Custom Search

Apr 22, 2013

ม.หอการค้าเปิดรายการทีวี ฉลอง 50ปี สร้างเสริมธุรกิจครอบครัวตัวหลักเศรษฐกิจไทย


ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2556 ปีที่ 22 ฉบับที่ 8153 ข่าวสดรายวัน
ภาพ กองประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ นสพ ข่าวสด



รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผยว่า ในโอกาสครบรอบ 50 ปี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หนึ่งในกิจกรรมเฉลิมฉลองคือการเปิดรายการโทรทัศน์ "แฟมิลี่ บิสสิเนส : โอเพ่น อัพ! เปิดความคิด ธุรกิจสองรุ่น" ซึ่งเป็นรายการที่จะเปิดเผยเคล็ดลับความสำเร็จของธุรกิจครอบครัว และวิธีการถ่ายทอดธุรกิจจากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก 

รายการนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับทุกครอบ ครัวที่ทำธุรกิจร่วมกัน แต่อาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ได้มีโอกาสเปิดใจพูดคุยกันมากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจสามารถถ่ายทอดและต่อยอดเติบโตไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้ในอนาคต โดยมีโปรดิวเซอร์ชื่อดังจากฮอลลีวู้ด ทอม นูแนน เจ้าของรางวัลออสการ์จากภาพยนตร์เรื่อง Crash และบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมผลิตและสร้างสรรค์รายการ


อธิการบดี .หอการค้าไทย กล่าวว่า การตัดสินใจทำรายการดังกล่าว เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความโดดเด่นด้านบริหารธุรกิจ โดยมหาวิทยาลัยมีศูนย์ธุรกิจครอบครัวที่มีศาสตร์เฉพาะทางในการให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจครอบครัว ที่ผ่านมามีบริษัทเข้ารับคำปรึกษามาแล้วกว่า 300 ตระกูล ทั้งนี้ธุรกิจครอบครัวมีความสำคัญกับภาคธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย เนื่องจากกว่า 80% ของธุรกิจในเมืองไทยเป็นธุรกิจครอบครัว


ด้าน ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะบริหารธุรกิจ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า รายการนี้จะทำให้ผู้ชมคนไทยเข้าใจและเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาธุรกิจภายในครอบครัว จากกรณีศึกษาต่างๆ ของผู้ร่วมรายการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการสืบทอดธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น การขยายธุรกิจ การแบ่งหน้าที่การบริหารงานภายในครอบครัว เป็นต้น 


ทางด้าน นายปัญญา นิรันดร์กุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเวิร์คพอยท์ฯ กล่าวว่า นับเป็นมิติใหม่ของวงการการศึกษาที่ลุกขึ้นมาทำรายการบันเทิงซึ่งแฝงด้วยสาระที่น่าสนใจ บริษัทมีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการผลิตและสร้างสรรค์รายการที่ดีและมีประโยชน์ต่อหลายๆ ครอบครัวที่กำลังทำธุรกิจร่วมกันอยู่ในขณะนี้


ทั้งนี้ รายการแฟมิลี่ บิสสิเนสฯ จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 5 ..นี้ เวลา 17.00-17.50 . ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5












Apr 17, 2013

ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์


วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย

ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ศิลปินแห่งชาติ 
ผู้สร้างวัดร่องขุ่น ที่ ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย

ศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย  โฆษิตพิพัฒน์

กรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย (สาขาทัศนศิลป์)

ที่ได้รับปริญญา

ศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการการท่องเที่ยว

ชื่อ-นามสกุล นาย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

Name-Surname Mr.Chalermchai Kositpipat

วัน/เดือน/ปีเกิด 15 กุมภาพันธ์ 2498

สถานภาพสมรส    : สมรส

ชื่อคู่สมรส : นางกนกวัลย์ โฆษิตพิพัฒน์

ประวัติการศึกษา

  -  เริ่มศึกษาวิชาศิลปะ เมื่ออยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนในตัวเมืองเชียงราย

 -  จบจากโรงเรียนเพาะช่าง - จบศิลปบัณฑิต สาขาศิลปะไทย รุ่นแรกของคณะจิตรกรรม ประติมากรรม

