Custom Search

Jul 29, 2020

สอบครูผิดหวังมานับสิบ ไม่ย่อท้อ!ได้บรรจุสมใจ

กว่าจะได้เป็น "ครู"


© สนับสนุนโดย เดลินิวส์


ได้รับเสียงชื่นชมบนโลกออนไลน์เป็นจำนวนมาก
สำหรับเจ้าของเฟซบุ๊ก Weera Promphap
ที่ได้ออกมาเล่าประสบการณ์การผ่านสนามสอบมาแล้วนับสิบสนาม
จนกระทั่ง วันที่ 24/07/2563 ที่ผ่านมา ก็ได้เข้ารับการบรรจุ
เป็นข้าราชการครูสมใจโดยระบุข้อความว่า
"กว่าจะได้มาเป็นครู ผ่านมาหลายสนาม"

สอบครั้งที่ 1 ครูคืนถิ่น (ไม่ติด)

สอบครั้งที่ 2 พนักงานราชการ กศน. (ไม่ติด)

สอบครั้งที่ 3 ครูพี่เลี้ยง พิษณุโลก เขต3 (ได้ลำดับที่1)

สอบครั้งที่ 4 พนักงานราชการ จ.อุตรดิตถ์ (ไม่ติด)

สอบครั้งที่ 5 ครูผู้ช่วย จ.เลย (ไม่ติด)

สอบครั้งที่ 6 พนักงานราชการ จ.พิจิตร (ไม่ติด)

สอบครั้งที่ 7 พนักงานราชการ จ.พิษณุโลก (ได้ลำดับที่30)

สอบครั้งที่ 8 ครูอัตราจ้าง พิษณุโลก เขต2 (ลำดับที่ 32)

สอบครั้งที่ 9 ครูผู้ช่วย จ.ตาก (ไม่ติด)

สอบครั้งที่ 10 ครูผู้ช่วย จ.พิษณุโลก (ได้ลำดับที่159)

ระหว่างการสอบครูโชคชะตาฟ้ากำหนดให้จับได้ใบแดง

(เป็นทหารรับใช้ชาติ1ปี) หลังจากปลดทหารคิดที่จะเปลี่ยนอาชีพ

เลยสมัครสอบตำรวจติดตัวจริง (ลำดับ238)

เป็นนักเรียนนายสิบตำรวจได้ 1ปี 5เดือน 23วัน (อีก7วันติดยศ)

ศธจ.พิจิตรยืมบัญชีพิษณุโลกเรียกบรรจุเป็นครูผู้ช่วย ตัดสินใจลาออกจากตำรวจ

เพราะอยากเป็นครู แต่ละสนามสอบที่ผ่านมามีทั้งสมหวังและผิดหวัง

แต่ทุกครั้งสิ่งที่ได้รับคือประสบการณ์,แนวคิดและมิตรภาพจากผู้เข้าสอบด้วยกัน

24/07/2563 วันเข้ารับบรรจุเป็นข้าราชการครู

กว่าจะมีวันนี้ต้องผ่านบททดสอบมากมาย

สิ่งที่สำคัญคือกำลังใจจากครอบครัวและคนรอบข้าง

ที่คอยสนับสนุนให้กำลังใจมาตลอดจนมาถึงวันนี้

#บันทึกไว้เป็นความทรงจำ #กว่าจะได้มาเป็นครู

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุ๊ก Weera Promphap


Jul 26, 2020

ในหลวง ร.๑๐ รับสั่งถึงพระอาจารย์ "ที่อ่านออกได้เพราะครูทัศนีย์"


ที่มา: www.sanook.com

ภาพ ท่านผู้หญิง ดร.ทัศนีย์ บุณยคุปต์ จาก  

ท่านผู้หญิง ดร.ทัศนีย์ บุณยคุปต์ มีชื่อเดิมว่า ท่านผู้หญิง ทัศนีย์ อิศรเสนา ณ อยุธยา
อดีตอาจารย์ใหญ่โรงเรียนจิตรลดา
เกิดเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2465
บิดาคือ พระยาภะรตราชา (ม.ล.ทศทิศ อิศรเสนา)
อดีตผู้บัญชาการ (อธิการบดี) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
และท่านผู้หญิงขจร ภะรตราชา
ท่านผู้หญิง ดร.ทัศนีย์ บุณยคุปต์ เริ่มเข้าทำงานเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนจิตรลดา เมื่อ พ.ศ. 2498
โดยได้เข้าถวายการสอนแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
ซึ่งท่านเป็นอาจารย์คนแรกที่เข้าถวายการสอน พร้อมกับพระสหาย 7 คน
ปัจจุบัน ท่านผู้หญิง ดร.ทัศนีย์ บุณยคุปต์ เป็นที่ปรึกษาโรงเรียนจิตรลดา
โดย ท่านผู้หญิงทัศนีย์ บุณยคุปต์ เป็นอดีตอาจารย์ใหญ่โรงเรียนจิตรลดา
ได้ถวายการสอนแด่ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
และถวายการสอนแด่ ในหลวง ร.๑๐
เมื่อครั้งทรงเข้าศึกษาในระดับอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา เช่นกัน
"ที่อ่านออกได้เพราะครูทัศนีย์" ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ
พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานสัมภาษณ์​ถึงครูทัศนีย์​
พระอาจารย์ในพระองค์ขณะศึกษาระดับชั้นอนุบาลที่โรงเรียนจิตรลดา
เมื่อครั้งครบรอบ 50 ปี โรงเรียนจิตรลดา
นอกจากนั้นท่านผู้หญิง ดร.ทัศนีย์ บุณยคุปต์ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก,
มหาวชิรมงกุฎ, ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ และ ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ



