Custom Search

May 31, 2025

31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

 # วันนี้ในอดีต 31 พฤษภาคม 2423 “สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี” (พระนางเรือล่ม) เสด็จทิวงคต

.
👸
# สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวี หรือที่รู้จักกันในนาม # พระนางเรือล่ม เป็นพระราชธิดาของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 กับ สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา (เจ้าจอมมารดาเปี่ยม) ทรงพระราชสมภพเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2403 ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระราชบิดาว่า “พระองค์เจ้าหญิงสุนันทากุมารีรัตน์”
.
👑
ต่อมาทรงเป็นอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และได้ประสูติพระราชธิดาพระองค์แรกคือ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์” เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2421
.
🏰
จนเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2423 มีการเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานจากกรุงเทพมหานคร ไปประทับ ณ พระราชวังบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา “สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี” และ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์” ได้เกิดอุบัติเหตุเรือพระที่นั่งล่ม บริเวณอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
.
🛟
ด้วยความเคร่งครัดใน # กฎมณเฑียรบาล ที่มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา ระบุว่า ห้ามผู้ใดแตะต้องพระวรกายของพระมเหสี มิฉะนั้นจะถูกประหารทั้งตระกูล กฎมณเฑียรบาลข้อนี้ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการช่วยเหลือ จนทำให้ “สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี” เสด็จทิวงคตพร้อมกับพระราชธิดาในที่สุด
.
🎗️
พิธีถวายพระเพลิงพระศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2424 ในงานมีการแจก # หนังสือสวดมนต์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำริให้พิมพ์แจก เพื่อเป็นพระราชกุศล จำนวน 10,000 เล่ม นับเป็น # หนังสืองานศพ เล่มแรกของไทย ทั้งยังทรงสร้าง “อนุสาวรีย์พระนางเรือล่ม” ไว้ที่พระราชวังบางปะอิน พระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักและอาลัยอีกด้วย
.
🗝
เล่าอดีต บันทึกปัจจุบัน รอบรู้ทุกวัน กับ Thai PBS On This Day | www.thaipbs.or.th/OnThisDay
📢
บริการ #TextToSpeech คลิกฟังฉบับ #AIvoice
🎧
www.thaipbs.or.th/ai-audio-news
.

May 30, 2025

30 พฤษภาคม “วันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” รัชกาลที่ 7 แห่งราชวงศ์จักรี

๓๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ครบรอบ ๘๔ ปี แห่งวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ 🙏

May 22, 2025

May 17, 2025

กูบอกบอกหลายทีละ

f    ตามติด ชีวิต อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ 


 