ข้อมูลการทำงาน

ตำแหน่งงานปัจจุบัน กรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย (สาขาทัศนศิลป์)

ชื่อหน่วยงาน กระทรวงวัฒนธรรม

ถนน ถนนเทียมร่วมมิตร

แขวง/ตำบล ห้วยขวาง

เขต/อำเภอ ห้วยขวาง

จังหวัด กรุงเทพมหานคร

รหัสไปรษณีย์ 10310

เกียรติประวัติ/ผลงานที่สำคัญในปัจจุบัน

พ.ศ. 2520 - รางวัลที่ 1 เหรียญทอง จากการประกวดจิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ 3

พ.ศ. 2520 - รางวัลเกียรตินิยมอันดับ 3 จากการประกวดศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 25

 พ.ศ. 2522 - รางวัลที่ 2 เหรียญเงิน จากการประกวดจิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ 4 ของธนาคารกรุงเทพ

 พ.ศ. 2536 - ได้รับเครื่องหมายเกียรติคุณบุคคลตัวอย่างผู้สร้างเสริมงานวัฒนธรรมด้านจิตรกรรม

จาก สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

 พ.ศ. 2537 - ได้รับโล่เชิดชูเกียรติ "เพชรสยาม" (สาขาจิตรกรรม) จากสถาบันราชภัฎจันทรเกษม

 พ.ศ. 2538 - ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ให้เขียนภาพประกอบ บทพระราชนิพนธ์ "พระมหาชนก" และออกแบบเหรียญพระราชทานคณะแพทย์

 พ.ศ. 2543 - ที่ปรึกษากรมศิลปากร งานเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังพระพุทธรัตนสถานในพระบรมมหาราชวัง

 พ.ศ. 2547 - ได้รับรางวัลศิลปาธร สาขาทัศนศิลป์ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2547

 พ.ศ. 2554 - ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี 2554

 ที่ปรึกษาธนาคารแห่งประเทศไทย ออกแบบธนบัตรราชาภิเษกสมรส ครบ 50 ปี 

 ถวายการสอนพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์

 พ.ศ. 2559 ปริญญาศิลปดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (จิตรกรรมไทย) จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์


ประวัติการทำงาน/ประสบการณ์ที่สำคัญในอดีต (เริ่มต้นจากปีล่าสุด ย้อนหลัง 5 ปี

- ผู้ก่อตั้งและเป็นประธานกลุ่ม ศิลปไทย 2

- ศิลปินอิสระ

- ปี พ.ศ. 2547 ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านศิลปกรรม การแสดงแม่น้ำของแผ่นดินปีที่ 5 พระ...คู่พระบารมี

- 23 มิถุนายน 2552 กรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย (สาขาทัศนศิลป์)


เครื่องราชอิสริยาภรณ์

1. ปี พ.ศ.2520 ได้รางวัลเหรียญทองจิตรกรรมบัวหลวง งานประกวดจิตรกรรมบัวหลวงของธนาคารกรุงเทพ


2. ปี พ.ศ. 2522 เหรียญเงิน จิตรกรรมบัวหลวง ครั้งที่ 4 (หลังจาก 2522 งดส่งงานเข้าประกวดทุกสถาบัน


3. ปี พ.ศ. 2536 ได้รับเครื่องหมายเกียรติคุณเป็นบุคคลตัวอย่าง ผู้ส่งเสริมงานวัฒธรรมด้านจิตรกรรมไทยจาก

สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.)


รางวัลเกียรติยศอื่น ๆ

1. เกียรตินิยมอันดับ 3 การแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 25 

ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย










Apr 4, 2013

'ในหลวง ร.9' ทรงห่วงใยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การแก้ปัญหาอุทกภัย


ภาพ มติชน
เรื่อง ไทยรัฐ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ห่วงใยการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการแก้ไขปัญหาอุทกภัยของชาติ มีพระราชกระแสฯ ว่า การวางแผนพัฒนาระบบน้ำ แผนที่ต้องละเอียดและถูกต้องแม่นยำ ที่สำคัญต้องเหมาะสมกับงานกับพื้นที่ 

