เหนือสิ่งอื่นใด
- เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.๙) เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี 9 มิถุนายน 2559
- พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.๙) ณ วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๔๙
- The 60th Anniversary Celebrations of his Majesty King Bhumibol Adulyadej's Accession to the Throne
- 63 ปี "พระเจ้าอยู่หัว ร.๙" ผู้นำที่ไม่เหมือนใครในโลก นำพาประเทศ "อยู่ดีมีสุข"
- Supreme Artist
- เศรษฐกิจพอเพียง : Sufficiency Economy พ.ศ. ๒๕๖๓
- ทศพิธราชธรรม ๑
- ทศพิธราชธรรม ๒
- ๑๐๐ ปี สวรรคตกาลสมเด็จพระปิยมหาราช
- ร.๙ ทรงห่วงเหตุการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน
- พระบรมราโชวาท ร.๙
- "พูดแล้วต้องทํา" พระบรมราโชวาท "ในหลวง ร.๙" ทรงเตือน-ครม.
- ร. ๙ ทรงพระราชทานแก่พลเอกสุจินดา คราประยูร และพลตรีจำลอง ศรีเมือง
- ร.๙ ทรงรับสั่งรมต.ถวายสัตย์ฯ
- ร.๙ ทรงมีพระบรมราโชวาทแก่ตุลาการทหาร
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ทรงป้องกันน้ำท่วม ปีพุทธศักราช ๒๕๓๘
- “ในหลวง ร.๙” ทรงฝากองคมนตรีปลูกฝังคนไทยเอื้อเฟื้อ นึกถึงส่วนรวม
- “ในหลวง ร.๙” เสด็จฯ ทอดพระเนตรดนตรีที่ศิริราช
- "ในหลวง ร.๙" เสด็จเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์-สะพานภูมิพล 1,2
- ในหลวง ร. ๙ เสด็จฯทอดพระเนตรคอนเสิร์ตแจ๊ส
- ๕ ธันวาคม ๒๕๕๒
- น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ"ในหลวง ร.๙"กับ"ภูมิสารสนเทศ"
- ในหลวง ร.๙ ทรงพระราชทาน ส.ค.ส.2554 แก่พสกนิกรชาวไทย
- 'ในหลวง ร.๙' ทรงมีพระราชดำรัสให้คนไทย ทำหน้าที่ ไม่ประมาท มีสติ : ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓
- วันฉัตรมงคล (ร.๙)
- ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙
- พระราชดำรัสสุดท้าย ในหลวง รัชกาลที่ 9
- ๑๒ สิงหา วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
- "สมเด็จย่า"
- เจ้านายเล็กๆ ยุวกษัตริย์
- อาลัยพระพี่นางฯ
- ในหลวงรัชกาลที่ ๙ โปรดให้นายโคฟี อันนัน เฝ้าถวายรางวัลฯ (๒๕ พ.ค.๔๙)
- "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร" มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการวิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์
- พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล
- ศิลปาชีพ : ประจักษ์พยานของความรัก ผูกพัน และห่วงใย
- เพลงสรรเสริญพระบารมี
- ชีวิตที่หมุนไปไม่หยุดยั้ง...พระอารมณ์ขันของพระเทพฯ
- ถ้าเดินเรื่อยไปย่อมถึงปลายทาง นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนฯ
- สมเด็จพระเทพฯ กับการส่งเสริมไอที เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
- สมเด็จพระเทพฯ สนพระทัยเมล็ดพันธุ์ช่วยหล่อเลี้ยงประชากร
- เครือข่ายกาญจนาภิเษก
- สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- ทรงพระเจริญ
- ของขวัญจากก้อนดิน
- ต้นไม้ของพ่อ
- รูปที่มีทุกบ้าน
- นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ
- ติโต
- ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙
- พระราชนิพนธ์ พระมหาชนก ที่ทุกคนพึงอ่าน
- โครงการแก้มลิง
- ทำไมเรารัก "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร"
Custom Search
Dec 17, 2017
นิตยสารไม่ตาย เน้นสร้างจุดต่าง
เปิดเผยว่า ธุรกิจนิตยสารอยู่ในขาลง แต่ยังไม่ถึงกับตาย โดยมองว่านิตยสารที่เจาะเนื้อหาเฉพาะกลุ่มยังคงอยู่ได้ โดยผู้ประกอบการจะต้องปรับตัว และทำนิตยสารที่สร้างความแตกต่าง ลงลึกไปยังกลุ่มคนอ่าน
- http://teetwo.blogspot.com/2008/01/minimalist.html
- http://teetwo.blogspot.com/2011/01/blog-post_11.html
ใช่เธอใช่เลย Ost.พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง (2017)
เพลง ใช่เธอใช่เลย (เพลงประกอบละคร พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง) (2017)
ศิลปิน นนท์ ธนนท์
คำร้อง ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์
ทำนอง/เรียบเรียง เต็น ธีรภัค
เต็น - ธีรภัค มณีโชติ รัฐบุรุษแห่งเสียงเพลง
- http://teetwo.blogspot.com/2017/12/blog-post_16.html
- http://teetwo.blogspot.com/2017/12/ost.html
- http://teetwo.blogspot.com/2017/04/blog-post_28.html
- https://teetwo.blogspot.com/2021/09/ost-official-mv.html
"เต็น" ทำเพลงด้วยหัวใจ สร้างคุณค่าประดับวงการ
เสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2560
อีกหนึ่งศิลปินคุณภาพที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ
ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันตลอดสำหรับศิลปิน
และโปรดิวเซอร์คนเก่ง เต็น-ธีรภัค มณีโชติ
อีกหนึ่งศิลปินคุณภาพที่สร้างสรรค์ผลงานดี ๆ
ออกมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันตลอดสำหรับศิลปิน
และโปรดิวเซอร์คนเก่ง เต็น-ธีรภัค มณีโชติ
ที่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาหนุ่มคนนี้มีซิงเกิ้ลเพลงสุดพิเศษ
อาทิ ดีลีท, ราชสีห์กับหนู และเคมี
ที่บอกเล่าเรื่องราวความรัก 5 รูปแบบ
ผ่านผู้ชายที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทั้ง 5 คน
ในชื่อโปรเจคท์พิเศษ “ซิมเปิ้ล แมน” (Simple man)
ซึ่ง “ศิรินทร์”
ได้มีโอกาสพูดคุยกับหนุ่มเต็นถึงการทำงานครั้งนี้
และการปรับตัวของคนดนตรีใน
วันที่วงการเพลงเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจะเป็นอย่างไร
ติดตามในบทสัมภาษณ์ได้เลยค่ะ
จุดเริ่มต้นบนเส้นทางนักดนตรี?