May 16, 2025

วิธีเลิกคิดมาก

f       ไปให้ถึง100ล้าน 

วิธีเลิกคิดมาก

เพื่อใช้ครุ่นคิด มองอย่างเป็นกลาง
จนได้ผลลัพธ์จากการคิด
.
การคิดมากหรือครุ่นคิดวนเวียนเป็นประสบการณ์ที่มนุษย์ทุกคนเคยเจอ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
.
แม้ว่าการไตร่ตรองตัวเองบ้างจะเป็นเรื่องดี แต่การครุ่นคิดมากเกินไปอาจนำไปสู่ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และการตัดสินใจที่ผิดพลาด งานวิจัยในปี 2021 โดย Grossmann บอกว่าเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการรับมือกับปัญหานี้คือ "การพูดถึงตัวเองในบุคคลที่สาม" หรือที่เรียกว่า "illeism"
.
“ทำความเข้าใจการครุ่นคิด”
.
การครุ่นคิดเกิดขึ้นเมื่อเราหมกมุ่นกับประสบการณ์เชิงลบ ความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือจุดอ่อนที่เรารับรู้ มันมักแสดงออกในรูปแบบของการเปรียบเทียบระหว่างสถานการณ์ปัจจุบันกับมาตรฐานที่เรายังไม่บรรลุ เช่น คิดว่า "ทำไมฉันจัดการเรื่องนี้ให้ดีกว่านี้ไม่ได้" ความครุ่นคิดแบบนี้นำมาซึ่งผลเสียไม่รู้จบ
.
- บั่นทอนความสามารถในการตัดสินใจ
- เพิ่มการตอบสนองต่อความเครียดทางร่างกาย
- นำไปสู่หรือเพิ่มความรุนแรงของภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล
- ลดประสิทธิภาพการทำงานและคุณภาพการนอน
- ทำลายความสัมพันธ์
- ขัดขวางการมีความสุขกับปัจจุบัน
.
“พลังของการพูดถึงตัวเองในบุคคลที่สาม”
.
เทคนิคนี้มีมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ งานวิจัยสมัยใหม่โดยเฉพาะจากนักจิตวิทยา Igor Grossmann แห่งมหาวิทยาลัย Waterloo แสดงให้เห็นว่าเทคนิคนี้ช่วยเราก้าวข้าม "Solomon's paradox" หรือแนวโน้มที่เราให้คำแนะนำคนอื่นได้ดีกว่าตัวเอง
.
เมื่อเราพูดถึงตัวเองในบุคคลที่สาม เราสร้างระยะห่างทางจิตวิทยาจากปัญหา ทำให้มองเห็นสถานการณ์อย่างเป็นกลางมากขึ้น ระยะห่างนี้ช่วยให้เราเข้าถึงปัญญาเดียวกับที่ใช้ให้คำแนะนำเพื่อน ซึ่งนำไปสู่…
.
- การควบคุมอารมณ์ที่ดีขึ้น
- การตัดสินใจที่ดีขึ้น
- ความสามารถในการพิจารณามุมมองที่หลากหลาย
- ความถ่อมตนทางปัญญามากขึ้น
- การเปิดใจกว้างมากขึ้น
.
“วิธีนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน”
.
1. เขียนบันทึกเกี่ยวกับความขัดแย้งหรือความท้าทายในชีวิตโดยใช้บุคคลที่สาม วันละ 15 นาที
2. ฝึกจินตนาการมองตัวเองในมุมมองบุคคลที่สามเมื่อต้องเผชิญการตัดสินใจที่ยาก
3. พูดกับตัวเองในกระจกเสมือนเป็นนักบำบัดที่กำลังให้คำปรึกษาคนไข้
4. แทนที่ประโยค "ฉัน..." ด้วยชื่อของตัวเองเมื่อประมวลผลสถานการณ์ที่ท้าทาย
.
ตัวอย่างเช่น แทนที่จะคิดว่า "ฉันรู้สึกหงุดหงิดกับสถานการณ์นี้" ให้พูดว่า "[ชื่อของคุณ] รู้สึกหงุดหงิดกับสถานการณ์นี้" การเปลี่ยนมุมมองแค่เล็กน้อยนี้ สามารถสร้างระยะห่างทางอารมณ์ที่จำเป็นต่อการคิดอย่างชัดเจนและเป็นกลางมากขึ้น
.
ในงานวิจัยของ Grossmann แสดงให้เห็นว่าการฝึกเทคนิคนี้เพียง 4 สัปดาห์สามารถพัฒนาการใช้เหตุผลอย่างมีปัญญาได้อย่างมีนัยสำคัญ ผู้เข้าร่วมที่เขียนบันทึกความขัดแย้งในชีวิตประจำวันโดยใช้บุคคลที่สามแสดงให้เห็นถึงความถ่อมตนทางปัญญา ความสามารถในการพิจารณามุมมองที่แตกต่าง และการควบคุมอารมณ์ที่ดีขึ้น
.
“การสร้างระยะห่างระหว่างตัวเรากับปัญหา ช่วยเปลี่ยนการครุ่นคิดให้กลายเป็นปัญญา” ทำให้เราหลุดพ้นจากวงจรความคิดเชิงลบและตัดสินใจได้ดีขึ้น
.
“แม้การไตร่ตรองตัวเองบ้างจะเป็นเรื่องดี แต่การคิดมากเกินไปอาจเป็นอุปสรรคในชีวิต”
.
การฝึกมองปัญหาของตัวเองอย่างเป็นกลางมากขึ้นจะช่วยให้เราหลุดพ้นจากการครุ่นคิดและเผชิญความท้าทายในชีวิตด้วยปัญญาและความชัดเจนมากขึ้น

เขียนและเรียบเรียงโดย 100WEALTH

May 15, 2025

May 14, 2025

14 พฤษภาคม พ.ศ 2568 รำลึก อาจารย์ศิลป์ พีระศรี บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทย



14 พฤษภาคม รำลึก อาจารย์ศิลป์ พีระศรี

หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน

สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม

ศาสตราจารย์ ศิลป์ พีระศรี (15 กันยายน พ.ศ. 2435 — 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2505) เดิมชื่อ คอร์ราโด เฟโรชี (Corrado Feroci) ชาวอิตาลีสัญชาติไทย เป็นประติมากรจากเมืองฟลอเรนซ์ที่เข้ามารับราชการในประเทศไทยตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยถือเป็นปูชนียบุคคลคนหนึ่งของไทยที่ได้สร้างคุณูปการในทางศิลปะและมีผลงานที่เป็นที่กล่าวขานจนเป็นที่รู้จักกว้างขวาง ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งและอาจารย์สอนวิชาศิลปะที่โรงเรียนประณีตศิลปกรรม ซึ่งภายหลังได้รับการยกฐานะให้เป็นมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยศาสตราจารย์ศิลป์ได้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัย มีความรักใคร่ ห่วงใยและปรารถนาดีต่อลูกศิษย์อยู่ตลอดจนเป็นที่รักและนับถือทั้งในหมู่ศิษย์และอาจารย์ด้วยกัน

