Custom Search

Nov 22, 2008

พี่ตู้ทอล์กโชว์ ‘กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต’ให้สัมภาษณ์ใกล้รัฐสภา 7 ตุลา


เรื่อง : อภินันท์ บุญเรืองพะเนา

ASTVผู้จัดการรายสัปดาห์
http://www.manager.co.th/mgrweekly/viewnews.aspx?newsID=9510000123480
17 ตุลาคม 2551


เหตุผลของพี่ตู้ในการจัดทอล์กโชว์ครั้งนี้คืออะไรครับ?


เพราะพี่อิจฉารากหญ้าครับ การที่อนุญาตให้คนที่ไม่เรียน

มีสิทธิเท่าเทียมคนที่เรียน เป็นกติกาสากล
สำหรับประเทศที่ระดับการศึกษาเฉลี่ยสูงถึงขั้นปลอดภัยแล้ว
การเลือกตั้งของเค้าจึงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานได้
ซึ่งไม่ถูกต้องสำหรับประเทศที่การศึกษาเฉลี่ยต่ำครับ
เพราะจริงๆ แล้ว สิทธิขั้นพื้นฐานเดิมนั้น
กำหนดเฉพาะเรื่องพื้นฐาน เช่น การนับถือศาสนา
การสาธารณะสุข การแสดงความคิด การสมรส
สวัสดิภาพในการดำรงชีวิต ฯลฯ รวมไปถึงการศึกษา
แต่ไม่รวมการเลือกตั้งเข้าไปในสิทธิขั้นพื้นฐานครับ
อันตรายต่อความอยู่รอดของบางเผ่าพันธุ์ในทันที
แต่เผ่าพันธุ์นั้นๆ จะไม่ค่อยรู้
เพราะดันไปสงสารเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ที่ควรกำจัด
เพราะเป็นภาระ เราไม่ได้เกรงใจภาระเพราะเราใจดีนะครับ
เราเกรงใจภาระเพราะเราขี้ขลาด
เราเกรงกลัวพวกภาระครับ ภาระจึงได้ใจ
ครอบครองเมืองโดยไม่ยอมพัฒนาพวกตน
พี่อิจฉามันครับ เมื่อการศึกษาคือสิทธิขั้นพื้นฐาน
ใครไม่ยอมเรียนก็ต้องถือว่าผู้นั้นละเลยสิทธิขั้นพื้นฐาน
ก็แปลว่าบกพร่องในหน้าที่ซึ่งโยงกับบางสิทธิ
ผู้บกพร่องในหน้าที่ก็ควรถูกเพิกถอนบางสิทธิที่เกี่ยวข้อง
เช่น สิทธิในการตัดสินใจเรื่องอนาคตของประเทศชาติ
เพราะเราจำเป็นต้องกำหนดที่การศึกษาครับ
ไม่ใช่กำหนดที่อายุเหมือนประเทศพัฒนา
ตายสิ ระดับการศึกษาเฉลี่ยของเราต่ำกว่ามาตรฐาน
ประเทศประชาธิปไตยในโลกครับ ไม่ต้องอาย
ต่ำกว่ามากเลยจริงๆ ต้องยอมรับ ต้องแก้กติกาครับ
ไม่งั้นตาย หลายศพแล้วด้วย และจะมีอีกครับ
ถ้าไม่รีบแก้กติกา อย่าอาย เพื่อนร่วมชาติเราโง่ครับ
ยอมรับซะจะได้แก้กติกากัน
ทำไมเราจึงไม่ให้ลิงบาบูนอายุ 18 ขวบมีสิทธิ์เลือกตั้งล่ะครับ
เพราะบาบูนไม่เรียนหนังสือ ไม่ใช่เพราะบาบูนไม่ใช่คนนะครับ
บาบูนเหนือกว่าบางคนด้วยซ้ำ บาบูนหากินเองได้
ไม่ต้องรอเอื้ออาทร ไม่ต้องรอผ้าห่มทุกปี
ก็ถ้าบาบูนเรียนหนังสือสอบผ่าน ม.6 ก็แปลว่าพูดกับคนรู้เรื่อง
เราก็ควรให้สิทธิ์เลือกตั้งกับบาบูนครับ
แต่นี่มีโง่กว่าบาบูนอีกนะ พูดก็ไม่รู้เรื่อง
สะกดประชาธิปไตยก็ไม่ถูก ทำมาหากินก็ไม่ได้
ผ้าห่มก็หาเองไม่ได้ต้องแจกทุกปี

แต่ดันมีสิทธิ์เลือกตั้ง อย่างงี้ บาบูนค้อนครับ

ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต
บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไมไม่ทราบครับ
ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก
ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา
ประเทศก็ล่มเพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ยและกุ๊ยแลือกกุ๊ย
แน่นอนครับ พวกคอมมิวนิสต์นิยมก็สัพยอกว่าพี่ตู้เป็น
“อำมาตยาธิปไตย” แต่พี่เต็มใจเป็นอำมาตยาธิปไตยมากกว่า
“กุ๊ยยาธิปไตย” นะจะบอกให้ แต่เดี๋ยวนะครับ
อำมาตยาธิปไตยมันไม่ดีตรงไหนหรือครับ
เทียบกับรัฐบาลรากหญ้าธิปไตยทุกวันนี้
มีคนเข้าใจสิ่งที่เข้าใจยากแบบนี้อยู่หยิบมือนึงบนแผ่นดินนี้
พี่ต้องทอล์คโชว์ เพราะพี่ต้องการพูดคุยกับท่านเหล่านี้บ่อยๆ ครับ
อาจไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวันนี้
แต่พรุ่งนี้จะไม่มืดมน เพราะคนเหล่านี้จะเห็นทางออกไงครับ
ถ้าไม่อวดเก่งกันนะ พรุ่งนี้หมายถึงวันรุ่งขึ้น
ไม่ใช่ปีรุ่งขึ้นนะ เพราะทันทีที่รู้ทางออกก็บอกต่อกันแบบแอมเวย์
แป๊บเดียวก็เข้าใจกันหมดแล้ว สัก 2 วันมั้ง
เพราะคนที่ฟังรู้เรื่องมีไม่ถึง 1% ของประเทศ
ที่เหลือไม่ใช่โง่ แต่ไม่ฟังครับ ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าอวดดี เพียงแต่โง่


การเปลี่ยนแปลงแผ่นดินต้องทำให้เด็ดขาดครับ
ไม่ใช่ไล่ไปแล้วเลือกตั้งใหม่เพื่อให้พวกมันกลับมายิ่งใหญ่อีก
มันตลกและดูไม่เด็ดขาดไม่จริงใจนะครับ
ซึ่งพี่ก็สรรเสริญทุกการต่อสู้ของ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
เพราะชอบพอกันเป็นการส่วนตัวมาก
แต่พี่ไม่ไปวิ่งชนกระสุนเพื่อให้รากหญ้าเลือกพวกมันกลับมาอีก
คุณพ่อพี่สอนว่า อย่าให้คนไม่ดีมีโอกาสปกครองบ้านเมือง
เพราะฉะนั้น “การขับไล่” ต้องตามด้วย “การกำจัด”
ซึ่งในอารยะประเทศเค้าใช้วิธีฆ่าทิ้งแบบเนียนๆ
แล้วแจงว่า ตายด้วยฝีมือคนวิกลจริต ซึ่งเรื่องก็เงียบ
แต่ในอนารยะประเทศซึ่งขี้ขลาด ก็ใช้วิธีนุ่มนวล
ซึ่งก็ตกเป็นเบี้ยล่างและสูญเสียเปล่า
เพราะกลับมาเหมือนเดิมทุกอย่างหลังทุกการต่อสู้
พี่หงุดหงิดทุกครั้ง เพราะวีรบุรุษของพี่เหนื่อยเปล่าทุกครั้ง
เพราะไม่แก้ที่ระบอบไงครับ


การเป็นวีรชนด้วยอารมณ์มักไม่แก้ปัญหาครับ
ต้องแก้ปัญหาด้วยเหตุผล ซึ่งต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ
“การโกงกิน-การแตกแยก” และ “สิทธิที่ไม่ควรเป็นขั้นพื้นฐาน”
ซึ่งพี่จะได้กล่าวรวมไว้ในช่วงท้าย ขยักเอาไว้ก่อน
ให้หงุดหงิดเล่นซะงั้น เป็นการคัดคนอ่านไงครับ
ท่านใดที่อ่านถึงตรงนี้แล้วงง อย่าอ่านต่อนะครับ
เสียเวลาท่านเปล่าๆ ครับ ท่านก็ตั้งหน้าตั้งตาเลือกคนดีต่อไปนะ


ชื่อของทอล์กโชว์ “กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต”

ต้องการจะบอกอะไรครับ เหมือน “ไม่เจ็บ ก็ไม่โต” อย่างนั้นหรือเปล่าครับ?


จะแปลอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่วลีที่ว่า “ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต”
หมายถึง “พิการ” นะครับ

สังคมไทยพิการ เพราะเราคิดว่าเราทำได้อย่างซีกโลกหนาวครับ
ลอกทุกอย่างของเค้ามา รวมทั้งระบอบการปกครอง
โดยลืมคิดไปว่าไม่มีนวัตกรรมของเราที่เค้าซื้อไปใช้เลย
มีแต่นวัตกรรมของเค้าที่เราซื้อมาใช้
เพราะเราไม่มีนวัตกรรมไงครับ
สิ่งของเครื่องใช้ในการอำนวยความสะดวก
ของชีวิตประจำวันประดิษฐ์คิดค้น
โดยคนซีกโลกหนาวแทบทั้งหมด เพราะเราไม่กล้าคิด
เรากลัวคนที่คิดไม่ออกจะทักท้วงเรา
เพราะคนที่คิดไม่ออกรู้ดีว่าถ้าทักท้วงแล้ว
จะดูเหมือนชนะในสายตาคนรอบๆ
ซึ่งก็คิดตื้นแบบเดียวกัน
จึงไม่มีกระบวนการคิดเกิดขึ้น
ในแถบซีกโลกร้อนที่ช่างทักท้วงครับ

มหาบุรุษอย่างเจ้าชายสิทธัตถะ
และมหาตมะคานธีเท่านั้นครับที่ฝ่าวงล้อมของ
นักทักท้วงได้สำเร็จ ด้วยจิตที่มั่นคง
การทักท้วงโดยที่คิดเองก็ไม่ออกเป็น
วัฒนธรรมซีกโลกร้อนทีอยู่ในสันดาน
แก้ไม่ได้ครับ ทำให้เป็นประชาธิปไตยอย่างซีกโลกหนาว
ไม่ได้สักประเทศเดียว แต่ก็อยากจะเป็นประชาธิปไตย
เพราะหลงตนกันครับ เหมือนการย้อมสีผมแล้วเป็นฝรั่ง
สังคมที่พิการเกิดจากการแก้ปัญหาด้วยอารมณ์
ไม่นิยมเหตุผล แต่พี่เห็นพันธมิตรฯใช้เหตุผล
แล้วก็ไม่ได้ผลนะครับ เพราะต่อให้ใช้เหตุผล
รัฐบาลหน้าด้านก็ไม่ลาออกครับ
เพราะรากหญ้าเลือกเค้ามาด้วยเสียงที่มากกว่าบัณฑิต
ซึ่งเราก็เถียงระบอบไม่ได้ เพราะบัณฑิต 14 ตุลา
เอาอำนาจการตัดสินใจในเรื่องบ้านเมืองไปยัดให้รากหญ้า
ซึ่งพวกเค้าไม่อยากได้ และเล่นไม่ถนัด
แต่พี่ว่าพวกเค้าเล่นถูกแล้วนะ
เพราะเค้าเลือกคนที่ให้เงินเค้า เพื่อตอบแทนบุญคุณ
ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกต้องในสายตาพวกเค้าเอง
คือการมีกตเวทิตาครับ รากหญ้าหัวเราะเยาะพวกเรา
ที่แห่กันไปเลือกพรรคนั้นพรรคนี้โดยไม่ได้อะไรตอบแทนเลย
พวกเราก็ดูโง่ในสายตาพวกเค้านะครับ
การโกงกินไม่ใช่สิ่งที่ผิดในสายตารากหญ้าครับ
เพราะรอบหมู่บ้านเค้ามีแต่การโกงกินโดยผู้มีอำนาจ
มีฐานะและมีคนยกย่องด้วยเพราะรวยนี่ เป็นที่พึ่งของทั้งหมู่บ้าน
กลายเป็นเทพไปเลย แม้จะโกงมาก็ไม่ว่า
เพราะทุกคนที่นั่นโกงแล้วได้ดีทั้งนั้น
ทุกห้องแถวทั้งในกรุงและบ้านนอกก็ทำอาชีพซื้อถูก
มาขายแพงโดยไม่เสียภาษีทั้งสิ้น ก็คือการโกงดีๆ นี่เอง
ไม่เห็นตำรวจจับนี่ เราเรียกร้องให้อุดหนุนร้านโชว์ห่วยที่ไม่เสียภาษี
และขับไล่แม็คโคร โลตัส คาฟูร์ที่เสียภาษี
ทั้งๆ ที่ร้านโชว์ห่วยก็เป็นของคนต่างด้าวเหมือนกัน
บางร้านไม่พูดไทยด้วยซ้ำ เราเห็นว่าผิด
แต่รากหญ้าเห็นว่าไม่ผิด เพราะเราดันยอมให้
พวกที่คิดไม่เหมือนพวกเรามีสิทธิเลือกคนมาปกครองเราไงครับ
เราต่างหากครับที่เป็นฝ่ายที่ทำผิดมาตลอด
เรื่องอย่างนี้คนที่คิดได้เท่านั้นที่จะรู้
บางคนคิดไม่ได้ครับ คิดแล้วปวดหัวสลบเหมือดคาหลังควาย

ความไม่กล้าคิดทำให้ทุกสังคมพิการครับ
สังคมที่พิการจะล่มแล้วล่มอีก ลุกกลับขึ้นมาได้ก็ป้อแป้
เดี๋ยวก็ล่มอีก โยนกก็ล่ม เชียงแสนก็ล่ม ล้านนาก็ล่ม
ทวาราวดีก็ล่ม ศรีวิชัยก็ล่ม หริภุญชัยก็ล่ม
สุโขทัยก็ล่ม อยุธยาก็ล่ม ธนบุรีก็ล่ม นี่ยังไม่รวมอ้ายลาว
น่านจ้าว นะครับ เพราะนักวิชาการหลัง 14 ตุลาบอกว่า
ไทยไม่ได้มาจากอ้ายลาว น่านจ้าว เนื่องจากไม่ต้องการให้
คนไทยคิดว่าเราโดนจีนรุกราน เพราะพวกเค้ากำลังจะ
เอาลูกจีนเข้าสภาปกครองคนไทย เราจึงเคยมีประธานสภา
ที่พูดไทยไม่ชัดมากันแล้ว หัวหน้าพรรคก็มาจากแซ่แทบทั้งนั้น
พวกเขามาจากไหน ไยจึงมาปรารถนาดีต่อแผ่นดินที่
ไม่ใช่ของบรรพบุรุษตน ช่างประหลาดเหลือล้ำ
แวะมาปรารถนาดีต่อแผ่นดิน 4 ปีก็ดันมีคนลงคะแนน
ให้ เรียกว่า “พิการหมู่” ครับ ถึงเวลาต้องคิดระบอบใหม่กันแล้วครับ
ถ้าไม่อยากให้อาณาจักรรัตนโกสินทร์ล่มอีก
ถ้าคิดไม่ออกจงรู้จักฟังนะครับ ฟังแล้วก็ไม่ต้องคิดด้วยครับ
เพราะเค้าคิดมาแล้วจะมาคิดทับอีกทำไม
ช่วยกันคิดของใหม่สิครับ มาคิดทับกันอยู่นั่น
คนไทยถนัดนักเรื่องคิดทับคนอื่น ฝรั่งเรียก “ขโมยซีน”
ไทยเรียกว่า “ไทยมุง” หรือ “รุมสกรัม” หรือ “หมาหมู่” นั่นเองครับ


พี่ตู้คาดการณ์ว่า บ้านเมืองของเราจะก้าวไปถึงจุดที่เรียกว่า

“กรุงแตก” หรือเปล่า เพราะอะไรครับ ?