“อาชีพนักดนตรีเป็นความใฝ่ฝันของผมมาตั้งแต่เด็ก
พอเข้ามหาวิทยาลัยมีโอกาสได้ไปอัดเพลงในค่ายของ
พี่เบิร์ด-สุทธิพงศ์ กับ พี่ฮาร์ท-กุลพงษ์
แล้วก็ทำงานในห้องอัดมาเรื่อย ๆ พอเรียนจบก็ไป
เป็นครูสอนดนตรี เล่นแบ๊กอัพให้ศิลปิน
ระหว่างนั้นก็ชวน ดิษ-ประดิษฐ์ วรสุทธิพิสิทธิ์,
หนึ่ง-พนัส อภิชาติพงศ์บุตร และ เชษฐ์-วรเชษฐ์ เอมเปีย
รวมตัวกันเป็นวง “สมาย บัฟฟาโล่” ในปี 2538
มีอัลบั้มแรกกับค่าย อีเอ็มไอ อีไมเนอร์
เปิดตัวด้วยเพลง “ดีเกินไป” ประสบความสำเร็จมาก
จากนั้นอัลบั้มที่ 4 เราย้ายมาอยู่แกรมมี่
พออัลบั้มชุดที่ 5 สมาชิกทุกคนรู้สึกอิ่มตัว
และตัดสินใจหยุดทำวง
ผมหันมาจับงานเบื้องหลังเต็มตัว
ก่อนจะกลับมาทำอัลบั้มเดี่ยว “เต็น โซโล่”
จากนั้นก็ทำทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังสลับกันไป
ปัจจุบันดูแลงานเกี่ยวกับดนตรีให้
การทำงานในปัจจุบันแตกต่างจากสมัยก่อนอย่างไรบ้าง?
“ในตัวเนื้องานไม่มีความแตกต่างกันเลยครับ
แต่ภาษาที่ใช้ในการแต่งเพลงมีความกระด้างมากขึ้น
ตามความนิยมของคนสมัยนี้ที่ต้องการความรวดเร็ว
เน้นความสะใจ ชัดเจนตรงไปตรงมาก
ต่างจากสมัยก่อนที่เนื้อเพลงมีถ้อยคำสละสลวย
ภาษาคล้องจอง กว่าจะพูดคำว่ารักได้ต้องพรรณนาอยู่หลายคำ
ซึ่งคนทำงานต้องเปิดใจยอมรับกับความเปลี่ยนแปลง
ทำเพลงให้ร่วมสมัยแต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่ความเป็นตัวเองลงไป
ถ้าในเรื่องของรายได้สมัยนี้ไม่ได้มาจากการขายเทป ซีดี
แต่มาจากการดาวน์โหลด และงานจ้างเป็นหลัก
ผมว่าก็เป็นข้อดีนะ
เพราะบางเพลงก็มีคนมาขอลิขสิทธิ์ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ
ศิลปินมีเพลง 1-2 เพลง
ก็สามารถทัวร์คอนเสิร์ตได้เป็นปี ๆ แล้ว”
โปรเจคท์ซิม เปิ้ลแมน มีที่ มาอย่างไร?
