Custom Search

Nov 14, 2010

วิทยากรดังเปิดมุมมองจากความสำเร็จ "จับเทรนด์ใหม่ ใส่อนาคตเด็กไทย"




มติชน

"This′s My Future 2010 จับเทรนด์ใหม่ ใส่อนาคตเด็กไทย"

เป็นกิจกรรมทอล์ค ฟอรั่ม ที่มูลนิธิไทยคมได้นำคนที่โดดเด่น
จากแต่ละสาขาอาชีพมาให้ความรู้นักเรียน นักศึกษา ครู และผู้ปกครอง
ที่เข้าร่วมรับฟังประสบการณ์จริงที่แต่ละคนได้ฝ่าฟันมาจนถึงฝั่งฝันถึง 12 คน
จัดระหว่างวันที่ 13-14 พ.ย. ณ โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ 8
ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ย.
ได้เชิญ 6 บุคคลที่ประสบความสำเร็จมาร่วมพูดคุย
ซึ่งได้รับเกียรติจากยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
กรรมการและเลขานุการมูลนิธิไทยคม เป็นผู้กล่าวเปิดงาน


"ล้มไม่สำคัญเท่าลุก ความสำเร็จเขาวัดกันวันที่ตอกตะปูโลงศพ"
ตัน ภาสกรนที



สำหรับคนแรกที่ก้าวขึ้นเวที "ตัน ภาสกรนที"
อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด
ได้เล่าถึงที่มาความสำเร็จของคนที่อยากประกอบธุรกิจส่วนตัว เช่น
การค้าขายอาหาร "ผมทอดไข่ไม่เป็น" ตัน กล่าวและว่า
แม้จะทำอาหารไม่เป็นแต่มันไม่สำคัญ
ถ้าเราเข้าใจอาหารที่เสิร์ฟว่าขายอะไรและ ขายให้ใคร
"เข้าใจกับทำเป็น ทำเป็นกับทำได้ ก็คนละเรื่องกัน ยกตัวอย่าง
ผมเข้าใจว่าถ้าจะทอดปลาให้อร่อย ปลาต้องสด ล้างให้สะอาดก่อน
น้ำมันที่ใช้ก็ต้องสะอาดไม่เคยผ่านการทอดอาหารอื่นมาก่อน
น้ำมันต้องร้อนใส่เยอะให้ท่วมตัวปลา ใส่ตอนที่น้ำมันเดือดแล้ว
เพื่อไม่ให้ปลาอมน้ำมัน ขณะทอดหากกลับปลาบ่อยปลาก็เละ
ผมบอกอย่างนี้ แต่ละคนกลับไปทำเองที่บ้านก็ใช่ว่าจะอร่อยทุกคน
แต่ที่ผมทำได้เพราะผมเข้าใจอย่างลึกซึ้งจริงๆ"
นอกจากนี้ ต้องเอาใจของลูกค้ามาใส่ใจเรา
หากมัวแต่คิดเรื่องต้นทุนหรือกำไรอย่างเดียวไม่ได้
คิดว่าถ้าเป็นเราจ่ายไปแล้วรู้สึกคุ้มค่า
เมื่อเปรียบเทียบกับราคาอาหาร บรรยากาศ และบริการ
พอเอาราคาเป็นตัวตั้งที่เหลือเราก็ไปลด
ในส่วนของต้นทุนค่าเช่าที่หรือทำให้ ครบวงจร เช่น ถ้าหั่นปลา
แล้วเหลือเศษเนื้อนำไปต้มซุปได้อีก
เอาตรงนี้มาช่วยลดราคาต้นทุน ตรงนี้จะทำให้ลูกค้ากลับมาหาเรา


แม้จะให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพและวัตถุดิบในการทำอาหารและ"ลูกค้า"
ยัง เป็นพระเจ้า แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับพนักงานที่ คุณตัน แนะนำว่า
ถ้าพนักงานไม่สุขใจ การบริการให้ลูกค้าก็แย่ลง
เราต้องทำให้เขารู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกับเราเหมือนเป็นหุ้นส่วน
ทำความรู้จักครอบครัว เพื่อนสนิทหรือแฟนของเขาได้ยิ่งดี
ห่วงใยเขาใส่ใจในวันเกิด คนสมัยใหม่คิดว่า
ใช้งานลูกน้องให้หนักและให้ผลตอบแทนเป็นโบนัสก็ได้
ขอยกตัวอย่างว่า การฝึกปลาโลมา
ทุกครั้งที่ทำตามคำสั่งครูฝึกก็จะให้อาหาร
เปรียบเทียบกับลูกจ้างก็ทำให้เขากระตือรือร้น
"ผมทำให้เขามีส่วนร่วมโดยการคิดยอดขายเพิ่มเข้าไปเป็นเงินพิเศษ
ให้เขารู้สึกร่วมถึงกำไรและขาดทุน จัดสรรผลประโยชน์ให้
ถ้าทำไม่ตามเป้าเขาก็ไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่น
เพราะเงินเดือนให้เท่าไหร่ก็ไม่พอ
ยิ่งถ้าเราไม่ได้ลงไปดูแลร้านก็ไม่มีจิตวิญญาณของเจ้าของร้าน
ยิ่งลูกน้องไม่ได้ให้บริการด้วยความจริงใจ ลูกค้าก็ไม่เข้า"