เฮได้!ไม่ย้ายบขส.กลับหมอชิตเก่าแล้ว

ภาพจาก นสพ.สยามรัฐ





© สนับสนุนโดย เดลินิวส์
26 ก.ค. 2563
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทขนส่งจำกัด(บขส.) เปิดเผยว่า ได้หารือนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เรื่องแผนรื้อย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 กลับไปอยู่สถานีขนส่งหมอชิตเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าบีทีเอส บริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต พื้นที่ 120,000 ตารางเมตร ที่คาดว่าปีนี้เริ่มดำเนินการและเปิดใช้อีก 5 ปีข้างหน้าหรือปี 68เพื่อคืนพื้นที่ให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.)ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อที่จะแล้วเสร็จในปี 64 รวมทั้งมีแผนดำเนินการศูนย์คมนาคมพหลโยธิน
ทั้งนี้ผลการหารือมีความเห็นร่วมกันว่าสถานีหมอชิต2ของบขส. ควรอยู่ที่เดิมประชาชนจะได้ประโยชน์กว่า เนื่องจากเดินทางสะดวกมากขึ้น และไม่เกิดภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สามารถเชื่อมต่อระบบรางและระบบขนส่งสาธารณะต่างๆ ที่อยู่รายรอบสถานีกลางบางซื่อได้ โดยบขส. สามารถเจรจาต่อรองกับรฟท.เพื่อบริหารจัดการเช่าพื้นที่ให้มีขนาดเล็กลงเพื่อลดต้นทุนจากปัจจุบันเช่าพื้นที่ 73 ไร่ลดเหลือ 58 ไร่ ด้วยการทำสัญญาเช่ากันใหม่ให้เกิดความชัดเจนตามกฎหมายมากขึ้น เนื่องจาก บขส. เช่าพื้นที่หมอชิต 2 ตั้งแต่ปี 2541 โดยจ่ายค่าเช่าราคาเดิมเพราะไม่มีสัญญาที่ชัดเจน ทำให้ รฟท. ไม่ได้ประโยชน์ และไม่กล้าลงทุน ดังนั้นควรร่วมมือกันพัฒนาสถานีขนส่งแห่งนี้ให้กลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งด้านรถโดยสารของประเทศให้เกิดความทันสมัยได้
เบื้องต้นเรื่องเจรจาจัดทำสัญญาใหม่นี้ได้หารือนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่า รฟท. ในหลักการเห็นด้วยแล้ว ซึ่งนายศักดิ์สยามได้มอบหมายให้หารือในข้อสรุปแล้วกลับมารายงานให้ทราบต่อไป เพราะเกี่ยวข้องกับ 3 รัฐวิสาหกิจ โดยมีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ร่วมด้วยเพราะเดิมที ขสมก. เช่าพื้นที่ รฟท. ทำอู่หมอชิตอยู่ 22 ไร่ ปัจจุบันลดเหลือ 16 ไร่ ขสมก. จ่ายค่าเช่า รฟท. ราคาเดิมตั้งแต่ปี 2542 ซึ่งไม่มีสัญญาเช่าที่ชัดเจนเหมือนกัน ดังนั้นถ้ามีสัญญาเช่าชัดเจน มีพื้นที่เหลือ รฟท. นำไปบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์พยุงกิจการขององค์กรได้ เบื้องต้นควรทำสัญญา 5 ปีก่อน จากนั้นสัญญาเช่าในระยะยาวค่อยพิจารณาอีกครั้ง
นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า หากหมอชิต 2 ยังอยู่ที่เดิมได้คิดแผนเชื่อมการเดินทางให้ประชาชน 2 ระยะ คือ ระยะแรกบขส. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมกัน (MOU)กับ ขสมก. ที่มีแผนจัดเช่ารถเมล์ไฟฟ้า (อีวี) ไร้มลพิษมาให้บริการประชาชนอยู่แล้ว บขส.อาจจ้าง ขสมก. นำรถมาใช้เป็นซัตเติ้ลบัสวิ่งวนรอบสถานีกลางบางซื่อ-หมอชิต2-อู่หมอชิต-ตลาดนัดจตุจักร-สถานีรถไฟฟ้าใกล้เคียง และระยะ 2 ก่อสร้างทางเดินลอยฟ้า (สกายวอร์ก) เชื่อมจากหมอชิต 2-สถานีกลางบางซื่อ ระยะทาง 800 เมตร โดยต้องสะอาด ปลอดภัย บริการได้ 24 ชม.ทั้งนี้แผนงานทั้งหมดจะนำไปหารือในที่ประชุมบอร์ดบขส.เห็นชอบในหลักการจากนั้นให้รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ (เอ็มดี) บขส.ทำหนังสือถึง ผู้ว่า รฟท. ก่อนทำหนังสือรายงานกระทรวงคมนาคมเพื่อให้เจรจาร่วมทั้ง 3 ฝ่าย โดยมีกระทรวงคมนาคมเป็นหน่วยงานกลางพิจารณาอีกครั้ง จากนั้นให้ทั้ง 3 หน่วยงานนำไปปฏิบัติต่อไป ตอบส่งต่อ

Jul 25, 2020

Suthichai live : 20 ปีวิกฤตต้มยำกุ้ง!