ศาสตราจารย์ศิลป์ยังเป็นผู้วางรากฐานที่เข้มแข็งให้แก่วงการศิลปะไทยสมัยใหม่จากการที่ได้พร่ำสอนและผลักดันลูกศิษย์ให้ได้มีความรู้ความสามารถในวิชาศิลปะทั้งงานจิตรกรรมและงานช่าง มีจุดประสงค์ให้คนไทยมีความรู้ความเข้าใจในศิลปะและสามารถสร้างสรรค์งานศิลปะได้ด้วยความสามารถของบุคลากรของตนเอง การก่อตั้งมหาวิทยาลัยศิลปากรจึงเปรียบเสมือนการหว่านเมล็ดพันธุ์ให้แก่คนไทยเพื่อที่จะออกไปสร้างศิลปะเพื่อแผ่นดินของตน และถึงแม้จะริเริ่มรากฐานของความรู้ด้านศิลปะตะวันตกในประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกันศาสตรจารย์ศิลป์ก็ได้ศึกษาศิลปะไทยอย่างลึกซึ้ง เนื่องจากต้องการให้คนไทยรักษาความงามของศิลปะไทยเอาไว้ จึงได้เกิดการสร้างลูกศิษย์ที่มีความรู้ทั้งงานศิลปะตะวันตกและศิลปะไทยออกไปเป็นกำลังสำคัญให้แก่วงการศิลปะไทยเป็นจำนวนมาก และเกิดรูปแบบงานศิลปะไทยสมัยใหม่ในที่สุด


ด้วยคุณูปการนี้ศาสตราจารย์ศิลป์จึงได้รับการยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคลของมหาวิทยาลัยศิลปากรและของประเทศไทย โดยเฉพาะในงานประติมากรรมที่ได้มีผลงานที่โดดเด่นมากมายที่สร้างไว้แก่ประเทศไทย ได้แก่ พระพุทธรูปประธานที่พุทธมณฑล, อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และรวมไปถึง พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ที่วงเวียนใหญ่, พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และพระบรมราชานุสาวรีย์ของกษัตริย์ไทยอีกหลายพระองค์ เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ศาสตรจารย์ศิลป์จงได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่ของไทยและเป็นบิดาแห่งมหาวิทยาลัยศิลปากร โดยในวันที่ 15 กันยายน ของทุกปีจะถือเป็นวันศิลป์ พีระศรี ซึ่งมหาวิทยาลัยจะจัดงานรำลึกขึ้นทุกปีเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของศาสตราจารย์ศิลป์ที่มีต่อมหาวิทยาลัยและประเทศไทยหลายประการ


May 13, 2025


  Petพาเพลิน


13 พฤษภาคม "วันแห่งคนรักสุนัข"

ในประเทศไทย ซึ่งตรงกับวันที่ 13 พฤษภาคมของทุกปี วันสำคัญนี้มีที่มาจากประเทศญี่ปุ่น โดย Japan Kennel Club ซึ่งเป็นคลับของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขแห่งประเทศญี่ปุ่น ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 เพื่อเป็นการระลึกถึงการก่อตั้งสมาคมในปี 1949 และเพื่อเป็นการให้ความสำคัญกับสุนัข สัตว์เลี้ยงที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สุดของมนุษย์

May 12, 2025

May 11, 2025

พาป๊าตามรอยจิ๋นซี 2025 (นิ้วกลม)