เราแตกโดยพฤตินัยแล้วครับ ถ้ารอต่อไปโดยไม่ทำระบอบใหม่
เราจะแตกโดยนิตินัยครับ ก็จะเหมือน
เขมรสามฝ่าย ลาวห้าฝาย เวียดนามเหนือใต้ เกาหลีเหนือใต้
ซึ่งตอนนี้เราก็มีไทยเหนือใต้แล้วนี่ใช่มั้ย
วันนี้ไทยแตกเป็นจีนสองฝ่ายตีกันบนแผ่นดินไทย
ลูกจีนทั้งนั้นครับที่แสดงออกกัน ตั้งแต่ 14 ตุลาแล้วครับ
ที่มีคำว่ากุมารจีน ส่วนกุมารไทยนอนท่าเดียว
เพราะรับราชการกลัวอำนาจรัฐ ลับหลังก็นินทาคนโกง
แต่ต่อหน้าก็เดินตามตูด คนไทยแท้ตอแหลครับ
สมเด็จพระนเรศวรทรงตรัสไว้ว่า
“พวกเจ้าคนไทยเปรียบเหมือนหญ้าที่ต้องคอยตัดเล็ม
เมื่อปล่อยให้โตโดยอิสระจะหาระเบียบใดมิได้
เราจะเอาทองคำโปรยบนทางเดิน
ผู้ใดจ้องมองด้วยดวงตากิเลส เราจะให้ทหารเอาธนูยิงลูกนัยน์ตา”
อยุธยาช่วงนั้นสงบสุข น่าอยู่
เพราะไม่ทรงอนุญาตให้ไพร่ที่ต่ำช้าแสดงออกครับ
มาวันนี้ที่ประชาธิปไตยเบ่งบานทะโล่
จัณฑาลก็บังอาจแสดงออกได้
และซื้ออำนาจเข้ามาปกครองบัณฑิต
ซึ่งไร้น้ำยาเพราะพวกน้อยกว่า
ประเทศที่คนมีการศึกษามีจำนวนน้อยกว่า
คนที่ไม่มีการศึกษาจะยังเป็นประชาธิปไตยไม่ไครับ
เพราะเสียงส่วนใหญ่จะโง่ จะวุ่นวายไม่จบสิ้น
จะตะโกนแต่คำขวัญของกรรมกรคอมมิวนิสต์
“ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”
แล้วก็ตีกันด้วยอารมณ์ จบไม่ลงก็เดือดร้อน
พ่อหลวงต้องมาระงับศึกทุกครั้งไป
แต่ประชาชนก็ยังอยากเป็นใหญ่ในแผ่นดินของพระเจ้าอยู่หัว
โดยไม่รู้จักเจียมตัว ดูแลแผ่นดินกันให้เรียบร้อยยังไม่ได้
แต่อยากเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เป็นคอมมิวนิสต์ที่
แอบอ้างประชาธิปไตยมาต่อเนื่องครับ
เพราะยังเชื่อกันว่า ถ้ากรรมกรเป็นใหญ่
ฟ้าจะสีทองผ่องอำไพครับ ตัวอย่างมีให้เห็น
ในแผ่นดินคอมมิวนิสต์อื่นเยอะแยะ
ยังจะดักดานกันอยู่อีก ก็วันนี้กุลีก็เป็นใหญ่ในแผ่นดินไทยแล้ว
นี่ครับ ฟ้าก็ยังสีแดง ทุกอย่างจะเรียบร้อยต่อ
เมื่อฟ้าสีน้ำเงินเท่านั้นครับ จงรับรู้ไว้ซะ
ถ้าสิ้นพระบารมีเมื่อใด เราก็จะเหมือน
อดีตของเพื่อนบ้านเราแน่นอนครับ
คนที่ต้องการล้มสถาบัน เพื่อให้พวกตนคนต่างด้าวเป็นใหญ่
จึงต้องการเร่งให้สิ้นพระบารมีทุกวิธีโดยเร็วไงครับ
ซึ่งการสิ้นพระบารมีมิได้หมายถึง
ต้องสิ้นพระอายุขัยแต่อย่างใด
การที่ทรงทำอะไรไม่ได้ต่อสถานการณ์บ้านเมือง
ก็ถือเป็นการสิ้นพระบารมีในสายตาคนพวกนี้
ที่รอให้สถาบันเสื่อมเพื่อสร้างเงื่อนไข
ในการตั้งราชวงศ์ใหม่ที่มาจากแซ่ครับ
วันเสียงปืนแตกของคอมมิวนิสต์ใกล้แล้วนะครับ
แตกในกรุงนี่แหละ แตกกันเอง


ถ้ากรุงมันจะแตกหรือไม่แตก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ “วิชาประวัติศาสตร์” ล่ะครับ ?


ประวัติศาสตร์สอนให้คนในชาติบังเกิด 3 สิ่ง สำนึกกตเวทิตา
และ อุทาหรณ์ ปราศจาก 3 สิ่งนี้เราเป็นชาติไม่ได้ครับ
อ้ายลาว น่านจ้าว โยนก เชียงแสน ล้านนา ทวาราวดี ศรีวิชัย
หริภุญชัย สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี แตกหมดแล้ว
เพราะไม่มีวิชาประวัติศาสตร์เรียนครับ
อาณาจักรเหล่านี้เอาคนเชื้อสายต่างด้าว
เข้ามาปกครองเป็นรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาและลบประวัติศาสตร์ทิ้ง
ให้หันมาเลื่อมใสเชื้อสายต่างด้าวที่รวยเอารวยเอาไม่เลิก
เพื่อให้เลิกนับถือพ่อและหันมานับถือเตี่ยใหม่แทนพ่อ
ไม่มีทางครับ คนไทยเติบโตมากับการปกครองแบบพ่อกับลูก
เปลี่ยนไม่ได้ครับ ยังไงก็เปลี่ยนไม่ได้ แต่ปรับได้
ขอให้รอฟังในช่วงต่อไป ด้วยความอึดอัดและหงุดหงิดนะครับ
เพราะของดีต้องมาตอนจบ เหมือนทุกวิกฤติของบ้านเมืองที่ผ่านมา
และคราวนี้ก็ด้วย พ่อจ๋า หนูกราบขอบพระคุณ
และคิดถึงพ่อมาก พะย่ะค่ะ ทอล์กโชว์ครั้งนี้จัด
เพื่อสนองกระแสรับสั่งของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
เรื่องวิชาประวัติศาสตร์ที่หายไปครับ


ถามตรงๆ ทอล์กโชว์คราวนี้มีประเด็นหลักๆ เป็นเรื่องการเมืองใช่หรือเปล่าครับ เพราะอะไร ?


การเมืองอย่างเดียวเลยครับ การเมืองตั้งแต่สมัยโยนกมาจนถึง
สมัยราชวงศ์แซ่เบ๊อีก 50 ปีข้างหน้าครับ เราไม่รอดหรอกครับ
เพราะเราแหย คนไม่แหยมีอยู่หยิบมือเดียวที่กล้าฟังเรื่องพวกนี้
ที่เหลือนอนรอสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาล ซึ่งบางที
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ทรงพระเบื่อเป็นนะครับ
เพราะประชาชนอยากเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
แต่แก้ปัญหาในแผ่นดินกันไม่ได้
แผ่นดินเกษตรกรรมแหงนรอฝนฟ้าบันดาลมาเกือบพันปี
แก้กำพืดนี้ไม่ได้ จะให้แก้ปัญหากันเอง ไม่มีวันครับ
ในทอล์กโชว์วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคมนี้
ท่านผู้ชมที่มีกตเวทิตาและกล้าหาญสามารถสมัครคาราวาน
กรุงเทพ-อยุธยา เดินทางวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน
เพื่อเยี่ยมคำนับแผ่นดินประวัติศาสตร์ที่ลูกหลานลืมหมดแล้ว
ว่าบรรพบุรุษไทยก็ไม่ใช่ขี้ๆ เพียงเพราะวันนี้ไม่มีวิชา
บรรพบุรุษศาสตร์ให้ผองเราเฝ้าศึกษา
ก็หาใช่ว่าวีรกรรมของผองท่านจะหาเคยปรากฏ
ไม่ใช้ภาษาวรรณกรรมแล้วซับซ้อนดี เหมือนที่ให้รากหญ้า
อ่านรัฐธรรมนูญแล้วไม่รู้เรื่อง ก็ถามว่ากินได้มั้ย
ทำให้เรารู้ว่าค่อนประเทศคิดแค่เรื่องกิน
คนที่พวกนี้เลือกมาจึงกินจุ ไม่รู้จักคำว่าพอเพียงของในหลวง
ถือเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
เช่นเดียวกับการเข้าคูหาไปกาเลือกสามัญชน
มาใช้พระราชอำนาจของพระองค์ก็มิผิดเพี้ยน
ผลกรรมจึงตามมาลงโทษทัณฑ์ให้เรา
ต้องอยู่อย่างไร้ความสงบสุขฉะนี้เอง
แต่แผ่นดินย่อมดูแลผู้ที่กาโนโหวตให้มีชีวิตที่สุขสบายไร้กังวล
สามารถมานั่งให้สัมภาษณ์ได้อย่างสบายใจเฉิบๆ อยู่
ณ ขณะนี้นั่นเองครับ