“โปรเจคท์นี้ผมตั้งใจแต่งเพลงเพื่อบอกเล่าเรื่องราว
ความรักในมุมของผู้ชาย ผ่าน 5
นักร้องชายที่มีความโดดเด่นในตัวเอง
เพลงแรก “ดีลีท” (Delete)
เป็นเรื่องราวผู้ชายอกหักที่อยากจะลบความรัก
ที่เพิ่งจบลงออกจากชีวิต ถ่ายทอดโดย แหนม-รณเดช
ต่อมาคือ “ราชสีห์กับหนู” โดย “สิงโต นำโชค”
ที่มาบอกเล่าเรื่องราวของผู้ชายเกเรที่
ยอมหยุดทุกอย่างไว้ที่ครอบครัว
ล่าสุดกับคือเพลง “เคมี” เพลงรักจังหวะสนุกพูดถึง
ความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ต่างกันมากแต่ลงตัว
โดย “โย่งอาร์มแชร์” ฟีดแบ็กจากแฟน ๆ
ก็ค่อนข้างโอเค ดีใจที่ส่วนใหญ่เข้ามาชื่นชม
ส่วนอีก 2 เพลงน่าจะปล่อยออกมาให้ได้ฟังกันเร็ว ๆ นี้ครับ”
แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงของเรามาจากไหน?
“ผมเป็นคนไม่ชอบคิดเพลงจากจินตนาการ
เพราะกลัวจะทำออกมาได้ไม่ดี
ฉะนั้นทุกเพลงที่ผมแต่งมาจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงรอบ ๆ ตัว
ทั้งที่เกิดขึ้นกับตัวเองและคนใกล้ตัว
การเขียนเพลงจากความจริงทำให้เราได้ตกตะกอน
และรู้สึกตามไปกับเรื่องราวเหล่านั้น
ทุกตัวหนังสือกลั่นออกมาจากหัวใจ
ผมไม่สนด้วยว่าเพลงนั้นจะดังหรือเปล่า
ขอแค่คนฟังมีความสุขกับเพลงนั้น ๆ
เราเองก็สนุกกับการคิดค้นไอเดียในการแต่งเพลง
จะหยุดทำก็ต่อเมื่อสมองคิดอะไรไม่ออกแล้ว
อย่างเพลง นับหนึ่ง ถือว่าเป็น
เพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของผม
เพราะเป็นเพลงที่แต่งและร้องด้วยเสียงของตัวเอง
ในฐานะศิลปินเดี่ยวครั้งแรก
ทำให้ทุกคนรู้ว่าผมร้องเพลงได้ และจดจำผมในชื่อของ
เต็น-ธีรภัค อีกเพลงคือเพลง “อาย”
ที่แต่งให้ สิงโต-นำโชค ร้องเพลงนี้ดังมาก
ทุกคนร้องตามได้หมดครับ (ยิ้ม)”
ธุรกิจเพลงค่อนข้างซบเซา มีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร?
“ผมมองว่ามันคือช่วงผลัดใบ
และทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป เพราะก่อนหน้านี้
ก็มีช่วงหนึ่งที่วงการเพลงย่ำแย่สุด ๆ
เพลงน่าเบื่อมาก แต่อยู่ ๆ วงการก็เข้าสู่ยุคเพลงอัลเทอเนทีฟ
นักร้องหันไปออกเพลงกับค่ายอินดี้มากขึ้น
เป็นปรากฏการณ์ใหม่ของวงการเพลง
แต่ผมเชื่อว่าดนตรีไม่มีวันตาย
มียุคนึงที่เขาจะไม่ให้เล่นดนตรีไทย สุดท้ายยังรอดมาได้
แค่นี้เองยังไงก็รอด
ดูเหมือนอยู่ในช่วงอันตราย แต่ถ้าอยู่ได้
เราจะอยู่รอดและอยู่ได้นานบนเส้นทางนี้
ตอนนี้เราทำได้แค่รอ พยุงตัวเอง
และปรับตัวให้เข้ากับธุรกิจเพลงในปัจจุบัน
ท้อไปก็ไม่มีประโยชน์ สำหรับผมแล้วเพลง
คืองานศิลปะที่เราถ่ายทอดออกมา
คาดหวังให้คนชอบและมีรายได้จากตรงนั้น
ถ้าไม่ได้ตามที่หวังต้องบอกตัวเองว่าไม่เป็นไร
ถ้ายังรักและมีแรงก็ทำต่อ ช่วยกันทำเพลงดี ๆ
เราก็สร้างคุณค่าประดับวงการ
และสร้างความภูมิใจให้ลูกหลานได้ครับ”
แพลนอนาคตในวงการของตัวเองไว้อย่างไรบ้าง?
“ผมจะเป็นโปรดิวเซอร์ นักร้อง
นักแต่งเพลงอย่างนี้ตลอดไป
ดนตรีมันเข้าไปอยู่ในสายเลือดแล้ว
ไม่ว่าจะหลุดไปอยู่ในอาชีพไหนก็ยังมีคนให้
ผมทำงานเกี่ยวกับดนตรีอยู่ดี
แต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่นร้องบ้าง ร้องเองบ้าง
ทำโปรเจคท์เพลงที่อยากทำไปเรื่อย ๆ ครับ
แค่นี้ก็แฮปปี้ที่สุดแล้ว สำหรับน้อง ๆ ศิลปินรุ่นใหม่ ๆ
ที่เพิ่งจะเข้ามาในวงการ
ถ้าน้องรักในสิ่งนี้จริง ๆ ทำไปเลยครับ ทำให้ดีที่สุด
ไม่ต้องคำนึงถึงรายได้
ถือซะว่าเราได้ทำผลงานดี ๆ ฝากไว้ให้คนไทยได้ฟังกัน
ที่สำคัญต้องไม่หยุดพัฒนาตัวเองครับ”
ฝากอะไรถึงแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานของเราสักหน่อย?
