Custom Search

Jun 17, 2011

ศิลป วิชาการ พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว










ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี

มี คำกล่าว เป็นสามัญว่า
มนุษย์นั้นประกอบเป็นตนขึ้นได้ก็ด้วย มีร่างกายและ
ร่างกายอาศัยสิ่งที่มี รูปร่างเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง
ส่วนใจก็มีอาหารของใจ เป็นเครื่องบำรุง เลี้ยง ได้แก่
ศาสนา ความรู้ ว่าอย่าง ทั่วไปและศิลปะ ว่าโดยเฉพาะ
ศาสนาถ้า ขาดความรู้ก็ก่อ ให้เกิดคติความเชื่อที่งมงาย
เป็น ไปตรงกันข้ามกับคติธรรมที่สูงไม่ ว่า
คติอะไร ความรู้ถ้าขาดสิ่งซึ่งค้ำจุนจิตใจ
ย่อม ก่อให้เกิดความเชื่อทางวัตถุธร รมว่ามี
และเป็น ที่สุดเพียงนั้น ( โลกายัต)
สะพาน ซึ่งเชื่อมคติความเชื่อทางวัตถุ
กับทางจิตใจให้ติดต่อถึงกัน ได้แก่ ศิลป
เพราะ ผู้ใดเข้าใจและรู้คุณค่าของศิลป แล้ว
ผู้นั้นย่อมเข้า ถึงสิ่งซึ่งเป็นอนันตะ คือ
พรหม สามารถรู้ได้อย่างแน่แก่ใจ
ซึ่ง ความสุขที่แท้จริง ( นิรามิสสุข)
มนุษย์อาจได้รับความบันเทิงใจเพราะ
มั่งมีทรัพย์สิน หรือเป็นที่รักที่เมตตา
แก่ เพื่อนผู้เป็นสหาย หรืออาจรู้สึกว่า
มีความสุขมาก เพราะมีฐานะสูงใน สังคม
แต่ ความสุขชนิดนี้ เป็นความสุขที่เห็นแก่ ตัวและ
เป็นปัจจัยก่อให้เกิด คติถือตน เป็นที่ตั้ง ( อหังการ)
เพราะไม่มีใครอยากให้ เพื่อนร่วมเกิดได้รับส่วน
ใน ความรักความเมตตาที่ตนได้ รับอยู่
ไม่อยากให้ใครร่วม ใช้ทรัพย์สินของตน
และไม่อยากให้ใคร มีส่วนร่วมฐานะสูง ในสังคม
ซึ่ง เป็นเอกสิทธิ์ของตน แต่เมื่อว่าทางศิลปะแล้ว
ก็เป็นเรื่องอยู่ตรง กันข้ามที่เดี ยวกับที่กล่าวมาแล้วนี้
ความจริงเมื่อเราฟังเสียงดนตรี ที่ไพเราะ
อ่านหนังสือที่ ประพันธ์ดี
หรือ ดูภาพจิตรกรรมที่งดงาม
จะรู้สึกโดยไม่รู้ตัว อยากให้ ผู้อื่นได้ร่วมอารมณ์
ให้สะเทือนใจไปกับเราด้วย
และยิ่งไปกว่านี้ เรายังปราถนาให้บุคคล เหล่านั้นได้ฟัง
ได้อ่านหรือได้ ดูศิลปกรรม อย่างเดียวกับเรา

ทั้ง นี้ก็เพราะว่าถ้ามีความรู้สึกเห็น คุณค่าของศิลปกรรมร่วมกัน
ย่อม เพิ่มความสุขความสบายใจให้แก่เรายิ่งขึ้น
เพราะเหตุดังนี้
ศิลปจึง เป็นปัจจัยที่สนับสนุนความสัมพันธ์
อย่าง เห็นอกเห็นใจกันในระหว่าง
เพื่อน มนุษย์ และอำนวยความสุข
ความ บันเทิงที่แท้และถาวรแก่มนุษยชาติ
อัน ที่จริงศาสนาก็ให้ความสุขซึ่งไม่
ถือ ตนเป็นที่ตั้งแก่เราเหมือน กัน
แต่ ความสุขที่สันโดษทางจิตใจนี้
ย่อม มีอยู่ตามส่วนสัมพันธ์กับความรู้สึก ดีชั่วของเรา
เพราะเป็นเรื่องราวของ เอกชน กล่าวคือ
เป็นความรู้สึก ภายในตัวเรา
รู้สึกอย่างไรก็อย่าง นั้นไม่มีผันแปร
แต่ เรื่อง อารมณ์ให้สะเทือนใจที่เกิด
จาก ศิลปะมีแปลก ๆ ต่าง ๆ
ไม่มีขอบเขตเป็นที่สุด และเป็นความรู้สึกที่มาจากภายนอกตัว เรา
และเราจะเกิดมีอารมณ์ให้สะเทือนใจได้แค่ไหน
ก็แล้วแต่ ลักษณะของ ศิลปกรรมที่มากระทบ ความรู้สึก ของเรา
แต่ทว่าศิลปนั้นเราจะรู้สึกเห็นคุณค่าด้วยตนเองไม่ได้
นอกจากจะได้รับ อบรมทางจิตใจของเรา ให้เข้าใจ
เพราะ ด้วยเหตุดังนี้ นานาอารยประเทศแทบทั้งหมดจึงให้เด็ก ๆ
ในชาติของเขาได้รับการศึกษาอบรมทางสุนทรียะ
ที่ในภาษาฝรั่งเรียกว่า Aesthetic Equcation
มาตั้งแต่อายุยังน้อย ขณะที่แรกเริ่มรับการศึกษาเล่าเรี ยน
เพื่อปลูกฝังจิตใจให้รู้จักความงาม
ความไพเราะมาตั้งแต่เล็ก

พระยาอนุ มานราชธน : แปล ,
วันศิลป์ พีระศรี 15 กันยายน 2525
มหาวิทยาลัย ศิลปากร , 2525