จาก Roundtable
ความจริงคนเรารักกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกกันไม่ได้
และถ้าเลิกกันก็น่าจะมีเหตุผลที่พอจะทำให้เข้าใจได้
คำว่า “ เข้ากันไม่ได้”
ดูเป็นคำตอบกว้างๆ ที่เอาไว้ตอบสั้นๆ
เมื่อถามถึงเหตุผล
แต่จริงๆเหตุผลมันไม่สำคัญแล้วละ
ที่อีกฝ่ายตัดสินใจบอกเลิก
ถามไปเขาก็คงให้คำตอบได้แค่นั้น ยิ่งไปถามมากเข้า
ก็จะเจ็บปวดมากขึ้น อาจได้คำตอบง่ายๆ ว่า
“แค่ไม่รักคุณอีกแล้ว” ฟังแล้วจะยิ่งเจ็บปวดขึ้นไปอีก
การอธิบายเหตุผลเพื่อจะเลิกกับใครสักคน
ไม่ใช่เรื่องง่าย คนที่อธิบายได้นี่ ต้องเป็นสุภาพบุรุษมากๆ เลย
ที่พยายามไปหาคำตอบที่ดีมาให้เพื่อที่จะทำให้อีกฝ่ายพอใจได้
ส่วนคนที่อธิบายไม่ได้ ถามแล้วไม่ตอบ ก็อาจจะแค่ ไม่รู้จะพูดให้ยาวไปทำไม
แค่บอกว่า “ เข้ากันไม่ได้” ก็น่าจะจบแล้วอย่าอยากรู้นักเลยว่าทำไมเขาถึงบอกเลิก
กลับมาร้องไห้ที่บ้าน ฟังเพลงสักสองสามวัน แล้วกลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง
เรียนหนังสือ ทำงาน ทำตัวเองให้มีค่ามากขึ้นจะดีกว่า
บอกเลิกยังไงไม่ให้เสียใจ
บอกเลิกยังไง อีกฝ่ายก็เสียใจทั้งนั้นแหละ
ไม่มีวิธีที่บอกเลิกแล้วอีกฝ่ายไม่เสียใจหรอก
แม้แต่ไอน์สไตน์ก็ยังคิดไม่ออก
วิธีที่จะทำให้อีกฝ่ายเสียใจน้อยที่สุด คือ พูดความจริง ว่าเราลองคบกันดูแล้ว
คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรได้มากกว่านี้หลายคนใช้วิธีต่างกัน
บางคนก็ทำเมินเฉย บางคนก็บอกด้วยปาก แต่ถ้าพูดต่อหน้าไม่ได้
ก็ให้เขียนจดหมายเป็นตัวหนังสือ ไม่ว่าจะส่งทางไปรษณีย์ หรืออีเมล์ อะไรก็ตาม
การเขียนจดหมายเพื่อบอกเลิกนั้น จะต้องเด็ดขาด
แต่ว่ารักษาน้ำใจไม่ให้เขาเจ็บปวดจนเกินไป ลองเขียนแล้วอ่านดู
ว่าถ้าเป็นเราถูกบอกเลิกด้วยจดหมายฉบับนี้แล้ว
จะเจ็บปวดมากน้อยแค่ไหน หรือมันนุ่มนวลแค่ไหน
การเขียนจดหมาย ไม่ต้องเจอหน้า ไม่ต้องเจอคำถามเฉพาะหน้า
แถมตอนเขียนยังตรวจทานได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่ามันจะดีที่สุด ขอแนะนำ!
อย่าบอกเลิกทางโทรศัพท์หรือส่ง message เพราะเป็นวิธีที่ไร้รสนิยม
ไร้มารยาทและจรรยาบรรณ ไร้มนุษยธรรมที่สุดแล้วก็ห้ามขาดเลยนะ
เลิกแล้วอย่าโทรไปชวนเขาไปไหน
อย่านัดเจอไม่ว่าจะในฐานะอะไร จนกว่าจะเชื่อได้ว่า
เขาทำใจได้แล้ว ถึงค่อยชะโงกดูอีกทีว่าจะเป็นเพื่อนกันบ้างได้หรือเปล่า
- https://www.facebook.com/nitipong.honark
- http://teetwo.blogspot.com/2007/01/blog-post_30.html
- http://teetwo.blogspot.com/2007/03/blog-post_07.html
- http://teetwo.blogspot.com/2007/05/blog-post.html
- http://teetwo.blogspot.com/2007/05/blog-post_20.html
- http://teetwo.blogspot.com/2007/06/blog-post_399.html
- http://teetwo.blogspot.com/2007/11/25.html
- http://teetwo.blogspot.com/2007/12/blog-post_559.html
- http://teetwo.blogspot.com/2008/02/blog-post.html
- http://teetwo.blogspot.com/2008/03/29.html
- http://teetwo.blogspot.com/2008/03/2.html
- http://teetwo.blogspot.com/2008/03/blog-post_27.html
- http://teetwo.blogspot.com/2008/03/blog-post_28.html
- http://teetwo.blogspot.com/2008/04/nitipong-on-sex-must-say.html
- http://teetwo.blogspot.com/2008/11/26.html
- http://teetwo.blogspot.com/2007/07/blog-post_06.html
- http://teetwo.blogspot.com/2008/12/blog-post_18.html
- http://teetwo.blogspot.com/2009/09/hamburger-107-interview.html
- http://teetwo.blogspot.com/2009/12/blog-post_10.html
- http://teetwo.blogspot.com/2010/08/1_29.html
- http://teetwo.blogspot.com/2011/01/youtube-video-player.html
- http://teetwo.blogspot.com/2017/11/blog-post.html
- http://teetwo.blogspot.com/2018/02/9.html
- http://teetwo.blogspot.com/2009/03/blog-post_6153.html
- http://teetwo.blogspot.com/2018/08/blog-post_14.html
- http://teetwo.blogspot.com/2018/08/2.html
- http://teetwo.blogspot.com/2019/07/blog-post.html
- https://teetwo.blogspot.com/2019/12/young-ep67.html