Custom Search

Mar 4, 2009

เมืองหลวงของโลกของคนแฝด

วรากรณ์ สามโกเศศ
มติชน
วันที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2552
"ถ้าเป็นคนแรกไม่ได้ เก่งสุดไม่ได้
ก็ต้องมีช่องที่ต่างไปจากคนอื่น"
(If you can not be the first or the best,
you have to be different.)
คตินี้ตรงกับที่บริเวณหนึ่งในบราซิลกำลังใช้สถานการณ์พิเศษที่เกิดขึ้นทำให้โลกรู้จัก
นั่นก็คือการเป็น "เมืองหลวงของโลกของคนแฝด" (Twins Capital of the World)
ท่ามกลางความสงสัยและความลึกลับที่เกี่ยวพันกับอดีตของนาซี Candido Godoi
เป็นบริเวณอยู่บนเขาในบราซิล ประเทศที่ร่ำรวยทรัพยากรที่สุด
แห่งหนึ่งของโลกด้วยประชากรเกือบ 200 ล้านคน และพื้นที่ 8.50 ล้านตารางกิโลเมตร
(17 เท่าของไทย)International Herald Tribune
รายงานเรื่องแปลกนี้ว่า บริเวณ Candido Godoi
เป็นที่อยู่อาศัยและเกษตรกรรมของคนเยอรมันที่มาตั้งรกรากอยู่
ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 หรือเกือบ 100 ปีมาแล้ว
โดยอพยพมารวมกัน 8 ครอบครัวในพื้นที่ประมาณ 4 ตารางกิโลเมตรที่ 80 ครอบครัว
ปัจจุบันอาศัยอยู่ มีคนที่เป็นแฝดอยู่ถึง 38 คู่ พื้นที่ที่มีชื่อว่า Sao Pedro
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณนี้มีสถิติของการเป็นแฝดสูงมาก
การศึกษาของนักพันธุกรรมศาสตร์พบว่าระหว่างปี 1990-1994
ร้อยละ 10 ของเด็กที่เกิดใน Sao Pedro เป็นแฝด
ซึ่งต่างจากตัวเลขเพียงร้อยละ 1.8 ที่เป็นแฝดในรัฐ Rio Grande do Sul
ซึ่งบริเวณนี้ตั้งอยู่ความเป็นเยอรมันของชุมชน Candido Godoa นี้สูงมาก
มากกว่าร้อยละ 80 ของ 6,700 คน ที่อยู่อาศัยเป็นคนเชื้อสายเยอรมัน
ปัจจุบันผ่านไปเกือบ 100 ปีแล้วก็ยังพูดเยอรมันกันอยู่เมื่อมีตัวเลขแฝดประหลาดเช่นนี้
ใน Candido Godoa โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Sao Pedro
ที่มีคนอยู่อาศัยประมาณ 300 คนเกิดขึ้น
จึงเป็นจุดสนใจของนักวิจัยด้านพันธุกรรมและประวัติศาสตร์
มีผู้เข้ามาเก็บข้อมูลและเอาไปเขียนเป็นหนังสือหลายเล่ม
โดยมีทฤษฎีอธิบายความเป็นแฝดต่างกันออกไป
บ้างก็ว่ามีสาเหตุจากพันธุกรรม บ้างก็ว่าเพราะมีน้ำพุพิเศษดื่ม
และบ้างก็ว่าเพราะเกิดจากการผลงานของ Josef Mengele
(ผู้มีฉายาว่า Angel of Death หรือนางฟ้ามรณะ)
หมอนาซีผู้เอานักโทษและเด็กจากค่ายกักกันมาเป็นหนูตะเภา
ทดลองวิทยาศาสตร์แปลกๆ โดยใช้ฝาแฝดหลายร้อยคู่ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
โดยวัตถุประสงค์ใหญ่เพื่อเพาะหาเชื้อสายอารยันบริสุทธิ์
ตามความฝันของฮิตเลอร์
Jorge Camarasa สื่อชาวอาร์เจนตินาได้เข้ามาหาข้อมูลในบริเวณนี้
และพบว่า Josef Mengele ผู้หลบหนีหลังนาซีพ่ายแพ้ได้มาซ่อนตัวอยู่บราซิล
