Custom Search

Jul 26, 2009

สติ สมาธิ ปัญญา : ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม


ประวัติ
ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2494 ที่กรุงเทพมหานคร
สนใจฝึกสมาธิภาวนาตามหลักพระพุทธศาสนา
เนื่องจากอ่านหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิภาวนาแบบเซ็น
คือ เรื่องกุญแจเซ็น และปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ
เกิดความประทับใจว่าการฝึกสมาธิและการอยู่อย่างมีสติสามารถทำให ้
พ้นทุกข์ได้ จึงศึกษาค้นคว้าและปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังจากพระราชวุฒาจารย์
(หลวงปู่ดูลย์อตุโล) และพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
ค้นพบองค์ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของจิตหลักการฝึกจิตและผลของการฝึกจิต
แล้วนำมาเผยแพร่ โดยการพิมพ์และแปลหนังสือธรรมะของครูบาอาจารย์
และถ่ายทอดความรู้โดยการอบรมให้แก่ครู – อาจารย์
นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชนทั่วไป
ซึ่งเป็นแนวทางแก้ปัญหาสังคมไทย ให้พ้นภัยวิกฤติด้านต่าง ๆ ที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน


ดร.ดาราวรรณ ถือกำเนิดในครอบครัวที่นับถือศาสนาอิสลาม ประพฤติ
ปฏิบัติตามหลักของศาสนาอย่างเคร่งครัด
เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมีบิดามารดาเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องความซื่อสัตย์
และความขยันหมั่นเพียร มีคุณปู่เป็นผู้นำศาสนาอิสลาม (อิหม่าม)
อุปนิสัยส่วนตัวชอบความสงบ ชอบพิธีกรรมทางศาสนา
โดยเฉพาะการสวดมนต์ภาวนาทางบ้านได้ส่งให้เรียนในโรงเรียนศาสนา
ในระดับชั้นประถมศึกษาและเรียนพิเศษด้านศาสนาตอนเย็นหลังเลิกเรียน
จึงมีความรู้ศาสนาอิสลามแตกฉานได้รับคัดเลือกเป็นตัวแทนโรงเรียน
เข้าแข่งขันตอบปัญหาและปาฐกถาธรรมทางศาสนาได้รับรางวัลชนะเลิศ
และรองชนะเลิศ


แม้จะมีความรู้และศรัทธาในศาสนาอิสลาม
แต่ก็เก็บความสงสัยในคำสอนหลายเรื่องที่หาเหตุผลไม่ได้และไม่สามารถถามผู้รู้ได้
เนื่องจากเป็นข้อห้ามของศาสนา ต่อมาได้อ่านหนังสือ
เกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิภาวนาแบบเซ็นอยู่ ๒ เล่ม คือเรื่องกุญแจเซ็น
และปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอของท่านติช นัท ฮันท์ พระภิกษุชาวเวียตนาม
แล้วเกิดความประทับใจว่า การปฏิบัติสมาธิและการอยู่อย่างมีสติสามารถทำให้พันทุกข์
เมื่อศึกษาและปฏิบัติแล้วพบว่า ถูกกับอุปนิสัย
จึงมีความเลื่อมใสศรัทธาที่พุทธศาสนาเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์
มีเหตุผลและเน้นสอนให้เราพึ่งตนเองและเชื่อหลักธรรม


ดร.ดาราวรรณ ได้เริ่มการศึกษาและปฏิบัติธรรมตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง
เมื่อปี พ.ศ. 2523 โดยเริ่มจากการปฏิบัติจิตภาวนา
ได้ฝึกฝนกับอุบาสิกาสะอาด เกษมสันต์ ที่วัดน้อยนพคุณ กรุงเทพฯ
จากนั้นเมื่อย้ายมารับตำแหน่งศึกษาสิเทศก์
กรมสามัญศึกษาเขตการศึกษา 11 ที่จังหวัดนครราชสีมา
ได้เข้าอบรมกรรมฐานกับคุณ

แม่สิริ กรินไชย 2 ครั้ง ๆ ละ 7 วัน

ใน ปี พ.ศ. 2523 – 2526 ได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ โดยไปรายงานผลการปฏิบัติ
และซักถามปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
แนวทางที่หลวงปู่อบรมให้เน้นจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือการตามดูจิต
ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกจริตมากที่สุด ปี พ.ศ. 2526 ก่อนหลวงปู่มรณภาพ
ประมาณ 2 เดือน
ท่านสั่งให้ไปสอนผู้อื่นเพราะจิตชำนาญแล้ว
นอกจากการสอนอบรมแล้วยังได้แปลธรรมะของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล
เรื่อง “จิตคือพุทธะ” เป็นภาษาอังกฤษเผยแพร่ให้นักปฏิบัติต่างชาติ
โดยได้พิมพ์แจกทันงานพระราชทานเพลิงศพของปู่ดูลย์ อตุโล
ในปี พ.ศ. 2527