พี่ตู้มองความแตกต่างระหว่างเพลงเก่ากับนักการเมืองเก่ายังไงครับ

เช่น เพลงยิ่งเก่ายิ่งดี แต่นักการเมืองยิ่งเก่า
ก็ยิ่งเก๋าและโกงเก่ง อะไรอย่างงี้เป็นต้น


น้องนิยามได้คมคายมากครับ พี่ชอบ เมื่อพี่ชอบ
พี่ก็ชมต่อหน้า คนไทยต้องแก้นิสัยไม่กล้าแสดงออกนะครับ
ไม่ชม ไม่ด่า แล้วมันจะรู้มั้ยว่าเราเกลียดมัน
พี่จึงยกย่องวีรกรรมของแกนนำพันธมิตรฯและผู้ร่วมชุมนุม
และพี่จึงด่าคนที่พี่เกลียด เช่น รากหญ้า
เพราะมันคือต้นตอแห่งปัญหาทั้งปวง
คนที่มันเลือกมาสร้างปัญหาให้บัณฑิตเมืองหลวง
ที่เสียภาษีไปเลี้ยงพวกมันที่โง่และขี้เกียจ
พูดออกสื่อไม่ได้เพราะสื่อขี้ขลาดครับ
จึงต้องมาทำทอล์กโชว์ เพื่อให้พูดได้
โดยไม่ต้องเกรงใจสื่อที่ปอดแหก
แต่ต้องพูดกับเฉพาะคนดูที่กล้าเท่านั้นนะครับ
คนดูที่ขี้ขลาด อย่าซื้อบัตรทอล์กโชว์พี่นะ
เดี๋ยวเยี่ยวแตกในโรงครับ สังคมที่ไม่กล้าแสดงออก
ไม่มีวันเป็นประชาธิปไตยได้ครับ คนที่ไม่กล้าแสดงออก
ก็เกิดมาหายใจเสียเปล่าไปชาตินึง เรียกว่า “ดีแต่เกิด”
ซึ่งเป็นชื่อหนังสือเล่มแรกของพี่ที่ผู้คนบอกว่า
ควรอธิบายชื่อหนังสือ พี่ก็บอกว่าถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ควรอ่าน
พี่ไม่เอาใจใครเลยครับ ไม่ใช่เพราะเป็นลูกทหารยศพลอากาศเอก
ไม่ใช่เพราะไปโตเมืองนอกตอนคุณพ่อเป็นทูตลอนดอน
ไม่ใช่เพราะเป็นนิสิตดีเด่นเพชรชมพูของจุฬาฯ
แต่เพราะพี่เหนื่อยกับการอธิบายคนที่ฟังไม่เป็นครับ
ต่อให้พี่อธิบายจนมันเข้าใจแล้วมันก็ไปนอน
จะสงสัยไปทำไม ไม่ใช่คนสำคัญอะไรเลย
ไม่ได้เป็นแม้แต่ทรัพยากรที่มีคุณค่าอะไรต่อแผ่นดินเลย
แต่ขี้สงสัย ถามจังเลย แผ่นดินสยามไม่ต้องมีมันก็ได้ครับ
เปลืองออกซิเจนสยาม พี่เลือกพูดกับเฉพาะคนที่มีไอคิว
ฟังเป็น เข้าใจเป็น คิดต่อเป็น คนเหล่านี้มีประโยชน์ต่อส่วนรวม
พี่ต้องพูดกับเค้าครับ ไอ้ประเภทฟังแล้วขี้ขโมย
เช่น พี่ตู้คิดเหมือนผมเลย พวกนี้พี่ถีบเบาๆ แล้วสอนครับ
ท่านคิดสิ่งดีๆแล้วไม่พูดออกมา มึงจะคิดไปทำไม
พลังเงียบไม่มีพลังนะครับไอ้โง่ ได้ผลหลายรายแล้วครับ
จริงๆ คือ มันฟังเสร็จแล้วเห็นด้วย แต่วางฟอร์ม
ก็พูดว่าคิดเหมือนกัน ไม่ใช่มันคิดเหมือนพี่นะ
มันบอกว่าพี่คิดเหมือนมัน แปลว่ามันคิดก่อน
บัณฑิตที่เรียนถึงปริญญาเอกยังเป็นเลยครับสันดานนี้
คือคอรัปชั่นดีๆ นี่เอง มาจากการตักกับข้าว
จากกลางโต๊ะมาใส่จานตัวเอง คือ
เอาของส่วนรวมมาเป็นของตน
ซึ่งเราสอนเด็กให้โกงตั้งแต่เล็กๆ มาโดยไม่รู้ตัวกันครับ
ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยในซีกโลกหนาว
เวลากินข้าวต้องจานใครจานมัน
ไม่มีการตักจากกลางโต๊ะทีละคำ
มันตักทีเดียวราดเสร็จไปเลย เป็นการวางแผนระยะยาว
ไทยเราคิดทีละคำ แล้วตะกละด้วยนะ
กับข้าวหลายอย่างมาก เมืองหนาวมันกินมื้อละอย่าง
เพราะยังมีมื้อหน้าค่อยกินอย่างอื่น
มื้อนั้นไม่ใช่มื้อสุดท้ายของชีวิต มันคิดกันได้ไงครับ
ถ้าเราสอนเด็กกินข้าวราดแกงตั้งแต่เล็ก
เด็กจะโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ตะกละ
ไม่ขโมยของส่วนกาง รู้จักวางแผน
และคิดเป็นว่าทุกมื้อไม่ใช่ THE LAST SUPPER
เพราะคิดกันไกลอย่างเมืองหนาวไม่ได้
เนื่องจากอุดมสมบูรณ์ ไม่มีการอดอยากหน้าหนาว
อย่างพวกนั้นก็ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า
ทำให้นักการเมืองก็ไม่คิดไกล โกงง่ายๆ
เพราะประชาชนเองก็ไม่คิดไกลเหมือนกัน
เลือกพรรคนี้คนนี้เพราะเบื่อพรรคโน้นคนโน้น
ถ้าคิดไกลจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่สามัญชน
จะแวะมาหวังดีกับประเทศ 4 ปี
โดยที่ก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยทำอะไรให้ประเทศมาก่อนเลย
ฉะนั้นจงพร้อมใจกันกันกาโนโหวตให้สภาโล่งเถิด
เพราะบ้านเมืองก็เดินได้ด้วยกระทรวงต่างๆอยู่แล้วนี่
มีสภาก็ไม่เคยเล่นงานข้าราชการเลวได้เลย
เพราะมัวแต่เล่นงานกันเอง มีสภาก็คือมีรัฐมนตรีมาช่วยโกงอีก
การกาไม่เลือกใครเป็นการรักษาศักดิ์ศรีของผู้กาว่า
ไม่ได้ส่งโจรเข้าไปแย่งพระราชอำนาจครับ
ถ้าคิดว่ากาโนโหวตแล้วเสียของจะ
ทำให้พวกผู้แทนรากหญ้าชนะและเข้าสภา
กาเลือกประชาธิปัตย์ให้ตาย พรรคของรากหญ้า
ก็มาอยู่ดีทุกทีครับ มันวางแผนกันมาตั้งแต่ 14 ตุลาแล้วครับ
ผู้ใช้แรงงานต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
ผู้ใช้สมองต้องเจียมตัวอยู่เงียบๆ แต่พี่หมั่นไส้มัน
เลยไม่อยากเงียบ แต่พี่ก็พูดอยู่คนเดียวนะ
เพราะคนอื่นขี้เกรงใจ ซึ่งพี่ก็เห็นใจเพราะ
เค้าไม่มีปืนกลเหมือนพี่ ของพี่เป็นปืนกลอาบยาพิษด้วย
กำลังจะเอาไปให้ “น้องยะ” สุริยะใส (กตะศิลา)
ที่พันธมิตรฯครับ แต่ต้องใช้แทง เพราะอาบยาพิษที่ปากกระบอก
นักการเมืองเก่าหรือนักการเมืองใหม่ไม่มีประโยชน์
ทั้งนั้นครับ ถ้าสภายังยกมือไว้วางใจคนโกงอยู่
ระบอบใหม่ต่างหากครับที่จำเป็น
ระบอบที่เหมาะสมกับสันดานไทยที่ขี้โกง
พี่เรียกว่า “พอเพียงธิปไตย” ถวายแด่พ่อผู้ทรงทศพิศราชธรรมครับ
ซึ่งพี่ได้ขยายความไว้ใน “จดหมายเรียนแกนนำพันธมิตรฯ”
ที่ลงตีพิมพ์ในฉบับเดียวกันนี้แล้ว
ใครอ่านแล้วไม่เข้าใจก็อย่าไปพยายามเข้าใจมันเลยนะครับ
จงกลับไปเลือกคนดีต่อไปเถิด
งวดหน้านี่คนดีลงสมัครทั้งนั้นเลย
เพราะต้องรีบถอนทุนกัน


