Custom Search

Jun 18, 2011

ความสุขโดยสังเกต : ตอนที่1


ความงดงาม ของความหงิกงอ
มติชน http://www.matichon.co.th
วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เข็มนาฬิกาเดินไวไม่ต่างจากเท้าของเสือชีตาร์ที่
กำลังกวดกวางเก้ง

อายุอานามของเราเองก็เดินหน้าไป
อย่างฉับไวไม่ต่างอะไรกับเข็มนาฬิกา
เวลาอาจเป็นมายา ทว่าความชราเป็นเรื่องจริง
เผลอแผล็บเดียว นิ้วกลมๆ ของผมก็ได้จรดตัวอักษรลงนอนแผ่หลา
บนหน้ากระดาษของ มติชนสุดสัปดาห์ มาเป็นเวลาเฉียดสองปีแล้ว
เป็นสองปีที่ทำให้ได้รู้ซึ้งว่าการเขียนคอลัมน์รายสัปดาห์นั้นคลับคล้ายคลับ
คลากับการทำนาตลอดปีโดยไม่มีฤดูกาล
ไม่ว่าดินฟ้าอากาศจะเป็นเช่นไรก็ต้องหว่านไถอย่างสม่ำเสมอ
เผลอเป็นครบสัปดาห์อีกครั้ง
ฟังดูชวนเหนื่อย ชวนเมื่อย ชวนล้า
แต่ก็มิได้น่ากลัวถึงขั้นต้อง ชวน หลีกภัย
ยังไม่หลีกไปไหน ยังคงยืนหยัดเขียนอยู่
เช่นกันกับการปลูกข้าวและพืชพันธุ์ผลไม้ความเหน็ดเหนื่อยเป็นเรื่องปกติ
หากคิดจะเพาะปลูกอะไรสักอย่าง ถ้าไม่เหนื่อยบ้างจะมีผลงานได้อย่างไร
ผลงานก็เหมือนผลไม้ ถ้าสุดท้ายสวยงาม ผู้ปลูกก็ชื่นใจ
ยิ่งในยามรวมเล่มก็เหมือนจับผล(ของ)งานมาใส่กระเช้าใบสวย
คัดสรรผลที่ดีๆ มาวางเรียงกันใหม่เป็นกระเช้าใบใหญ่ที่ทำให้ชื่นใจได้อีกครั้ง
เช่นกันกับชาวสวนชาวไร่ ยามที่ใครกล่าวชื่นชมรสหวานของผลไม้
ชาวไร่ชาวสวนย่อมชื่นใจยิ้มแก้มปริ สำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงาน
ยามที่ผู้ลิ้มรสกล่าวถึงรสหวานของผลงาน ผู้เพาะหว่านย่อมยิ้มจมูกบานไม่ต่างกัน
นั่นกระมัง ความสุขใจของการได้เขียนอะไรสักอย่าง
นักเขียนจึงเป็นเกษตรกรในสวนอักษร
เพาะปลูกความคิดและตัวหนังสือส่งถึงมือผู้อ่าน

แต่การสร้างสรรค์ผลงานใช่ว่าจะไร้ความกดดัน
การสร้างสรรค์งานศิลปะไม่ใช่อะไร ที่จะมาชี้วัดคำนวณค่ากันได้แม่นยำ
ผลงานที่เราว่าดี บางทีก็ไม่ถูกใจผู้อ่าน ผู้ชม ผู้ฟัง
นั่นอาจนำมาซึ่งความกังวล
โดยเฉพาะกับคนที่เคยประสบความสำเร็จ
กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ ตาตี่ๆ ของผมได้ประจันหน้ากับตาตี่ๆ อีกหนึ่งคู่
ปากของเราขยับพ่นคำพูดแลกเปลี่ยนกันไปมา
เจ้าของดวงตาตี่ๆ บอกเล่าความกดดันในการทำอัลบั้มที่สองให้ผมฟัง
ใช่แล้วครับ เขาเป็นนักร้อง
นักร้องที่มีเพลงดังมากมายในอัลบั้มชุดแรกอย่างเพลงความคิด,
คนที่คุณก็รู้ว่าใคร, ทฤษฎีสีชมพู, สองหมื่น เรียกว่าดังเกือบทั้งอัลบั้ม
ใช่แล้วครับ เขาคือแสตมป์-อภิวัชร เอื้อถาวรสุข
ขณะนี้แสตมป์กำลังแต่งเพลงเพื่อนำมาใส่กระเช้ารวมเข้ากันเป็นอัลบั้มที่ สองอย่างมุ่งมั่นตั้งใจตั้งปอดตั้งนม
ผมลองกรอกหลายเพลงใส่รูหูแล้วพบว่าไพเราะมิใช่เล่น
แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนผมอ่านเจอข้อความในเอ็มเอสเอ็นของเขาเขียนว่า
เริ่มใหม่หมดเลย ง่ายกว่าŽจึงเคาะหน้าต่างเข้าไปถามไถ่ว่า หมายความว่าอะไร
นักร้องตาตี่จึงอธิบายว่าเขาจะเริ่มทำเพลงทั้งหมดใหม่ ยังไม่พอใจ เกรงว่ายังไม่ดีพอ
นั่นคือความกังวลของคนที่ประสบความสำเร็จกลัวว่าของใหม่จะดีไม่เท่าของเก่า
หรือบางทีเราก็รู้สึกว่า ดีกว่า แต่ก็ยังห่วงว่าคนฟังจะไม่ชอบ
การประสบความสำเร็จในผลงานชิ้นแรกนับว่ายากแล้ว
แต่การประสบความสำเร็จซ้ำในผลงานชิ้นต่อๆ ไปนั้นยากกว่าหลายเท่า
วันนั้นผมไม่ได้พูดอะไรกับแตมมากไปกว่าให้กำลังใจ
และบอกกับเขาว่าหลายเพลงที่ส่งมาให้ฟังก็เพราะดีแล้วนะ
ส่วนเรื่องการตัดสินใจจะทำใหม่หรือไม่
ผมเห็นว่าเป็นเรื่องของเจ้าของผลงาน คงไม่ใช่เรื่องที่ใครจะไปก้าวก่าย
วันหนึ่งหลังจากนั้นไม่นาน ผมพบกับแสตมป์อีกครั้งที่ เลิฟอีส และโชคดีที่ได้เจอ
พี่บอย โกสิยพงษ์ที่นั่นด้วย ผมถามแตมถึงความคืบหน้าของอัลบั้มชุดใหม่แตมยิ้มแจ่มใส
และบอกว่าคืบหน้าไป มากแล้ว ตามด้วยคำอธิบายว่าไม่ได้ทำใหม่ทั้งหมด
แต่คัดสรรเพลงที่ชอบออกมารวมกับเพลงใหม่ที่ทำเพิ่ม
พี่บอยซึ่งนั่งอยู่ตรงนั้นแย้มยิ้มออกมาเหมือนคนเคยอาบน้ำร้อนมาก่อน
แล้วพูดว่า
ศิลปินทุกคนจะมีช่วงนี้ เขาเรียกว่า ช่วงเสร่อ

