Custom Search

Jan 8, 2009

คนอยากเป็นนายกรัฐมนตรีเปรียบเทียบ


นิติภูมิ นวรัตน์ : nitipoom.com
เปิดฟ้าส่องโลก
ไทยรัฐ
9 ม.ค. 52
นักการเมืองของสิงคโปร์ที่ขึ้นมาทำหน้าที่
ผู้บริหารกระทรวง ทบวงกรมของประเทศ
วันแรกที่รับตำแหน่งก็จะมีประโยคต่างๆที่
สื่อออกมาได้อย่างชัดเจน

คำพูดของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นเข็มทิศที่ชี้
ให้ทุกคนเดินไปในทางเดียวกัน
ด้วยความเชื่อมั่นศรัทธา ประโยคซึ่งหลุดจากปาก
ของนักการเมืองสิงคโปร์ที่ประชาชนทุกคนจำได้ก็เช่น
“เราจะทำทุกวิถีทางให้ประชาชนทุกคนได้รับส่วนแบ่งจากการเจริญเติบโตของประเทศ”
“ผู้สูงอายุจะไม่ถูกทอดทิ้ง”
“ข้าพเจ้าพร้อมที่จะส่งเสริมให้ประชาชนทำงานได้หนักขึ้น
เพื่อเพิ่มเงินออมไว้ใช้ในยามเกษียณ” ฯลฯ

เมื่อเข้าไปในเว็บไซต์ เราสามารถอ่านยุทธศาสตร์ต่างๆของสาธารณรัฐสิงคโปร์
ได้อย่างชัดเจน ไม่คลุมเครือ
และเป็นเรื่องที่ประชาชนคนสิงคโปร์ทราบทุกทั่วตัวคน อย่างเช่น
“ยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่ออนาคต”
“ยุทธศาสตร์การเตรียมพร้อมสำหรับประชากรสูงอายุ”
“ยุทธศาสตร์การลดช่องว่างทางรายได้”
“ยุทธศาสตร์การให้ความช่วยเหลือแก่คนยากจน” ฯลฯ

พ.ศ.2551 ไทยมีรัฐบาลมากถึง 4 ชุด ถ้ารวมรัฐบาลรักษาการด้วยก็เป็น 5 ชุด
แต่ไม่มีรัฐบาลชุดไหนบอกทิศทางของประเทศไทยในอนาคต
ได้ชัดเจนอย่างรัฐบาลของสิงคโปร์

ใครได้ฟังคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรี นายลี เซียน หลุง
ในวันชาติของทั้งสองปี ที่ผ่านมา เราจะได้ยินนายลีพูดชัดเจนเลยครับว่า
ธุรกิจเป้าหมายของสิงคโปร์คือ ธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพ
รัฐบาลของข้าพเจ้าจะผลักดันสิงคโปร์ให้เป็นศูนย์กลางของเอเชียด้านชีวเวชศาสตร์
เน้นการวิจัยทางการแพทย์ ฯลฯ

ท่านทั้งหลายครับ พ.ศ.2555 จะเป็นปีที่สิงคโปร์จะนำพระราชบัญญัติ
การจ้างงานซ้ำฉบับใหม่มาใช้ พระราชบัญญัติฉบับนี้
ทั้งนายจ้าง สหภาพแรงงาน และรัฐบาล ช่วยกันร่างๆ
ทุกฝ่ายให้ข้อคิดในการร่างกฎหมายอย่างละเอียด
เพื่อให้ประเทศของเราสามารถใช้ทรัพยากรมนุษย์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และสามารถใช้ทรัพยากรมนุษย์ได้ยาวนานมากขึ้น
ที่สำคัญที่สุดก็คือ สิงคโปร์สนใจแรงงานผู้สูงวัย
คนที่เกษียณอายุแล้วแต่ยังมีความสามารถ
รัฐบาลก็มีกฎหมายที่ช่วยนำท่านเหล่านั้นกลับมาทำงาน
ใช้ความรู้ของตนเองทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติได้อีก