“ฝากติดตามความรักหลาย ๆ แง่มุมของผู้ชายทั้ง 5 คน
ในโปรเจคท์ซิมเปิ้ลแมนของผมด้วยนะครับ
ตอนนี้ปล่อยออกมาให้ฟังกัน 3 เพลงแล้ว
ส่วนอีก 2 เพลงที่เหลือ อีกไม่นานเกินรอคงได้ฟังกัน
ทุกเพลงแต่งออกมาจากหัวใจผมจริง ๆ
หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะครับสุดท้ายนี้
ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนที่คอยติดตาม
และเป็นกำลังใจมาให้ผมตลอด
ขอบคุณมาก ๆ ครับ”
จากการนั่งพูดคุยกันในครั้งนี้เราสัมผัสได้ถึง
ความตั้งใจทำเพลงดี ๆ
ที่กลั่นออกมาจากจิตวิญญาณเพื่อคนฟังโดยแท้จริง
ฝากแฟน ๆเป็นกำลังใจให้กับศิลปินฝีมือดีคนดี
ในการสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ
ประดับวงการเพลงของเราต่อไปด้วยนะคะ
ศิรินทร์
https://youtu.be/DVl0dGaJXo0 (เต็น ธีรภัค สัมภาษณ์พิเศษ@ GuitarSiam.com)
https://youtu.be/dBEJk-NiNk8 (E-D-S Music Tonight: เต็น ธีรภัค + สิงโต นำโชค)
https://youtu.be/SjEQrlpshSw (สิงโต นำโชค - อาย (แจ่มจันทร์ โปรเจค)
Dec 16, 2017
วันนี้คุณประสบความสำเร็จแล้วหรือยังครับ?
ขอบคุณพี่ Boy's Thought ครับผม
Singto Numchok สิงโต นำโชค
- http://teetwo.blogspot.com/2017/02/blog-post_18.html
- https://teetwo.blogspot.com/2018/11/blog-post_12.html
ตุ๊ดส์review
Boy's Thought
ในอีกแง่มุมที่งดงามมาก จากรายการ The Voice
สิงโต นำโชค พูดไว้ได้ดีมาก ๆ
เขาพูดกับ 2 ผู้เข้าประกวด
ที่จะต้องมีใครคนใดคนนึงตกรอบว่า
"มีคนถามผมว่าถ้าไม่ประสบความสำเร็จทางด้านดนตรี
ชีวิตนี้จะไปทำอะไรต่อ?
ผมก็เลยถามเขากลับไปว่า
แล้วอะไรคือคำว่าประสบความสำเร็จทางด้านดนตรี?
ต้องมีชื่อเสียงโด่งดังใช่มั้ย? ต้องมีเพลงฮิตใช่มั้ย?
แบบนี้ใช่มั้ยถึงจะเรียกว่าสำเร็จ ถึงจะมีความสุข?"
ชายสวมหมวกผู้ทำให้อูคูเลเล่ฮิตทั่วเมือง พูดต่อว่า
"ผมว่าจริงๆ แล้วการที่เราได้ขึ้นมาร้องเพลงบนเวที
การที่เราได้หยิบกีตาร์มาร้องเพลงในร้านอาหาร
ผมว่าสิ่งนี้แหละคือความสำเร็จแล้ว
"ถ้ากลับบ้านไป มีคนถามคุณว่าประสบความสำเร็จมั้ย?
ให้คุณตอบไปเลยว่าประสบความสำเร็จ
ตั้งแต่วันที่กล้าก้าวเข้ามาประกวดบนเวทีแห่งนี้แล้ว
เพราะฉะนั้น ไม่มีเหตุผลเลยที่คุณจะหยุดร้องเพลง
เพียงเพราะไม่ได้ถูกผมเลือกให้เข้ารอบต่อ"
พอสิงโต นำโชคพูดจบ คนก็ปรบมือกันทั้งห้องส่ง
เป็นไงครับ ฟังแล้วน้ำตาจิไหล
แม้แต่ตัวคนพูดเอง ถ้าผมตาไม่ฝาด
เหมือนสิงโตจะน้ำตาคลอไปกับคำพูดของเขาเองด้วยซ้ำ
ฟังแล้วผมก็นึกเรื่องราวของเราหลายคน
คนที่ชอบนิยามคำว่า "ประสบความสำเร็จ" ได้คับแคบเหลือเกิน
คับแคบจนมันบีบรัดหัวใจให้เราไม่มีความสุข
เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ
คือสิ่งที่เราหลายคนเอามาเป็นหลักวัดความสำเร็จ
โดยละเลยแง่มุมอื่น ๆ ของชีวิตไป
เช่น ความสุขของครอบครัว ความสงบภายในใจ
ที่แย่กว่านั้น เราชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
แล้วเฝ้าบอกตัวเองเสมอว่า ฉันยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะฉันยังมีน้อยกว่าคนอื่น
และที่แย่ที่สุดก็คือ
เราให้ใครก็ไม่รู้มาติดป้ายบอกสรรพคุณตัวเราว่า
แบบนี้เรียกว่าคุณประสบความสำเร็จแล้วนะ
แบบนี้เรียกว่าคุณยังไม่ประสบความสำเร็จ
สิ่งที่ผมอยากจะบอก
และเชื่อว่าเป็นสิ่งเดียวกับที่สิงโต นำโชค ต้องการสื่อ ก็คือ
การประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องของ "ปลายทาง"
แต่มันเป็นเรื่องของ "ระหว่างทาง"
ระหว่างทางที่เราเดินไปในแต่ละวัน
เรากล้าบอกกับตัวเองมั้ยว่า
ฉันมีความสุขในสิ่งที่ทำ
ฉันภูมิใจและรักในสิ่งที่ทำ
ถ้ากล้าบอก กล้าพูดเต็มปาก
เราก็ประสบความสำเร็จไปตั้งนานแล้วล่ะครับ
อย่าเอาความสำเร็จไปแขวนไว้ปลายทาง
แล้วไปรอมีความสุขที่จุดนั้น
แต่จงประสบความสำเร็จในทุกวัน
แล้วชีวิตจะมีความสุขในทุกวัน
วันนี้คุณประสบความสำเร็จแล้วหรือยังครับ?