ทั้งนี้ เจ้าของบริษัท ไม่ตัน จำกัด
ยังให้กำลังใจคนที่อยากก้าวเข้ามาสู่แวดวงธุรกิจว่า
"ตอนเล็กๆ ล้มไปเถอะ ล้มหลายๆ ครั้ง
ให้มองปัญหาเป็นเรื่องสนุกท้าทายเป็นบันไดสู่ความสำเร็จ
ความล้มเหลวยังไงก็เหมือนกันทุกครั้ง แต่การประสบความสำเร็จนั้น
หนทางมีไม่เหมือนกัน ไม่มีใครไม่ล้มมีแต่คุณไม่รู้
ที่ผมเคยบอกว่าชีวิตนี้ไม่มีทางตันขอเพิ่มอีกว่า
ไม่มีอะไรเป็นอย่างที่เราคิด ขอให้ก้าวขาออกไปแค่ข้างเดียว
เผื่ออีกขาไว้ ทุกๆ ครั้งที่ล้ม ลุกขึ้นมานั่นสำคัญที่สุด
ความสำเร็จเขาวัดกันวันที่ตอกตะปูโลงศพ"


"การทำงานคือสมการ ตัวเรา+การปฏิบัติจะเท่ากับผลลัพธ์
ถ้าเราปฏิบัติเหมือนคนอื่นผลก็จะออกมาเหมือนกัน" กิตติรัตน์ ณ ระนอง


สำหรับสาขา Global Finance คุณกิตติรัตน์ ณ ระนอง
อธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตร ผู้บริหารด้านการเงิน
เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
และยังมีบทบาทสำคัญด้านการกีฬา กล่าวว่า
การทำงานเป็นเรื่องเรียบง่ายเหมือนสมการ
ตัวเรา+การปฏิบัติจะเท่ากับผลลัพธ์
ถ้าเราปฏิบัติเหมือนคนอื่นผลก็จะออกมาเหมือนกัน
หน้าที่ของคนที่ทำงานด้านบริหารจะต้องคิดแทนองค์กรและเพื่อนร่วมงาน
ซึ่งคนทั่วไปอาจตอบคำถามเมื่อสักครู่ว่าให้เปลี่ยนวิธีการปฏิบัติแต่คนที่
ประสบความสำเร็จจะมองว่าต้องเปลี่ยนตัวเราเองให้เป็นคนใหม่ไม่ใช่เปลี่ยนการ
ปฏิบัติถ้าอยากรวยไม่ใช่คิดแค่ว่า
"รายรับ-รายจ่าย"จะเท่ากับเงินออม แต่ต้องเป็น
"รายรับ-เงินออม"เท่ากับร่ายจ่าย สมการแค่วางสลับที่ก็เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่าง


"ดร.ฟิลลิป คอตเลอร์ กูรูด้านการตลาดระดับโลก กล่าวไว้ว่า
ความจริงของความสำเร็จคือการลงตัวของผลิตภัณฑ์ (Product)
ต้องพึ่ง Place ของดีวางขายผิดที่ก็จำหน่ายไม่ได้ Price ราคาพอดี
แต่คนซื้อไม่ได้สนใจราคาถูกที่สุด Promotion การโฆษณา ประชาสัมพันธ์
คุณพ่อเคยให้ของขวัญผมในวันที่เรียนจบ ยื่นนาฬิกาที่ขณะนั้นราคา 5 หลัก
ผมดีใจมากแล้วก็เก็บไว้ หลายปีต่อมาผมเริ่มเล่นกอล์ฟแล้วหยิบไปใส่ตอนออกรอบ
เพราะเคยเห็นภาพนักกีฬากอล์ฟดังๆ โฆษณาตามนิตยสาร
แต่แล้วมันกลับหยุดเดิน ผมไปที่ร้านถามเขาว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้
เขาตอบผมว่านักกอล์ฟเขาใส่หลังตีเสร็จแล้ว
นี่คือความลงตัวของสินค้าที่ดึงนักกอล์ฟมาใช้
ในการประชาสัมพันธ์สร้างความมี ระดับ" คุณกิตติรัตน์ กล่าว
และฝากคำคมดังทิ้งท้ายไว้ว่า
"ความลำบากคือยายิ่งใหญ่ เพื่อจัดการความคิดผลักดันไปสู่ความสำเร็จ"


