Custom Search

May 3, 2021

ข้อความถึงสังคมไทยและสังคมโลก

วันก่อนได้อ่านพบบทความธรรมดาๆ เรื่องหนึ่งที่เขียนโดยใครก็ไม่รู้ที่ส่งต่อๆ กันมาทางไลน์

แต่เนื้อหานั้นไม่ธรรมดาเลย

เพราะสารที่บทความนี้ต้องการจะสื่อ

คือสิ่งที่สังคมไทยและสังคมโลก

กำลังขาดแคลนอยู่ในตอนนี้

และเราก็ต้องการมัน

พอๆ กับวัคซีนป้องกันโควิดเลยทีเดียว

.

ลองมาอ่านกันดู

.

"แม่ของผมเป็นคนทำอาหารที่บ้านเป็นประจำทุกวัน

คืนหนึ่ง หลังจากที่แม่ทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน 

แม่กลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยล้า 

และทำอาหารเย็นให้เราตามปกติ 

ที่โต๊ะอาหาร 

แม่วางจาน ที่มีปลาทูไหม้เกรียมบนโต๊ะต่อหน้าพ่อและทุกๆคน 

ผมรอว่า แต่ละคนจะว่าอย่างไร

แต่... พ่อไม่พูดอะไร 

และตั้งหน้าตั้งตากินปลาทูไหม้ตัวนั้น  

และหันมาถามผมว่า ที่โรงเรียนเป็นอย่างไรบ้าง

.

คืนนั้น หลังอาหารเย็น 

ผมจำได้ว่า ได้ยินแม่ขอโทษพ่อ ที่ทอดปลาทูไหม้ 

และผมไม่เคยลืมที่พ่อพูดกับแม่เลย 

"โอย... ผมชอบ ปลาทูทอด เกรียมๆ อร่อยมาก นะแม่"

.

คืนต่อมา ผมเก็บคำถามไว้ในใจก่อนนอน 

และถามพ่อว่า "พ่อชอบปลาทูทอด เกรียมๆ จริงๆ เหรอ"

พ่อลูบหัวผม และตอบว่า

"แม่ของลูก ทำงานหนัก มาทั้งวัน...

ปลาทูไหม้ 1 ตัว ไม่เคยทำร้ายใคร

แต่คำพูด ที่ต่อว่า กันนั้นต่างหาก ที่จะทำร้ายกัน"

.

"ชีวิตคนเรา

เต็มไปด้วย ความไม่สมบูรณ์แบบ 

และแต่ละคน ก็ ไม่ได้เกิดมา สมบูรณ์แบบ ตัวเราเอง

ก็ไม่ได้มีอะไร ดีกว่าใครๆ"

.

แต่สิ่งที่พ่อเรียนรู้มาในช่วงชีวิต ก็คือ...

การเรียนรู้ ที่จะยอมรับ

ความผิดพลาดของคนอื่น และ ของตัวเอง

.

การเลือกที่จะยินดีกับความคิดต่างกันของแต่ละบุคคล

เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาชีวิตครอบครัว ที่มีความสุข และยืนยาว

.

“ชีวิตเรานั้น 

สั้นเกินกว่าที่จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับ

ความเสียใจที่ว่า เราทำผิดกับคนที่เรารักและรักเรา 

ให้ดูแล และทะนุถนอม คนที่รักเรา 

และพยายามเข้าใจ และให้อภัย จะดีกว่า"

.

“ถ้าเรารู้ เราจะ ทำไหม”

.

• เราจะบีบแตร 

ใส่คนที่ ยืนยึกยัก ริมถนน ตรงแยกที่ผ่านมาไม๊– ถ้าเรารู้ว่า เค้าใส่ขาเทียม

.

• เราจะเบียดชน คนข้างหน้า ที่เดินช้ามากไม๊ – ถ้าเรารู้ว่า เค้าเพิ่งตกงาน


• เราจะขำ คนที่ แต่งตัวเชยไม๊ – ถ้าเรารู้ว่า เค้ามีชุดเก่ง แค่ชุดเดียว


• เราจะรำคาญ สาวโรงงาน ที่มาเดิน พารากอนไม๊ – ถ้าเรารู้ว่า นั่นคือ

การฉลองวันเกิดของเธอ


• เราจะหมั่นไส้ ลุงที่หัวเราะ

เสียงดังลั่น คนนั้นไม๊ – ถ้ารู้ว่า แกเป็นมะเร็ง ขั้นสุดท้าย


• เรารู้แจ่มชัดเสมอ…

ว่าชีวิตเรา กำลังเจออะไร

แต่เรา ไม่มีวันรู้ว่า

"คนที่เราเจอ – กำลังเจอ กับอะไร"

.

โลก กว้างกว่าเงาของเรา และโลก ก็ไม่ได้หมุนรอบตัวเรา

.

มองข้าม เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไปบ้าง 

ให้โอกาส และให้อภัย มีความเข้าใจ ซึ่งกันและกัน 

จะได้รัก และอยู่ด้วยกัน อย่างยั่งยืนยาวนาน”

.

จากเรื่องราวที่กล่าวมาข้างต้นนั้น

ผู้เขียนสรุปออกมาเป็น “กฎทองของชีวิต”

ซึ่งเมื่อใครนำไปปฏิบัติแล้ว

จะทำให้เป็นคนที่กลายเป็น “แหล่งพลังงงานทางบวก”

สำหรับคนที่อยู่ข้างหน้าเสมอ

นั่นก็คือ

.

๑.หัดมองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เสียบ้าง

อย่าจริงจังกับทุกเรื่อง 

จนความสัมพันธ์กับคนรอบข้างตึงเครียดไปหมด


๒.ไม่มีใครที่ทำอะไรได้สมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมด

จงให้อภัยในความผิดพลาดของคนอื่น

เหมือนกับที่เราชอบให้อภัยแก่ตัวเอง

.

๓.สิ่งใดที่เราไม่ชอบ ก็จงอย่ามอบสิ่งนั้นแก่คนอื่น

สิ่งใดที่เราชอบ ก็จงมอบสิ่งนั้นแก่คนอื่น

.

๔.อย่ารำคาญความปรารถนาดีเล็กๆ น้อยๆ ของคนอื่น

ที่พยายามแสดงออกต่อเราด้วยความจริงใจ

.

๕.เรารักสุขเกลียดทุกข์และกลัวความตาย ฉันใด  คนอื่น ก็รักสุข เกลียดทุกข์ และกลัวความตาย ฉันนั้น

เอาใจเขามาใส่ใจเรา (อตฺตานํ อุปมํ กเร)

โลกนึ้จึงจะอยู่ได้ด้วยความสุข