    Sarawut Hengsawad


ถ้ามีลูกแล้วเขาโตเป็นหนุ่ม ผมคงมองเขาแล้วนึกถึงตัวเองในวันที่ยังหนุ่มแน่น
หวนคิดถึงหลายสิ่งในตอนนั้นที่เคยทำ อยากทำ และทำได้ ซึ่งตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว
แต่ยิ่งนับวัน เวลาที่ผมหันไปมองป๊า ผมยิ่งนึกถึงตัวเองในอีกสามสิบปีข้างหน้า
ป๊าใช้เวลาล่วงหน้าผมไปสามสิบกว่าปี ผมร่วงก่อน เหี่ยวก่อน แก่ก่อน ช้าลง อ่อนแรงลง
แต่ผมกำลังค่อยๆ เดินตามป๊าไป...ในเรื่องเหล่านั้น
ผมมองเห็นตัวเองในตัวป๊ามากมาย อีกไม่นานผมก็จะเป็นแบบป๊า งงๆ กับเทคโนโลยี
เดินเหินต้องการคนประคอง บันไดแต่ละขั้นดูจะยืดยาวขึ้น
ข้อเข่าก็ปวดร้าวง่ายกว่าเดิม มิต้องนับสายตา หู ฟันฟาง และกล้ามเนื้อ
ถึงแม้ผมคิดว่า ในแง่ดูแลสุขภาพ​ ผมสามารถนับป๊าเป็นไอดอลได้เลย กระนั้น
ป๊าก็สอนวิชา 'ชราภาพ'​ ให้ผมอยู่ดี ผ่านสัจธรรม​ที่เกิดขึ้นบนเรือนร่างและวิถีชีวิต
ผมมองเห็นตัวเองนับเวลาถอยหลัง ไม่มีดีขึ้น มีแต่เสื่อมทรุดลง และทราบดีว่า
ในคราวของผม-จะไม่มีโอกาสหันไปมองเด็กหนุ่มอีกคนแล้วคิดในใจว่า
"ไอ้นี่เหมือนเราสมัยหนุ่มเลยเนอะ" เพราะหันไปแล้วมีแต่ความว่างเปล่า
ผมเพียงค่อยๆ เดินทางไปสู่จุดจบ--เท่านั้น
เวลาเห็นตัวเองอยู่กับป๊า ผมว่ามันมหัศจรรย์​ดีนะ ที่มนุษย์​คนนึงที่เกิดจาก
องค์​ประกอบของมนุษย​์คนข้างๆ ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในช่วงเวลาหนึ่งบนโลกนี้
เหมือนเราแยกตัวออกมา แล้วใช้ชีวิตคนละช่วงเวลา
แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เราจะแก่ และสิ้นสุดในวันหนึ่ง
ผมเกิดคนละยุคสมัยกับป๊า ป๊าเป็นคนประหยัดเพราะเคยลำบาก ความประหยัดเกินเบอร์นี้อาจถูกผมตำหนิบ้าง
แต่มันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในตัวผมไปด้วยเหมือนกัน
บางเรื่องที่ป๊า 'ไม่ทันสมัย'​ แล้วมาสอบถามจากผม ผมก็เบ่งพลังใส่ป๊าด้วยความ 'ทันสมัย'​ กว่า
แต่มานั่งคิดดู วันข้างหน้าเมื่อผมไม่ทันสมัยเสียแล้ว ผมคงดูงกๆ เงิ่นๆ ยิ่งกว่าป๊าเสียอีก
แถมไม่มีลูกชายมาคอยตำหนิว่าทำไมพูดแล้วไม่เข้าใจในเทคโนโลยี​ต่างๆ เสียที
ผมคงต้องอาศัยถามจากน้องๆ หลานๆ ผู้มีน้ำใจ หรือไม่ก็หุ่นยนต์
เป็นความรู้​สึกที่แปลกดีนะครับ เมื่อเราคิดว่าตัวเองกำลังจะค่อยๆ กลายเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เรา
แล้วกำลังค่อยๆ ทิ้งร่าง ชีวิต และสิ่งที่เป็นในปัจจุบั​นเอาไว้ในวันนี้
ไม่เพียงด้านเสื่อมถอย แต่ยังรวมถึงการแปรผันไปสู่ด้านที่ส่องสว่าง เช่น ใจร้อนกลายเป็นเย็นลง
ทิฐิสูงกลายเป็นผ่อนคลาย ขี้โมโหกลายเป็นยิ้มแย้ม... ป๊าลอกคราบหลายอย่างไประหว่างทางของการชราภาพ
ชวนให้สงสัยว่า แล้วผมล่ะ มีอะไรจะหลุดร่อนออกไปบ้างจากตัวตนในวันนี้?
ยิ่งนึกยิ่งใจหาย, เมื่อนึกว่าวันหนึ่งผู้ชายที่เราเดินตามเดินข้างและเดินแซงมาตลอดชีวิตจะหายตัวไปจากโลก
เหลือเพียงบางสิ่งของเขาไว้ในตัวผม
เรารู้ว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
ผมดีใจที่เราได้มาใช้เวลาร่วมกัน กับพี่สาวอีกสองคน พี่เขยอีกสองคน--กับครอบครัว
เดินด้วยกัน กินด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน เดินทางด้วยกัน
การเดินทางครั้งนี้ผมไม่ได้สนใจประวัติศาสตร์​ จำนวนสถานที่ ความสวยงาม วัฒนธรรม​ ความรู้
หรืออะไรอย่างที่ผมมักสนใจ แต่ก็รู้สึก 'เต็มอิ่ม'​ กับการใช้เวลาร่วมกันของพวกเรา
วันหนึ่งเราจะกลายเป็นความว่างเปล่า ตำแหน่งข้างๆ กายเรา ป๊าจอมวุ่นคนนี้จะหายวับไป
ผมทราบดี แต่วันนี้เราได้อยู่ข้างกัน และจะใช้เวลาด้วยกันให้ดีที่สุด
วันนี้ตอนกินอาหารจีน ผมนึกถึงอาหารที่แม่ทำ และคิดขึ้นมาว่า ถ้าผมรู้ว่าวันหนึ่งแม่จะจากผมไป
ตอนเด็กๆ ผมจะบอกแม่ทุกวันเลยว่า "ขอบคุณ​นะแม่ แม่ทำอาหารอร่อยมากเลย
เอ๋มีความสุข​ที่ได้กินอาหารฝีมือแม่นะ" ผมจะบอกแม่แบบนี้ทุกวันเลยจริงๆ
วันนี้และระหว่างเราใช้ชีวิตด้วยกัน ป๊าอาจมีอะไรขัดใจผมบ้าง
แต่ผมก็เข้าใจแล้วว่าควรทำอย่างไร ทั้งยังเข้าใจด้วยว่าป๊าก็คงขัดใจกับสิ่งที่ผมเป็นและทำบางอย่างเหมือนกันนั่นแหละ
มาเที่ยวกัน เรานอนด้วยกัน ป๊าไม่เรียกให้ผมอาบน้ำ บอกให้นอนตอนกี่โมงเหมือนสมัยเป็นเด็กแล้ว
เราปล่อยให้กันและกันเลือกทำเลือกเป็น เป็นอิสระแต่เคียงข้างกัน
ผมทั้งเหมือนป๊า และไม่เหมือนป๊า
ป๊าขัดใจผมบางอย่าง ผมขัดใจป๊าบางสิ่ง
แต่ผมเห็นตัวเองในตัวป๊าชัดเจนเหลือเกิน
และผมว่า บางทีชีวิตช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์​ที่มีคนคนหนึ่งแตกตัวกลายมาเป็นคนอีกคนที่หนุ่มกว่า