"ผมทำงานเหมือนไม่ได้ทำงาน เพราะทำแล้วมีความสุข" จุ๋ย จุ๋ยส์


อีกหนึ่งอาชีพที่คนรุ่นใหม่ใฝ่ฝันคือ ศิลปิน โดย "จุ๋ย จุ๋ยส์" สุทธิพงศ์ พงษ์รัมย์
นักร้องโชว์เดี่ยวที่เคยเข้าร่วมเวทีมหกรรมดนตรีระดับโลกอย่าง Glastonbury Festival
พร้อมทั้งทำเพลง สู้สิสู้ อยู่ในอัลบั้มประจำการแข่งขันฟุตบอลโลก 2010
นอกจากจะบอกเล่าประสบการณ์แล้ว ยังร้องเพลงประกอบการพูดคุยอีกด้วย
"ผมไม่ใช่คนเชียงใหม่ แต่ไปเรียนที่นั่น เริ่มต้นเล่นดนตรีประจำที่ร้านเล็กๆ หลังจากเพลง
อย่าขี้โม้ ขึ้นชาร์ตก็เริ่มมีงานที่กรุงเทพฯ และเริ่มทำเพลงโดยทำทุกอย่างเอง
ผมเอาศิลปะมารวมเข้ากับดนตรี
เพลงของผมมีสาระทุกเพลงใส่เนื้อหาของชีวิตเข้ามา อย่างเพลงบทที่ 1 (Lesson One)
คือการเรียนรู้ชีวิต ตั้งใจทำให้วัยรุ่นฟัง จึงสอดแทรกสาระให้เขาซึมซับโดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าโดนยัดเยียด
ตรงท่อนที่ว่า (ร้องเพลงประกอบ) แต่งตงแต่งตัวดีๆ กันนะหนู
ดื่มกงดื่มกันอย่าเอาให้แมว (เมา) จะท่งจะเที่ยวก็เอาเป็นครั้งคราว Lesson one บทที่ 1"


นักร้องอินดี้คนนี้ ยังฝากไว้ว่า ความสามารถทุกคนมีอยู่ในตัวเองต้องงัดมันออกม
อาชีพนักร้องต้องขยันและหมั่นฝึกซ้อม นี่คือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
"ผมทำงานเหมือนไม่ได้ทำงาน เพราะทำแล้วมีความสุข"


"อาชีพนักจิตวิทยาเด็กออทิสติก ไม่ใช่แค่เราช่วยเขา
แต่เขาก็ช่วยเราให้ได้รับรางวัลชีวิต" ดร.ขวัญ หาญทรงกิจพงษ์



ด้านดร.ขวัญ หาญทรงกิจพงษ์ นักจิตวิทยาเด็กออทิสติก
ดีกรีด๊อกเตอร์จากฮาร์วาร์ด
แนะนำนักเรียนที่สนใจด้านนี้ เพราะเป็นสาขาที่ต้องการมาก
โดยเล่าที่มาว่า
เราเกิดมามีพันธุกรรม พื้นฐาน และอารมณ์ที่ต่างกัน
โดยวงจรของมนุษย์มีหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรา Me ตัวเรา
Microsystem ครอบครัว เพื่อน ครู Mesosystem
ความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ที่แวดล้อมและมีอิทธิพลต่อตัวเรา
Exosystem ระบบสาธารณูปโภค
ที่อยู่อาศัย การรักษาพยาบาล Microsystem
ความเชื่อ ศาสนา การเมืองและประเพณี
ทั้งหมดนี่มีผลต่อเราทั้งสิ้น
"ส่วนตัวก็ได้รับอิทธิพลจากครูที่สอนขณะเรียนมัธยมปลายในอเมริกา
ได้รับแรงบันดาลใจจากครูแนะแนวและ
ครูสอนภาษาอังกฤษจนไปเรียนต่อด้านจิตวิทยา
รวมไปทั้งภาพยนตร์ที่ชอบก็มีผลเช่นกัน
ต่อมาได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับเด็กออ ทิสติก
ก็สนใจมากขึ้น เพราะคิดว่าการทำงานไม่ใช่แค่เราช่วยเขา
แต่เขาก็ช่วยเราให้ได้รับรางวัลชีวิต"