บทความ วิกฤตต้มยำกุ้



วิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย หรือเรียกทั่วไปในประเทศไทยว่าวิกฤตต้มยำกุ้ง
เป็นช่วงวิกฤตการเงินซึ่งส่งผลกระทบถึงหลายประเทศในทวีปเอเชียเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2540
ก่อให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดการล่มสลายทางเศรษฐกิจทั่วโลกเนื่องจากการแพร่ระบาดทางการเงิน
ผลกระทบของวิกฤตการณ์ดังกล่าวกินเวลาไปจนถึงสิ้นปี พ.ศ. 2541
ในปีเดียวกันนั้น อย่างไรก็ตาม จนถึงปี พ.ศ. 2542

นักวิเคราะห์ได้มองเห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจเอเชียกำลังเริ่มฟื้นตัว

สาเหตุของวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง อาจแบ่งได้ 5 สาเหตุดังนี้

          1. หนี้ต่างประเทศ
ประเทศไทยเกิดการขยายตัวทางระบบการเงิน เกิดการก่อหนี้ และการกู้เงินจากต่างประเทศ 

          2. การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด
ประเทศไทยมีการพัฒนาการผลิตเพื่อส่งออก ที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเกิดการขาดดุลอย่างต่อเนื่อง เพราะการส่งออกที่หดตัว

          3. ฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
อาจเรียกว่าการลงทุนที่เกินตัว โดยช่วง พ.ศ. 2530 ถึง พ.ศ. 2539  กิจการอสังหาริมทรัพย์เติบโตมาก แต่มีการกู้ยืมเงินต่างประเทศ และการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อมาลงทุน ต่อมาราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการจึงเข้ามาลงทุนกันจำนวนมากเพื่อเก็งกำไร ก่อให้เกิด “ภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่”
          4. การดำเนินงานของสถาบันการเงิน

          5. การโจมตีค่าเงินบาท
โดยนักลงทุนต่างชาติ มีการจัดตั้งกองทุน “Hedge Funds” เพื่อโจมตีค่าเงินบาทไทย ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงนำเงินทุนสำรองถึง 24,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐมาปกป้องค่าเงินบาท
เมื่อเงินสำรองมีน้อยลง ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจึงประกาศ “ลอยตัวค่าเงินบาท”
เมื่อ 2 ก.ค. 2540 เป็นการเริ่มต้นวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง     

ผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540

1. เศรษฐกิจประเทศแย่มาก- คนว่างงานเพิ่ม (ปี 2541 มี 1.13 ล้านคน)- รายได้ต่อหัวลดลง

2. การพัฒนาประเทศช้ากว่าที่เคยคาดไว้
3. สวัสดิการทางสังคมน้อยลง

 ผลกระทบในด้านต่างๆ
1. ด้านเศรษฐกิจ

บริษัทต่างๆไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หรือขนาดเล็ก ได้รับผลกระทบโดยถ้วนหน้า จากสาเหตุอำนาจซื้อที่ลดลงของประชาชน และด้วยสาเหตุนี้เองที่ส่งผลลูกโซ่ต่อการผลิตและการซื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่องอัตโนมัติ แม้ว่าวิกฤตครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวม แต่ผลเสียหายที่ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศมากที่สุดคือผลกระทบกับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก นอกจากปัญหาการล้มละลายหรือการปิดกิจการของภาคธุรกิจทุกขนาดแล้ว ปัญหาหนึ่งที่เห็นได้ชัดมากจาก วิกฤตเศรษฐกิจปี พ.ศ.2540 คือ ปัญหาการว่างงานทั้งจากสาเหตุการถูกปลดออกจากการเป็นพนักงานบริษัท และปัญหาการไม่มีตลาดแรงงานรองรับนักเรียนนักศึกษาจบใหม่ เมื่อพิจารณาในระดับมหภาคจะพบว่าวิกฤต 2540 ได้ส่งผลต่อภาวการณ์คลังของประเทศ คือ การเก็บภาษีอาการได้น้อยลง ซึ่งได้ส่งผลต่อเนื่องสู่การใช้จ่ายภาครัฐเพื่อกระตุ้นให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้น้อยลงตามไปด้วย

2. ด้านสังคม
ในด้านสังคม เป็นที่ทราบกันดีกว่าหลังจากเกิดปัญหาวิกฤต 2540 คนไทยโดยเฉพาะระดับกลางและระดับล่างมีคุณภาพชีวิตที่ลดลงเป็นอย่างมาก เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง จำนวนคนจนมีสูงขึ้น ความไม่เท่าเทียมกันของการกระจายรายได้มีมากขึ้น ตลอดจนปัญหาด้านการศึกษาและปัญหาด้านสาธารณสุข

3. ด้านการเกษตร

ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจน้อย
แต่จะได้ผลกระทบจากภาวะธรรมชาติ และราคาพืชผลมากกว่า
ได้เปรียบเพราะเงินบาทอ่อนตัว ราคาผลผลิตเกษตรไทยเลยดูถูกลง
ทำให้ส่งออกได้มากขึ้น ชนบทที่ไปทำงานนอกภาคเกษตร
กลับมาทำเกษตรมากขึ้น