================
บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
www.boywisoot.com
เป็นเพื่อนกันได้ที่ LINE : @boywisoot.com
บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่
www.boywisoot.com
เป็นเพื่อนกันได้ที่ LINE : @boywisoot.com
Dec 5, 2017
Nov 23, 2017
ถ้าคนจะรัก Ost.สายธารหัวใจ | เจมส์ มาร์ |
Nov 21, 2017
ยิ่งศักดิ์ยิ่งแซ่บ (27 มิ.ย. 2560) : "ดี้ นิติพงษ์" เปิดใจอุบัติเหตุร้ายทำตาบอด!
ยิ่งศักดิ์ ยิ่งแซ่บ
Oct 29, 2017
Oct 28, 2017
Oct 27, 2017
Oct 26, 2017
Thai Royal Funeral Pyre For King RAMA IX
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง วันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560
Oct 14, 2017
พระราชดำรัสสุดท้าย ในหลวง รัชกาลที่ 9
เผยแพร่
วันที่ 5 ธันวาคม 2556 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
เสด็จออกมหาสมาคมนอกพระนครครั้งแรก
และนับเป็นการเสด็จออกมหาสมาคมครั้งสุดท้าย
ในรัชสมัยของพระองค์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระราชดำรัส
แก่ปวงชนชาวไทยในการพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม
ในศุภวาระเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556
ณ ท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม
วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
“ขอขอบพระทัย และขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง
ที่มีไมตรีจิต พรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด
รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาโดยประการต่างๆ
ข้าพเจ้าขอแสดงสนองพร และไมตรีจิตทั้งนั้น
ด้วยใจจริงเช่นกัน
บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมาช้านาน
เพราะเรามีความปึกแผ่นในชาติ
และต่างบำเพ็ญกรณียกิจตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน
เพื่อประโยชน์ของชาติ
คนไทยทุกคนจึงควรจะตระหนักในข้อนี้ให้มาก
และตั้งใจประพฤติตัวปฏิบัติงานให้สมฐานะและหน้าที่
เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม
คือ ความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย
ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์
จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน
ให้มีแต่ความผาสุก ร่มเย็นตลอดไป”
วันที่ 5 ธันวาคม 2559
เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
พระองค์สถิตอยู่ในดวงใจของคนไทยตราบนิรันดร์
Oct 10, 2017
UNESCO praises HM King Rama IX
The World Fellowship of Buddhists, the Royal Thai Embassy in Paris, and Thai representatives at UNESCO
have organized the International Peace Conference September 2017 in Paris.
The conference discussed creating a sustainable and peaceful
society in honor of His Majesty the Late King Bhumibol Adulyadej
Oct 1, 2017
รักที่สุดคือในหลวง
เพลง รักที่สุดคือในหลวง
เนื้อร้อง-ทำนอง : เทพนม สุวรรณะบุณย์
เรียบเรียง : ศราวุธ ฤทธิ์นันท์
ขับร้อง : เทพนม สุวรรณะบุณย์, จุไรรัตน์ สุวรรณะบุณย์
ROTHENBURG ให้การสนับสนุน
Sep 17, 2017
วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2560
15 ก.ย. 2560.