(พวกนาซีเตรียมการไว้นานแล้วที่จะหลบหนีมาอยู่ที่อาร์เจนตินา
บราซิล และอีกบางประเทศในอเมริกาใต้)
และได้เข้าออกบริเวณนี้จริงเป็นเวลายาวนาน
โดยปลอมตัวเป็นหมอมารักษาคนไข้โดยมีวัตถุประสงค์แฝง
คือทำการทดลองเรื่องเด็กแฝดเพื่อให้ได้เด็กสายพันธุ์เยอรมันแท้ให้ได้
ข้อน่าสังเกตก็คือเด็กหลายคนที่เกิดมีผมสีบลอนด์ ตาสีฟ้าอ่อน
แบบคนเยอรมันAnencir Flores do Silva
หมอประจำบริเวณนี้และอดีตนายกเทศมนตรีของเมือง
พยายามตอบข้อสงสัยของการมีแฝดมากผิดปกติ
โดยการสัมภาษณ์สมาชิกชุมชนนี้กว่า 100 คน
และมั่นใจว่าคนเหล่านี้ปิดบังข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับ Mengele
ซึ่งเคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับชุมชนนี้อย่างลับๆ
เขาบอกว่าชุมชนนี้เป็นพวกมีใจให้กลุ่มนาซี
(หนังสือของเขาตีพิมพ์ในปี 2007)
อาจมีผู้สงสัยว่า Josef Mengele สำคัญอะไรนักหนาจนมีคนพูดถึงเขาบ่อยๆ
สำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2
โดยเฉพาะเรื่องนาซี จะไม่มีวันลืมชื่อบุคคลผู้นี้
ซึ่งหลุดรอดจากความยุติธรรมไปได้เป็นอันขาดฉายา "นางฟ้ามรณะ"
มาจากการที่เขาใส่เสื้อขาวปลิวไสวเหมือนนางฟ้ายืนอยู่หน้าตู้รถไฟที่ค่ายกักกัน
Auschwitz-Birkenau ตัดสินว่าคนที่เดินลงมาใครจะไปเข้าห้องก๊าซฆ่าให้ตาย
หรือกักเก็บไว้เป็นแรงงาน หรือเอามาทดลองทางการแพทย์
(ครั้งหนึ่งเขาเอาช็อคขีดเส้นสูงจากพื้น 150 เซนติเมตร
ถ้าเด็กคนใดสูงกว่าเส้นก็ส่งไปฆ่า)
Mengele สนใจแฝดเป็นพิเศษเพราะทำให้สามารถเปรียบเทียบผลจากการวิจัยได้ชัดขึ้น
เขาใช้แฝด 300 คู่ทดลองยาใหม่ ฉีดสารเคมีเข้าตาเพื่อเปลี่ยนสีตา
ทำหมัน ตัดขา ผสมเทียม ช็อร์ตไฟฟ้า ฯลฯ
สุดท้ายตายหมดเหลือเพียง 26 คู่ และคนหนึ่งที่รอดมาได้
เขียนหนังสือบันทึกเรื่องราวความโหดร้ายต่างๆ ไว้
(ใครอยากรู้ว่าเขาชั่วร้ายมากกว่านี้อย่างไรลองค้นดูชื่อ
Lucette Malaton Lagnado)ทดลองกับเด็กแฝดไม่พอ
เขาทดลองกับนักโทษอีกหลายคนในค่าย ไม่ว่าการผสมเทียม
ทดลองการติดเชื้อโรค การใช้ยาสลบ การผ่าตัดแบบสด ฯลฯ
สรุปว่าเป็นหมอที่โหดร้ายทารุณและผิดปกติเอามากๆ
เมื่อพ่ายแพ้สงคราม Mengele หลุดรอดไปได้โดยปลอมตัว
ไปอยู่ในอาร์เจนตินาพักหนึ่ง และย้ายไปอยู่ปารากวัย
และเดินทางลับๆ ไปทั่วอเมริกาใต้เขาเป็นเป้าที่กลุ่มยิวล้างแค้นต้องการมากที่สุด
แต่ก็จับเขาไม่ได้จนตายไปในที่สุดเมื่ออายุ 68 ปี
ใน ค.ศ.1979 ในบราซิล หลายคนเชื่อว่าเขาได้ทิ้งผลงานไว้ที่ Candido Godoi
ในเรื่องการเป็นแฝด แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอย่างไม่มีข้อยุติ
คำถามก็คือเขาได้ทำอะไรไว้จึงทำให้มีคู่แฝดมากผิดปกติ
(เพิ่มจำนวนสมาชิกอารยันได้เร็วมากขึ้น?)
