Custom Search

May 24, 2022

'ชัชชาติ' ทำบุญวันเกิด 56 ปี บอกอยากเห็นคนกรุงเทพฯเป็นหนึ่งเดียว อย่าทะเลาะ รักกันไว้

24 พฤษภาคม 2565 

ที่มา https://www.thaipost.net/x-cite-news/147798/

"ชัชชาติ" ควง พี่ชาย พี่สาว ทำบุญวันเกิด 56 ปี ย้ำ ทำงานคนเดียวไม่ได้

อยากเห็นคนกรุงเทพฯ เป็นหนึ่งเดียว ร่วมสร้าง เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน

24 พ.ค.2565 - นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รศ.ดร.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดี

คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พี่ชายฝาแฝด และ

อาจารย์ปรีชญา สิทธิพันธุ์ พี่สาว ทำบุญวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 56 ปี

โดยนิมนต์พระวัดพระยายังจำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ที่ตึกวชิรญาณวงศ์

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

นายชัชชาติ กล่าวว่า วันเกิดเป็นวันแก่ อยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้แข็ง

เนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญ ต้องเริ่มทำและลงทุนด้วยตัวเอง

จะได้มีวันเกิดและวันแก่ไปนานอีกหลายปี ส่วนความหวังปีนี้

อยากเห็นคนกรุงเทพฯ ร่วมมือร่วมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

และร่วมกันสร้างกรุงเทพให้เป็นเมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน ไม่สามารถทำคนเดียวได้

จึงอยากให้คนกรุงเทพส่งกำลังใจและร่วมมือกัน มีความเห็นแตกต่างกันได้

แต่อย่าทะเลาะกัน รักกันเข้าไว้

ส่ง "แตงโม" ครั้งสุดท้ายในวันฌาปนกิจ 24 พ.ค. 2565




4 พ.ค. 2565

คริสตจักรแห่งความสุข และเอ-ศุภชัย เผยแพร่กำหนดการพิธีฌาปนกิจศพ

แตงโม-ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ ในวันที่ 24 พ.ค.

ที่คริสตจักรเมธอดิสท์รังสิตคลองสี่ จ.ปทุมธานี เนื่องจากมาตรการป้องกันโควิด

เจ้าภาพขอสงวนสิทธิ์ผู้ร่วมงานเฉพาะครอบครัว ญาติ

และบุคคลใกล้ชิดที่ได้รับเชิญเท่านั้น

May 22, 2022

การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565 (วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565)






ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/

ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2565 อย่างไม่เป็นทางการ

พรรค ผู้สมัคร คะแนนเสียง % ±
อิสระ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ (8) 1,386,215 51.84
ประชาธิปัตย์ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (4) 254,647 9.52
ก้าวไกล วิโรจน์ ลักขณาอดิศร (1) 253,851 9.49
อิสระ สกลธี ภัททิยกุล (3) 230,455 8.61
อิสระ พลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง (6) 214,692 8.02
อิสระ รสนา โตสิตระกูล (7) 78,993 2.95
ไทยสร้างไทย นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี (11) 73,720 2.75


May 19, 2022

ส่องนโยบาย “แก้น้ำท่วม” ภารกิจด่วน ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่




ไทยรัฐออนไลน์

18 พ.ค. 2565 19:21 น.

ฝนตกหนัก น้ำท่วม ปัญหาใหญ่ของเมืองกรุงมายาวนาน ทำให้คนกรุงคาดหวังผู้ที่จะมาทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.

เข้ามาแก้ไขโดยด่วน แม้จะแก้ได้ยากแต่หวังว่าจะคลี่คลายได้บ้าง และวันที่ 22 พ.ค. 2565 นี้ ในวันเลือกตั้ง

จะเป็นวันชี้ชะตาว่าใครจะคว้าชัยชนะ และดำเนินนโยบายอย่างที่ได้ประกาศไว้หรือไม่ ในเวลาอันใกล้

แน่นอนก่อนใช้สิทธิ์ออกเสียง คนกรุงต้องอยากรู้นโยบายในการแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

และน้ำรอการระบายของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. แต่ละคนที่เป็นตัวเต็งทั้ง 5 จะเป็นอย่างไร

โดยเฉพาะช่วงนี้ฝนกระหน่ำตกหนักในกทม. จนน้ำท่วมขังสูงพื้นที่หลายจุดและถนนหลายสาย

ส่งผลให้จราจรติดขัดอย่างหนัก สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก


May 17, 2022

ดูให้รู้ Dohiru : เส้นผัดไทยจากข้าวญี่ปุ่น เกษตรกรได้ขาย ลูกค้าได้ฟินกินอาหารไทย

 

