Custom Search

May 1, 2009

พลิกแพลงเก่ง ยกให้อินเดีย

โลกหมุนเร็ว
เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
มติชนสุดสัปดาห์


อินเดียกำลังจะเปิดตลาดเรื่องการรักษาพยาบาล
นอกเหนือจากที่ก้าวหน้าเรื่องเทคโนโลยี ไอที
รถยนต์อย่างที่เราได้ยินข่าวกันมาแล้ว
เราคงจำกันได้ว่าไทยต้องซื้อยารักษาเอดส์จากอินเดีย
เพราะราคาถูกกว่า อินเดียมีการค้นคว้าเรื่อง generic drug อย่างกว้างขวาง
แสดงว่าอินเดียก้าวหน้าเรื่องการค้นคว้าทดลองเรื่องยา
นอกจากนั้นก็ยังค้นคิดอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับ
เรื่องการรักษาพยาบาลและเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์อีกด้วย
ความน่าทึ่งของอินเดียอยู่ตรงที่ว่า ในฐานะที่เป็นประเทศที่ยากจน
ก็ต้องคิดว่าจะแก้ปัญหากันอย่างไร
คนจนย่อมมีวิธีแก้ปัญหาที่ไม่เหมือนคนรวย
ในขณะที่คนรวยใช้เงินเข้าทุ่ม คนจนก็ต้องใช้มันสมองคิดมากหน่อย
หาทางแก้ปัญหาแบบใช้เงินน้อยที่สุด ดีไม่ดี
คนรวยเห็นวิธีแก้ปัญหาของคนจนอาจจะคิดว่าเข้าท่าดีแฮะ
ฉันเอามั่งดีกว่า ก็เป็นได้
เวลานี้มีคนต่างชาติเดินทางเข้าไปอินเดีย
เพื่อการรักษาพยาบาลต่างๆ การค้นคิดวิธีการใหม่ๆ
เกี่ยวกับการรักษาพยาบาลก็มีอะไรที่น่าทึ่ง
เช่นการผ่าตัดบายพาส ซึ่งฟังดูแล้วออกจะเสียวสยองมาก
เพราะเป็นการผ่าตัดที่คนไข้นอนตื่นลืมตาคุยกับใครๆ ได้
เขาใช้คำว่า awake surgery ขณะที่หมอกำลังเปิดอกออกมาผ่านั้น
คนไข้มีแค่ฉากกั้นระหว่างส่วนคอกับส่วนอก หมอผ่าก็ผ่าไป คนไข้ก็คุยได้
ไม่ต้องดมยาสลบ ฟังแล้วอยากลองบ้างไหมล่ะคะ บรื๊อ
การผ่าตัดบายพาสซึ่งที่จริงเจ็บน้อยมากและปลอดภัยนี้
ผู้ที่คิดค้นวิธีผ่าตัดดังกล่าวคือโรงพยาบาลชื่อ Wockhardt
มีสาขาอยู่ในบังกาลอร์ คุณหมอชวาล
ซึ่งเป็นผู้นำคิดค้นการผ่าตัดแบบนี้บอกว่าแกเคยถูกเพื่อนหมอที่เป็นฝรั่งหัวเราะเยาะเอา
บอกว่าไร้สาระ แต่แกก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำได้
สักวันหนึ่งข้างหน้าเมื่อฝรั่งมาเลียนแบบ
แกจะหัวเราะเยาะกลับกลุ่มโรงพยาบาลอีกแห่งชื่อ LifeSpring อยู่รอบๆ
เมืองไฮเดอราบัด บริการทำคลอดในแบบธรรมดาในราคาเพียง 40 เหรียญ
หรือ 1,400 บาท และหากจะต้องทำคลอดแบบผ่าตัดก็ราคาเพียง 140 เหรียญ
หรือ 4,900 บาทเท่านั้น เรียกว่าตัดราคาจากโรงพยาบาลขนาดใหญ่ถึงหนึ่งในห้า
วิธีลดค่าใช้จ่ายก็คือ ตัดบริการห้องอาหารออกไป
ส่งวัสดุออกไปตรวจที่ห้องทดลองข้างนอก และไม่ขายยา
ไปซื้อเอาเองข้างนอก คุณแม่ท้องแก่คนไหนอยากลองไหมล่ะคะ
ก่อนคลอดก็เที่ยวอินเดียเสียก่อน เป็นผลพลอยได้อีกกลุ่มหนึ่ง
ผู้ลงทุนเป็นอเมริกันชื่อ Columbia Asia มีโรงพยาบาลอยู่ทั่วเอเซีย
กลุ่มนี้มีแนวคิดคล้ายสายการบินประหยัด คือประหยัดด้วยการดีไซน์โรงพยาบาล
ให้เรียบง่ายไม่หรูหรา อันนี้ฟังดูสวนทางกับโรงพยาบาลในไทย