พวกเราได้ยินก็หัวเราะกันดังลั่น แต่ผมก็ยังงงว่า เสร่อ
ยังไง แตมเลยอธิบายให้ฟังว่า เสร่อคิดว่าตัวเองเก่ง
แต่แทนที่จะเก่งกลับจะกลายเป็นเกร็งไปแทน
และทำให้งานที่ทำออกมานั้นไม่เป็นธรรมชาติ

เพราะตั้งใจกับมันมากเกินไป ห่วงนั่นห่วงนี่มากเกินไป
คิดถึงคนนู้นคนนี้มากเกินไป

ทำให้งานไม่สดเหมือนครั้งแรกๆ ที่ทำ
แตมเล่าให้ฟังว่าพี่บอยเองก็เคยหยุดแต่งเพลงไปถึงหกปี
หลังจากที่ประสบความ สำเร็จกับอัลบั้มแรกๆ
เพราะกลัวว่าผลงานใหม่จะไม่ดีเท่าชุดเก่า
พี่บอยยิ้มออกมา แล้วชี้ให้ผมมองต้นไม้
ดูสิต้นไม้มันยังไม่ได้งอกขึ้นไปตรงๆ เลย
มันก็ต้องมีคดบ้างโค้งบ้าง แต่มันก็โตขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นเรื่องธรรมชาติ
แตมฟังแล้วก็หันมายิ้มตาหยี ผมหันมองต้นไม้รอบๆ
ตัวแล้วก็เห็นด้วยกับพี่บอย

พี่บอยยิ้มให้อย่างใจดี และบอกกับผมว่า
ช่วงเสร่อเราจะใช้สมองทำงานมากกว่าหัวใจ

หลังจากพ้นช่วงนั้นมาได้ พี่ก็กลับมาใช้หัวใจเขียนเพลงอีกครั้ง
จะว่าไปคนเรากับต้นไม้ก็ไม่ต่างกัน
เราต่างเป็นธรรมชาติ

มิใช่เครื่องจักร การผลิตผลงานออกมาย่อมคล้าย
การ ปลูก มากกว่าการ ปั๊ม

ความคาดหวังและกดดันตัวเองว่า
มันจะต้องดีขึ้น-ดีขึ้น-ดีขึ้นตลอดเวลา

ก็ใช่ว่ามันจะนำมาซึ่งผลงานที่ดีขึ้นจริงๆ
การลงมือทำสิ่งใดย่อมต้องการหัวใจ ไม่แพ้หัวสมอง
และหัวใจมักทำหน้าที่ของมันได้ดีในภาวะที่ผ่อนคลาย
คล้ายๆ ต้นไม้ที่งอกเงยหงิกงอคดโค้งไปตามใจของมัน
ตามแต่ธรรมชาติแห่งสายลมและแสงแดดจะพาไป
ย่อมสวยงามกว่าต้นไม้ที่ถูกมนุษย์ตั้งใจดัดให้ตั้งตรง
ยอมรับตามตรงว่า วันแรกที่นั่งลงเขียนต้นฉบับเพื่อส่งมายัง
มติชนสุดสัปดาห์ (เวทีในฝันของผม)

นั้นผมก็เกร็งจนกล้ามก้นระบมอยู่เหมือนกัน
เมื่อนึกหน้าคุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณอา
คุณพี่ที่กำลังอ่านอยู่อาการก็กำเริบขึ้นทันที

เขียนอะไรก็รู้สึกว่ายังไม่ดีเขียนๆ ลบๆ
ด้วยความเกร็งและกลัว

จากวันนั้นถึงวันนี้เกือบสองปีมาแล้ว
ความเกร็งคลี่คลายลงไปมาก ตะคริว
ที่กล้ามก้นไม่แข็งเขม็งดังเดิม

เริ่มต้นคอลัมน์ใหม่ ถางหญ้า
เตรียมแปลงสวนให้ร่วนซุย

เตรียมปุ๋ยธรรมชาติ ตระเตรียมพละกำลัง
พร้อมหว่านเมล็ดพันธุ์ รดน้ำ

ตัดแต่งกิ่งก้านใบ โบกมือไล่แมลง
ลงมือปลูกผลงานในสวนอักษรอีกครั้ง
ปลูกอย่างเบิกบาน
ปล่อยให้ผลงานโตตามธรรมชาติ