Custom Search

Mar 18, 2009

อนาคตของน้ำในโลก


วรากรณ์ สามโกเศศ
มติชน
วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552

รายงานล่าสุดเรื่องน้ำของ Unesco ได้ชี้ให้เห็นปัญหา
และข้อเสนอแนะที่จะช่วยให้โลกหลุดพ้นจาก
สภาพที่น่าสังเวชในอนาคตอันใกล้
นั่นก็คือการขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรงสถานการณ์
ของน้ำในโลกเราเป็นดังนี้
ร้อยละ 97.5 เป็นน้ำเค็ม
ที่เหลือร้อยละ 2.5 เป็นน้ำจืด
และสองในสามของปริมาณนี้อยู่ในสภาพของน้ำแข็ง
ส่วนที่ไม่ใช่น้ำแข็งส่วนใหญ่ก็อยู่ใต้ดิน
น้ำบนดินในแม่น้ำ คูคลอง ห้วย ลำธาร ที่เราเห็นกันนั้น
เป็นส่วนน้อยอย่างยิ่งของน้ำในโลกด้วยความจำกัดของน้ำดังกล่าว
การต่อสู้เพื่อแย่งชิงน้ำของหมู่มวลมนุษย์จึงมีมาแต่โบราณกาล
คำว่า river (แม่น้ำ) มาจากคำในภาษาละตินว่า
ribalis ซึ่งหมายถึง rival (คู่แข่งหรือคู่ต่อสู้)
ปัจจุบันน้ำเป็นสาเหตุสำคัญของข้อขัดแย้ง
ไม่ว่าจะเป็นใน Darfur (ตะวันตกของซูดาน)
หรือในตะวันออกกลางระหว่างอิสราเอลกับเพื่อนบ้านอาหรับ
ในเรื่องน้ำสะอาดเพื่อการบริโภค
ตัวเลข UN ระบุว่าในปัจจุบันมีพลเมือง 1.3 พันล้านคน
หรือหนึ่งในห้าของประชากรโลกไม่มีน้ำสะอาดดื่ม
สภาวการณ์เช่นนี้ทำให้มีคนเป็นโรคตายจากปัญหาน้ำดื่มปีละ 27 ล้านคน
หรือ 1 คนทุก 8 วินาทีรายงานสดๆ ร้อนๆ ฉบับนี้ชื่อ
Water in a Changing World
ระบุว่าในปี 2030 หรือ 21 ปีจากนี้
หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใน "หลายเรื่อง" ที่เกี่ยวกับน้ำ
ประชาชนครึ่งโลกจะมีชีวิตอยู่ด้วยการขาดแคลนน้ำอย่างยิ่ง
ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นก็คือ
(1) การเพิ่มขึ้นของประชากร
จากจำนวนประชากร 6.6 พันล้านคนในปัจจุบัน
จะเพิ่มเป็น 9.1 พันล้านคนก่อน ค.ศ.2050
โดยการเพิ่มส่วนใหญ่อยู่ในประเทศกำลังพัฒนาซึ่งหลายพื้นที่
(แอฟริกาเหนือ, ตะวันออกกลาง)
มีการขาดแคลนน้ำอยู่แล้วอัตราการเติบโตของประชากรเช่นนี้
หมายถึงความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
โดยแต่ละปีจะมีความต้องการน้ำจืดเพิ่มขึ้นปีละ 64,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
(2)การอพยพเข้าสู่เมืองของประชากรโลก
เมื่อมีฐานะทางเศรษฐกิจดีขึ้น
ก็เป็นปัจจัยอีกตัวหนึ่ง คนอยู่ในเมืองเหล่านี้จะบริโภคเนื้อมากขึ้น
ซึ่งหมายถึงต้องการน้ำมากขึ้นกว่าเดิม
เนื่องจากการผลิตเนื้อใช้น้ำมากกว่าการผลิตผักเป็นอันมาก
(3) การผลิตพืชพลังงาน (Biofuels) ทดแทนการใช้พลังงาน
Hydrocarbons (น้ำมัน, ก๊าซ)
หมายถึงการใช้น้ำเพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะธัญพืช เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี
หรืออ้อยที่ใช้เป็นวัสดุหลักในการผลิต Ethanol เติบโตได้เพราะน้ำ
รายงานชี้ให้เห็นว่าทุกๆ 1 ลิตร ของ Biofuels
ต้องใช้น้ำเพื่อการผลิตถึง 2,500 ลิตร