4. เหมืองแร่
การผลิตแร่เชื้อเพลิง เช่น ก๊าซธรรมชาติ ขยายตัว การผลิตยิปซั่ม หินปูน ลิกไนต์ ที่ใช้ในการก่อสร้างลดลงอย่างมาก

5. ด้านอุตสาหกรรม
วัตถุดิบและดอกเบี้ยจากต่างประทศราคาแพง (ค่าเงินบาทลด) ทั้งอุตสาหกรรมภายในและส่งออกชะลอตัวหมด ด้านสิ่งทอขยายตัวน้อย เพราะอยู่ในช่วงปรับการผลิตมาเป็นเครื่องจักรที่มีราคาสูง ค่าแรงแพงกว่าประเทศคู่แข่ง คือ จีน อินโดเนเซีย เวียดนาม

6. การก่อสร้าง ลดลงอย่างมาก

7. การค้า  ลดลงอย่างมาก
8. ด้านบริการ  การท่องเที่ยวนำรายได้เข้าประเทศไทยจำนวนมาก

แนวทางของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปี 2541

1. รัฐเพิ่มงบประมาณขาดดุล
2. เร่งอุปสงค์ โดยเพิ่มสินเชื่อมากขึ้น
3. เปิดและจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น เช่น
- ให้สัญชาติไทยแก่ผู้เข้ามาลงทุน
- ปรับกฎหมายถือที่ดินของคนต่างด้าว
- ออก พรบ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
- ผ่อนปรนด้านภาษี
4. เร่งอุปทานโดยเพิ่มการผลิต โดยเฉพาะด้านเกษตร อุสาหกรรมขนาดเล็ก-ขนาดกลาง (SMEs) และการท่องเที่ยว
5. สร้างงาน – ด้านบริการและก่อสร้างสาธารณูปโภคของรัฐ
6. เพิ่มการส่งออก และลดการนำเข้า
7. แก้ไขสภาพคล่องของสถาบันการเงิน
8. มีการจัดตั้งบริษัท TAMC (บริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งชาติ) เพื่อแก้ปัญหา NPL
ปี 2541 ดุลการค้าไทยเริ่มเกินดุล เพราะการชะลอตัวด้านการสั่งเข้าสินค้าทุนและสินค้าอุปโภคบริโภคแบบฟุ่มเฟือย

สุทธิชัย Live : 20 ปีวิกฤตต้มยำกุ้ง! | 03 ก.ค 60

"ทนง พิทยะ" เป็นรัฐมนตรีคลังวันที่ไทยประกาศลอยค่าเงินบาทวันที่ 2 กรกฎาคม 1997 ตามมาด้วย "วิกฤตต้มยำกุ้ง" ที่ครบ 20 ปีวันนี้ พรุ่งนี้ เขามาร่วมจิบกาแฟใน Suthichai Live Cafe พร้อมตอบคำถามทุกท่าน

‘ศรัณย์วุฒิ’ ลั่น ไม่ได้ดูถูก แต่ไม่มั่นใจทีม ศก.ใหม่แก้วิกฤตได้ แนะคนไทยรักษาเงินสดเท่าชีวิต เจ้านายบ่นก็อดทนไว้



อ่านต่อที่ https://www.matichon.co.th/politics/news_2275061

ส.ส.อุตรดิตถ์ หนึ่งใน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ลุกมาเคลื่อนไหว กรณีคลิปฉาวนักการเมืองคนดัง
ที่คล้ายเสียง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม
และมีแววจะรวมตัวกับเพื่อน ส.ส. ล่ารายชื่อยื่นถอดถอน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ก่อนการประชุมของพรรคเพื่อไทย
เพราะ ส.ส.หลายคนมีความห่วงใยกระแสต่อต้ายและยังทำลายพรรค และอดีตนายกฯ
และอยากให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ตัดสินใจอะไรให้ชัดเจนในฐานะชายชาติทหาร
เพื่อรักษาความสง่างามก่อนจะมีกระบวนการอื่นๆ เพราะอยุู่ต่อไปมีผลเสียมากกว่าผลดี...


อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/person/8666

จังหวัดอุตรดิตถ์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย

  • นายศรัณย์วุฒิ  ศรัณย์เกตุ
  • วัน เดือน ปีเกิด :
    12 กุมภาพันธ์ 2501
  • การศึกษา :
ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีวิทยาลงกรณ์

การจัดการภาครัฐและภาคเอกชนมหาบัณฑิต (การบริหารภาครัฐและภาคเอกชน) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุตรดิตถ์ พ.ศ. 2548, 2554


ที่มา https://hris.parliament.go.th/ss_detail.php?sapa_id=82&ssp_id=21116&lang=th



Jul 24, 2020

“เก็บเงินสด” ทางรอด “วิกฤต” โควิด-19 : ตอบโจทย์ (6 ก.ค. 63)


ผู้ดำเนินรายการ วราวิทย์ ฉิมมณี
ผู้ร่วมรายการ

ศิริวัฒน์ วรเวทวุฒิคุณ เจ้าของแบรนด์ศิริวัฒน์แซนด์วิช ร่วมสนทนาประเด็น


ถอดแนวคิดเก็บเงินสดให้มากที่สุด คำเตือนจากนักธุรกิจผู้ผ่านวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง


ใต้โต๊ะทำงานOT : EP.6 | น้าเน็ก-เผือก-อาร์ต-โบ

















Jul 22, 2020

พระพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2563




© By Nation TV


สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2563
วันที่ 22 กรกฎาคม 2563 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เผยแพร่คำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2563

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2563 ความว่า

รักเอยรักลูก

แม่จึงปลูกคุณธรรมให้รักษา

รดความรักพรวนความดีมีเมตตา

ลูกเติบใหญ่แทนคุณค่าของแผ่นดิน

"เปิ้ล หัทยา" เปิดใจหมดเปลือก หลังสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ยอมรับยังคิดถึง "ตั้ว ศรัณยู" อยู่เสมอ


Komchadluek

"เปิ้ล หัทยา" เปิดใจหมดเปลือก หลังสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ยอมรับเข้มแข็งขึ้น แต่ก็คิดถึง "ตั้ว ศรัณยู" อยู่เสมอ
รายการคุยแซ่บ Show ประจำวันที่ 22 กรกฎาคม 2563 ได้สัมภาษณ์ เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง
ที่มาเปิดใจหลังจากสูญเสียคนรักอย่าง ตั้ว ศรัณยู ด้วยโรคมะเร็งตับระยะสุดท้าย

ณ ตอนนี้หัวใจเป็นยังไงบ้าง ?
เปิ้ล : เราก็ต้องรู้นะ ว่าเราต้องทำอะไร เรารู้ว่าตรงไหนเราควรที่จะนิ่ง
ตรงไหนเราควรจะเป็นยังไงถ้าถามว่ายอมรับมั้ย? เราก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถามว่าโอเคมั้ย?
ก็ไม่ได้เต็มร้อยนะคะ อาจจะด้วยประสบการณ์ที่พอเรามีอายุที่มากขึ้นเราจะรู้แล้วละว่าชีวิตเราต้องเจออะไรบ้าง
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเจอ แต่ตอนนี้เรายังมีชีวิตอยู่ แล้วเราต้องทำยังไง
ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่า จริงๆพี่เปิ้ลไม่ได้ยากจะออกมาพูดอะไรแล้วล่ะ
หลังจบสัมภาษณ์การแถลงข่าวไปเสร็จ แต่วันนี้ที่พี่เปิ้ลอยากมาเตือนใครหลายๆคน

เปิ้ล : คือบางทีพี่เปิ้ลคิดว่าเราอาจจะลืมเรื่องของการดูแลสุขภาพทั้งที่เราคิดว่าเราแข็งแรงแล้ว
พี่ตั้วเป็นคนที่แข็งแรงนะคะ แต่ว่าพี่ตั้วมีไวรัสตับอักเสบบีตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว ตั้งแต่หนุ่มๆ
ซึ่งจริงๆแล้วไวรัสตับอีกเสบบีเนี่ย อาจจะมีหลายคนที่เป็นแล้วมันก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
เพราะพี่ตั้วเขาตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปีนะคะ มีแค่ปี 61 และปี 62 ที่ไม่ได้ไปตรวจ

พี่คิดว่าจุดกำเนิดมันมาจากตรงนั้นเลยหรอ ?
เปิ้ล : พี่ว่าเมื่อไม่ได้ไปตรวจร่างกายก็เลยไม่รู้ว่ามันไปถึงไหนแล้ว เพราะว่าทุกปีตรวจร่างกายเราจะรู้
เพราะเวลาเช็กร่างกายเราจะเช็กหมดเลยว่า ค่าตับเป็นยังไง สภาพร่างกายเป็นยังไง
พี่ตั้วจะรู้หมดทุกอย่าง แต่ว่าสองปี อาจจะงานหนัก และอาจจะคิดว่าตัวเองแข็งแรง
เป็นมาตั้งนานยังไม่เห็นเป็นอะไร แล้วตับอาจจะไปทำงานหนักตอนนั้นรึป่าวมันก็ไม่แน่ใจ

สาเหตุที่มีการลามไปถึงขั้นนั้น พี่เปิ้ลคิดว่ามันเกิดจากอะไร ?
เปิ้ล : อาจจะทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เครียด หรือบางอย่างที่เราไม่ทราบว่า
ทำไมตับถึงทำงานหนักเกินไปจนกระทั่งตับอักเสบกลายพันธุ์เป็นมะเร็ง
แต่พี่ตั้วเป็นคนออกกำลังกาย เลือกทานอาหารที่ดีๆ
อาหารพี่ว่าอาจจะมีจุดพลาดอะไรบางอย่าง

แสดงว่าเรื่องการใส่ใจ ตรวจสุขภาพ การดูแลตัวเอง ณ วันนี้เป็นเรื่องสำคัญ ?
เปิ้ล : สำคัญพี่เปิ้ลพูดจริงๆว่าพี่เปิ้ลตรวจร่างกายตอนอายุแตะเลข 5 ที่ใกล้ๆจะเลข 6 ละ
ไม่ค่อยเช็กร่างกายเลย เพราะคิดว่าตัวเองแข็งแรง
แต่ก็มีเช็กบ้างแต่เป็นการเช็กที่ไม่ละเอียด แต่ว่าตัวเองมีคลอเรสเตอรอลที่สูงประมาณ 200
ถ้าเราไม่ตรวจร่างกายเราคงไม่รู้ว่าเราคลอเรสเตอรอลสูง
ส่วนไวรัสตับอักเสบ B เราไม่เป็น ลูกทั้งสองก็ไม่เป็น