เพื่อจะแก่ตามไปในอีกหลายปีให้หลัง
ระหว่างนั้นคนสองคนนี้ก็เรียนรู้สิ่งสำคัญ​อย่างหนึ่งของชีวิต
นั่นคือการรักใครอีกคนที่ไม่ใช่ตัวเอง
ซึ่งพ่อกับลูกชายมักจะไม่เอ่ยคำนี้กันสักเท่าไหร่หรอก
และบางที, การสัมผัสถึงก็ไม่จำเป็นต้องกระทำผ่านคำพูด


วันวิสาขบูชา 2568 - วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

f       MEDcury

11 พฤษภาคม ‘วันวิสาขบูชา’ (Visakha Bucha Day)

วันวิสาขบูชาปี พ.ศ.2568 นี้ ตรงกับวันที่ 11 พฤษภาคม
ซึ่งตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ของทุกปี
ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของพุทธศาสนิกชนทั่วโลก
เป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้
และปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่เวียนมาบรรจบกันในวันเพ็ญเดือน 6


May 10, 2025

May 9, 2025

9 แรกของ เดือนพฤษภาคม 2025 🌥️💐✨

     สีเทา


· ก้าวหน้า ก้าวไกล ก้าวไปพบสิ่งที่ดีๆ
· ขอให้มีความสุขกับเช้านี้
· ขอให้พบเจอผู้คนที่ดีเช้านี้
· ขอให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ
· ถ้าคิดสิ่งใดก็ขอให้ประสบความสำเร็จทุกด้าน

    เฉียบ


9 พ.ค. วันพืชมงคล
9 ก้าวหน้าในสิ่งที่ดี
9ก้าวไปด้วยรอยยิ้ม
9 ก้าวไปด้วยความจุดมสัมบูรณ์
9 ก้าวไปด้วยความโชคดี
9ก้าวไปด้วยความแข็งแรง
และร่ำรวย ‎

วันพืชมงคล 2568 พระโคกินน้ำ-หญ้า-เหล้า น้ำท่าบริบูรณ์ เศรษฐกิจรุ่งเรือง (Fri, May 9, 2025)


f       สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 2568

💛💜
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธี
จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พุทธศักราช 2568 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

วันนี้ (9 พ.ค.2568) เวลา 08.27 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี
เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พุทธศักราช 2568 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง

ครั้นเมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงมณฑลพิธี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งทำหน้าที่พระยาแรกนายาตราขบวน พร้อมด้วยเทพีคู่หาบทอง - เงิน ออกจากโรงพิธีพราหมณ์ เมื่อถึงหน้าพระที่นั่ง พระยาแรก เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทถวายบังคม แล้วออกไปประกอบพิธีแรกนา

เจ้าหน้าที่จูงพระโคเทียมแอก พระยาแรกนาเจิมพระโคและคันไถ แล้วจึงไถดะไปโดยรี 3 รอบ โดยขวาง 3 รอบ หว่านธัญพืช โหรหลวงลั่นฆ้องชัย แล้วไถกลบอีก 3 รอบ เจ้าพนักงาน ปลดพระโคออกจากแอก พระยาแรกนาและเทพีกลับไปยังโรงพิธีพราหมณ์ พราหมณ์เชิญของกินเสี่ยงทาย 7 สิ่ง ตั้งเลี้ยงพระโค