ช่วงเย็นวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว .9 เสด็จออก ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานความก้าวหน้าเกี่ยวกับการวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแก้ไขปัญหาอุทกภัยแห่งชาติ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลรายงานภาพรวมที่รัฐบาลดำเนินการ คือ เรื่องการปลูกป่าและหญ้าแฝก เรื่องการพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ การพัฒนาพื้นที่รับน้ำนองบริเวณพื้นที่เหนือจังหวัดนครสวรรค์ และการระบายน้ำในพื้นที่ใต้จังหวัดนครสวรรค์ การพัฒนาศูนย์คลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ

นายอานนท์ สนิทวงศ์ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ กราบบังคมทูลรายงานในส่วนของหลักการและโครงการหลัก เรื่องการปลูกป่า การพัฒนาลุ่มน้ำยม พื้นที่รับน้ำนอง และเส้นทางผันน้ำ

นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร กราบบังคมทูลรายงาน เรื่องการพัฒนาระบบคลังข้อมูลน้ำและภูมิอากาศแห่งชาติ แบบจำลองคาดการณ์ฝน น้ำท่า แม่น้ำปิง วัง ยม น่าน แม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งการคาดการณ์ฝนปีนี้ 

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายตัวอย่างแผนที่พื้นที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดพิมพ์ในระบบสามมิติ ทำให้มองเห็นสภาพพื้นที่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว .9 ได้มีพระราชกระแสถึงรายละเอียดการใช้แผนที่เพื่อวางแผนพัฒนาระบบน้ำว่า พื้นที่ราบภาคกลางจะต้องคำนึงถึงความถูกต้องแม่นยำในแนวดิ่ง จึงจะใช้ได้เหมาะสม ทรงยกตัวอย่างการไหลระบายน้ำของพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ภาคเหนือ ทรงเล่าพระราชทานว่า เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานในภาคเหนือ พื้นที่เป็นภูเขาสูงต่ำ ความลาดเทเอียงสูง ทรงใช้แผนที่ขนาด 1 ต่อ 5 หมื่น ครอบคลุมพื้นที่จากจังหวัดเชียงใหม่ถึงจังหวัดน่านได้ง่าย แต่หากเป็นพื้นที่ราบภาคกลางจะต้องทำรายละเอียดสูงมาก เพราะความลาดเทเอียงน้อยมาก แผนที่และข้อมูลจะมีขนาดใหญ่มาก จะต้องทำให้เหมาะสมกับงาน เหมาะสมกับพื้นที่ ซึ่งการจัดทำแผนที่ในพื้นที่ราบที่ผ่านมา ได้มีพระราชกระแสรับสั่งให้กรมแผนที่ทหารดำเนินการเก็บความสูงเป็นจุดๆ ไป และเก็บค่าระดับความสูงบนคันกั้นน้ำพระราชดำริด้วย จึงขอให้ไปพิจารณากำหนดใช้ให้เหมาะสม ถูกต้อง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยัง .9 ทรงห่วงใย ทรงซักถามถึงความก้าวหน้าการติดตั้งระบบโทรมาตร และการคาดการณ์สถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน และแม่น้ำป่าสัก มีพระราชกระแสฯ ด้วยว่า แม่น้ำป่าสักจะบริหารจัดการได้ยากที่สุด เพราะปริมาณน้ำไหลลงอ่างสูงมากหลายเท่าของความจุอ่าง ทำให้การบริหารจัดการทำได้ยาก

โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว .9 ได้พระราชทานพรแก่คณะทำงานและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้ทำงานขยันขันแข็ง ได้สำเร็จลุล่วง สร้างความปลาบปลื้มและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่คณะทำงานทุกคนอย่างที่สุด.