ที่ปัจจุบันแข่งกันตกแต่งใหญ่เพื่อขายความหรูหรา
แต่โรงพยาบาลที่นี่ไม่มีลอบบี้หินอ่อน ไม่มี imaging machine ที่แพงๆ
แต่มีเครื่องมือที่จำเป็นเช่น HIT (Health Information Technology)
และ HER (Electronic health records) นี่ก็เป็นวิธีลดค่าใช้จ่ายได้อีก
ทางนวัตกรรมอีกแบบคือหาคนไข้เป็นกลุ่มโดยใช้การตลาดนำ
อย่างโรงพยาบาล Monitor
คำนวนแล้วว่าห้องผ่าตัดสามารถรับคนไข้ผ่าตัดได้ 22-27 คนต่อสัปดาห์
ก็หาคนไข้มาเติมเตียงผ่าตัดให้เต็ม หรือโรงพยาบาลกลุ่ม LifeSpring
ก็มีกิจกรรมผ่าตัดมากสี่เท่าของโรงพยาบาลอื่น ยิ่งผ่าตัดมากหมอก็ยิ่งคล่องยิ่งชำนาญ
ผลที่ออกมาก็ดี ราคาก็ลดลงได้มากเพราะถัวเฉลี่ยไปทีนี้มาดูทางตอนใต้ของอินเดีย
ที่เมืองมาดูราย ซึ่งเต็มไปด้วยวัดวาอารามยุคกลาง
ดูแล้วไม่น่าจะมีนวัตกรรมสมัยใหม่อะไรซุกซ่อนอยู่
แต่ที่โรงพยาบาล อราวินด์ ซึ่งเป็นเครือข่ายโรงพยาบาลโรคตาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อินเดียมีอัตราคนตาบอดสูงถึง 12 ล้านคนที่โรงพยาบาลนี้
คนไข้ส่วนใหญ่เป็นโรคตาที่รักษาได้ เช่น ต้อกระจก
แทนที่จะรอรับการรักษาจากภาครัฐหรือจากองค์กรการกุศล
ที่นี่ใช้วิธีเรียกเก็บค่ารักษาจากคนรวยแพงๆ มีบริการอาหารชั้นเลิศแถม
มีห้องแอร์เย็นฉ่ำหรูหราให้พัก แล้วก็นำรายได้นี้ไปรักษาให้คนจนฟรี
คนจนนอนห้องรวมก็ได้ ไม่มีแอร์ก็ได้
ขอให้ได้ผ่าตัดตาฟรีก็ดีถมไปแล้วการที่เป็นเครือข่ายที่ใหญ่
ทำให้สามารถทำกำไรจากจำนวนคนไข้ที่มีมากมาย
พนักงานจะคัดกรองคนไข้จำนวนถึง 2.7 ล้านคนในแต่ละปีจากคลินิกตามบ้านนอก
แล้วส่งตัวคนไข้ประมาณเกือบ 300,000 คนมาผ่าตัดที่นี่
หมออินเดียมือฉมัง เพราะผ่าตัดคนไข้มากกว่าหมอฝรั่งหลายเท่า
หลับตาข้างหนึ่งก็ยังได้ แล้วก็ผู้ช่วยหมอ พยาบาล
ก็ผลัดเปลี่ยนกันดูแลคนไข้ทั้งรวยทั้งจน เพราะฉะนั้น
รับรองว่าบริการเหมือนกันไม่ว่ารวยหรือจนอย่างนี้ต้องยกนิ้วให้
ไหนใครบอกว่าอินเดียแบ่งชั้นวรรณะไม่รู้ว่าถ้าต่างชาติอย่างเราไป
เขาจะทำให้มั้ยมีรายงานเปรียบเทียบระหว่างอินเดียกับอเมริกาว่า
ในขณะที่ค่ารักษาพยาบาลในอเมริกาพุ่งกระฉูด
แต่ผลการรักษาพยาบาลกลับเฮงซวย
สถาบันที่เป็นมันสมองด้านรักษาพยาบาลบอกว่าที่เป็นเช่นนี้
เพราะอเมริกาใช้เครื่องมือมากไป เอะอะ ก็ส่งไปสแกนโน่นสแกนนี่
รัฐบาลหรือบริษัทประกันก็ต้องจ่าย เพราะว่าหมอสั่งอืมม์
คนเราโง่ลงเพราะรวยเกินไปก็มีนะไม่เหมือนอินเดียอาศัยความจนผลักดัน
ให้ต้องฮึดและคิดค้นอะไรใหม่ๆ คิดเครื่องไม้เครื่องมือขึ้นมามากมาย
ซึ่งเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญเรื่องออกแบบจากบริษัท Ideo บอกว่าที่จริง
ที่เคยคิดกันว่าเครื่องมือแพทย์จะต้องหรูเหมือนโรลส์รอยส์น่ะหลงทาง
ควรจะรู้จักลดค่าใช้จ่ายลงมา
และดูรถนาโนเป็นแบบอย่างบ้างน่าจะดี

หน้า 42