Custom Search

Nov 20, 2008

ประวัติศาสตร์ช่วยไม่ให้ “ตายน้ำตื้น”

เปิดฟ้าส่องโลก
นิติภูมิ นวรัตน์ http://www.nitipoom.com/
ไทยรัฐ
21 พ.ย. 51
ขณะนี้มีงานเขียนที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกับประวัติศาสตร์
และการปกครองของจีนอุบัติขึ้นมากมายหลายพันนับหมื่นชิ้น
หลายบทความ ผู้เขียนนำความ คิดเห็นส่วนตัวไปใส่ซะจนคนอ่านไม่ทราบว่า
ประวัติศาสตร์ของแท้แน่นอนอยู่ท่อนไหน
บทความเหล่านี้มีว่อนอยู่ในสายอิเล็กทรอนิกส์
นักเรียนพิมพ์เอามาอ่านกันจนครูผู้สอนมีอีเมล์มาถึงนิติภูมิ
ขอให้ช่วย สรุปประวัติศาสตร์จีนตอนปลายท้ายสมัยรัฐบาลชิงให้หน่อย
ขอแต่เนื้อนะคะ น้ำไม่เอา เพราะจะ ใช้เอาไปสอนนักเรียน
นิติภูมิไม่ขัดใจผู้อ่านท่านผู้เป็นครู บาอาจารย์ดอกครับ
ทราบว่าอาจารย์ท่านแนะนำให้นักเรียนอ่านเปิดฟ้าภาษาโลก
และเปิดฟ้าส่องโลก คนเขียนก็ยิ่งมีกำลังใจและต้องตรวจสอบจนมั่นใจว่า
สิ่งที่ตน เขียนนั้น เป็นข้อมูลถูกต้อง
หากนักเรียนของท่านต้องการข้อมูลประกอบย้อนหลัง
ก็เชิญเข้าไปในเว็บไซต์ www.nitipoom.com ได้ ครับ
ประวัติศาสตร์ชาติจีนที่ดำรงคงมา นับพันปี คงจะไม่ใช่เฉกเช่นปัจจุบันทุกวันนี้
ถ้าไม่มีชายชาวจีนที่ชื่อ ดร.ซุนยัดเซน ถือกำเนิดเกิดมาบนโลกมนุษย์
ความต้องการทำให้สังคมจีนมั่นคง พ.ศ.2437
ดร.ซุนยัดเซนจึงไปตั้งสมาคมซิงจงที่ฮอนโนลูลู ฮาวาย
เพื่อให้สมาคมนี้เป็นองค์กรปฏิวัติแห่งแรกของจีน
ดำเนินงานอยู่ได้ไม่นานก็พบว่า ฮอนโนลูลูอยู่ไกลไป
พ.ศ.2438 ดร.ซุนยัดเซน จึงตั้งศูนย์ปฏิบัติการใหม่ที่ฮ่องกง
ฮ่องกงอยู่ไม่ไกล การเดินทางมา พบของสมาชิกจึงทำได้ง่ายกว่า
การปฏิวัติในระยะแรก องค์กรพ่าย แพ้ตลอด ทำปฏิวัติที่เมืองไหน
ก็โดนฝ่ายตรงข้ามโจมตี มาทำสำเร็จเป็นครั้งแรกใน พ.ศ.2454
ที่เรียกว่าการปฏิวัติอู่ชัง เมื่อโจมตีกองบัญชาการทหารของรัฐบาล
ได้แล้ว จึงก่อตั้งรัฐบาลหูเป่ยขึ้น
มณฑลอื่นรับการ ประกาศตั้งตัวเป็นอิสระ เหตุการณ์อันนี้นี่แหละครับ
เรียกว่าการปฏิวัติซินไฮ่ นำไปสู่การสถาปนาสาธารณรัฐจีน
เมื่อ 1 มกราคม 2455 มีการตั้งประธานาธิบดีเป็นครั้งแรก
โดย ดร.ซุนยัดเซนเป็นประธานาธิบดีชั่วคราว
ฝ่ายราชวงศ์ชิงซึ่งยังเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการอยู่ในกรุงปักกิ่ง
ตั้งหยวนซื่อไข่เป็นนายกรัฐมนตรี
ทหารปฏิวัติหนุนหยวนซื่อไข่ เมื่อเห็นว่ากระแสของราชวงศ์ชิงตกมาก