ถ้ามีการนำแผนปลูกพืชทดแทนของทั้งโลกมารวมกัน
ก็จะต้องใช้น้ำจากที่กักเก็บเพิ่มขึ้นอีก 180 ลูกบาศก์กิโลเมตร
(กว้าง ยาว และลึก ด้านละ 180 กิโลเมตร)
และอีก 48,000 ล้านไร่ของพื้นที่เพาะปลูกการใช้น้ำและที่ดินเช่นนี้
จะมีผลกระทบอย่างสำคัญต่อประเทศที่มีพื้นที่มากๆ เช่น จีน อินเดีย
หรือแม้แต่สหรัฐอเมริกาในด้านพื้นที่เพาะปลูกพืชเพื่อบริโภคและน้ำเพื่อดื่ม
(4) การขาดพลังสนับสนุนด้านการเมืองในทุกภาคส่วน
มายาวนานในเรื่องน้ำไม่ว่าจากประเทศใหญ่หรือ
จากองค์กรระหว่างประเทศดังนั้น จึงไม่มีนโยบายที่ชัดเจน
หรืองบประมาณสนับสนุนอย่างจริงจัง
(5) การขาดการจัดการที่ดีในเรื่องน้ำ
ตลอดจนการขาดการลงทุนอย่างเพียงพอในด้านน้ำ
ไม่ว่าการบุกเบิกหาแหล่งน้ำหรือดูแลรักษาแหล่งน้ำ
การขาดแคลนน้ำจะยิ่งทำให้ความยากจนในบางประเทศรุนแรงยิ่งขึ้น
ด้วยสุขภาพที่เลวร้าย ประสบปัญหาสิ่งแวดล้อมเลวร้ายลง
เกิดปัญหาขัดแย้งทางการเมือง
ตลอดจนเพิ่มความเสี่ยงจากการติดโรคที่เกี่ยวพันกับการขาดแคลนน้ำสะอาด
มีประเด็นหนึ่งในบ้านเราที่อาจมองข้ามไป
นั่นก็คือการสูญเสียน้ำไปมหาศาลจากการส่งออกสินค้าเกษตรในแต่ละปี
โดยประเทศที่นำเข้าเปรียบได้กับผู้ใช้
"น้ำเสมือน" (virtual water) ของบ้านเรา
เมื่อสินค้าเกษตรต้องใช้น้ำในการเติบโตและพืชเหล่านี้เติบโตในบ้านเรา
ดังนั้น จึงใช้น้ำของบ้านเรา เมื่อต่อมาถูกซื้อไปบริโภคในประเทศอื่น
การซื้อผลผลิตการเกษตรเหล่านี้ไปบริโภค
จึงเสมือนกับการบริโภคน้ำจากบ้านเราทางอ้อมนั่นเอง
ญี่ปุ่นนำเข้าธัญพืชและเนื้อสัตว์จากโลก
เป็นปริมาณมากเพื่อเป็นอาหารในแต่ละปี
ดังนั้น จึงเท่ากับว่าเป็นผู้ใช้ "น้ำเสมือน"
ของประเทศอื่นอย่างมหาศาลไปด้วย
มีการคำนวณว่าปีหนึ่งๆ ญี่ปุ่นใช้ "น้ำเสมือน"
ประมาณ 64,000 ล้านตันต่อปี
ถ้าญี่ปุ่นต้องผลิตสินค้าเกษตรเหล่านี้เองเชื่อว่า
จะเกิดการขาดแคลนน้ำขึ้นในประเทศเป็นแน่
ไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก
จึงต้องใช้น้ำเป็นปริมาณมหาศาลในแต่ละปี
ดังนั้น การเป็นครัวโลกของไทยภายใต้สภาวการณ์ขาดแคลนน้ำ
ทั้งในปัจจุบันและอนาคตจึงมีต้นทุนสูง
เพราะหากเราไม่ผลิตมากเช่นนี้
เราอาจมีน้ำเหลือในบ้านเพื่อสร้างความชุ่มฉ่ำให้แก่ผืนดิน
และเหลือน้ำสำหรับการบริโภคของประชาชนในปัจจุบัน
และเหลือเก็บไว้สำหรับอนาคตได้ดีกว่าความก้าวหน้าในเรื่องน้ำ
ที่น่าพอใจก็คือการแปรรูปน้ำเค็มซึ่งมีอยู่มหาศาล
เป็นน้ำจืดอย่างกว้างขวางกว่าเดิมเป็นอันมาก
โดยอาศัยเทคโนโลยีสมัยใหม่ดังที่มีการริเริ่มกันในอิสราเอล สิงคโปร์
ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ซาอุดีอาระเบีย จีน อินเดีย ปากีสถาน ฯลฯ
ไม่ว่าจะหาแหล่งน้ำจืดเพิ่มอย่างใดก็ตามที
สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เรามีน้ำใช้อย่างไม่ขาดแคลนได้นานที่สุด
ก็คือการใช้น้ำอย่างสมประโยชน์
อย่างมีเหตุมีผลและอย่างตระหนักว่ามันมีต้นทุนเสมอ
หน้า 6