Custom Search

Jan 21, 2011

"หมอประเวศ"แนะ "ติดอาวุธปัญญาประชาชนให้ทันก่อนหันไปจับอาวุธ


http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1295516022

มติชนออนไลน์
20 ม.ค. 2554


นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป
กล่าวปาฐกถาพิเศษ
เรื่อง"ยุทธศาสตร์การฟื้นฟูประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง"
ในงานสัมมนา
"ยุทธศษสตร์ประเทศไทยในมิติการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
และการบริหารระบบราชการ"

เมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ห้องประชาธิปก สถาบันพระปกเกล้า

นพ.ประเวศ กล่าวว่า

ต้องมองถึงสาเหตุความขัดแย้ง ต้องมองไปให้ลึกที่สุด คือ
การขาดความเป็นธรรมและความเหลื่อมล้ำที่มีมากเกินไป
อันนำมาสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงด้วย
เพราะความเป็นธรรมสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
ไม่ว่าจะเป็นคนเป็นสัตว์หรืออะไรก็แล้วแต่
เพราะถ้าขาดความเป็นธรรมแล้วคนก็จะทะเลาะกันและเกิดความรุนแรงขึ้น
ตรงนี้ต้องมาดูโครงสร้างต่างๆที่ทำให้ขาดความเป็นธรรม
ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างการจัดสสรรทรัพยากร การรวมศูนย์อำนาจเข้ามา
เพราะประเทศไทยปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจ เกิดความไม่เป็นธรรมขึ้น
ต้องดูทั้งหมดแล้วแก้ไขเชิงโครงสร้าง เรื่องการปกครอง
เรื่องระบบอำนาจรัฐ โดยต้องปฏิรูปการบริหารประเทศจากการเอา"กรม" เป็นตัวตั้ง


กรม คือ เครื่องมือการรวมศูนย์อำนาจเข้ามา และเมื่อเกิดความขัดแย้งชุมชนท้องถิ่น
ซึ่งมีวัฒนธรรมต่างๆหลากหลาย การรวมศูนย์อำนาจ
ทำให้เกิดความขัดแย้งหลายอย่างรวมทั้งความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ตรงนี้ต้องกระจายอำนาจไปจากการเอากรมเป็นตัวตั้งเปลี่ยนเป็นการเอาพื้นที่ เป็นตัวตั้ง
เรียกว่า "เทศาภิวัฒน์" ต้องบริหารประเทศโดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง
เพราะว่าพื้นที่มีผู้คนและองค์กรมากมายที่สามารถจะรวมตัวกันจัดการกับตัวเอง ได้
เพื่อให้ชุมชนกับท้องถิ่นสามารถรวมตัวและจัดการเรื่องเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม
ทั้งหมดด้วยตัวเองได้ แล้วกรมต่างๆ ต้องปรับตัวเอง
แทนที่จะลงไปทำเองใช้ผู้มีอำนาจลงไปทำ แต่ปรับมาเป็นผู้สนับสนุน
เพราะ"กรม"ล้มเหลวมาแล้ว เช่น กรมที่ดินไม่สามารถจัดสรรที่ดินอย่างเป็นธรรมได้
กรมป่าไม้รักษาป่าไม่ได้ ต้องให้พื้นที่เป็นผู้ดูแลเอง
และเรื่องการจัดสรรทรัพยากรเป็นเรื่องสำคัญเพราะถ้าจัดสรรทรัพยากรไม่เป็น
ธรรมช่องว่างมันจะเกิดขึ้น ยกตัวอย่าง ชาวนาหรือเกษตรกรเป็นผู้ผลิต
แต่ไม่มีเครื่องมือการผลิต คือ ที่ดิน
เนื่องจากที่ดินกลับไปอยู่ในมือของผู้ที่ไม่ได้ผลิต
ต้องปฏิรูปเรื่องการใช้ที่ดินให้เป็นธรรม


เรื่องระบบภาษีที่ไม่เป็นธรรมถ้าปฏิรูประบบภาษีได้
อาจจะได้เงินงบประมาณเพิ่มมาปีละ 5 แสนล้านบาท
เพื่อนำไปจัดระบบสวัสดิการสังคม เริ่มตั้งแต่ครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน
แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องยากไม่มีใครไปปฏิรูปได้สำเร็จ
เพราะคนมีอำนาจ คนรวย คงไม่อยากให้เกิดการปฏิรูป
ฉะนั้นประชาชนจะต้องเป็นคนปฏิรูป
โดยประชาชนจะมีพลังปฏิรูปได้ต้อง "ติดอาวุธด้วยปัญญา"
ดังนั้นหน้าที่นักวิชาการ สถาบันต่างๆต้องสร้างความรู้ให้ชัดเจนว่าจะปฏิรูปอะไร
ทำอย่างไร เอาความรู้ไปให้ประชาชน
เพราะถ้าไม่ติดอาวุธให้ประชาชนด้วยปัญญาหนักเข้าประชาชน
จะติดอาวุธด้วยอาวุธ และก็จะเกิดความวุ่นวายต่างๆตามมา


ดังนั้นต้องเข้าใจว่าการปฏิรูปประเทศไทยไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งจะทำได้
เราต้องไปสนับสนุนประชาชนให้เป็นผู้ปฏิรูป ซึ่งต้องใช้หลักวิชาการ
และทุกคนต้องช่วยกัน มันไม่เป็นธรรมขนาดนี้
ความเป็นจริงมันต้องรุนแรงกว่านี้อีก ดังนั้นวัตถุประสงค์หลัก คือ
ต้องปฏิรูปเพื่อลดความไม่เป็นธรรมแม้จะเป็นเรื่องยาก
แต่ถ้าประชาชนเป็นผู้ปฎิรูปพลังที่เกิดขึ้นจะไม่มีอะไรที่จะต้านทานได้
แต่คนอื่นปฏิรูปไม่เคยสำเร็จเลย
แต่ครั้งนี้เป็นหน้าที่ของประชาชนจะต้องปฏิรูปแล้ว


การปฏิรูปต้องใช้เวลาเพราะมันไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูป
แต่เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ทุกคนต้องเข้ามาช่วยกัน
ตอนนี้ข้างล่างตื่นตัวเคลื่อนไหวเยอะมาก
เป็นการกระชับพื้นที่ขึ้นมาจากข้างล่าง เริ่มจากกลุ่มผู้นำชุมชน
ผู้นำท้องถิ่นที่สื่อมวลชนไม่ค่อยได้รู้ไม่ค่อยสนใจ
ว่าคนกลุ่มนี้ที่จะมีการประชุมการเคลื่อนไหวจากข้างล่างเป็นจำนวนมาก