พี่ตู้มองว่าเพราะอะไร ในช่วงหลังๆ มานี้ ดูเหมือนว่า

วงจรชีวิตของนายกรัฐมนตรีจะสั้นลงเรื่อยๆ?


เพราะมันไม่จำเป็นต้องมีนายกฯไงครับ
อะไรที่ไม่จำเป็นมันจะสั้นลงเรื่อยๆ ครับ
เหมือนอวัยวะคน ส่วนอะไรที่มันจำเป็น
จะอยู่ยั้งยืนยงด้วยตัวเองครับ เช่น
สถาบันพระมหากษัตริย์ จำเป็นสำหรับประเทศไทยครับ
เมื่อใดก็ตามที่สถาบันไม่มีความจำเป็นหรือปฏิบัติไม่เหมาะสม
ก็ต้องมีอันเป็นไปเช่นเดียวกับทั่วโลกครับ
จงอย่าแสดงความหวาดกลัวต่ออนาคต
โดยการทำร้ายปัจจุบันเลยครับ จะวอดวายทั้งแผ่นดิน
โดยพร้อมเพรียง พระสยามเทวาธิราช
จะทรงอภัยให้แค่ครั้งเดียวโดยถือว่าหลงผิดไป


พี่ตู้เห็นดีด้วยหรือไม่กับการที่คนในสังคมเริ่มพูดถึง

การเมืองใหม่กันมากขึ้น เพราะอะไรครับ ?


ต้องยกความดีให้พี่สนธิ (ลิ้มทองกุล) ครับ
พันธมิตรฯ ทำให้คนกล้าพูดเรื่องการเมืองมากขึ้น
เพราะพูดแล้วไม่เป็นไรไงครับ
ก่อนพันธมิตรฯก็มีแค่พี่ตู้คนเดียวที่พูดบนเวที
หรือพูดออกสื่อเปิดเผย คนก็ไม่กล้าเอาอย่าง
เพราะกลัวเป็นอย่างพี่ตู้ พูดเรื่องเมืองแล้วหัวล้าน
การเมืองใหม่เป็นความหวังของทุกคน
เพราะเบื่อของเก่าครับ เราเห็นทางตัน
แต่ความจริงทางไม่ตันถ้ากล้ายกเลิกของเก่ามากกว่าปรับแก้
แต่คนก็ยังไม่อยากออกความเห็นกันมาก
เพราะไม่มีความรู้เรื่องประวัติศาสตร์การเมืองโลกครับ
คนที่มีความรู้ก็ดันไม่มีความคิดอีก
โลกพัฒนาด้วยความคิดครับไม่ใช่ด้วยความรู้
ทุกนวัตกรรมมาจากความคิดที่ใช้ความรู้เป็นฐาน
ในการคิด ความรู้คือ KNOWLEGE
ความคิดคือ IDEA คนฉลาดคือคนที่มีความคิดครับ
ไม่ใช่คนที่มีความรู้ การศึกษาเราสอนให้รู้อย่างเดียว
เลยไม่กล้าคิดกัน เมื่อไม่กล้าคิดก็ไม่กล้าพูด
คนที่พูดก็พูดแต่ความรู้ไม่พูดความคิด
คงเพราะไม่มีกันมั้งครับ พอใครทักท้วงก็เป๋
ไปต่อไม่ถูก วันนี้คนไทยก็ยังคุยการเมืองกัน
ไม่ถนัดนะครับ ต้องหยั่งเสียงดูก่อนว่าอยู่ข้างไหน
ซึ่งทำไมต้องเลือกข้างครับ ใครคุยกับพี่ตู้แล้ว
ปรากฏว่าคุยง่ายดี พี่ตู้ไม่อยู่ข้างพรรคไหนเลย
พี่บอกมันเลวหมดทุกพรรค แต่พี่ชื่นชมเป็นคนๆ ไปนะครับ
ไม่เกี่ยวกับพรรค พรรคเลวก็มีคนดีได้เพราะเค้ายังไม่เคยเลว
เราก็ต้องให้เครดิตเค้าครับ มนุษย์ทะเลาะกัน
เพราะดันเลือกพวกโดยหารู้ไม่ว่า
ผู้ที่ไม่มีพวกมีเยอะกว่าผู้ที่มีพวก
ผู้ที่ไม่มีพวกจึงมีพวกเยอะกว่าครับ
ผู้ที่เลือกว่าจะเป็นพวกไหนวันใด
พวกที่เรางมงายเชิดชูเกิดทำอะไรเลวขึ้นมา
เราก็ต้องบากหน้าแก้ตัวแทนมันอีก
ซึ่งก็ฟังไม่ขึ้นก็ต้องเสียหมาไปตลอดกาล
การไม่มีพวกจึงเป็นลาภอันประเสริฐครับ


พี่ตู้เบื่อหน่ายหรือเปล่าครับกับการเมืองเก่า?


เบื่อไม่ได้ครับ เราเลือกที่จะใช้ระบอบนี้
เราต้องแก้จนดีให้ได้ครับ แต่ต้องแก้ที่ต้นเหตุเลยนะครับ
รากหญ้า พรรค รัฐมนตรี มีแค่ 3 ต้นเหตุเท่านั้น
ซึ่งถ้าใครไม่เห็นด้วยก็ให้เค้าเลือกคนดีต่อไป
อย่าไปบังคับเค้าให้เปลี่ยนแปลงระบอบ
ที่ไม่เหมาะสมกับเค้าครับจะยิ่งมีปัญหา
ความแตกแยกไม่ได้อยู่ที่พันธมิตรฯกับรัฐบาลนะครับ
ความคิดครับที่แตกแยก พวกนึงบอกต้องแก้อย่างงี้
อีกพวกบอกต้องแก้อย่างโง้น
โดยไม่มีใครกล้าแก้ที่ต้นเหตุเลยครับ
พี่ไม่ทราบว่าเพราะอะไรโจรก็เลยยังครองเมือง
เพราะเรามัวเถียงกันว่าจะแก้วิธีไหนดี
ถ้ามันตกลงกันได้ว่าใช้ทุกวิธีเลย
แล้วฝ่ายค้านก็เสนอสภาเพื่อทำประชามตินะครับว่า
ประชาชนเอาวิธีไหนก่อน จากนั้นเราก็ทดลองใช้
ถ้าไม่ได้ผลก็เอาวิธีที่คะแนนประชามติมาที่สองมาลองอีก
แล้วก็อันที่สามไปเรื่อย บางวิธีมันใช้พร้อมกันได้นะพี่ว่า
ใครจะจ้างรากหญ้ากาคะแนนให้ฝ่ายโจรก็ไม่ได้
เพราะไม่มีข้อไหนเป็นประโยชน์ของฝ่ายโจรเลยครับ
ใครเสนอวิธีที่โจรได้ประโยชน์เราก็คัดออก
โดยเสียงส่วนใหญ่ของกรรมการประชามติ
ที่พกปืนอาบยาพิษทุกคน
ถ้าใครเห็นด้วยกับหนทางนี้
กรุณาไปบอกพี่ที่ทอล์กโชว์ 26 ตุลา
พี่สัญญาว่าจะเสนอคุณอภิสิทธิ์ให้ในงานบนเวทีเลย
ซึ่งคราวที่แล้วคุณอภิสิทธิ์ก็กรุณาให้เกียรติมา
รับร่าง พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณสัตว์เลยบนเวทีเช่นกันครับ


ถ้าเราจำเป็นจะต้องมีการเมืองใหม่กันจริงๆ

พี่ตู้มองภาพของการเมืองใหม่ว่าควรจะออกมาเป็นเช่นไรครับ?