กลับมาทางสภาพจิตใจพี่เปิ้ล เริ่มกลับมาทำงานแล้ว เริ่มลุยงานเต็มที่ ?
เปิ้ล : ก่อนที่พี่เปิ้ลจะกลับมาทำงาน พี่เปิ้ลก็นิ่งอยู่พักใหญ่นะ
คือจัดรายการนี่ยังจัดรายการวิทยุไม่ได้ ก็ต้องแบบเลิกจัดช่วงนั้น เพราะจัดไม่ได้

ส่วนทางด้าน หนุน หนัง พี่เปิ้ลว่าโชคดีที่หนุนเรียนจบพอดี
ส่วนน้องหนังก็กลับมาจากเกาหลี ดันเจอโควิด-19 ก็ยังไม่ได้กลับไปเกาหลี
เลยได้มีเวลาอยู่ในช่วงเวลาสุดท้ายของพี่ตั้ว ซึ่งมันก็แบบกระทันหัน เราก็อึ้งๆไป

ณ เวลานี้พี่เปิ้ลเข้าใจกับการสูญเสียแล้วรึยัง แล้วแข็งแกร่งขึ้นมากขึ้นมั้ย ?

เปิ้ล : มันต้องเข้าใจนะ ส่วนลูกพี่ว่าเขาเข้าใจแต่เขาก็ยังเจอคำถามว่าทำไม ถ้าเราหาทางเลือกอื่น
ถ้ามันมีแบบนี้ มันอาจจะไม่ถึงขั้นนี้มั้ยแม่ หรือทำไมพ่อน่าจะบอก คือพี่ตั้ว
เขาเลือกที่จะไม่พูด พี่ตั้วเป็นคนที่ไม่ใช่คนที่พูดเยอะอยู่แล้ว คือเขาจะพูดอะไรที่รู้สึกว่าเป็นประโยชน์ต่อชีวิต
เขาจะไม่ค่อยพูด ฉันเป็นนู้น ฉันเป็นนี่ พี่ตั้วแทบจะไม่บอกใครเลยว่าตัวเองเป็นอะไร
แล้วตอนนั้นอยู่ในช่วงโควิด-19 เขาคงคิดว่าเราจะไปนั่งบอกใครทำไมว่าเราเป็นอะไรคนอื่นเขาก็มีปัญหาของเขาเยอะแยะแล้ว
ทั่วโลกเขาก็มีปัญหาเรื่องโควิด เราจะต้องบอกด้วยหรอว่าเราเป็นอะไร เราก็ดูแลรักษาของเราไป
จนกระทั่งน้องหนุน น้องหนัง ก็บอกว่าเราน่าจะไปหาวิธีอื่นที่ให้มันมีหลายๆทาง
เขาก็ยังคงมีอะไรคาใจของเขาอยู่

ถึงแม้ว่าพี่ตั้วจะไม่อยู่แล้ว พี่ยังคงมีความรู้สึกว่า นั่งอยู่กับลูกพี่ตั้วยังคงอยู่รอบตัวหรอ?
เปิ้ล : อืม พี่ก็ยังรู้สึกว่าแบบเหมือนพี่ตั้วยังอยู่ ไม่มันคงเป็นแค่ความรู้สึกมั้ง
บางทีมันก็บอกไม่ได้นะ ความรู้สึกบางทีมันก็ไม่มีเหตุผล มันเป็นเพียงแค่ความรู้สึกของเราเท่านั้นเอง

พี่เปิ้ลมีฝันถึงพี่ตั้วในช่วง 7 วันแรก หรือ 10 วันแรกบ้างมั้ย ตามความเชื่อโบราณ
ถ้าฝันพี่ตั้วเขาจะกลับมา พี่เปิ้ลมีฝันบ้างมั้ย ?

เปิ้ล : ไม่มีเลยค่ะ แต่อาจจะมีได้กลิ่น ถ้าฝันไม่มีเลย แต่ส่วนน้องหนุน น้องหนัง
เขาสงสัยว่าทำไมเวลาเจอคนนั้น คนนี้เขาจะบอกเขาฝันถึงพี่ตั้ว แล้วทำไมเราไม่ฝัน

ประโยคสุดท้ายที่พี่ตั้วพูด เขาพูดอะไรบ้าง ?