125 ปี ศ.ศิลป์ พีระศรี
นายชวน หลีกภัย
125 ปี ศ.ศิลป์ พีระศรี
นายชวน หลีกภัย
ประธานในพิธีเปิดงาน ในเวลา 13.30 น. ณ ลานอนุสาวรีย์ ศ.ศิลป์ พีระศรี มศก. จ.นครปฐม
ภาพจาก Silpakorn Public Relations
Sep 12, 2017
ช่างหู นักสู้มือเทียม
เขาชื่อ "หู".. อุบัติเหตุทำให้นายช่างคนนี้ต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่เมื่อวัย 40 ปี เพียงเพราะไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ความพิการไม่ใช่เรื่องน่ากลัวสำหรับเขา แต่การทำตัวไร้ประโยชน์มันน่ากลัวกว่ากันเยอะ
Sep 3, 2017
แม้จะทำรายการหลากหลายประเภท
แต่ หนุ่ม-กิติกร เพ็ญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเฮลิโคเนีย เอชกรุ๊ป ผู้ผลิตรายการเหล่านั้น บอกเลยว่าเป้าหมายสุดท้ายของเขาในงานนี้คือ การเป็น “King of Food Content”
“ส่วนตัวผม ผมมีแพสชั่นอยู่ 2 อย่าง คือดนตรีกับอาหาร”
ในทางดนตรีนั้น เขาสนองแพสชั่นด้วยการเป็นนักร้อง แล้วทำรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับเพลงมาบ้างแล้ว ทั้ง “เดอะ เทรนเนอร์” และ “ทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย”
ขณะเรื่องอาหาร เขาก็เริ่มจากการทำรายการ “ไอรอน เชฟ ไทยแลนด์” หรือ “เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย”
แล้วก็ตามมาด้วย “มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์” ซึ่งจะเริ่มแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.20-19.50 น. ตั้งแต่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา
“แล้วหลังจากนี้เราก็จะโฟกัสรายการอาหาร” เขาบอกชัดเจน
เหตุผลน่ะหรือ “เพราะรายการเพลงมีอยู่เยอะในตลาด แต่ผู้ผลิตรายการอาหารที่แข็งแรงมีไม่เยอะ” เขาบอก
“เราเลยจะทำทั้งในสื่อหลักและโซเชียลมีเดีย เพราะเราอยากจะเป็นบริษัทที่มีคอนเทนต์อาหารที่แข็งแรงที่สุด”
“เป็นคิง ออฟ ฟู้ด คอนเทนต์”
บอกอีกว่าในความเห็นเขา รายการอาหารที่เขาตั้งใจว่าจะเป็น “เจ้าตลาด” ในบ้านเรานั้น น่าจะประสบความสำเร็จทั้งในแง่ผู้ชมและรายได้
โดยในแง่ผู้ชมนั้นเขามองว่า เรื่องของอาหารอยู่ในความสนใจของคนส่วนใหญ่
“ขอยกตัวอย่างก่อน ว่าในเชฟกระทะเหล็ก ถ้าดูในแฟนเพจ เราพยายามที่จะโปรโมต เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มา ไม่มีใครส่งต่อเลย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราสอนทำอาหาร จะส่งต่อจนยอดวิวเป็นล้านเลย นั่นแสดงว่าปัจจุบันเทรนด์คนทำอาหารมีเยอะขึ้น”
“เหมือนกับสมัยก่อน ถามคนรุ่นผมว่าอยากเป็นอะไร จะอยากเป็นนักร้อง เท่เหลือเกิน แต่สมัยนี้ถามเด็กปัจจุบันอยากเป็นอะไรกัน เขาอยากเป็นเชฟ เทรนด์นี้มันสูงขึ้น”
“แล้วสังเกตว่าทุกท่าน ก่อนจะทานอาหาร ต้องถ่ายรูป ทุกเมนูที่วางตรงหน้า ต้องถ่ายรูปก่อน เพราะฉะนั้น เชื่อว่าอาหารมาแน่ครับ”
ด้วยเหตุนี้นอกเหนือจากไอรอนเชฟ และมาสเตอร์เชฟ ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากต่างประเทศแล้ว เขายังเตรียมทำรายการอื่นๆ เกี่ยวกับอาหาร โดยกว้านซื้อลิขสิทธิ์รายการอาหารดังๆ ไว้แล้ว 4-5 รายการ แต่ขออุบไว้ ไม่บอกในตอนนี้ อย่างไรก็ดี อีกไม่นานคงได้เห็นเพราะ “ด้วยระยะเวลาของลิขสิทธิ์ รายการที่เราซื้อไว้ต้องออกอากาศภายในเวลาไม่เกิน 2 ปี”สรุปคือภายใน 2 ปีนี้เขาจะมีรายการเกี่ยวกับอาหารมาให้ดูอีกแน่ๆ
หนุ่ม กิติกร บอกอีกว่า ในโลกนี้มีรายการอาหารดังๆ อยู่ราว 4-5 รายการ ซึ่ง 80% ของรายการเหล่านั้นเขาถือลิขสิทธิ์อยู่
ทั้งนี้ ในฐานะคนที่สนใจติดตาม รวมถึงอยู่ในสถานะผู้ผลิตรายการด้านอาหารอีกตำแหน่งหนึ่ง หนุ่ม กิติกร บอกว่า ในความเห็นเขา รายการอาหารที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีองค์ประกอบ 6 สิ่ง
