- http://www.nokhook.thapat.com/board/index.php?topic=252.0
- http://tristonrobinson.wordpress.com/tag/le-corbusier/
เลอ คอบูซิเยร์ (Le Corbusier) มีชื่อจริงว่า Charles-Edouard Jeanneret
เป็นสถาปนิก
นักวางผังเมือง จิตรกร ชาวฝรั่งเศส
เกิดที่เมือง Chaux-de-Fonds
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1887 เสียชีวิต
ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน
ในเดือน 27 สิงหาคม ค.ศ. 1965
เขาได้คิดค้นระบบของสัดส่วน
ของการออกแบบทางสถาปัตยกรรม - Modulor
ซึ่งกำหนดจากพื้นฐานของสัดส่วนมนุษย์
จากความสูง 1829 มม
ประวัติ
เลอ คอบูซิเยร์ (1887-1965) เกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ค.ศ. 1887 ที่เมือง Chaux-de-Fonds ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในแถบสวิสซึ่งที่นั้นเป็นศูนย์กลาง ของการทำนาฬิกา พ่อเป็นคนสลักและลงยาหน้าปัทม์นาฬิกา ส่วนแม่เป็นครูสอนเปียโน
พอ อายุได้ 13 ปี เขาออกจากกิจการของครอบครัวออกเที่ยวไปในยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน ไปอยู่ปารีสและได้ทำงานกับ Auguste Perret ต่อจากนั้น ไปอยู่เยอรมันไปเป็นผู้ช่วย behren และกลับมาเป็นครูที่โรงเรียน Chaux-de-Fonds เขาได้ไปทำงานเป็นจิตรกร ที่ปารีส และได้ทำงานด้านผังเมือง ได้สร้างเมืองใหม่ Chandigarh ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย
ใน ปี 1913 ไปอยู่ปารีส ซึ่งในขณะนั้นเป็นศูนย์กลางของศิลปะคิวบิสม์ และเซอร์เรียวลิสม์ ต่อมาในปี 1930 ได้โอนสัญชาติมาเป็นสัญชาติฝรั่งเศส และเขาได้เสียชีวิตขณะว่ายน้ำเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 1965
แนวความคิดในการออกแบบ
ตัว เขาไปสร้างศิลปะแบบ purism โดยยึดถือความคิดเกี่ยวกับรูปทรงอย่างเดียว พร้อมกับคำพูดของเขาที่ว่า “ a house is a living in “ หมายความว่า บ้านพักอาศัยควรสนองประโยชน์ใช้สอยอย่างแท้จริง คอร์บูมองเห็นว่า บ้านนั้นเป็นผลิตผลของผู้บริโภคเหมือนกับรถยนต์ ซึ่งผลิตชิ้นส่วนออกมาจากโรงงานและด้วยการผลิตทางอุตสาหกรรมนี้ บ้านก็ควรมีชิ้นส่วนที่ผลิตออกมาจากโรงงาน(แล้วเลื่อนออกมาตามสายพานเหมือน ชิ้นส่วนของรถยนต์ ) และด้วยหลักการนี้ก็เข้าครอบงำสถาปนิกตั้งแต่นั้นมา ความจริงแล้วคอร์บู ได้แรงบันดาลใจจากภาพจำลองของเครื่องจักรและอาศัยสิ่งเหล่านี้ไปสร้างสรรค์ สไตล์ใหม่ๆ ซึ่งไม่มีการเกี่ยวข้องกับสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม บ้านของเขาก็ดูคล้ายๆ เครื่องจักร แต่ละส่วนแสดงออกอย่างชัดแจ้งเหมือนชิ้นส่วนของเครื่องจักร ปล่องระบายอากาศบนหลังคาก็ดูคล้ายปล่องเรือกลไฟ บ้านที่รู้จักกันดีก็คือ Villa Savoye นอกกรุงปารีส ซึ่งถูกเปรียบเทียบกับเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งอยู่บน landscape ที่เกี่ยวเนื่องกับคติทางคลาสสิคและยุคเครื่องจักรกล คอร์บูเป็นผู้สนับสนุนความคิดแบบฟิวเจอร์ริสท์ โดยการแสดงออกให้เห็นสังคมใหม่แทนที่จะให้สถาปัตยกรรมเป็นผู้กำหนดโลกใหม่ เขากลับมีความต้องการที่จะออกแบบสังคมใหม่ด้วยจินตนาการของเขาเอง ชื่อ คอร์บูสิเอร์เป็นฉายาที่ตั้งขึ้นเองแปลว่าอีกา
คอร์บูได้เปลี่ยน สไตล์ของเขา หลังสงครามเขาก็ทิ้งความตั้งใจที่ชอบผลิตผลของเครื่องจักรที่มีผิวพื้นที่ เรียบลื่นและหันไปชอบสไตล์ใหม่ ซึ่งเขาเรียกว่า brutism คือความหยาบของผิววัสดุ เมื่อเป็นเช่นนี้จะเห็นว่าคอร์บูมักทำโครงสร้างแบบ “ คอนกรีตเปลือย “ และเขาเห็นว่าอาคารนั้นไม่เหมาะกับคนแต่ควรทำให้คนเหมาะกับอาคารจึงกำหนดสัด ส่วนของอาคารให้เหมาะสมแทน
ด้วยแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ใน ยุค modern movement เขาได้ออกแบบโบสถ์ chaple at ronchamp ถือเป็นงานชั้นโบว์แดงของเขา มีลักษณะเล่น ลูกเล่นแบบ plastic quality ของดินเหนียว ใช้รูปทรงที่แรงแทนสัญญลักษณ์ทางศาสนา งานนี้มีลักษณะเห็นถึงพลัง และมีความเป็นตัวเองได้อย่างมีเอกลักษณ์
คอร์ บูได้สร้างสรรค์ ศิลปะหลายแขนง เป็นประติมากร โดยทุกเช้าจะเล่นน้ำทะเลให้คลื่นสัดสาดตัวแล้วจะขึ้นมาทำงานประติมากรรม เสร็จแล้วก็จะเรี่มงานสถาปัตยกรรม เป็นนักผังเมืองมีความคิดกว้างไกลจากยุคที่ตนมีชีวิตอยู่ ว่าควรจัดระบบ จัดโซนของการใช้เมืองอย่างไรจึงจะได้ผล เขาถือความงามเป็นสิ่งสัจจะ เป็นสิ่งที่ดีและหาได้ยากจะได้มาก็ต้องผ่านการเลือกเฟ้นเท่านั้น
ลักษณะสถาปัตยกรรม 5 ประการของ เลอคอบูซิเยร์
ในสิ่งตีพิมพ์ เขาได้เสนอความคิดที่สำคัญตั้งแต่สมัยแรกๆ คือ five points of modern architecture
ยกพื้นสูงลอยตัว มีลักษณะเบา แบบนี้เป็นเรื่องใหม่ของตะวันตกที่เคยชินกับ
มีรูปทรง (Mass) ที่ทึบตันและติดดิน
จัดแผนผังพื้นที่ใช้สอย เป็นอิสระจากโครงสร้าง (free plan)
ใช้ ribbon window
ใช้ roof garden
งานนิพนธ์สำคัญ
Vers une Architecture (Towards a New Architecture)
Urbanisme (The City of Tomorrow)
L'Art decoratif daujourd'hui
La Peinture Moderne
le moduler