโชคร้ายของน้องรุตม์
ก็ยังมีประดังเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะ 2 วันก่อนที่
น้องรุตม์จะได้รับยาเคมีบำบัดนั้น
ปอดของน้องมีอาการติดเชื้อ
คุณหมอจึงต้องให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อดังกล่าวไปก่อน
จนกว่าอาการติดเชื้อจะดี ขึ้น
ดังนั้นจึงต้องทำการเลื่อน
การให้เคมีบำบัดออกไปอย่างไม่มีกำหนด
ซึ่งตอนนี้น้องรุตม์ก็มีอาการเหนื่อยหอบมาก
และต้องใส่ออกซิเจนตลอดเวลาเลย
แม้กระทั่งเวลากินข้าว แค่ดูดน้ำก็ยังเหนื่อยเลย
ซึ่งตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาว่า
ขอให้อาการติดเชื้อของน้องรุตม์ดีขึ้น
และหายโดยเร็ว เพื่อที่จะได้
เริ่มการรักษาด้วยเคมีบำบัดเสียที

น้องรุตม์เป็นเด็กน่ารัก นิสัยดี เป็นที่รักของทุกๆ คน
และที่สำคัยน้องเค้าเป็นคนเข้มแข็ง
และกำลังใจดีมากๆ มากพอทีจะ
เผื่อแผ่คนรอบๆ ข้างตลอดเวลา
จึงอยากจะให้ทุกๆ คนช่วยกันให้กำลังน้องรุตม์
หรือ ถ้าใครจะไปเยี่ยม และไปให้กำลังใจน้องรุต
ที่โรงพยาบาลศิริราชก็ได้
น้องเค้าก็อยู่ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 10 ใต้
“นายนรุตม์ มงคลศิริภัทรา” เพราะเชื่อจริงๆ ว่าทุกน้ำใจ
และกำลังใจจากทุกๆ ท่าน จะสามารถเติมเต็มความสุข
และความเข้มแข็งให้กับน้องรุตได้ เพื่อให้มีกำลังใจ
ในการต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายนี้ได้ต่อไป

และนี่คือจดหมายของพ่อที่ได้
บรรยายความรักของพ่อที่มีต่อนรุตม์

นรุตม์
...พ่อครับ รุตม์ปวด

...พ่อครับ
รุตม์ทนไม่ไหวแล้ว

...พ่อครับ รุตม์กลัว

เป็นเสียงร้องของนรุตม์ยามปวด
ซึ่งเป็นเสียงที่ทรมานใจพ่อมาก

อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์นรุตม์ปวดมาก
ทรมานมาก
พ่อจะช่วยลูกได้อย่างไร
จะทำยังไง พ่อช่วยอะไรลูกไม่ได้เลย

มันเป็นความเจ็บปวดทรมานใจมาก

ที่ไม่สามารถช่วย หรือทำอะไรได้เลย

พ่อร้องไห้ทุกวัน แต่ไม่เคยให้ลูกได้เห็นน้ำตาพ่อ

พ่อได้แต่ปลอบและให้กำลังใจแก่นรุตม์

ทั้งๆ ที่รู้ว่าอะไร เป็นยังไง
เกี่ยวกับตัวโรคที่นรุตม์เป็นอยู่

แต่ละวันที่ผ่านไปหัวใจของพ่อที่เคยพองโต

ด้วยความรักของพ่อที่มีต่อลูก
มันเหลือเพียงนิดเดียว

พ่อรอวันที่มันจะกลับมาเหมือนเดิม
จากพ่อที่รักลูกสุดชีวิตเช้าวันนี้ (21 พฤศจิกายน 2551)
น้องหนู รัตนากร วิทยานนท์ ได้โทรมาแจ้งข่าวว่า

ในช่วงสุดท้ายของชีวิต... น้องรุตม์ ได้รับฟังเทศน์
จาก ท่าน ว.วชิรเมธี
เป็นเวลา 1 ชั่วโมงผ่านทางโทรศัพท์
ซึ่งน้องรุตม์
ก็ได้ฝากขอบพระคุณ ท่าน มาไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ก่อนที่น้องจะจากโลกนี้ไป ในเวลา 6.50 น. อย่างสงบ