“หนึ่ง ต้องโชว์ความน่ากินของอาหารให้ได้”
“สอง ต้องโชว์ความแปลกใหม่ของอาหารให้ได้”
“สาม ต้องถ่ายอาหารให้ออกมาสวยให้ได้ เพราะว่าอาหารคืออาร์ต ถ้าถ่ายไม่สวย มันก็ไม่น่าดู”
“สี่ คือจะต้องเป็นการแข่งขันที่ตื่นเต้นให้ได้ ซึ่งก็ไม่ง่าย”
“ห้า เป็นองค์ประกอบของโปรดักชั่น ต้องทำให้อาหารจานหนึ่งกลายเป็นดาราดัง โปรดักชั่นต้องมีมาตรฐานหรือมีคุณภาพมากเพียงพอ”
“และสุดท้ายคือผู้ดำเนินรายการ ต้องมีความชัดเจน มีความรู้จริงด้านอาหาร และในขณะเดียวกัน ก็ต้องอยู่หน้ากล้องได้จริง”
ซึ่งอย่างหลังนี้บอกเลย “หายากมาก”
แต่หากหาได้และทำทุกสิ่งได้ครบดังว่า ก็จะนำมาซึ่งการต่อยอดจากความสำเร็จของรายการ เหมือนอย่างที่เขาทำร้านอาหารไอรอนเชฟ หลังรายการเชฟกระทะเหล็กประสบความสำเร็จ โดยตอนนี้ร้านดังกล่าวมีอยู่แล้ว 2 สาขา และในอนาคตจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา
“มาสเตอร์เชฟก็จะเป็นไปในทางเดียวกัน ว่ามันจะต่อยอดไปในทางด้านอาหาร”
“สุดท้ายแล้ว มันสามารถต่อยอดได้หลายทางนะครับ หนึ่ง เป็นร้านอาหาร สอง เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร นี่คือที่ตั้งเป้าไว้แล้ว ก็ประมาณนั้น”
“แต่จุดหลักๆ คือถ้าถามว่าเราเป็นบริษัทอะไร ต้องตอบก่อนว่า เราเป็นบริษัทผลิตรายการทีวี โฟกัสที่รายการเป็นอันดับแรก การต่อยอดถือเป็นเรื่องรองลงมา”
ว่าที่ “คิง ออฟ ฟู้ด คอนเทนต์” ว่าอย่างนั้น
แต่ หนุ่ม-กิติกร เพ็ญโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเฮลิโคเนีย เอชกรุ๊ป ผู้ผลิตรายการเหล่านั้น บอกเลยว่าเป้าหมายสุดท้ายของเขาในงานนี้คือ การเป็น “King of Food Content”
“ส่วนตัวผม ผมมีแพสชั่นอยู่ 2 อย่าง คือดนตรีกับอาหาร”
ในทางดนตรีนั้น เขาสนองแพสชั่นด้วยการเป็นนักร้อง แล้วทำรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับเพลงมาบ้างแล้ว ทั้ง “เดอะ เทรนเนอร์” และ “ทรู อะคาเดมี แฟนเทเชีย”
ขณะเรื่องอาหาร เขาก็เริ่มจากการทำรายการ “ไอรอน เชฟ ไทยแลนด์” หรือ “เชฟกระทะเหล็ก ประเทศไทย”
แล้วก็ตามมาด้วย “มาสเตอร์เชฟ ไทยแลนด์” ซึ่งจะเริ่มแพร่ภาพทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 18.20-19.50 น. ตั้งแต่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา
“แล้วหลังจากนี้เราก็จะโฟกัสรายการอาหาร” เขาบอกชัดเจน
เหตุผลน่ะหรือ “เพราะรายการเพลงมีอยู่เยอะในตลาด แต่ผู้ผลิตรายการอาหารที่แข็งแรงมีไม่เยอะ” เขาบอก
“เราเลยจะทำทั้งในสื่อหลักและโซเชียลมีเดีย เพราะเราอยากจะเป็นบริษัทที่มีคอนเทนต์อาหารที่แข็งแรงที่สุด”
“เป็นคิง ออฟ ฟู้ด คอนเทนต์”
บอกอีกว่าในความเห็นเขา รายการอาหารที่เขาตั้งใจว่าจะเป็น “เจ้าตลาด” ในบ้านเรานั้น น่าจะประสบความสำเร็จทั้งในแง่ผู้ชมและรายได้
โดยในแง่ผู้ชมนั้นเขามองว่า เรื่องของอาหารอยู่ในความสนใจของคนส่วนใหญ่
“ขอยกตัวอย่างก่อน ว่าในเชฟกระทะเหล็ก ถ้าดูในแฟนเพจ เราพยายามที่จะโปรโมต เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้มา ไม่มีใครส่งต่อเลย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราสอนทำอาหาร จะส่งต่อจนยอดวิวเป็นล้านเลย นั่นแสดงว่าปัจจุบันเทรนด์คนทำอาหารมีเยอะขึ้น”
“เหมือนกับสมัยก่อน ถามคนรุ่นผมว่าอยากเป็นอะไร จะอยากเป็นนักร้อง เท่เหลือเกิน แต่สมัยนี้ถามเด็กปัจจุบันอยากเป็นอะไรกัน เขาอยากเป็นเชฟ เทรนด์นี้มันสูงขึ้น”
“แล้วสังเกตว่าทุกท่าน ก่อนจะทานอาหาร ต้องถ่ายรูป ทุกเมนูที่วางตรงหน้า ต้องถ่ายรูปก่อน เพราะฉะนั้น เชื่อว่าอาหารมาแน่ครับ”