 

๑๗ พฤษภาคม ครบรอบ ๘๕ ปีสวนสุนันทา


สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา


๑๗ พฤษภาคม ๒๔๘๐ กระทรวงธรรมการ ได้ประดิษฐานโรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย

ไว้ที่ส่วนหนึ่งของ "สวนสุนันทา" เขตพระราชฐานของพระราชวังดุสิต

เพื่อเป็นโรงเรียนฝึกหัดครูประถม (หญิง) หนึ่งเดียวของประเทศสยามในเวลานั้น

จึงมีนักเรียนตั้งแต่ชั้นเตรียมประถม ชั้นประถมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา

และแผนกฝึกหัดครูประกาศนียบัตรครูประถม (ป.ป.) ตั้งแต่วาระนั้นเป็นต้นมา

จำเนียรกาลผ่านถึงปัจจุบันนี้ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

เจริญยั่งยืนมาครบ ๘๕ ปี ด้วยความภาคภูมิใจ

และสำนึกในพระคุณของบุพการีชนทุกท่านด้วยความเคารพและภาคภูมิใจเสมอมา


/// ภาพหมู่ อาจารย์นิลรัตน์ บรรณสิทธิ์วรสาสน์

และส่วนหนึ่งของคณะอาจารย์โรงเรียนสวนสุนันทาวิทยาลัย ปีการศึกษา ๒๔๘๐


รวีโรจน์ สิงห์ลำพอง: เรียบเรียง

สาลินี บุญสมเคราะห์ และชนะภพ วัณณโอฬาร: ภาพประกอบ

May 16, 2022

คำว่า ‘ศีลเสมอกัน’ ในความสัมพันธ์ แปลว่าอะไร ทำไมถึงสำคัญนัก

Posted By Plook Magazine | 15 ต.ค. 64

การเลือกแฟนหรือเพื่อนบางทีก็เหมือนกับการเสี่ยงดวง บางคนสมบูรณ์พร้อม ดูเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก
แต่กลับไม่คู่ควรกัน สุดท้ายก็ต้องแยกย้ายกันไปเติบโต แต่บางคนแตกต่างกัน
เริ่มต้นไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่กลับพิสูจน์
ได้ว่าพวกเขาคู่ควรกันแล้ว การเลือกคู่ด้วยการดูว่า ‘ศีลเสมอกันไหม’
ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจในการเลือกแฟนหรือเพื่อนให้คบกันอย่างยั่งยืน
“ผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีศีลเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน มีปัญญาเสมอกัน 
ภรรยาและสามีทั้งสองนั้นย่อมได้พบกันและกัน ทั้งในปัจจุบัน ทั้งในสัมปรายภพ"

