Custom Search

Apr 28, 2009

มนุษย์หนีไม่พ้น โรคอุบัติใหม่


นิติภูมิ นวรัตน์
พุธ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๒
ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๖
ขณะที่ประเทศไทยประกาศใช้พระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์พุทธศักราช ๒๔๖๑
เพื่อเป็นระเบียบควบคุมดูแลโรงเรียนราษฎร์ทั่วประเทศ
ในห้วงช่วงนี้นี่เองก็เป็นปีสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ ๑
มีการะบาดของโรคชนิดหนึ่งซึ่งมนุษยชาติไม่เคยรู้จักมาก่อน
ไอ้โรคบ้าที่ว่านี้แพร่ขยายกระจายไปทั่วโลกภายในเวลาปีเดียว
ทำให้ผู้คนบนโลกตายไป๒๐ล้านคน นั่นเฉพาะตัวเลขที่นับได้แน่นอน
ในดินแดนแสนไกลที่ไม่มีการทำสถิติยังมีตายไปอีกมาก มีการประเมินกันว่า
น่าจะมีคนตายไปมากถึง ๕๐ ล้านคนซะด้วยซ้ำ
วันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปจนถึงวันนี้ ๙๑ ปีแล้วครับ
ที่โรคใหม่ซึ่งชื่อว่า “ไข้หวัดใหญ่” ได้อุบัติขึ้นมาคร่าชีวิตมนุษย์
ในครั้งนั้น มีการขนานนามตามชื่อประเทศที่พบการติดเชื้อของโรคนี้เป็นครั้งแรกว่า
“ Spanish flu” หรือ “โรคไข้หวัดใหญ่สเปน”
ผมมีภาพของกาชาดอเมริกันใน พ.ศ. ๒๔๖๑
ขณะกำลังพยาบาลผู้ป่วยในโรงละครของเมืองโอ๊คแลนด์ สหรัฐอเมริกา
ที่ต้องเข้าไปดูแลในโรงพยาบาลเพราะ
คนป่วยจากไข้หวัดใหญ่สเปนมีมากขนาดโรงพยาบาลไม่มีเตียงเพียงพอสำหรับผู้ป่วย
นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า โรคไข้หวัดใหญ่สเปนน่าจะ
เกิดการบ่มเชื้อและระบาดในหมู่ทหารชาติต่างๆ ในสงครามโลกครั้งที่ ๑
ที่ต้องสู้รบอยู่ในที่กำบังซึ่งมีสภาพแวดล้อมไม่ดี เมื่อสงครามสงบจบลง
บรรดาทหารทั้งหลายที่มีเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่อยู่ในตัวก็เดินทางกลับบ้าน
นำโรคนี้ไปขยายกระจายต่อในบ้านเกิดเมืองนอนของตน
จนผู้คนทั้งโลกต้องมาตายไปเป็นจำนวนหลายสิบล้านคน
มากกว่าจำนวนทหารที่เสียชีวิตจากการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ ๑
ทั้งหมดซะอีก โรคไข้หวัดใหญ่จากเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมา
อีกมากมายหลายครั้งครับ
แต่ละครั้ง มีผลทำให้มนุษย์ป่วยเป็นจำนวนหลายล้านคน
และตายไปเป็นเรือนหมื่นหรือจำนวนแสนทุกครั้ง เช่นเมื่อ
พ.ศ.๒๕๐๐ พ.ศ.๒๕๑๑ และ พ.ศ. ๒๕๒๐
ผู้อ่านท่านครับ สำหรับ พ.ศ. ๒๕๕๒
สถานการณ์ล่าสุดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโก
ทำให้ยอดคนตายในเม็กซิโกเพิ่มเป็น ๑๐๓ คน ส่วนในสหรัฐอเมริกา
ทางการอเมริกันก็ยืนยันแล้วว่า มีคนติดเชื้อไข้หวัดเม็กซิโกแล้ว ๒๐ คนใน ๕ รัฐ