พี่มาก..พระโขนง

หลอกเพราะรัก : พี่มาก...พระโขนง/อภินันท์
โดย อภินันท์ บุญเรืองพะเนา
ที่มา http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000039639

ขณะที่คู่กรรมก็ถูกนำมาทำใหม่ และชั่วฟ้าดินสลายเอยเรื่องของ จัน ดาราเอย ก็ได้รับการรีเมคไปเรียบร้อย แน่นอนครับว่า เรื่องราวอันทรงคุณค่าเหล่านี้ จะนำมาผลิตซ้ำอีกกี่รอบก็เชื่อว่าคุณค่าของมันยังคงมิเสื่อมคลาย เช่นเดียวกับเรื่องราวของแม่นากแห่งท้องทุ่งพระโขนง ที่ลงโรงฉายในบ้านเราอยู่ในขณะนี้
       
        อันที่จริง เรื่องราวแห่งความรักของแม่นากพระโขนง ผ่านการหยิบจับมานำเสนอบนแผ่นฟิล์มมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง จากอดีตจนถึงปัจจุบัน มีทั้งเวอร์ชั่นที่ซีเรียสเคร่งครัดชนิดบีบเค้นน้ำตาคนดูผู้ชม ไปจนถึงเวอร์ชั่นประหลาดหลุดโลกไปเลยก็มี และเมื่อราวๆ 10 กว่าปีก่อน นนทรีย์ นิมิบุตร ก็ขุดเอาจิตวิญญาณความรักความผูกพันของแม่นากมาถ่ายทอดไว้ในนางนากซึ่งด้วยลักษณะของความดราม่าที่มุ่งเน้นเทิดทูนศรัทธาในหัวใจอันเปี่ยมไปด้วยรักแท้ของผีแม่นาก ก็ส่งผลให้ผลงานชิ้นดังกล่าวของนนทรีย์เป็นที่กล่าวขานมาจนถึงทุกวันนี้ และตอนที่เข้าฉาย ก็เป็นหนังที่ทำเงินได้มากกว่าร้อยล้าน
       
        ตราบเท่าที่ความรักความผูกพัน ยังสำคัญอยู่ในใจของผู้คน เรื่องของแม่นากพระโขนงก็จะยังคงถูกเล่าขานต่อไปไม่จบสิ้น และที่สำคัญ มันสามารถถูกนำมาทำเป็นหนังได้อีกหลายรอบ เหมือนเมื่อปีที่แล้ว ก็มีแม่นากเวอร์ชั่นสามมิติ ซึ่งมีคนรักของคุณบุญชัย เบญจรงคกุล อย่างตั๊ก-บงกชรับบทแม่นาก แต่จะว่าไป ผมเชื่อว่า หลังจากนนทรีย์ นิมิบุตร ทำนางนากด้วยมาตรฐานทางคุณภาพที่สูงมากไว้แล้ว ไม่ว่าใครก็คงต้องคิดหนักที่จะหยิบมาทำใหม่ (ยกเว้นแม่นาก 3D” ที่ตั๊กแสดง อันนั้น หนังลองของ เพราะเขาได้กล้องตัวใหม่มา เลยทดลองใช้ดูสักหน่อย) แต่สุดท้าย เราก็ได้เห็นแม่นากในเวอร์ชั่นที่แปลกใหม่จากฝีมือของโต้ง-บรรจง อันสะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมที่ว่า ความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีวันสิ้นสุด
       
        ถ้าเมื่อสิบกว่าปีก่อน เราเคยพูดกันว่า หลังจากเวอร์ชั่นของคุณนนทรีย์ ถ้าใครคิดจะทำแม่นากอีกรอบ คงต้องคิดหนัก มาปีนี้ เมื่อพี่มาก...พระโขนงเข้าโรงฉาย หลายคนก็คงคิดเช่นเดียวกันว่า ถ้าใครจะทำหนังเกี่ยวกับแม่นากอีก คงต้องต้องคิดหนักเช่นเดียวกัน
       