เปิ้ล : ไม่แน่ใจ คือที่แปลกคือพี่ตั้วจากไปวันที่ 10 เป็นวันเดียวกับที่แม่พี่ตั้วเสียชีวิต
ซึ่งความรู้สึกวันนั้นทุกคนพยายามขอให้ผ่านวันนั้นไป เพราะทุกคนรู้ไง ภาวนา
ขอให้ผ่านวันนี้ไป ขอให้ผ่านวันนี้ไป แต่เขาก็เลือกที่จะไปวันเดียวกัน

หลังจากที่ผ่านเรื่องนี้มา พี่และลูกๆคุยกันมากขึ้น ส่วนใหญ่คุยเรื่องอะไรกัน ?
เปิ้ล : คือเราเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างสนิทกันเยอะ บางที 22.00-00.00 น. นอนกับหนุน
หลังเที่ยงคืนไปนอนกับหนัง เราก็จะคุยกัน ส่วนทางด้านหนุนเนี่ยจะเห็นพี่ตั้วเริ่มมีอาการเจ็บหลังที่หกล้มตั้งแต่ช่วงตุลาคมปีที่แล้ว
หนุนเลยค่อนข้างที่จะเข้าใจเห็นอาการของพ่อ แต่หนังอยู่เกาหลีมาตลอด หนังเขาก็จะมีคำถามเยอะ เช่น
แม่ว่าพ่ออยู่แถวนี้มั้ย แม่ว่าพ่อจะรู้มั้ยว่าเราคิดถึงเขา พ่อจะรู้มั้ยว่าหนูเนี่ยนะโมโหจริงๆทำไมพ่อต้องไป
ทำไมไม่มาหาเรา ทำไมต้องไปหาคนอื่น ซึ่งน้องหนังเขาจะมีคำถามตลอด

แล้วปลอบใจกันยังไง ?
เปิ้ล : เราก็ให้กำลังใจกันมากกว่า อย่างเช่นหนังก็ต้องกลับไปเกาหลี
มีสิ่งที่หนังต้องทำ ส่วนน้องหนุนเขาเรียนจบแล้วเขาทราบว่าพ่อมีละครที่ค้างอยู่
ก็ได้มีการประชุมพูดคุย ในที่ประชุมก็มีเพื่อนสนิทพี่ตั้วอย่างพี่หมีเขาเป็นผู้กำกับเหมือนกัน
เขาก็จะมาช่วยกำกับ ส่วนพี่ออฟก็อาจจะมาช่วยบ้างเพราะพี่ออฟเองก็งานเยอะ
แสดงว่าหลังจากนี้ละคร หนัง ที่พี่ตั้วสร้างมาคนที่จะมาสืบทอดก็น้องหนุน ?

เปิ้ล : คิดว่ายังต้องเรียนรู้อีกเยอะ แต่ว่าเราก็มีทีมงานที่แข็งแรงนะคะ
เพราะเรามีทีมงานที่ทำด้วยกันมาค่อนข้างจะหลายเรื่องทีมงานก็ยังคุยกันอยู่
ก็ยังมาประชุมบท มาดูตรงไหนที่จะต้องถ่ายต่อ แต่ก็ยังมีแอบห่วงเหมือนกัน
เพราะว่าละครที่ถ่ายอยู่ค่อนข้างยาก

ทางด้านทีมงาน ลูกน้อง เวลาประชุมจะต้องเจอพี่ตั้ว แต่ตอนนี้ไม่เจอ
เขามีความรู้สึกยังไงกันบ้างคะ ?

เปิ้ล : ทีมงานก้คงคิดถึงพี่ตั้ว เพราะว่าเขาผูกพันธ์กันนะคะ
คือเขาทำงานกันมานานมาก

พี่ตั้ว-พี่อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ คือตำนานที่แสดงละคร และสนิทกัน เปิ้ล : พี่อ๊อฟพูดยังไงบ้าง ?

เปิ้ล : พี่เปิ้ลว่าพี่อ๊อฟน่าจะเป็นคนที่รู้ใจพี่ตั้วหลายเรื่อง
ตั้งแต่ช่วงงานแห่ขันหมากพี่อ๊อฟเป็นคนเตรียมงานตลอดเลย
อาจจะมีบ้างที่ต่างคนต่างงานยุ่งก็อาจจะมีหายๆไปบ้าง
แต่พี่อ๊อฟก็มาตั้งแต่ช่วงก่อนสุดท้ายก่อนที่พี่ตั้วจะจากไป พี่อ๊อฟก็มาเยี่ยมตลอดเลย

ถ้าสมมุติพี่ตั้วดูรายการอยู่อยากบอกอะไรเขา ?
เปิ้ล : ก็จะบอกว่าช่วยมาหาที่บ้านหน่อย ช่วยมานั่งเวลาเรา 3 คนคุยกัน
เพราะเวลาคุยกันพี่ตั้วชอบบอกเราพูดวกไปวนมา บางทีมันอยู่เรื่องเดิมอยู่พี่ตั้วจะบอกว่า
ยังไม่เปลี่ยนเรื่องคุยกันอีกหรอ 3 คนเนี่ย อยากให้มานั่งคุยกับเรา

จริงๆพี่เเปิ้ลเป็นคนกลัวผีมากนะ ตั้งแต่พี่ตั้วจากไป
ไม่รู้ทำไมเราถึงไม่กลัวอีกเลย เขาจะมาในรูปแบบไหนก็แค่อยากรู้เขาอยู่ไหน
ถ้าสมมุติว่าพี่ตั้วมาหาพี่ยืนต่อหน้าเลย พี่จะพูดอะไรกับเขาประโยคแรก ?