นี่คือคำกล่าวของพระพุทธเจ้าในการเลือกคู่ครองชีวิตที่เราเรียกรวม ๆ ว่า ‘คู่แท้’
นั้นจะต้องดูที่ศีลเสมอกันไหม แต่หลายคนก็จะสงสัยว่าศีลเสมอกันคืออะไร ?
ต้องรักษาศีลเหมือนกันแบบนี้หรือเปล่า ซึ่งความจริงมันก็ใช่ คนสมัยก่อนเลือกคนที่ศีลเสมอกันเป็นคู่ครอง เช่น
คนที่รักษาศีลจะรู้จักยับยั้งชั่งใจพากันไปสู่สิ่งที่ดีงาม สร้างชีวิตครอบครัวให้มีความสุข
ซึ่งคนที่ศีลเสมอกันดูง่าย ๆ คือ
ชวนกันทำแต่ความดี ชีวิตย่อมเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ไม่มีใครฉุดดึงชีวิตอีกฝ่ายให้ต่ำลง
แต่กับคนที่ศีลไม่เสมอกันคืออีกคนที่ชอบทำบุญ รักษาศีล แต่อีกคนไม่รักษาศีล หรือรักษาศีลน้อยกว่า
ชอบการพนัน นอกใจ ตกเย็นก็เมาหัวราน้ำ ก็ย่อมทำให้มีเรื่องทะเลาะกัน
เนื่องจากทั้งสองคนมีศีลไม่เสมอกันก็เป็นเรื่องยากที่จะอยู่ด้วยกันได้
คนศีลเสมอกันดูยังไง ? 
ปัจจุบันนี้คำว่าศีลเสมอกันได้ถูกนำมาตีความ
ให้เข้าใจง่ายตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
และไม่จำกัดวงอยู่แค่การรักษาศีล
คำว่าศีลเสมอกันในยุคนี้จึงหมายถึง
คนสองคนที่มีมาตรฐานในเรื่องต่าง ๆ เท่า ๆ กัน
มีความคิดเรื่องความดีความชั่วเสมอกัน ดังนี้
• มีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน 
• มีมุมมองในเรื่องต่าง ๆ คล้ายกัน
• มีความชอบและรสนิยมตรงกัน
• รักษาศีลเสมอกัน ไม่ต่ำไม่สูงไปกว่ากัน
• มีจาคะเสมอกัน เป็นคนใจกว้าง แบ่งปันไม่มากหรือน้อยไปกว่ากัน
• มีความรู้ ปัญญา ความเชี่ยวชาญที่เกื้อหนุนกันและกันได้
คนศีลเสมอกันดูยังไง ?
ปัจจุบันนี้คำว่าศีลเสมอกันได้ถูกนำมาตีความให้เข้าใจง่าย
ตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
และไม่จำกัดวงอยู่แค่การรักษาศีล
คำว่าศีลเสมอกันในยุคนี้จึงหมายถึง
คนสองคนที่มีมาตรฐานในเรื่องต่าง ๆ เท่า ๆ กัน
มีความคิดเรื่องความดีความชั่วเสมอกัน ดังนี้
• มีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน
• มีมุมมองในเรื่องต่าง ๆ คล้ายกัน
• มีความชอบและรสนิยมตรงกัน
• รักษาศีลเสมอกัน ไม่ต่ำไม่สูงไปกว่ากัน
• มีจาคะเสมอกัน เป็นคนใจกว้าง แบ่งปันไม่มากหรือน้อยไปกว่ากัน
• มีความรู้ ปัญญา ความเชี่ยวชาญที่เกื้อหนุนกันและกันได้
มีมุมมองในเรื่องต่าง ๆ คล้ายกัน
เคยเจอบางคู่ที่ไปด้วยกันไม่ได้ อย่างเรื่องไม่กินเนื้อ เนื่องจากคนหนึ่งเป็นวีแกน
แต่อีกคนไม่เป็นวีแกน แม้อีกฝ่ายจะเปลี่ยนตัวเองไปเป็นวีแกนเต็มตัวเพื่อที่จะอยู่ด้วยกันได้
แต่ก็ไม่รอดเพราะน้องแมว การเลี้ยงสัตว์มันขัดต่อหลักของวีแกน
ที่จะไม่ไปเบียดเบียนเป็นเจ้าของชีวิตสัตว์ตัวไหน
และแมวเป็นสัตว์ที่ไล่ล่าสัตว์อื่น เช่น นก หนู แถมยังกินเนื้ออีก
ทำให้คนที่เป็นวีแกนบอกให้แฟนเลือกระหว่างเธอกับแมว
หรือบางคนมีมุมมองต่อสิ่งแวดล้อมที่มุ่งมั่น แยกขยะในบ้าน
แต่แฟนเป็นคนไม่สนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมเลย
มันก็ยากก็จะไปด้วยกันได้ ปัญหาที่คนสองคนมีมุมมองในเรื่องต่าง ๆ ไม่ตรงกัน
นำมาซึ่งปรัชญาและรูปแบบในการใช้ชีวิตที่สวนทางกันได้
แบ่งปันได้ไม่มากไม่น้อยไปกว่ากัน
คือการมีจาคะเท่ากันนั่นเอง คำว่า ‘จาคะ’ หมายถึง การสละสิ่งของและความสุขส่วนตัวเพื่อผู้อื่นได้
ดังนั้นคนที่มีจาคะย่อมเสียสละเพื่อส่วนรวมเมื่อเห็นคนอื่นตกทุกข์ได้ยากหรือสังคมวุ่นวาย
พวกเขาจะคอยให้ความช่วยเหลือผู้อื่นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง หากคู่ของเรามีจาคะไม่เสมอกัน
ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงต้องไปช่วยเหลือคนอื่นขนาดนั้น
เพราะบางคนก็แค่ใช้ชีวิตเอาตัวเองให้รอดก็เพียงพอ ดังนั้นหากเราเลือกแฟนที่มีจาคะเสมอกัน
มีน้ำใจได้ไม่มากหรือไม่น้อยไปกว่ากัน
สามารถช่วยคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนได้เหมือน ๆ กัน
ทั้งคู่ก็จะคบกันได้ยาวนาน
มีความชอบและรสนิยมตรงกัน
บางคู่มีความชอบไม่เหมือนกันอย่างใหญ่หลวงจนกลายเป็นปัญหาให้เลิกกันได้ เช่น
ผู้หญิงชอบท่องเที่ยวมาก ชีวิตของเธอมีความสุขที่สุดเมื่อได้ไปท่องโลก
แต่เธอไปคบผู้ชายที่เชื่อว่าการเก็บเงินคือความมั่งคั่งในชีวิตเพื่อชีวิตบั้นปลายจะได้สบาย
ทำให้ทุกครั้งที่ผู้หญิงชวนผู้ชายไปเที่ยวต่างประเทศ ผู้ชายก็จะปฏิเสธตลอด
เนื่องจากรสนิยมไม่เหมือนกันอย่างแรง เมื่อปรัชญาการใช้ชีวิตแตกต่างกันมันก็ทำให้ไปด้วยกันได้ยาก
ในเมื่อความสุขของอีกคนไม่เหมือนกัน สุดท้ายก็ต้องแยกย้ายกันไปทางใครทางมัน
สุดท้ายหากดูแล้วไม่มีคนที่ศีลเสมอกันกับเราเลย พระท่านบอกว่าให้เลือกเดินคนเดียวเพราะ
หากเราไปคบคนที่ศีลไม่เสมอกัน ต่ำกว่าหรือสูงกว่าในขณะที่เราไม่มีสติ
เราก็อาจจะไปซึบซับสิ่งที่ไม่ดีจากอีกคนเข้าหาตัวเองได้ หรือใจเราก็อาจจะป่วยพัง
ดังนั้นพระท่านจึงบอกอีกว่า คบคนอย่างไร เราจะกลายเป็นคนแบบนั้นไปด้วย
หากไม่มีใครแมทช์ศีลของเราในตอนนี้ก็จงเดินคนเดียวแล้วมีสติเป็นเพื่อน
จนกว่าจะเจอคนที่ศีลเสมอกันพอดี