พวกปฏิวัติจึงขอให้หยวนซื่อไข่บีบจักรพรรดิชิง ลงจากบัลลังก์
เพื่อแลก ตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว
หยวนซื่อไข่ก็ เขยิบสถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิอย่างเป็นทางการ
เมื่อ 1 มกราคม 2459 และตั้งราชวงศ์หงเซี่ยน
ดร.ซุนยัดเซนจึงต้องเหนื่อยเพื่อ ต่อต้านหยวนซื่อไข่ บั้นปลายท้ายที่สุด
หยวนซื่อไข่ยอมล้มเลิกระบอบกษัตริย์ และไม่นาน หยวนซื่อไข่ ก็ตายกลายเป็นผี
จากนั้น จีนก็มีประธานาธิบดีหลี หยวน และมีนายกรัฐมนตรีต้วนฉีลุ่ย
ประธานาธิบดีกับนายกรัฐมนตรีทะเลาะ เบาะแว้งกันเอง
บ้านเมืองจึงระส่ำระสาย คราวนี้ไม่มีใครเชื่อใคร
สุดท้ายผู้ใต้บังคับบัญชาของหยวนซื่อไข่ผู้วายชนม์
ต่างก็ยกตนเป็นใหญ่ ประเทศจีนจึงแตกกระจัด พลัดพรายเป็นสายต่างๆ
ทั้งสายจื๋อลี่ อานฮุย เฟิ่งเทียน ฯลฯ ต่างก็รบพุ่ง
เพื่อขยายอำนาจของตนอยู่เป็นเวลาหลายปี
พ.ศ.2462 ดร.ซุนยัดเซน เปลี่ยนพรรคปฏิวัติจีนมาเป็นพรรคก๊กมินตั๋ง
พ.ศ.2464 กลุ่ม คอมมิวนิสต์ทั่วดินแดนถิ่นจีน
ส่งตัวแทนมาประชุมพร้อมกันที่เซี่ยงไฮ้
และจัดตั้ง พรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นอย่างเป็นทางการ
เฉินตู๋ซิ่วได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการกลาง
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจมากที่สุดของพรรค
พรรคก๊กมินตั๋ง ร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์
แต่ต่อมาก็เกิดความร้าวฉาน เจียงไคเชคจึงแยกมาก่อตั้งพรรคใหม่
และก่อตั้งรัฐบาลของตัวเอง ที่เมืองอู่ฮั่น
และต่อมาได้ประกาศแยกทางกับพรรคคอมมิวนิสต์
แยกทางกันปุ๊บ รัฐบาลก๊กมินตั๋ง
ก็ตระเวนจับสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ฆ่า
ทำให้โจวเอินไหล จูเต๋อ และสมาชิกพรรค คอมมิวนิสต์
ตอบโต้ด้วยอาวุธที่หนานชัง
สองฝ่ายซึ่งมีเป้าหมายล้มราชวงศ์ มาด้วยกัน
บางกลุ่มซ่อนหาง บางกลุ่มหางโผล่มาให้
เห็นเด่นชัดตั้งแต่แรกต่างใช้กำลังห้ำหั่นกัน
เป็นครั้งแรกที่หนานชัง
จากนั้นก็ใช้อาวุธเข้าประหารฆ่าฟันกันไปทั่วประเทศ
เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นที่รัสเซียมาก่อน
ตอนยุคหลังพระเจ้าซาร์
ประวัติศาสตร์ทั้งหลายย่อมย้ำซ้ำไปมา
ในลักษณะเดียวกันอยู่เสมอ
ผู้ที่ศึกษาประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง
ถึงต้องใช้เหตุการณ์ในอดีต
มาป้องกันความหายนะของกลุ่มของตน
เพื่อไม่ให้ฝ่ายตน “ตายน้ำ ตื้น”.