“พอเพียงธิปไตย” ครับ ซึ่งพี่ตั้งชื่อไว้เรียกไปงั้นเอง
เพื่อให้นึกออกว่าพูดถึงอะไร โดยแก้ที่ต้นเหตุทั้ง 3 ปัญหา
ซึ่งปัญหาวันนี้คือ การโกงกิน ความแตกแยก
และคุณภาพผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ที่มาของปัญหา
คือตำแหน่งรัฐมนตรีทำให้มีสิทธิ์โกง
ระบบพรรคทำให้เกิดการแตกแยก
คนไม่เสียภาษีมีสิทธิ์เลือกตั้งทำให้เลือกชุ่ย
ซึ่งทุกคนเห็นด้วยในสามข้อนี้
ดังนั้น การเมืองใหม่ต้องไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี
ไม่มีพรรคการเมืองครับ ประธานสภาคือนายก
ซึ่งไม่มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายหรืออนุมัติโครงการ
มีหน้าที่รับแขกเมืองอย่างเดียวคือ
ความจริงไม่ต้องมีนายกก็ได้ไง
เพราะประเทศเรามีองคมนตรีมีประมุขแล้วนะครับ
อย่าทำเป็นลืมกัน สภา ในระบอบใหม่ควรมีหน้าที่
ตรวจสอบข้าราชการเลว แล้วส่งศาลรัฐธรรมนูญเลยครับ
ไม่ต้องส่งศาลปกครอง จะได้ไม่ต้อง อุทร ฎีกา
สภาในระบอบใหม่ไม่ต้องตรวจสอบรัฐมนตรีครับ
เพราะรัฐธรรมนูญใหม่ยกเลิกตำแหน่งรัฐมนตรีทั้งหมด
ก็ไม่มีการโกงกินในระดับบริหารอีกต่อไป
นักการเมืองเก่าก็จะเลิกเล่นการเมือง
เพราะไม่มีโอกาสโกงอีกต่อไป
เมื่อไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี สภาในระบอบใหม่ก็ตั้ง
กรรมาธิการกระทรวงแทน รัฐมนตรี
กระทรวงละ 20 คนมาจากผู้แทนราษฎร
ในสภาใหม่ที่ห้ามสมาชิกสังกัดพรรค
กรรมาธิการกระทรวงทำหน้าที่แทนรัฐมนตรี
แต่ไม่มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายหรืออนุมัติ
โครงการใดๆ มีหน้าที่ผลักดันการทำงาน
ของกระทรวงนั้นๆ ตรวจสอบข้าราชการ
ในกระทรวงนั้นๆ ใครจะซื้อกรรมาธิการ
กระทรวงต้องซื้อกึ่งหนึ่งของ 20 คน
ที่ต่างคนต่างมาไม่ใช่แก๊งเดียวกันมาก่อน
แต่กรรมาธิการกระทรวงก็เปลี่ยนทุก 6 เดือน
เวรกรรม ประเทศนี้มีแต่โจรหรืออย่างไรครับ
จึงต้องตั้งกติกาใหม่เข้มงวดขนาดนี้
จำเป็นครับถ้าจะแก้กันจริงๆ
ลองนึกนะครับว่าถ้าสภาใหม่ไม่มีพรรคการเมือง
เพราะรัฐธรรมนูญใหม่ห้ามสังกัดพรรค
อะไรจะเกิดขึ้น จะเหมือนยุคทองของประชาธิปไตยสมัยกรีก
ทุกคนเป็นอิสระไม่ต้องขึ้นต่อหัวหน้าพรรค 500 คนก็ 500
ความคิด ไม่ใช่ 500 คนแต่ 2 ความคิดอย่างวันนี้
เพราะมีแค่ 2 ฝ่ายจาก 2 พรรคใหญ่เท่านั้น
ก็แบ่งข้างตีกัน นอกสภาก็แบ่งตาม
ก็วุ่นวาย สภาใหม่มี 500 ฝ่าย
จะแบ่งพวกตีกันยังไง ซื้อก็ไม่ได้
เพราะเมื่อห้ามมีพรรคการเมือง คนดีๆ
ที่ไม่ใช่นักการเมืองอาชีพก็แห่กัน
ลงสมัครแย่งเก้าอี้นักการเมืองอาชีพซึ่งก็หนีหมด
เพราะไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีให้โกงกินแล้ว
คนอย่างพี่และท่านผู้อ่านก็จะเข้าสภาได้ด้วยยินดี
เพราะไม่ต้องสังกัดพรรคไงครับ
แต่ต้องเข้าไปนั่งกันให้เต็มทุกสมัยนะครับ
ไม่งั้นมันซื้อเสียงเข้ามาแก้รัฐธรรมนูญคืนจนได้
จะป้องกันการซื้อเสียงอย่างไรล่ะครับ
ทีนี้เพื่อความถูกต้องและยุติธรรมซะที
กำหนดจำนวนผู้แทนแต่ละจังหวัดมากหรือน้อยตาม
อัตราการเสียภาษีรายได้ของแต่ละจังหวัด
อยากมีผู้แทนเยอะก็ต้องขยันเสียภาษีแข่งกันทั้งประเทศ
ก็เจริญกันทุกจังหวัด แต่พี่ว่าคงขี้เกียจเหมือนเดิมแหละครับ
มีผู้แทนน้อยก็ช่างมัน ผู้แทนต่างหากที่เดือดร้อน
ประชาชนไม่สนอยู่แล้ว แต่เราสามารถ
กำจัดนักการเมืองคุณภาพต่ำได้เห็นๆ ไงครับ
จะได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญใหม่ ทำได้ 2 วิธีครับ
ทำรัฐประหารแล้วเข้ามาแก้ 3 ข้อนี้แล้ว
เลือกตั้งด้วยรัฐธรรมนูญใหม่ หรือ ทำประชามติ
โดยเสนอ 5 วิธีซึ่งล้วนเป็นวิธีพิฆาตมารทั้งสิ้น
ให้ประชาชนเลือกว่าจะเอาวิธีไหน
ไม่ใช่เลือกว่าเอาหรือไม่เอา


พี่ตู้คิดเห็นยังไงที่มีคนมองว่าพี่เป็นคนที่มีทัศนคติอันเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ?