ขณะนี้ที่นิติภูมิกดแป้นคอมพิวเตอร์รับใช้ผู้อ่านท่านทั้งหลาย
ไอ้ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บ้านี้ก็ลามปามตามเข้าไปอาละวาดในทวีปยุโรปแล้ว
โลกพัฒนาไป โรคภัยไข้เจ็บประเภทใหม่ๆ ก็อุบัติตาม
ผู้อ่านท่านยังจำโรคพยาธิใบไม้ในเลือดได้ไหมครับ
พวกที่ทำให้โรคนี้แพร่ขยายกระจายไปก็เป็นหนอนพยาธิสกุลซิสโตโซมา
พวกนี้มาจากการสร้างเขื่อน ระดับน้ำทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศ
หอยซึ่งเป็นพาหะของโรคพยาธิใบไม้ในเลือดโตเร็วและเพิ่มจำนวนได้อย่างไวมาก
๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ ผู้ป่วยรายแรกของโรคซาร์สถูกตรวจเจอ
ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของมณฑลกว่างตงของจีน
ตอนนั้นคนไข้รายนี้อาการเหมือนคนปอดบวม
กว่าจะรู้ว่าเป็นโรคอุบัติใหม่ก็กินเวลาหลายเดือน
ตอนหลังโรคนี้เริ่มแพร่ขยายกระจายเป็นวงกว้าง คนที่เป็นในห้วงช่วงแรกๆ
เป็นแพทย์ชาวจีนทั้งนั้น ทุกคนจะมีอาการเหมือนกันคือ คล้ายเป็นโรคปอดบวม
โชคดีที่จีนสืบประวัติคนไข้เหล่านี้อย่างละเอียด พบว่าทุกคนที่ป่วยล้วน
แต่เคยไปพักที่โรงแรมเมโทรโพล บนเกาะฮ่องกงในคืนวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๖
รวมทั้งแพทย์คนหนึ่งซึ่งเคยรักษาคนไข้โรคซาร์สในมณฑลกว่างตงคนนั้นด้วย
เรื่องก็จึงถึงบางอ้อ ว่าหมอคนนั้นนั่นเองที่เป็นพาหะต้นตอของการะบาดของโรคซาร์
เมื่อผู้คนที่พักที่โรงแรมเมโทรโพลในคืนนั้น เดินทางไปยังประเทศอื่น
ก็นำโรคซาร์สไปแพร่เชื้อด้วย เมื่อสืบสวนหาข่าวโดยละเอียด ก็จึงพบว่า
แขกของโรงแรมเมโทรโพลคืนนั้น เดินทางไปสิงคโปร์ เวียดนาม
และแคนาดา ก็ปรากฏว่า ในเวลาอันสั้น
โรคซาร์ได้โผล่หน้าไประบาดในประเทศทั้งสาม และบั้นปลายท้ายต่อมา
เพียงเวลา ๙ เดือนนับจากการกระจายโรคนี้ครั้งแรกที่โรงแรมเมโทรโพล
ก็มีการพบผู้ป่วยด้วยโรคซาร์ใน ๒๖ ประเทศ
โชคดีที่ตอนนั้นเราทั้งโลกกระดิกพลิกตัวช่วยกันป้องกัน
การแพร่ระบาดของโรคซาร์สอย่างรีบเร่ง และสามารถควบคุมโรคนี้
ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในวันที่ ๕ กรกฏาคม ๒๕๔๖
ปรากฏยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น ๘,๐๙๖ ราย ตายไป ๗๗๔ ราย
สิ่งที่ทำให้โรคซาร์สแพร่ขยายกระจายไปก็คือ
ระบบทางเดินหายใจของผู้คนบนเครื่องบิน
ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เม็กซิโกที่อุบัติในเวลานี้
มนุษย์เราจะโชคดีเหมือนตอนที่เกิดระบาดโรคซาร์สหรือไม่
ต้องช่วยกันภาวนาและหาทางยับยั้งครับ