Custom Search

Jun 6, 2008

ผู้นำในดวงใจ

From T2
อภิญญา จงสุขกิจพานิช
ภาควิชาประยุกต์ศิลป์ศึกษา
คณะมัณฑนศิลป์
มหาวิทยาลัยศิลปากร

ผู้นำในดวงใจของฉันคือคุณจรัญ คงได้
น้าจรัญเป็นทหารที่ออกรบและบาดเจ็บจากการต่อสู้ด้วยระเบิด
ส่งผลให้ชีวิตทหารของน้าจรัญจบลง
เพราะระเบิดนั้นทำให้แขนขาดและตาบอดกลายเป็นคนพิการ
แต่น้าจรัญก็ไม่เคยยอมแพ้ชีวิต หันมาจับงานขายลอตเตอรี่
หาเลี้ยงครอบครัวที่มีภรรยาและลูกสาวอีก 2 คน ที่ยังเรียนอยู่
ต่อมามีผู้เปิดโอกาสนำธุรกิจส่วนตัวมาให้น้าจรัญโดยที่ไม่สนใจว่า
น้าจรัญจะพิการแขนขาด ตาบอด
จากนั้นน้าจรัญก็เริ่มทำธุรกิจออกไปหาลูกค้า สาธิตสินค้า
และเริ่มหาองค์กร ทั้งที่ตนเองตาบอดและแขนขาด
เข้าฟังประชุม สัมมนาอบรมจนดึก
มีอยู่ครั้งหนึ่งภรรยาของน้าจรัญเอ่ยด้วยความห่วงใยว่า
“ออกไปประชุมแต่เช้า กลับก็ดึกดื่น
รู้มั้ยว่ามืดแล้วมันอันตราย รู้ตัวรึเปล่าว่าตาบอด”
น้าจรัญตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า
“ก็กลางวันมันก็มืดอยู่แล้ว กลางคืนก็มืดไม่ต่างกันหรอก”
ทำเอาภรรยาต้องทำใจในความเข้มแข็งของสามีที่ไม่เคยยอมแพ้ชีวิต
ต่อมาประมาณ 3-4 ปี
น้าจรัญก็ประสบความสำเร็จในธุรกิจมียอดองค์กรและเครือข่าย
สามารถพาลูกสาวและภรรยาไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ทุกปี
ล่าสุดน้าจรัญสามารถทำยอดพาครอบครัวไปล่องเรือที่ทะเลเมดิเตอเรเนียนได้
ชนิดที่เรียกว่าคนที่เป็นปกติครบ 32 ยังทำไม่ได้
แต่กระนั้นก็ยังมีคนว่ากล่าวน้าจรัญว่าที่ประสบความสำเร็จได้
เพราะคนเขาช่วยซื้อช่วยขายด้วยเห็นแก่น้าจรัญที่ตาบอด แขนขาด
น้าจรัญก็ไม่โกรธตอบไปว่า
“แกก็เอานิ้วจิ้มตาให้บอด ตัดแขนให้ขาดเหมือนฉันสิ
แกจะได้ประสบความสำเร็จ”
และยังมีสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความอารมณ์ดี เข้มแข็ง
และไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิตของน้าจรัญนั้นคือ
บางคราวมีคนถามน้าจรัญว่า
“น้าจรัญตาบอด มองไม่เห็น ไปต่างประเทศจะต่างอะไรกับเมืองไทย”
น้าจรัญก็จะกระทืบเท้าและสูดลมหายใจเข้าพลางเอ่ย
“นี่พื้นของอิตาลี นี่อากาศของอิตาลี”
เป็นสิ่งที่ฉันเคารพจากหัวใจ เพราะน้าจรัญไม่เคยยอมแพ้ชีวิต
ไม่หวั่นเกรงต่อเสียงของผู้คนรอบข้าง
มุ่งมั่นทำธุรกิจจนประสบความสำเร็จมีรายได้เดือนละเป็นหมื่น
และพาลูกสาว ภรรยาไปต่างประเทศได้อย่างไม่อายคนปกติธรรมดา
เรื่องราวเหล่านี้มีอยู่ในหนังสือ “โลกมืด...ทางสว่าง” โดย คุณจรัญ คงได้

อภิญญา จงสุขกิจพานิช กับ เพื่อนๆ ภาควิชาประยุกต์ศิลป์ศึกษา

From T2


Mirror Blog
วันพุธ ที่ 30 กรกฎาคม 2551 (31/07/2008)
http://blog.spu.ac.th/anon49069929sec02