 

May 14, 2022

May 10, 2022

ความล้มเหลวไม่ได้แย่เสมอไป

 


ความล้มเหลวไม่ได้แย่เสมอไป เพราะมันเป็นบันไดซึ่งจะพาคุณไปสู่จุดหมายที่มีค่า

อย่าหนีความล้มเหลวจนไม่กล้าทำอะไร และอย่าปล่อยให้ตัวเองเสียโอกาสดี ๆ ไปเพียงเพราะความกลัว

วันนี้เราขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจในการผลักดันให้ทุกคนกล้าเผชิญหน้ากับความล้มเหลว ผ่านเรื่องราวของ 9 บุคคลสำคัญ

ที่เคยข้ามผ่านความล้มเหลวมามากมายจนประสบความสำเร็จให้เราเห็นได้ในทุกวันนี้

.

🏀 Michael Jordan 

เคยถูกคัดออกจากทีมบาสเก็ตบอลของโรงเรียน 

🍗 ผู้พันแซนเดอร์ส

ผู้ก่อตั้ง KFC เคยถูกปฏิเสธจากการขายสูตรให้ร้านอาหารกว่า 1,000 ครั้ง 

🏰 WaltDisney

เคยถูกไล่ออกจากบริษัทหนังสือพิมพ์ ด้วยเหตุผลว่าไร้จินตนาการ และขาดความคิดเป็นของตัวเอง 

📺 Oprah Winfrey

เคยถูกไล่ออกจากรายการโทรทัศน์ เธอดูไม่เหมาะกับการออกทีวี 

🎹 Beethoven 

เคยโดนอาจารย์ดูถูกว่าน่าจะไม่มีหวังด้านไวโอลินและการแต่งเพลง

🧙🏻‍♂️ J. K. Rowling

ผู้เขียน Harry Potter เคยถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์ถึง 24 ครั้งตั้งแต่ตอนออกหนังสือเล่มแรก

📚 Stephen King

เคยโยนหนังสือที่ขายไม่ออกลงถังขยะ และเคยคิดจะเลิกเป็นนักเขียน

🐃 วงคาราบาว

เคยแสดงดนตรีโดยมีคนดูไม่ถึง 10 คน และไม่เคยติดอันดับอะไรเลยจนกระทั่งอัลบั้มที่ 5 ในชื่อว่า Made in Thailand 

🎤 โน้ต อุดม

เคยขอสปอนเซอร์ของเดี่ยวไมโครโฟน แล้วโดนดูถูกว่าโชว์แบบนี้ขายได้ไม่ถึงห้าหมื่นบาทหรอก

.