ไม่ใช่ความมั่นคงของชาติครับ ความมั่นคง
ของพวกมันต่างหากที่ได้รับอันตรายจากทัศนคติของพี่
เพราะพี่ต่อต้าน “กุ๊ยยาธิปไตย” ไงครับ
ถ้าประชาชนเห็นด้วยกับพี่ พวกมันก็จะไม่มั่นคง
แต่ประชาชนทั่วไปไม่เห็นด้วยกับพี่หรอกครับ
เค้าคิดว่าเลือกคนดี บ้านเมืองก็เรียบร้อยแล้ว
เรียบร้อยโรงเรียนลูกครึ่งจีนครับ
คนจีนไม่มีอันตรายต่อประเทศเรานะครับ
เค้าขยันทำมาหากิน หาเงินเข้าประเทศเรา
เสียภาษีให้เรา ยกเว้นพวกห้องแถว
บางห้องแถวทั่วประเทศเท่านั้นครับ
เราเป็นหนี้บุญคุณคนจีนนะครับ
ตั้งแต่พระเจ้าตากมาจนถึงนักธุรกิจวันนี้
แต่เจ๊กสิครับที่ทำร้ายประเทศเรา
เจ๊กเป็นวรรณะต่ำของจีน คนจีนที่หนีมาไทยสมัยอยุธยา
เค้าหนีเจ๊กมาครับ วันนี้เจ๊กตามมาแล้ว
อยู่เต็มสภาแล้ว เพราะเจ๊กซื้อเสียงเสี่ยวตอนเลือกตั้ง
คนไทยเจ้าของประเทศก็ร่วมมือกับ
พี่น้องเชื้อสายจีนขับไล่เจ๊กที่มีเสี่ยวหนุน
เสี่ยวเป็นวรรณะต่ำของลาวครับ
ลาวเป็นผู้ดีเก่ามารยาทงามเหมือนจาวเหนือของไทยเรา
แต่เสี่ยวอพยพหนีคอมมิวนิสต์ลาวมาอาศัยในบ้านเรา
คลอดลูกหลานมีบัตรประชาชน แต่วรรณะไม่ยอมขยับ
ขี้เกียจ โง่ อวดดี คนไทยก็ไม่กล้าว่ากล่าว
เพราะเกรงใจ ขี้ขลาดนั่นแหละครับ
มันจึงจะครองประเทศเราอยู่แล้ว
เมื่อใดที่พี่น้องเชื้อสายไทยกับจีนจับมือกัน
ขับไล่เจ๊กและเสี่ยวสำเร็จ ประเทศจะน่าอยู่ทันที
เพราะเหลือแต่ผู้ดี ไม่มีจัณฑาลอีกต่อไป
เมื่อมาอาศัยแผ่นดินเขาอยู่ต้องรู้จักเจียมตัว
แต่ถ้าเจ้าของบ้านขี้ขลาดก็สมควร
สูญเสียความมั่นคงของชาติครับ
แสดงออกกันซะมั่งพี่ไทย โดยเฉพาะกองทัพน่ะ
ปล่อยพวกมันได้ใจกันใหญ่แล้ว มันรอสมน้ำหน้าเราอยู่นะ
มันมีอาชีพล้มสถาบันนะครับ เจ๊กล้มกษัตริย์จีน
เสี่ยวล้มกษัตริย์ลาว ไม่รู้มาเสือกอะไรในบ้านเมืองเรากันครับ
อังกฤษไล่กุลีออกจากสิงคโปร์หมด
ใครไม่เรียนหนังสือมันถีบตกทะเล ว่ายน้ำมาหาเราอื้อเลย
สิงคโปร์นำเข้ากุลีชั่วคราวระยะสั้น ห้ามคลอดในประเทศ
บ้านเมืองเค้าจึงเรียบร้อย เพราะทุกคนมีการศึกษา
ก็ไม่มีใครเลือกโจรเข้าสภาครับ ไม่ใช่
เพราะเค้าไม่มีโจรสมัครรับเลือกตั้งนะครับ
แต่เพราะไม่มีใครเลือกมันครับ
หลังๆ มันก็เลยไม่สมัครแล้ว เค้าเริ่มอย่างนี้นี่เอง


พี่ตู้เคยมีความคิดหรือความสนใจที่จะเข้าไปเล่นการเมืองหรือเปล่าครับ เพราะอะไร?


ถ้ายังบังคับให้สังกัดพรรค ไม่มีวันครับ พี่รังเกียจระบบแก๊งครับ
ไม่มีอิสระในการแสดงความคิด ต้องเชื่อฟังหัวหน้าแก๊ง
ไม่เห็นมันเป็นประชาธิปไตยตรงไหน มีหน้าที่ยกมือ
ให้รัฐมนตรีของพรรคโกงกินเท่านั้นครับ ต่ำช้ามาก
พี่เป็นลูกผู้ดี พี่ยอมไม่ได้จริงๆ หม่อมแม่ต้องเคืองเป็นแน่แท้
นามสกุลพระราชทานไม่สมควรเกลือกกลั้วของโสมม
เมื่อใดยกเลิกระบบพรรค ยกเลิกรัฐมนตรี
พี่จะเข้าไปรับใช้แผ่นดินทางตรงในสภาครับ
พี่ว่าหลายท่านที่มีความคิดและฝีมือก็ยินดีทำงาน
ให้แผ่นดินภายใต้เงื่อนไขใหม่ของระบอบใหม่
“พอเพียงธิปไตย” ที่ไม่มีรัฐมนตรี ไม่มีพรรค
ไม่มีผู้แทนของเสี่ยว แต่ถ้ายังเป็น
“กุ๊ยยาธิปไตย” ไม่มีผู้ดีเล่นด้วยแน่นอนครับ


พี่ตู้มองสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันอย่างไรบ้างครับ?


ไม่รอดครับ เพราะเราไม่กล้าคิดนอกกรอบ
เราแก้ปัญหาด้วยวิธีการเดิมๆ มันก็วนกลับมา
ให้แก้
ใหม่อยู่อย่างนี้ครับ เราไม่กล้าตัดต้นตอของปัญหา
เราไม่กล้าแตกหัก เราไม่กล้าใช้ความเด็ดขาด
แต่พี่ว่าถ้าแกนนำพันธมิตรฯเด็ดขาดก็อาจไม่มีใครเอาด้วยนะ
เพราะธรรมเนียมไทยไม่นิยมความเด็ดขาด
เมื่อเด็ดขาดไม่ได้ ก็ต้องใช้ความอดทนแทนสิครับ
ซึ่งพี่ไม่มีไง สุริยะใส กตะศิลา มาชวนพี่ พี่ก็ลำบากใจ
เพราะพี่แพ้ยุง ที่สำคัญคือเค้าห้ามพกอาวุธ
แต่พี่พกปืนติดตัวตลอดเวลา เพราะพี่กลัวตายมากจริงๆ ครับ
พี่แปลกใจที่คนไทยไม่กลัวตายกัน
ไม่มีใครพกอาวุธเลย หรือเค้าคิดว่าชีวิตของเค้าไม่มีค่า
ก็ในเมื่อผู้ร้ายมีอาวุธแล้ว ทำไมเราจึงจะยอมเสียเปรียบมันครับ
ทุกชีวิตมีค่าครับ แม้จะคิดหลอดไฟฟ้าหรือระบอบใหม่ไม่ได้ก็ตาม
อเมริกาสร้างประเทศโดยการติดอาวุธให้พลเมืองดีทุกคน
โดยอิสระที่เอวเลย เพราะโจรชุมมาก
มันมาจากพวกกุ๊ยที่มาขุดทองแล้ววืด
ก็มาปล้นจี้รังแกชาวบ้าน กฎหมายก็อนุญาตให้
ชาวบ้านพกปืนบ้าง โจรก็จ๋อย ต้องหันไปปล้นรถไฟ ธนาคาร
ที่ปล้นประชาชนมาอีกที ประชาชนก็ยกให้เป็นวีรบุรุษ
เพราะช่วยรังแกคนที่รังแกประชาชน ลูกหลาน
ก็เอาชีวประวัติมาทำเป็นหนัง
พี่น้องพันมิตรเราวันนี้ก็ไม่ต่างจากวีรบุรุษ
เช่น เจสซี่ เจมส์ หรือ โรบินฮู้ด หรอกครับ
ลูกหลานจะสรรเสริญท่านในวันข้างหน้า
ถ้าท่านแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ฉลาดสำเร็จลุล่วงโดยถาวรนะครับ
พี่ตู้เป็นกำลังใจให้เสมอตั้งแต่แรก
บริจาคให้ก็เยอะ เตรียมอาวุธไว้ให้ตั้งนานจนสนิมขึ้นแล้ว
ความคิดคนเราก็สนิมขึ้นได้นะครับ
ถ้าไม่นำมาปฏิบัติซะที พี่เขียนชื่อน้องโบ
(อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หญิงสาวผู้เสียชีวิต
ในเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา)
แปะหน้าประตูห้องแล้วยืนร้องไห้อยู่ตรงนั้น
สัญญาน้องว่าจะช่วยพันธมิตรฯเปลี่ยนระบอบให้สำเร็จ
เพื่อไม่ให้ชีวิตน้องโบสูญเปล่า
น้องโบเตือนพี่ว่าระวังจะเหนื่อยเปล่านะ
บ้านเมืองดีๆ เหมาะสำหรับประชาชนดีๆ เท่านั้น
ถ้าประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ความ
ก็ยังไม่ควรเอาบ้านเมืองดีๆ ไปให้พวกมันใช้
พี่ไม่เถียงกับวิญญาณครับ


พี่ตู้มองว่า ทำยังไง ประเทศชาติของเรา

ถึงจะไม่ต้องเดินเข้าวงจรเดิมๆ เช่น ปฏิวัติ เข่นฆ่ากัน ใช้ความรุนแรง ครับ?