ช่วง ปี พ.ศ. 2523 – 2542 ได้ศึกษาและ
ปฏิบัติธรรมอย่างใกล้ชิดกับพระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งท่านได้ให้คำสอนทั้งด้านปริยัติและปฏิบัติอย่างละเอียดมาก
ได้รับการไว้วางใจให้จัดทำหนังสือธรรมะเผยแพร่มาตลอดปีละ 1 – 2 ครั้ง ๆ ละ
10,000 – 50,000 เล่ม ได้แก่ ธรรมวิสัชนาหลวงพ่อสอนธรรม ฐานิยปูชา
มอบธรรม นำพร เป็นต้น


การศึกษาจิต : องค์ความรู้แห่งการดับทุกข์

สิ่งที่
ดร.ดาราวรรณ ได้ค้นพบความจริงแห่งการดังทุกข์ คือ“จิต”
ซึ่งเป็นพลังแฝงอยู่ในกาย มีหน้า ที่สั่งกาย และบันทึกผลงาน
การทำ พูด คิด ไว้เป็นประจุกรรม (พลังกุศลกรรม และอกุศลกรรม)ซึ่งเป็นข้อมูล
หรือหน่วยความจำที่มีปริมาณมหาศาล จิตเป็นอมตธาตุ
เป็นธาตุที่ไม่ตาย เมื่อกายตาย จิตจะทิ้งกายไปหาที่อยู่ใหม่ (ภพภูมิ)
ตามพลังขับเคลื่อนของจิตว่าจะไปทางฝ่ายกุศลหรืออกุศล จะทำให้จิตมีสิ่งรู้
ทำสติให้มีสิ่งระลึกต้องฝึกจิตหรือการทำสมาธิภาวนา
ครูดาราวรรณได้ศึกษาและปฏิบัติตามหลวงพ่อพุทธ ฐานิโย ซึ่งแยก


สมาธิเป็น ๒ แบบ คือ

๑. สมาธิในวิธีการ หมายถึง การปฏิบัติสมาธิที่มีรูปแบบ เช่น
การนั่งกำหนดลมหายใจบริกรรมภาวนา การเดินจงกรม เป็นต้น
ซึ่งเป็นการปฏิบัติอยู่วงจำกัด เมื่อมีเวลาเป็นส่วนตัว

๒. สมาธิในชีวิตประจำวัน หรือ สมาธิสาธารณะ
เป็นการปฏิบัติสมาธิในชีวิตประจำวันด้วยการกำหนดสติอยู่กับปัจจุบัน
ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด
ซึ่งเป็นการปฏิบัติที่ทำได้ทุกสถานการณ์ ทุกกาลเวลา และทุกสถานที่
เมื่อฝึกจิตได้แล้ว จิตจะมีพลังสติสัปชัญญะมากจะก่อให้เกิดปัญหาในระดับต่าง ๆ
กล่าวคือ

- ปัญญาระดับสูง การรู้เท่าทันกิเลส ตัณหา อุปาทาน
จนสามารถตัด อาสวกิเลสได้

- ปัญญาระดับกลางการรู้เท่าทันจิต มีภูมิต้านทานต่อสิ่งยั่วยุ
สิ่งกระทบต่าง ๆ เมื่อมีสิ่งยั่วยุ (จากภายในหรือภายนอกก็ตาม) ให้ทำ

- ปัญญาระดับต้น เป็นความชาญฉลาดทางสติปัญญาที่ใช้
ในการเรียนการงานต่าง ๆ ทำให้ประสบผลสำเร็จสูง มีความผิดพลาดน้อย


การที่
ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม เป็นบุคคลผู้ทรงภูมิปัญญา
ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี
เป็นผู้สร้างสรรค์และสืบสานภูมิปัญญาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง
จนเป็นที่ยอมรับของสังคมและชุมชน จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ
จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี
ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย เพื่อทำหน้าที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาในการจัดการศึกษา
ทั้งการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย
ตามนัยพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542


ดร.ดาราวรรณ เด่นอุดม อายุ ๕๑ ปี เกิดเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๔
ที่กรุงเทพมหานครเป็นบุตรของ ร.ต.มุขและนาง
เกยูร เด่นอุดม
สถานภาพโสด
ที่อยู่ปัจจุบันบ้านเลขที่ 256 ถนนมิตรภาพ
ซอย 15 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 30000


การศึกษา

- ปริญญาตรี อักษรศาสตร์บัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2512 - 2515)
- ปริญญาโท อักษรศาสตร์มหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (251? - 2521)
- ปริญญาเอก Ph.D ภาษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย Grenoble ประเทศฝรั่งเศส
(252? - 2529)


เกียรติคุณที่ได้รับ
- พ.ศ. 2540 ได้รับรางวัล “เสมาธรรมจักร”
ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสาขาส่งเสริมผู้ปฏิบัติธรรม
จากกรมการศาสนากระทรวงศึกษาธิการ

- พ.ศ. 2545 ครูภูมิปัญญาไทยรุ่นที่ 2 ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี
จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี