http://teetwoblog.webs.com/tonkla_vol20.pdf
“วรากรณ์” ชี้ 3 ปัจจัยสร้างพลเมืองคุณภาพ ตัวผู้มาเป็นครู-เทคนิคการถ่ายทอด
-ระบบการศึกษาที่เท่าเทียมในสังคม เสนอเปิดช่องให้คนจบสายอื่นมาเป็นครูได้
ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อการพัฒนาครูตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่มุ่งพัฒนา
ให้ได้ครูดี ครูเก่ง มีคุณธรรม มีคุณภาพ
ในการประชุมซีเมค ว่า สมัยก่อนจะวัดกันที่จำนวนผู้เรียน
พลเมืองที่ดี ถ้าดูตามตัวเลขในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
พบมีผู้เข้าเรียนร้อยละ 90 แต่ไม่ได้เรียนจบทั้งหมด และไม่ได้มองคุณภาพ
“แต่ วันนี้เรามองเรื่องคุณภาพว่าจะทำอย่างไรให้พลเมืองมีคุณภาพ
ซึ่งมี 3 ปัจจัยที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ ก็คือ
คนที่จะมาเป็นครู ความสามารถในการถ่ายทอด
และระบบการศึกษาเท่าเทียมในทุกสังคม
โดยไม่มีอุปสรรคทางวัฒนธรรม
สำหรับไทยมีการวางแผนดึงคนเก่งมาเป็นครู
เพราะในอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีข้าราชการครูเกษียณอายุประมาณ
ร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์ หรือ 1.5 แสนคน
อย่างไรก็ตาม การที่มีครูเกษียณทำให้เราสูญเสียครูที่มีประสบการณ์
แต่ในทางกลับกันจะทำให้ได้ครูรุ่นใหม่เข้ามาแทน”
ดร.วรากรณ์ กล่าวต่อว่า เคยมีคำถามว่าเราขาดแคลนครู
หรือขาดแคลนคนเก่งมาเรียนครู
เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้คนเก่งไม่อยากมาเป็นครู
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าตอบแทน ใบประกอบวิชาชีพครู
นอกจากนี้ ครูผู้สอนยังมีช่องว่างและการแบกภาระ
จะมีเรื่องช่วงห่างของอายุผู้สอนกับนักเรียน เทคโนโลยี
ขนาดห้องเรียนใหญ่ โรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนมาก
จึงไม่สามารถจัดให้มีครูครบทั้ง 8 กลุ่มสาระ
“แม้ ว่าจะมีครูดี ครูเก่ง ก็ยังไม่มั่นใจว่ามีคุณภาพ
ซึ่งการที่จะเป็นครูดี ครูเก่ง จะต้องมีความรู้ความสามารถ
มีวิธีการถ่ายทอดความรู้ให้เด็กอย่างมีคุณภาพ
รวมถึงครูจะต้องมีการเรียนรู้ตลอดเวลา
และที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ครูเก่ง
มักจะกระจุกอยู่ในโรงเรียนใหญ่
ไม่กระจายไปยังโรงเรียนห่างไกล”
ดร.วรากรณ์ กล่าวด้วยว่า ในประเทศสิงคโปร์
จะให้เด็กที่มีผลการเรียนดี 1 ใน 3 มาเรียนครู
ขณะที่บ้านเราได้มีการผลิตครูหลักสูตร 5 ปี
เชื่อว่า คุณภาพการศึกษาจะดีขึ้น
นอกจากนี้ ไทยยังได้มีการตั้งสถาบันพัฒนาคุณภาพครู
และได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด
โดยจะมาดูภาพรวมว่า มีครูจำนวนเท่าไหร่
เกษียณจำนวนเท่าไหร่ ขาดแคลนสาขาไหนบ้าง
เพื่อมาเสริมในส่วนที่ขาด
รวมทั้งพัฒนาคุณภาพครูให้มีประสิทธิภาพด้วย
“การ ผลิตครูของบ้านเราต่างจากหลายประเทศ
คนเรียนคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์
ส่วนใหญ่จะเน้นเรียนขบวนการเรียนการสอน
ไม่ค่อยได้เน้นเนื้อหาวิชาการ
เพราะฉะนั้น เมื่อเรียนทฤษฎีการเรียนการสอน 4 ปีแล้ว
ปีสุดท้ายควรเน้นหนื้อหาวิชาหลัก อย่างเช่น
ครูสอนคณิตศาสตร์ ปีสุดท้ายต้องเน้นวิชาคณิตศาสตร์
พร้อมกันนี้ควรเปิดช่องให้ผู้ที่จบสายอื่นมาเป็นครูได้
เพราะเขามีพื้นฐานเนื้อหาวิชาเน้น
แต่ให้มาเรียนวิธีการสอนเพิ่ม” ดร.วรากรณ์ กล่าว