ต้องเปลี่ยนประชากรครับ สิงคโปร์ทำสำเร็จนะครับ
โดยอังกฤษไล่ประชากรเดิมออกหมดเลย
เอาคนจีนเข้ามาแทน บังคับให้เรียนหนังสือ
ให้เคารพกฎหมาย ลงโทษรุนแรง ได้ผลครับ
พี่เคยเห็นภาพเก่าๆ ของสิงคโปร์
ผู้คนหน้าตาไม่ใช่อย่างทุกวันนี้ครับ
เป็นชาวเกาะ ขี้เกียจ ขนาดเป็นภาพนิ่งยังดูรู้เลยว่า
ขี้เกียจมากครับ พี่เดินบนถนน ORCHARD
เห็นกุลีไทยทำงานก่อสร้างที่นั่น ตะโกนทักทายพี่
ดีใจเจอดารา ทำท่าบาบูนกันใหญ่ เพื่อนสิงคโปร์ถามพี่ว่า
เป็นกันอย่างงี้ทั้งประเทศเหรอ พี่อายเค้านะ
พี่บอกเค้าว่าเป็นเฉพาะในภูมิภาคกับในสภา
ซึ่งพี่บอกว่าพี่ภูมิใจที่กุลีไทยแสดงออกน่ารักเหมือนลิง
เนื่องจากพี่รักสัตว์เพราะพี่เป็นนายกสมาคมพิทักษ์สัตว์
เพื่อนเลยพาไปกินข้าวที่ GOLDEN MILE
ซึ่งเป็นที่สิงสู่ของกุลีไทย
พี่ก็ได้ถามทุกข์สุขพวกเราเรื่องไหลตาย
เค้าเล่าให้พี่ฟังว่าวิญญาณชาวเกาะสิงคโปร์เข้าสิง
หวงบ้านเมือง จึงเข่นฆ่าพวกต่างด้าว
แต่ก็ไม่เห็นพวกอังกฤษสมัยยึดครอง
โดนวิญญาณฆ่าตอนหลับเลยครับ
ที่สำคัญคือเป็นเฉพาะกุลีชาย
พี่ก็ซักไซ้ละเอียดจนได้ความว่านอนหงายแล้ว
ลิ้นตกปิดเพดานกั้นทางหายใจ
ซึ่งในคนปกติจะสะดุ้งตื่นโดยสัญชาติญาณอัตโนมัติ
แต่พี่น้องกุลีไทยเมาสลบเพราะกินเหล้าหนักก่อนนอน
ร่างกายไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ ก็ขาดใจกันไป
ไม่ใช่อย่างที่หมอสันนิฐานว่าหุงข้าวในท่อพีวีซีแล้ว
รับสารพิษเข้าร่างกาย พี่จึงแนะนำน้องๆ
กุลีไทยทั้งหลายให้แก้ไขโดยการนอนตะแคง
เค้าบอกว่าไม่ถนัด เพราะติดโหนกแก้ม
ก็จริงของเค้านะ เพราะพี่ก็ไม่เคยเห็นบาบูนนอนตะแคง
บาบูนแก้ปัญหาไม่เป็นเพราะไม่ยอมเรียน
ทั้งๆ ที่รัฐก็ให้เรียนฟรีด้วยซ้ำ อ้างโน่นอ้างนี่
ก็ขี้เกียจนั่นแหละ อังกฤษไม่ยอมให้สิงคโปร์เลี้ยง
คนที่สร้างแต่ปัญหาและแก้ปัญหาไม่เป็นไว้บนเกาะเลยครับ
ถ้าเราไม่อยากเจอวงจรเดิมๆทางการเมือง
เราต้องกำจัดเผ่าพันธุ์ที่สร้างปัญหาและแก้ไม่เป็นครับ
นักการเมืองที่มีปัญหาใบเหลืองใบแดงมาจากเขตไหน
ก็ให้เขตนั้นพักการเลือกตั้ง 5 ปี ไม่ต้องมีผู้แทนครับ
จะมาอ้างว่าต้องมีผู้แทนไว้ดูแลพื้นที่
ไม่มีที่ไหนในโลกที่ผู้แทนต้องดูแลพื้นที่ครับ
ประชาชนในประเทศที่จะเป็น
ประชาธิปไตยได้ต้องดูแลตัวเองได้
ไม่ใช่กินผ้าห่มแล้วมาแบมือขอทุกปี
ผู้แทนทั่วโลกเค้าทำหน้าที่นิติบัญญัติ
พิจารณากฎหมายแก้ปัญหาให้ประเทศครับ
หน้าที่ดูแลท้องที่เป็นเรื่องของมหาดไทย
นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีงบอยู่แล้ว
ไม่ต้องมาตั้งงบซ้อนเพื่อสวาปาม
เราเป็นประชาธิปไตยไม่ได้
เพราะมีพวกนี้อยู่ในประเทศครับ
พวกที่กินผ้าห่มทุกปี น้ำท่วมสลับน้ำแล้ง
น้ำท่วมเราก็ต้องช่วย น้ำแล้งเราก็ต้องช่วยอีก
เพราะเก็บน้ำไว้ใช้กันไม่เป็น


ภาพประกอบ ชัย ราชวัตร
Mirror Blog: http://mrk3.multiply.com/journal/item/16

สุดท้าย ท้ายสุด เพลงเก่าที่จะเอามาเล่นในคอนเสิร์ตนี้ เป็นเพลงของใครครับ?

ย้อนไปปี 50, 60, 70 โน่นแน่ะครับ น้องซัน-มาโนช พุฒตาล
จัดรายการเพลงสมัยเก่าประเภทนี้ 4 ทุ่มที่ 96.5 อยู่แล้วครับ
เค้าจะมาเล่าความสวยงามของอยุธยาในอดีตบนเวทีด้วย
พี่อาจพาแขกอื่นที่น่าสนใจขึ้นเวที
แต่ตอนนี้ยังติดต่อไม่ได้เพราะหาตัวยากทั้งนั้นแต่ละท่าน
เข้าใจว่าสันติบาลจะตามตัวอยู่ด้วย บ่ายสอง
อาทิตย์ที่ 26 ตุลาคมนี้ ที่โรงละครสำนักพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ตรงข้ามสนามกีฬามหาวิทยาลัย จะมีทุกอารมณ์ ทุกลีลา ทุกเนื้อหา
ที่โดนใจคนรักแผ่นดินครับ


รีบซื้อบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์นะครับ 900 บาททุกที่นั่ง
แค่ 500 ที่นั่งเท่านั้น แล้วไปสมัครคาราวานอยุธยากันที่งาน
พี่จะพาไปเลี้ยงหมู่ลูกช้างและทานข้าวเย็นกับพระองค์ดำ
รายได้ให้ทุนนิสิตที่ทำประโยชน์ซึ่งพี่ให้มาต่อเนื่อง
และสมทบกองทุนสงเคราะห์สัตว์ซึ่งวันนี้พี่เป็นนายกสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทยอยู่
วันหน้าจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีไทยให้ครับ
ถ้ารัฐธรรมนูญยอมแก้ “กุ๊ยยาธิปไตย” เป็น “พอเพียงธิปไตย” นะครับ
เพราะพวกเราตะแบงเลือกคนดีอีกไม่ไหวแล้วจริงๆ ครับ
อายลูกและหมาที่บ้าน พี่ฝากขอบคุณพี่สนธิและ
ผู้จัดการรายสัปดาห์ครับที่กล้าตีพิมพ์สิ่งดีๆ ที่บางสื่อบ่ายเบี่ยง
แล้วพบกันวันที่ 26 นะครับทุกท่าน


เรื่อง : อภินันท์ บุญเรืองพะเนา