        ความดีงามของแม่นากเวอร์ชั้นนี้ คือผลพวงแห่งการกล้าคิดใหม่อีกหนึ่งครั้งของหนังไทย มันคือการคิดใหม่ที่ทำให้เรื่องราวของแม่นาก ดูแตกต่างและน่าสนใจมากขึ้นนับเท่าทวีคูณ เพราะเมื่อก่อน พอพูดถึงแม่นาก ทุกคนก็จะนึกถึงผีที่ไม่ไปผุดไปเกิดเพราะความรักความผูกผันที่มีต่อสามี แต่โต้ง-บรรจง สลับมุมเพียงเล็กน้อย ด้วยการปรับเปลี่ยนมุมมองเรื่องของแม่นาก ให้เป็นมุมมองที่มองผ่านคนรักของแม่นาก ซึ่งก็คือ พ่อมาก ตั้งแต่ชื่อเรื่องที่เดินออกจากกรอบเดิมๆ ที่มักจะใช้ชื่อคนรักฝ่ายหญิงเป็นตัวนำ ก็เปลี่ยนตำแหน่งมาใช้คำว่าพี่มากแทน เอาแค่ข้อมูลพื้นฐานเท่านี้ ก็น่าจะทำให้คนหันมาสนใจได้แล้ว
       
        แต่พูดแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า โต้ง-บรรจง หรือกระทั่งจีทีเอช นำเรื่องของแม่นากมาทำจนสูญเสียความงามแห่งตำนาน ตรงกันข้าม แก่นสารอันว่าด้วยเรื่องรักของแม่นากพ่อมากยังอยู่ครบ ใครที่เคยซาบซึ้งกับเรื่องราวนี้ ก็ยังคงเก็บเกี่ยวตักตวงความรู้สึกนั้นได้เช่นเดิม ขณะที่กิมมิกหรือมุกพื้นฐานที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีก็ยังมีอยู่ครบ เช่น ฉากยื่นมือเก็บมะนาว ฉากแม่นากห้อยหัวหลอก ฯลฯ ที่จำเป็นต้องมีในแม่นากทุกเวอร์ชั่น
       
        แน่นอนครับ เสน่ห์อย่างยิ่งยวดของงานชิ้นนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องความตลกโปกฮาที่เรียกได้ว่าจัดหนักตั้งแต่ต้นจนจบ หนังเตรียมคนดูให้เข้าสู่โหมดของความฮาได้สำเร็จตั้งแต่ภาพยนตร์ตัวอย่าง และคนที่ทำหนังให้คน (ส่วนมาก) หัวเราะหรือยิ้มออกมาได้ทุกๆ 2-5 นาทีนั้น ย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน จังหวะการโยนมุกแม่นยำ และกล้าทำกล้าเล่น ไม่ว่าจะเป็นมุกที่ต้องใช้ไอเดีย หรือแม้กระทั่งมุกที่เขาเรียกกันว่ามุกควายโต้ง-บรรจง จัดให้ได้ทุกรูปแบบของมุกตลก ขณะที่นักแสดงทุกคนก็เล่นได้ฮาแบบทุ่มเทกันสุดตัว ไม่เว้นแม้แต่มาริโอ้ เมาเร่อ ที่ทิ้งภาพหนุ่มหล่อ มาเป็นคนที่ดูติงต๊องและดูน่าขันไม่น้อยหน้าเพื่อนอีก 4 คน
       
        ตอนนี้ เรื่องว่าจะได้ร้อยล้านคงไม่ต้องพูดถึง (ผมเขียนบทความวันเสาร์ที่ 30 มีนาคม) เพราะหนังสามารถเล็งไปที่ตัวเลขสองร้อยล้านได้เลย กระแสบอกต่อที่กำลังส่งเสียงดังไปทั่ว โดยเฉพาะในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ก คือหนึ่งแรงผลักที่จะส่งให้หนังเรื่องนี้ทำเงินอย่างเอิกเกริกในช่วงสัปดาห์สองสัปดาห์นี้ ขณะที่จังหวะที่หนังเข้าฉายช่วงปลายเดือนชนต้นเดือน มันคือจังหวะที่คนมีพลังในการจับจ่าย และความรู้สึกว่าการจ่าย 100 กว่าบาทให้กับหนังที่ใครต่อใครก็พูดถึงในทางที่ดี ยิ่งง่ายเข้าไปอีก
        