จริงๆพี่เเปิ้ลเป็นคนกลัวผีมากนะ ตั้งแต่พี่ตั้วจากไป ไม่รู้ทำไมเราถึงไม่กลัวอีกเลย

เขาจะมาในรูปแบบไหนก็แค่อยากรู้เขาอยู่ไหน ทำอะไร เป็นยังไง สบายดีมั้ย เจอใครบ้าง







Jul 20, 2020

สิ้นศิลปินแห่งชาติ "พิมพ์ปฏิภาณ พึ่งธรรมจิตต์" | เดลินิวส์


เดลินิวส์
จันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2563 เวลา 12.00 น.
อ่านต่อที่ : https://www.dailynews.co.th/education/785740



“พิมพ์ปฏิภาณ พึ่งธรรมจิตต์” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) พ.ศ.2560 ผู้ประพันธ์เพลงดัง “แม่สาย- -เทพธิดาดอย- โชคดีที่มีในหลวง” เสียชีวิตเนื่องจากหัวใจล้มเหลว สิริรวมอายุ 82 ปี 5 เดือน กำหนดสวดพระอภิธรรมศพวันที่ 21-27 ก.ค. เวลา 19.00 น. ณ วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) เปิดเผยว่า นายพิมพ์ปฏิภาณ  พึ่งธรรมจิตต์  ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) พ.ศ.2560 ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2563  เวลา 14.00 น. (โดยประมาณ )
ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์  เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เนื่องจากหัวใจล้มเหลว  สิริรวมอายุ 82 ปี 5 เดือน
โดยทางญาติแจ้งว่า ได้ดำเนินการขอพระราชน้ำหลวงอาบศพ ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2563 เวลา 17.00 น. ณ ศาลา 6 และกำหนดสวดพระอภิธรรมศพวันที่ 21-27กรกฎาคม 2563 เวลา 19.00  น. ณ ศาลา 6 วัดบัวขวัญ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี

และเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศล เป็นเวลา 100 วัน โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพให้ต่อไป
อธิบดี สวธ. กล่าวด้วยว่า สวธ. ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินการยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ นอกจากจะขอพระราชทานเพลิงศพแล้ว

ยังให้การช่วยเหลือด้านต่าง ๆ ด้วยการมอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิตเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพ จำนวน 20,000 บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 150,000บาท ตามระเบียบสวัสดิการของศิลปินแห่งชาติ

สำหรับประวัติของ นายพิมพ์ปฏิภาณ  พึ่งธรรมจิตต์ เกิดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2481 ที่ อ.ยี่งอ จังหวัดนราธิวาส  ได้ฝึกการเล่นดนตรีอยู่ในวงโยธวาทิตของโรงเรียน และได้หัดเรียนเครื่องดนตรีชิ้นแรกคือ “ปิคโคโล่” ต่อมา ได้ร่วมบรรเลงกับวงแตรวงของโรงเรียนขณะที่ศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนสันติราษฎร์บำรุง ได้มีโอกาสเรียนดนตรีในระดับที่สูงขึ้นจากครูผู้สอนจากวงดุริยางค์ ของกรมตำรวจ พ.ศ.2499  ก็ได้ศึกษาด้านดนตรีที่สูงขึ้นกับอาจารย์ อาวุธ เมฆเรียบ  ซึ่งเป็นอาจารย์สอนทางด้านดนตรีของโรงเรียนพณิชย์การพระนครด้วย ในระหว่างที่ศึกษาได้มีโอกาสเล่นดนตรีในงานแสดงต่างๆ และต่อมาได้สมัครเรียนด้านการเรียบเรียงเสียงประสานกับอาจารย์แมนรัตน์ ศรีกรานนท์  ศิลปินแห่งชาติ ที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการ ปทุมวัน รุ่นแรกอีกด้วย

ในพ.ศ.2505 -2506  พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จทรงดนตรีร่วมกับนักดนตรีของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วงดนตรี TU Band  และนายพิมพ์ปฏิภาณ  ยังเป็นผู้หนึ่งที่ได้ร่วมเล่นแซกโซโฟนในวง ด้วยเป็นผู้ที่มีใจร่าเริง แจ่มใสและมีอารมณ์ดีอยู่เสมอ และสามารถพูดภาษามลายู (ยาวี) ได้อย่างคล่องแคล่ว และออกเสียงได้อย่างชัดเจน จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแต่งเพลงและการเรียบเรียงเสียงประสาน

โดยใช้วิธีการสร้างแนวทำนองให้สอดคล้องกับคำร้อง เนื้อหาและความหมายของเพลง รวมทั้งใช้เทคนิคแบบดนตรีสากลและเลือกใช้เครื่องดนตรีได้อย่างเหมาะสมสื่อถึงอารมณ์ของเพลงได้อย่างไพเราะ

ผลงานประพันธ์ของนายพิมพ์ปฏิภาณ พึ่งธรรมจิตต์  เช่น เพลงแม่สาย เพลงพะวงรัก เพลงเทพธิดาดอย เพลงโชคดีที่มีในหลวง เพลงสมเด็จย่าของชาวไทย เพลงพุทธานุภาพ เพลงมหาราชินี เป็นต้น ยังคงสร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งได้สร้างห้องบันทึกเสียง เป็นที่ถ่ายทอด ให้ความรู้และเทคนิคในการร้องเพลงให้แก่นักร้องและผู้ที่มาบันทึกเสียง ทั้งยังควบคุม การฝึกฝนร้องเพลงให้กับกลุ่มที่มาร้องเพลงประสานเสียงสร้างศิลปินลูกกรุงหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง   จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) พ.ศ.2560