หรือเพียงแต่มาสังเกตปรากฏการณ์แฝดมากเป็นพิเศษ
หรือมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลยกับ Mengele
เป็นเพียงการโฆษณาขายหนังสือ หรืออาหารหรือน้ำของชุมชน
หรือปรากฏการณ์ทั้งหมดนี้คือเรื่องของพันธุกรรมของคนกลุ่มหนึ่ง
ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกและแต่งงานกันเองในกลุ่ม
ผู้ศึกษาพบว่าแฝดส่วนใหญ่เป็นประเภท Fraternal (หรือ Sibling Twins)
กล่าวคือเกิดจากไข่ 2 ใบ และสเปิร์ม 2 ตัว
(หน้าตาจึงเหมือนกันแบบพี่น้องท้องเดียวกันตามปกติ)
ซึ่งเป็นผลพวงจากประวัติของครอบครัว ชาติพันธุ์ และอายุของแม่
มากกว่าปัจจัยพันธุกรรมอย่างเดียว ซึ่งถ้าเป็น identical twins แล้ว
(เกิดจากไข่ใบเดียวกันและสเปิร์มตัวเดียวกัน หน้าตาจึงเหมือนกัน)
ปัจจัยพันธุกรรมมีบทบาทมากที่สุดถึงปัจจุบัน
ก็ยังไม่มีใครสามารถไขปัญหาได้ชัดแจ้งเชิงวิชาการว่า
เหตุใดคนกลุ่มนี้จึงมีแฝดมากเป็นพิเศษ
แต่คนที่นี่ก็ไม่ว่าอะไร เพราะยิ่งลึกลับน่าสงสัยเพียงใด
ก็ยิ่งเป็นจุดสนใจของโลกเพียงนั้น
กิจกรรมท่องเที่ยวก็จะเป็นผลพวงที่เกิดตามมา (คล้ายไปดูกะเหรี่ยงคอยาวกระมัง)
ในปัจจุบันเหล่าเด็กแฝดที่นี่ก็ยืนให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันจน
เมื่อยจะแย่อยู่แล้วล่าสุดมีการเปิดตัวรูปปั้นใหญ่ที่มีผู้หญิงอุ้มเด็ก 2 คน
ยกป้ายว่าเป็น "Garden City and Land of Twins"
และโฆษณาว่าน้ำที่นี่แหละเป็นสิ่งวิเศษที่ทำให้คนมีลูกแฝด"ช่องแตกต่าง"
จากคนอื่นของ Candido Godoi ในเรื่องน้ำวิเศษที่ทำให้มีลูก
บวกเสน่ห์แห่งความลึกลับที่เกี่ยวพันกับอดีตของนาซี
ทำให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าเลียนแบบอีกมิติหนึ่ง
หน้า 6