        เหมือนกับหลายคนที่รู้สึกว่า มุมมองเกี่ยวกับเรื่องความรักของพ่อมากซึ่งมีต่อแม่นากที่หนังนำเสนอนั้นเป็นอะไรที่แปลกใหม่ไปจากเดิม โจทย์ของหนังก็คือการค้นหาว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ความรู้สึกของผู้ชายอย่างมากนั้นเป็นเช่นไร ในเวอร์ชั่นที่ผ่านๆ มา มักจะเน้นเจาะลึกลงไปในความรู้สึกนึกคิดของตัวละครหญิงอย่างแม่นาก ขณะที่พ่อมากก็ถูกนำเสนอในลักษณะของคนที่อยู่แบบไม่รู้และสุดท้ายก็หม่นหมองเศร้าสร้อยกับการสูญเสียเมียรัก แต่ในพี่มาก..พระโขนงหนังพยายามเจาะลงไปในจิตใจของพ่อมากว่าเขารู้สึกนึกคิดอย่างไร และอยู่ร่วมกับสถานการณ์ดังกล่าวแบบใด นี่คือการมองอีกมุมที่ได้ผลดีต่อความรู้สึกของคนดูผู้ชมอย่างไม่อาจปฏิเสธ แต่สัจธรรมเกี่ยวกับความรักของแม่นากก็ยังเป็นแก่นแกนอีกฝั่งที่หนังยังคงเก็บรักษาไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
       
        ในความรักอันเป็นตำนานเรื่องนี้ มันมีทั้งคนที่หลอก และมีคนที่ถูกหลอก ผมจะไม่บอกว่ามุมมองที่เปลี่ยนไปของเรื่องราวนี้เป็นอย่างไร แต่ถ้ามองอย่างเข้าใจในความรักของแม่นาก สิ่งหนึ่งซึ่งผมรู้สึกว่ามันมีคุณค่าเหนือกาลเวลาเสมอมา ก็คือ แม่นากนั้น จำต้องหลอกคนรักเพื่อให้ตนเองได้อยู่ร่วมกับคนที่ตนรัก
       
        การหลอกแบบนี้ แม้หลายคนจะกล่าวว่ามันเป็นความเห็นแก่ตัว เหมือนที่ตัวละครในเรื่องพูด แต่ที่สุดแล้ว มันก็มีความงามในตัวของมันเอง เพราะเป็นการหลอกเพราะรักเพื่ออยากอยู่ด้วย ไม่ใช่อยู่ด้วยแล้วยังหลอก นอนเตียงเดียวกัน แต่ฝันถึงคนอื่น ก็เยอะแยะมากมาย จริงไหม



Apr 2, 2013

หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ


 
แผ่เมตตาไม่มีประมาณ 
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ท่านสอนให้ศิษย์ทุกคนได้หัดแผ่เมตตา
คือส่งความปรารถนาดีแก่คน สัตว์ ศัตรูหมู่มาร
โดยแผ่ไปให้ทั่วจักรวาล ยิ่งแผ่มาก ก็ยิ่งทำให้ในสบาย
รักชีวิตและทรัพย์สิน คนอื่นเหมือนกับของตนเอง
สังคมก็จะมีความสุขสงบอย่างถ้วนทั่ว
หลวงปู่แนะวิธีแผ่เมตตาให้บังเกิดผล
โดยให้ทำตนและจิตใจเหมือนมารดาที่เลี้ยงลูก ให้ความรัก
ความเอ็นดูสงสาร มุ่งหวังจะให้ลูกสุขกายสบายใจ
มีอาชีพการงาน มีวิชาเลี้ยงตนเอง ได้
ความรักที่แม่ให้กับลูกเป็นความรักที่บริสุทธิ์ไม่มีพิษภัย
และไม่ต้องการผลตอบแทนจากลูก
มีแต่ให้อย่างเดียว ถ้าเราแผ่เมตตา
เหมือนกับพระอาทิตย์ส่องแสง
เมตตานั้นจะมีพลังสูงยิ่ง
เพราะธรรมชาติของพระอาทิตย์ขณะที่ส่องแสงไม่ได้เลือกชุมชน
สรรพสัตว์ยากดีมีจน อยู่ที่สูงหรือที่ต่ำ จะใกล้หรือไกล
ก็ได้รับความร้อนเท่ากัน เมตตาธรรมก็เช่นกัน
ขอให้แผ่ไปให้แก่ชนทุกชั้นทุกระดับ ใครจะรับได้มากน้อย
สุดแต่วาสนาบารมีของผู้นั้น