เสร็จแล้ว นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กราบบังคมทูลถวายคำพยากรณ์การเสี่ยงทายผ้าของพระยาแรกนาสำหรับนุ่งไปประกอบพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และการเสี่ยงทาย พระโคกินเลี้ยง

การนี้พระยาแรกนาหยิบเสี่ยงทายผ้านุ่ง 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำจะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนา จะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี

การเสี่ยงทายพระโคกินเลี้ยง พระโคกินน้ำ หญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี และพระโคกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมสะดวกยิ่งขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเจริญรุ่งเรือง

ต่อจากนั้น รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กราบบังคมทูลเบิกผู้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2568 ประกอบด้วย ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน จำนวน 3 สาขา เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 16 สาขาอาชีพ ผู้แทนสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 12 กลุ่ม และผู้แทนสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 7 สหกรณ์

เสร็จแล้ว พระยาแรกนายาตราขบวนพร้อมด้วยเทพี ออกจากโรงพิธีพราหมณ์ เมื่อถึงหน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายบังคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท แล้วเสด็จออกพลับพลาพิธี ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังแปลงนาสาธิต สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต ทอดพระเนตรพระยาแรกนาหว่านข้าวในแปลงนาสาธิต สำหรับปลูกไว้เก็บเมล็ดพันธุ์ เพื่อใช้ในการพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในปีต่อ ๆ ไป

ผลการเสี่ยงทาย #พระโค พระราชพิธี #พืชมงคล #จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2568 พระโคกินน้ำ หญ้า และเหล้า

May 7, 2025

แก่แล้วจะไปอยู่ที่ไหน วางแผนไว้บ้างหรือยัง


  หมอแดง ที่ปรึกษาคนไข้ระยะท้าย

สังคมผู้สูงอายุ หรือสังคมที่ต้องพึ่งพาตัวเองเมื่อแก่ตัวไป จะทำอย่างไร


คู่สามีภรรยาที่ไม่มีบุตรหลาน หรือญาติพี่น้องที่จะหวังพึ่งพิง ได้ติดต่อผมเข้ามาเพื่อปรึกษาและวางแผนสำหรับระยะท้าย

สำหรับคู่ชีวิตที่ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับคู่ของตนคือการพลัดพราก แล้วคนที่เหลือจะอยู่อย่างไรหรือใครจะดูแลเมื่อถึงวันนั้น ก็โชคดีที่ได้วางแผนเตรียมตัวไว้

แต่คู่ชีวิตที่ไม่ตระหนักและไม่เตรียมตัว ท้ายที่สุดก็จะอ้างว้าง โดดเดี่ยวและถูกทอดทิ้งให้จากไปตามลำพังอาจไม่มีใครรู้ หรือถูกญาตินำไปฝากไว้ที่ศูนย์(ไม่ต่างจากถูกทอดทิ้ง)

เมืองไทยยังดีมีวัด มีสำนักสงฆ์ มีสังคมที่คอยช่วยเหลือกันในยามแก่เฒ่า มีศูนย์ผู้สูงอายุต่างๆให้เราเข้าไปสอบถามรายละเอียด จะได้รู้ว่าศูนย์ไหนที่ถูกใจเรา

ศูนย์ส่วนใหญ่ไม่ยอมให้คนไข้จากลาในศูนย์ ดังนั้นไม่ต้องคิดเรื่องว่าจะตายดีในศูนย์ เพราะศูนย์เหล่านี้จะยื้อชีวิต เมื่อคนไข้อาการหนักดูแลไม่ไหวก็ส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อยื้อต่อ ดังนั้นใครต้องการตายดีตายสบายตายแบบธรรมชาติ จึงเกิดขึ้นไม่ได้ในศูนย์เหล่านี้

ศูนย์ในเมืองไทยส่วนใหญ่เป็นศูนย์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อบริการผู้สูงอายุ ที่ลูกเต้าไม่สามารถดูแลเองได้ โดยศูนย์เหล่านี้มักไม่มีนโยบายเรื่องการตายดี

เมืองไทยครอบครัวเริ่มไม่เหมือนเดิมแล้ว ยังมีบางครอบครัวที่ดูแลผู้สูงอายุกันเองจนเสียชีวิต บางครอบครัวถ้าผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ก็ตัดจบโดยการเอาไปไว้ที่ศูนย์ (ทุกคนไม่นึกถึงใจของผู้สูงอายุที่ถูกส่งไป หรืออย่างน้อยลองนึกว่าตัวเองถูกส่งไปจะเป็นอย่างไร)

ขอย้ำ…คนที่รู้ตัวว่าลูกหลานคงไม่ดูแลตอนแก่เฒ่า หรืออยากเลือกสถานที่ๆถูกใจ ก็ควรวางแผนระยะท้าย