ด้วยเหตุนี้นอกเหนือจากไอรอนเชฟ และมาสเตอร์เชฟ ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาจากต่างประเทศแล้ว เขายังเตรียมทำรายการอื่นๆ เกี่ยวกับอาหาร โดยกว้านซื้อลิขสิทธิ์รายการอาหารดังๆ ไว้แล้ว 4-5 รายการ แต่ขออุบไว้ ไม่บอกในตอนนี้ อย่างไรก็ดี อีกไม่นานคงได้เห็นเพราะ “ด้วยระยะเวลาของลิขสิทธิ์ รายการที่เราซื้อไว้ต้องออกอากาศภายในเวลาไม่เกิน 2 ปี”สรุปคือภายใน 2 ปีนี้เขาจะมีรายการเกี่ยวกับอาหารมาให้ดูอีกแน่ๆ
หนุ่ม กิติกร บอกอีกว่า ในโลกนี้มีรายการอาหารดังๆ อยู่ราว 4-5 รายการ ซึ่ง 80% ของรายการเหล่านั้นเขาถือลิขสิทธิ์อยู่
ทั้งนี้ ในฐานะคนที่สนใจติดตาม รวมถึงอยู่ในสถานะผู้ผลิตรายการด้านอาหารอีกตำแหน่งหนึ่ง หนุ่ม กิติกร บอกว่า ในความเห็นเขา รายการอาหารที่จะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีองค์ประกอบ 6 สิ่ง
“หนึ่ง ต้องโชว์ความน่ากินของอาหารให้ได้”
“สอง ต้องโชว์ความแปลกใหม่ของอาหารให้ได้”
“สาม ต้องถ่ายอาหารให้ออกมาสวยให้ได้ เพราะว่าอาหารคืออาร์ต ถ้าถ่ายไม่สวย มันก็ไม่น่าดู”
“สี่ คือจะต้องเป็นการแข่งขันที่ตื่นเต้นให้ได้ ซึ่งก็ไม่ง่าย”
“ห้า เป็นองค์ประกอบของโปรดักชั่น ต้องทำให้อาหารจานหนึ่งกลายเป็นดาราดัง โปรดักชั่นต้องมีมาตรฐานหรือมีคุณภาพมากเพียงพอ”
“และสุดท้ายคือผู้ดำเนินรายการ ต้องมีความชัดเจน มีความรู้จริงด้านอาหาร และในขณะเดียวกัน ก็ต้องอยู่หน้ากล้องได้จริง”
ซึ่งอย่างหลังนี้บอกเลย “หายากมาก”
แต่หากหาได้และทำทุกสิ่งได้ครบดังว่า ก็จะนำมาซึ่งการต่อยอดจากความสำเร็จของรายการ เหมือนอย่างที่เขาทำร้านอาหารไอรอนเชฟ หลังรายการเชฟกระทะเหล็กประสบความสำเร็จ โดยตอนนี้ร้านดังกล่าวมีอยู่แล้ว 2 สาขา และในอนาคตจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา
“มาสเตอร์เชฟก็จะเป็นไปในทางเดียวกัน ว่ามันจะต่อยอดไปในทางด้านอาหาร”
“สุดท้ายแล้ว มันสามารถต่อยอดได้หลายทางนะครับ หนึ่ง เป็นร้านอาหาร สอง เป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหาร นี่คือที่ตั้งเป้าไว้แล้ว ก็ประมาณนั้น”
“แต่จุดหลักๆ คือถ้าถามว่าเราเป็นบริษัทอะไร ต้องตอบก่อนว่า เราเป็นบริษัทผลิตรายการทีวี โฟกัสที่รายการเป็นอันดับแรก การต่อยอดถือเป็นเรื่องรองลงมา”
ว่าที่ “คิง ออฟ ฟู้ด คอนเทนต์” ว่าอย่างนั้น
Aug 29, 2017
Aug 24, 2017
Aug 12, 2017
Aug 10, 2017
ขอโทษ Ost.เพลิงบุญ l ตุ้ย ธีรภัทร์ l Official MV (2017)
ศิลปิน ตุ้ย ธีรภัทร์
คำร้อง ณรงค์วิทย์ เตชะธนะวัฒน์
ทำนอง/เรียบเรียง ปรเมศวร์ เหมือนสนิท
- https://teetwo.blogspot.com/2021/06/blog-post_23.html
- http://teetwo.blogspot.com/2017/04/blog-post_28.html
Aug 9, 2017
Jul 31, 2017
Jul 28, 2017
Jul 24, 2017
เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่ผู้วิเศษ)
คำร้อง : เพชร โอสถานุเคราะห์
ทำนอง : เพชร โอสถานุเคราะห์
เรียบเรียง : เพชร โอสถานุเคราะห์
ศิลปิน : Instinct
คำร้อง /ทำนอง : เพชร โอสถานุเคราะห์
เรียบเรียง : อนุกานต์ จันทร์อุไร
Producer : Anukarn Chanurai
Music : Petch Osathanugrah
Lyrics : Petch Osathanugrah
Arranging : Anukarn Chanurai
Vocal : Preyawit Nilachulaka
Backing Vocal : Preyawit Nilachulaka
Piano&Keys : Anukarn Chanurai
Guitars : Thanat Meatanayanon
Bass : Juti Rungruengrayupkul
Drums : Sutipon Bouanon
Additional String Arrangement : Chapavich Temnitikul
Recorded at DBSstudio
www.facebook.com/dbsstudiochannel
Studio engineer : Thananat Peerayagangvanglai
Assistant engineer : Wig Wiangwang
Track editing : Anukarn Chanurai
Mixed & Mastered : Shane Edwards at Karma Sound Studios
www.kamasoundstudios.com