ดร.ขวัญ ยังเผยเคล็ดลับว่า คนที่สนใจด้านจิตวิทยาต้อง
ขี้สงสัย (อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้ยินมา)
ค้นหาคำตอบ เป็นนักอ่าน มีความคิดเห็นและเป้าหมาย มีกรอบขอบเขต
มองหาสร้างโอกาส รวมทั้งคิดก่อนตัดสินใจ
ลองถูกลองผิดและเรียนรู้จากประสบการณ์
คนที่จบจากอาชีพนี้ไม่มีขอบเขต สามารถไปทำงานได้หลากหลาย
ภายในองค์กรใหญ่ๆ ต้องการคนที่จบสาขานี้มาก



"ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผมเชื่อว่าคนไทยก็ทำได้"
กระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล คนไทยที่ปั้นโปรเจ็คต์กูเกิ้ลเอิร์ธ


ส่วนคนที่สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ ชอบค้นคว้าผ่านอินเตอร์เน็ตต้องรู้จัก "กูเกิล"
โดยคนไทยที่ปั้นโปรเจ็คต์กูเกิ้ลเอิร์ธ (Google Earth) จนดังระดับโลก
คุณกระทิง-เรืองโรจน์ พูนผล จากเด็กชาวกำแพงเพชร
ที่ปัจจุบันสามารถตั้งบริษัทเล็กๆ ในซิลิค่อน วัลเล่ย์ (Silicon Valley)
เมืองแห่งไอที เล่าว่า ตนได้รับแรงบันดาลใจจากครูบ้านนอกที่สอนในวัยเด็ก
ทำให้หลงรักวิทยาศาสตร์จากการเรียนรู้ในธรรมชาติที่ไม่ต้องใช้เทคโนโลยี
ต่อมาสอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จากนั้นได้ศึกษาต่อมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายปั่นจักรยานไปเรียน
และได้รับตำแหน่งประธานชมรมการตลาด หัวหน้าฝ่ายวิชาการ
เมื่อเรียนจบได้รับการชักชวนให้ไปทำงานถึง 5 บริษัท
และเสนอผลตอบแทนที่สูงมาก แต่ก็ปฏิเสธ
เพราะต้องการเป็นพนักงานของกูเกิล โดยใช้เวลากว่า 5 เดือน
สอบสัมภาษณ์ 8-9 ครั้ง กว่าจะได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเว็บไซต์เสิร์ชเอนจินชื่อดัง


หลังจากที่ทำงานกับกูเกิลมากว่า 2 ปี คุณเรืองโรจน์ ได้ตัดสินใจลาออก
โดยเล่าถึงโปรเจ็คต์สุดท้ายที่ภูมิใจมาก Google Earth Hero
ผู้นำชนเผ่าสุรุยแห่งอเมซอน ที่ปกป้องป่าจากการทำลายโดยคนผิวขาวโดยใช้กูเกิ้ลเอิร์ธ
"หัวหน้าเผ่าเป็นเพียงคนธรรมดาที่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงโลก
ผมก็เชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร"


"ซุกซนที่จะค้นหา" ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ไกด์คนดัง


หากชอบท่องเที่ยว "ณวัฒน์ อิสรไกรศีล"
พิธีกรและไกด์คนดัง ที่ขอเปิดมุมมองไกด์รอบโลก ว่า
อาชีพมัคคุเทศก์ใครก็สามารถเป็นได้ ขอแค่ช่างคิดและช่างพูด
อาชีพบริการต้องพูดได้ไม่ทั้งหมดสำคัญที่รู้กาละเทศะ
สิ่งที่ควรฝึกฝนคือการพูดต่อหน้าคนพาเขาไปเที่ยวแล้วไม่น่าเบื่อ
สำหรับเรื่องภาษาไม่ใช่เรื่องยาก ภาษาก็เหมือนดนตรีพูดได้เพราะความคุ้นเคย
ข้อดีของการเป็นไกด์คือสามารถท่องเที่ยวได้ทั่วโลกออกไปเห็นในสิ่งที่แตก ต่าง
อาชีพนี้ต้องพัฒนาตัวเองศึกษาให้รอบรู้ทั้งเรื่องภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิต
ซุกซนที่จะค้นหา ที่สำคัญอย่าหลงระเริงกับสิ่งที่ได้มาและต้องไม่ผิดวินัย
ยกตัวอย่าง การพาลูกทัวร์ไปเที่ยวแล้วมีคำถามที่เราไม่รู้ อย่าเดาส่งหรือแต่งเอง


ทิ้งท้ายด้วยข้อคิดดีๆ จากพิธีกรและไกด์ชื่อดัง
"อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไป อย่ามีเงื่อนไขในชีวิต อย่ายืนรอโอกาส"