วัดป่าโนนสะอาดเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งสถานที่ ที่เราควรเข้าไปศึกษา วัดนี้ท่านเจ้าอาวาส พระอาจารย์แสนปราชญ์ ปัญญาคโม มีนโยบายเรื่องการตายดีวิถีพุทธไว้รองรับ และช่วยเหลือแบบไม่มีค่าใช้จ่าย (สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดของวัดและบริจาคช่วยเหลือท่านได้ตาม qr code ในคอมเมนต์)

พระอาจารย์ได้ดูแลคนที่ต้องการจากลาแบบมีสติวิถีพุทธ แต่ทุกคนจะไปพึ่งท่านเมื่อถึงระยะท้ายท่านคงดูแลไม่ไหว ถ้าพวกเราไม่เขาไปช่วยเหลือท่านในขณะที่ยังมีแรงอยู่

ปัญหาเหล่านี้ถ้าไม่วางแผน ก็จะเหมือนสังคมผู้สูงอายุของญี่ปุ่น ลองอ่านดูครับ

❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️


นายฮิโรอากิ ชายวัย 54 ปี ได้ถูกพบเป็นศพในอพาร์ทเมนท์หลังจากเสียชีวิตมานานกว่า 4 เดือน รอบๆ ห้องเต็มไปด้วยกองขยะ ถ้วยบะหมี่สำเร็จรูป กระป๋องเครื่องดื่ม หนังสือพิมพ์เก่าๆ ก้นบุหรี่ และฟูกที่นอนอับๆ
.
นายฮิโรอากิซึ่งอดีตเป็นเคยวิศวกรทำงานบริษัทใหญ่ๆเช่น นิสสัน ฟูจิตสึ แต่เป็นเพียงพนักงานจ้างตามสัญญาทำให้ไม่มีเงินใช้ยามชรา เขาหย่ากับภรรยามาหลายปีจึงต้องอาศัยอยู่คนเดียวในอพาร์ทเมนท์เก่าๆ
.
ช่วงบั้นปลายชีวิต นายฮิโรอากิก็เป็นเหมือนอีกผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นอีกหลายคนที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย และตายจากโลกนี้ไปโดยไม่มีใครรู้
.
นางอิโตะ อายุ 91 ปีอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์เก่าแก่ในชิบะ เธออาศัยอยู่ที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้มานานกว่า 60 ปี ตั้งแต่สมัยอพาร์ทเมนท์นี้เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ และถือได้ว่าทันสมัยมากในยุคนั้น เธอเคยอยู่ร่วมกับสามี ลูกสาว และลูกเลี้ยงอย่างมีความสุข
.
แต่เมื่อ 25 ปีก่อน สามีและลูกสาวกลับมาด่วนตายจากไปด้วยโรคมะเร็ง ลูกเลี้ยงของเธอก็ไปมีชีวิตของตัวเองและเพียงแค่ส่งการ์ดอวยพรให้เธอตามเทศกาลเท่านั้น
.
เธอต้องอาศัยอยู่อย่างเดียวดายเพราะเพื่อนสนิทและญาติๆ ของเธอล้วนจากโลกนี้ไปก่อนเธอ เธอคิดว่าการอยู่หรือตายของเธอคงไม่สร้างความแตกต่างให้กับโลกนี้มากนัก
.
เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการสวดมนต์ เขียนเล่าประวัติชีวิตส่วนตัว ดูรูปเก่าๆ และเดินเล่นรอบอพาร์ทเมนท์ เธอจะไปร่วมรับประทานอาหารกับคนชราคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่คนเดียวอาทิตย์ละครั้ง
.
นางอิโตะขอร้องให้เพื่อนบ้านช่วยมองมาที่ม่านหน้าต่างห้องเธอทุกๆ วันว่ายังปิดในตอนกลางคืนและเปิดในตอนกลางวันไหม หากวันใดม่านไม่ได้ปิดเปิดตามเวลา นั่นแปลว่า เธอได้จากโลกนี้ไปแล้ว
.
นางอิโตะยังได้เตรียมป้ายชื่อหลุมฝังศพตัวเอง และเงินทำพิธีเล็กๆ น้อยๆ ไว้พร้อมสำหรับวันที่เธอต้องออกเดินทางสู่อีกโลกหนึ่ง
.
นายคิโนชิตะ อายุ 83 ปี เพื่อนบ้านนางอิโตะได้ย้ายเข้าสู่อพาร์ทเมนท์นี้กว่า 14 ปีมาแล้ว เขาเป็นอดีตวิศวกรใหญ่ แต่บริษัทของเขาถูกฟ้องล้มละลาย ทำให้เขาต้องไปยืมเงินจากพี่น้อง ทำให้ถูกประนามว่า “เป็นความอัปยศของวงศ์ตระกูล”
.
เขาสูญเสียบ้านจากการทำธุรกิจทำให้ภรรยาของเขาบอกเลิกโดยให้เหตุผลว่า “ไม่มีใครทนอยู่กับสามีที่ขายบ้านตัวเองได้”
.
ความภูมิใจเดียวที่ยังเหลืออยู่ของนายคิโนชิตะ คือเขาเคยเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ของบริษัทยักษ์ใหญ่คาวาซากิ เฮฟวี่ อินดัสตรีย์ที่มีส่วนสร้างอุโมงค์ช่องแคบอังกฤษ
.
เขายังคงเก็บรูปถ่ายเมื่อครั้งได้ไปเยือนฝรั่งเศสและพวงกุญแจรูปอุโมงค์นั้นยังติดตัวเขาไปไหนมาไหนเสมอๆ ห้องของนายอิโตะเต็มไปด้วยเศษขยะและกลิ่นเหม็นๆ เศษอาหารและของเสียที่หมักหมมมานานหลายปี เขาไม่คิดแม้แต่จะมีป้ายชื่อหลุมศพตัวเอง
.
เพราะเขากล่าวว่า “ถึงจะมีป้ายหลุมศพก็คงไม่มีใครไปเคารพศพเขาอยู่ดี” เขาจึงบริจาคร่างกายให้กับสถาบันการแพทย์
.
เรื่องราวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมญี่ปุ่นในปัจจุบัน ที่มีผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 65 ปีที่ต้องอาศัยอยู่คนเดียวมากถึง 6 ล้านคน และมีมากถึง 12.71 ล้านครอบครัวที่เป็นครอบครัวที่มีแต่ผู้สูงอายุ หรือคู่สามีภรรยาสูงอายุ มากกว่าครึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นบอกว่ามีความยากลำบากในเรื่องรายได้ เนื่องจากอาศัยเพียงแค่เงินช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ไม่เพียงพอกับการเลี้ยงชีพ
.
สาเหตุหลักที่ทำให้มีคนสูงอายุที่ต้องตายอย่างโดดเดียว ได้แก่
.

ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ครองตัวเป็นโสด โดยต้องการมุ่งมั่นทำงานอย่างเดียวโดยไม่คิดมีครอบครัว เมื่อแก่ตัวลงจึงมีแนวโน้มต้องอยู่คนเดียว
.

หลายๆ ครอบครัวตัดสินใจไม่มีลูก เพราะคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยากและเพิ่มภาระด้านค่าใช้จ่าย
.

วัฒนธรรมการทำงานตลอดชีพทำให้พนักงานญี่ปุ่นจำนวนมากมีเพียงกลุ่มเพื่อนที่ทำงาน โดยไม่มีสังคมอื่นๆ นอกจากนั้นเลย พอถึงวัยเกษียณจึงเหมือนตัดขาดจากสังคมไปด้วย


ลูกๆ หลายบ้านนิยมอยู่กันเองมากกว่าอยู่ดูแลพ่อแม่ที่แก่เฒ่า และพ่อแม่เองก็กลัวจะเป็นภาระให้ลูกๆ จึงต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ประเด็นนี้ผู้เขียนคิดว่าค่อนข้างต่างจากไทยเรา เพราะคนญี่ปุ่นไม่ได้พูดเรื่องความกตัญญูเด่นชัดนัก
.

คนญี่ปุ่นที่อาศัยในเมืองมักจะไม่ค่อยสนทนากับเพื่อนบ้านอยู่แล้ว คืออยู่แบบตัวใครตัวมัน ทำให้ไม่มีสังคม ชุมชน หรือญาติพี่น้องแบบการอยู่กับครอบครัวใหญ่เหมือนเช่นสังคมชนบท
.
น่าตกใจที่ได้ทราบว่ามีคนแก่ในประเทศญี่ปุ่นที่ต้องตายอย่างเดียวดายโดยไม่มีใครรับรู้มากถึง 30,000 คนต่อปีเลยทีเดียว
.
บทความโดย : พิชชารัศมิ์ 

*******

นพ.พรศักดิ์ ผลเจริญสมบูรณ์
ที่ปรึกษาทีมดูแลผู้ป่วยระยะท้าย
โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
กรมแพทย์ทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

สามารถปรึกษาหมอแดงได้ดังนี้

1.ส่งรายละเอียดเข้ามาในกล่องข้อความของเพจหมอแดงที่ปรึกษาคนไข้ระยะท้าย​เพื่อกรอกแบบฟอร์ม จนท.จะต่อสายให้สนทนากับคุณหมอ หรือโทรติดต่อแอดมินเพจ​ 082-424-5363

2. มาพบหมอแดง​ที่คลินิกชีวีอภิบาล​โดยนัดหมายล่วงหน้าที่​ 061 563 2989 หรือ038 933 900 ต่อคลินิกชีวีอภิบาล เพื่อทำนัดพบกับหมอแดง

3.ติดต่อผ่านเยือนเย็นหรือในคนไข้ที่ใช้บริการของเยือนเย็นสามารถขอให้หมอแดงเข้าเยี่ยมพบได้