พ.ศ.2554 สิงคโปร์ของเราจะต้องเป็นศูนย์เคมีภัณฑ์แห่งสำคัญของโลก
ขณะนี้ รัฐบาลกำลังเร่งสร้างคลังเก็บน้ำมันใต้ดินขนาดใหญ่เป็นแห่งแรก
ใต้ชายฝั่งของท่าเรือบันยันบนเกาะจูร่ง ซึ่งสามารถเก็บน้ำมันได้
อย่างปลอดภัยมากถึง 1.5 ล้านคิวบิกเมตร
เรื่องศูนย์เคมีภัณฑ์แห่งสำคัญของโลกนี้ รัฐบาลไม่ได้พูดเล่นๆ
นอกจากสร้างคลังน้ำมันแล้ว รัฐบาลยังขอให้นายโก๊ะ จ๊ก ตง รัฐมนตรีอาวุโส
นำคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนเดินทางไปประชุมอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
กับสหรัฐอรับเอมิเรตส์

อีกสิ่งหนึ่งซึ่งถ้าท่านตามคำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์
ท่านก็จะได้ยินก็คือ โครงการสื่อในศตวรรษที่ 21 ของสิงคโปร์
รัฐบาลสิงคโปร์ตั้ง MDA ขึ้นมาดันงานด้านนี้อย่าง จริงจัง
MDA ก็คือ Media Development Authority
เป็นหน่วยงานพัฒนาดูแลและจัดการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสื่อ
สิ่งหนึ่ง ซึ่งนายลี เซียน หลุง สัญญากับประชาชนคนสิงคโปร์ก็คือ
“ข้าพเจ้าจะทำให้สิงคโปร์เป็น Global Media”
แปลง่ายๆก็คือ นายลีต้องการ ให้สิงคโปร์เป็น “เมืองสื่อของโลก”
นายลีอยากให้สิงคโปร์มีรายได้
จากการส่งออกการผลิตภาพยนตร์และการให้บริการทางสื่อ
ใครก็ตามที่ประสบพบความยากลำบากในการผลิตสื่อในประเทศของตัว
ก็ขอเพียงให้หิ้วสติปัญญาและองค์ความรู้ด้านสื่อมาที่สิงคโปร์ เท่านั้น
สาธารณรัฐนี้ยินดีเป็นศูนย์สนับสนุนการเงินเพื่อการผลิต
ภาพยนตร์และผลิตสื่อสารด้านอื่นอย่างครบวงจร

นายลี เซียน หลุง ไม่ได้แค่ประกาศเพียงอย่างเดียว
แต่ท่านทำจริงจังด้วยการส่งคนไปชักชวนบริษัทด้านสื่อให้เข้ามาลงทุนในสิงคโปร์
เพื่อผลักดันให้สิงคโปร์เป็นตลาดสื่อของโลก
มีการจัดตั้งหน่วยงานพัฒนาและการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์สื่อ
จัดตั้งสถาบันวิชาการด้านสื่อ
โดยร่วมมือกับสถาบันสื่อที่มีชื่อเสียงระดับโลก ฯลฯ

ผมเอาเรื่องอย่างนี้มาเขียนรับใช้ เพราะประสงค์ให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้ศึกษาเรื่อง
“กึ๋นของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเปรียบเทียบ”

กึ๋นของคณะผู้นำสิงคโปร์ทั้งพูดทั้งทำอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างฉับพลันทันที
แต่รัฐบาลของเรา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีชุดนี้แต่ละคน
ออกแขกนานไปหน่อย เล่นการเมืองมากไปนิด
จนถึงบัดนี้แล้วยังไม่เห็นมีอะไรออกมาเป็นชิ้นเป็นอัน

มองดูภายนอกดูยิ่งใหญ่ แต่พอเอามือคว้านล้วงไป
ผมยังไม่เจออะไรเลยครับ แม้แต่ “ตอสามารถ” ของท่าน
พวกเราชาวไทยก็ยังหาไม่พบ.