Custom Search

Jun 14, 2009

ภาระหนี้มากเกินไป ทำให้การฟื้นประเทศยากขึ้น


สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
มติชน

วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552




ตัว เลขจีดีพีไตรมาสแรกของปี 2552 อยู่ที่ -7.1% เป็นอัตราหดตัวติดลบมาก ต่ำสุดในรอบ 12 ปี ทำให้ประชาชนมีฐานะยากลำบาก ชักหน้าไม่ถึงหลัง
นักธุรกิจสำคัญๆ หลายท่านได้กล่าวว่า รัฐบาลแก้ปัญหาผิดพลาดมาก
ทำให้ระบบเศรษฐกิจตีลังกา ทั้งนี้ เนื่องมาจาก

1.รัฐบาลเน้นการกู้ เงินจำนวนมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งหมดประมาณ 1 ล้านล้านบาท
แต่กลับมาใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เน้นการแจกเงิน ไม่ก่อให้เกิดการจ้างงาน ทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ผล

2.รัฐบาลแอบเสนอค่าใช้จ่ายจำนวนมาก เป็น พ.ร.ก. ไม่ผ่านกระบวนการ
กฎหมายงบประมาณ ทำให้เกิดการใช้เงินเกินตัว การกู้เงินในส่วนนี้ถึง 800,000 ล้านบาท
จะก่อหนี้จำนวนมากในอนาคต จะทำให้ยอดหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเพิ่มจาก 37% เมื่อต้นปี 2552 เป็น 60% ในปี 2555 จะทำให้ประเทศมี Credit Worthiness ลดลง
ประเทศมีความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือมากขึ้น
เนื่องจากรัฐบาลมีฐานรายได้ต่ำเพียง 15% ของจีดีพี

3.รัฐบาลพยากรณ์ ยอดหนี้ที่ 60% บนข้อสมมติฐานที่ว่าประเทศจะโตร้อยละ 5.5
และเงินเฟ้อร้อยละ 3.5 หากเศรษฐกิจโลกฟื้นไม่ทัน และ จีดีพี โตเพียง 2-3% ยอดหนี้สาธารณะในปี 2555 จะเป็นที่ 65-70% สูงกว่าปี 2540 เสียอีก
ประเทศจะตกอยู่ในความเสี่ยง ที่จะเป็นประเทศที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว คล้ายกับอเมริกาใต้

4.เมื่อจีดีพีโตไม่มาก รัฐบาลก็ยิ่งต้องกู้มาก มาใช้จ่ายอีก เป็นวัฏจักรแห่งความล้มเหลว

จึง ขอให้รัฐบาลเปลี่ยนวิธีการจากการกู้เงินจำนวนมากๆ มาฟื้นเศรษฐกิจ
เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ เชื่อมั่น เพื่อสร้างความเจริญเติบโต ได้ภาษีเพิ่มขึ้น

แล้วนำเงินภาษีที่ได้เพิ่มมาพัฒนาประเทศ จะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่เสี่ยงล้มละลาย
ซึ่งดีกว่าวิธีการกู้เงินมากๆ ของรัฐบาล

5. รัฐบาลต้องมีกรอบคิดและวิสัยทัศน์ในการสร้างความเชื่อมั่นเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ การกู้เงินจำนวนมากๆ เพียงอย่างเดียว นอกจากจะไม่ฟื้นเศรษฐกิจแล้ว
แต่จะสร้างความเสี่ยงการล้มละลายทางเศรษฐกิจด้วย

6.รัฐบาลขาดการดูแล การส่งออกและการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง
ทั้งในด้านการทำตลาดและด้านค่าเงินที่แข็งกว่าภูมิภาคมาก
ทำให้การส่งออกทรุดตัวมากกว่าที่ควร จึงเป็นการซ้ำเติมระบบเศรษฐกิจมากขึ้นอีก

7.รัฐบาลขาดการดูแลการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
ทำให้สินเชื่อไม่ขยายตัว เป็นอุปสรรคอย่างมากในการฟื้นระบบเศรษฐกิจ

8.รัฐบาลขาดวิธีการหาเงินมาลงทุนในภาครัฐ โดยไม่ต้องกู้เงิน
ทำให้การลงทุนในขนาดที่เพียงพอเพื่อฟื้นระบบเศรษฐกิจไม่สามารถทำได้

9. มาตรการงบกลางปีที่นำออกใช้ ไม่ได้เพิ่มการจ้างงาน แต่เป็นการแจกเงิน
ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ ยังคงจะทำให้คนตกงานถึง 1.2 ล้านคน

10. รัฐบาลได้ตัดงบเอสเอ็มแอลไป 20,000 ล้านบาท ในปีงบประมาณนี้
และในปีงบประมาณ 2553 ได้ลดงบเอสเอ็มแอลไปอีก 30,000 ล้านบาท
และตัดงบประมาณ 30 บาทรักษาทุกโรคอีก 50,000 ล้านบาท รัฐบาลละเลยคนยากจน
ไม่ดูแลคนยากคนจน

11.รัฐบาลขึ้นภาษีจำนวนมากในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้เกิดการลดการบริโภคในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แสดงถึงความไม่เข้าใจในวิธีการฟื้นเศรษฐกิจ
การนำเงินไปแจกให้บางกลุ่มในระบบเศรษฐกิจ
แต่มีการขึ้นภาษีน้ำมันกับคนไทยทุกคนเพื่อชดเชยเงินเหล่านั้นในยามที่
ประชาชนไม่มีงานทำ ขายของไม่ได้

เป็นการสร้างความไม่ยุติธรรม มีลักษณะ 2 มาตรฐาน ไม่เป็นธรรมสำหรับคนชนบท

หน้า 6