9 ตัวอย่างนี้ชี้ให้เห็นว่าความล้มเหลวไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เรียกว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ

เพราะฉะนั้น ถ้าหลังจากนี้คุณอยากทำอะไรใหม่ ๆ

ก็ลงมือทำได้เลย ถ้าผลออกมาดีก็ลุยต่อไป

แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยก็ลองใช้หลักการ Fail Fast Fail Forward คือล้มแล้วลุกให้ไว ไม่จมกับความผิดพลาดนาน

อย่าลืมลองไปทำตามกันดูนะ

ใครอยากฟังพอดแคสต์ฉบับเต็มคลิกได้ที่ลิงก์นี้เลย

https://spoti.fi/37YXUO7

#แปดบรรทัดครึ่ง #eighthalf #PodcastSummary

รู้อะไรไม่สู้รู้ "อภิธรรม" | อ.ทรงเกียรติ ลิ้มนันทรักษ์

อาจารย์ทรงเกียรติ ลิ้มนันทรักษ์

รู้อะไรไม่สู้รู้ "อภิธรรม"



🌀มัดรวม 📚คู่มือการศึกษาพระอภิธรรม "อาจารย์ทรงเกียรติ ลิ้มนันทรักษ์" (ปริจเฉท ๑ , ๒ , ๖ , ๓ , ๔)
ใช้ประกอบการเรียนในชั้นจุฬตรี , จุฬโท และมัชตรี #อภิธรรม
📔คู่มือ "จิตปรมัตถ์ (ปริจเฉท ๑)
📓คู่มือ "เจตสิกปรมัตถ์" (ปริจเฉท ๒)
📕คู่มือ "รูปปรมัตถ์ และนิพพานปรมัตถ์" (ปริจเฉท ๖)
📒คู่มือ "ปกิณณกสังคหะ" (ปริจเฉท ๓)
📗คู่มือ " วิถีสังคหวิภาค" (ปริจเฉท ๔)

 

“เอตทัคคะ” ในพระพุทธศาสนา คืออะไร ?

ที่มา มติชนสุดสัปดาห์

ฉบับวันที่ 19 - 25 กรกฎาคม 2562

คอลัมน์ เสฐียรพงษ์ วรรณปก

ผู้เขียน เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เผยแพร่ วันพฤหัสที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ.2562

ที่มา Matichon Weekly


สิ่งแรกในพระพุทธศาสนา (15)

ตำแหน่งที่ทรงแต่งตั้งครั้งแรก

มีคำในพระพุทธศาสนาเรียกว่า “เอตทัคคะ” (มาจาก เอต=นั้น บวก อัคคะ=เลิศ)

แปลตามตัวอักษรว่า นั้นเป็นเลิศ หรือเลิศในทางนั้น ทางนั้นน่ะ ทางไหน ก็ทางที่ผู้นั้นเป็นเลิศทั้งนั้นแหละ

ตอบแบบนี้ ก็ไม่ได้ความกระจ่างแต่อย่างใด คือสมัยพุทธกาลในยุคต้นๆ ก็มิได้มีตำแหน่งแห่งที่อะไร

เมื่อมีพระสาวกอรหันต์เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่ละรูปก็มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัวแตกต่างกันไป

พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าแต่ละท่านต่างก็มีความสามารถหรือความถนัดแตกต่างกัน

ล้วนแต่เป็นประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งนั้น จึงทรงประกาศให้ทราบว่า

พระสาวกรูปนั้นๆ เป็นผู้มีคุณสมบัติเลิศกว่าผู้อื่นในทางนั้นๆ ให้เป็นที่รับทราบโดยทั่วไป

ในพระไตรปิฎกส่วนที่ว่าด้วยอังคุตตรนิกาย เอกนิบาต ได้ประมวลตำแหน่งเอตทัคคะ

ที่ทรงประกาศแต่งตั้งทั้งภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา หลายตำแหน่ง

แต่เมื่อตรวจดูแล้วก็มีไม่ครบจำนวนเท่าที่เรารับทราบกัน

อย่างตำแหน่งพระเถระก็มีเพียง 47 รูป (เท่าที่รับทราบกันมีถึง 80 รูป เรียกอสีติมหาสาวก)

เข้าใจว่าการประกาศแต่งตั้งคงมิได้ประกาศครั้งเดียว คงทยอยประกาศเป็นระยะๆ เมื่อมีบุคคลผู้มีคุณสมบัติพิเศษเกิดขึ้น

ตําแหน่งอัครสาวกเบื้องขวา-เบื้องซ้าย เข้าใจว่าคงทรงประกาศแต่งตั้งในยุคแรกๆ ที่ประกาศพระพุทธศาสนาที่แคว้นมคธ

เพราะในช่วงแรกที่ประกาศพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงต้องการ “มือ” ช่วยทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา

เมื่อเห็นท่านอุปติสสะกับโกลิตะเดินเข้าสำนักมา ยังมิทันได้รับการอุปสมบทเลย พระองค์ก็ทรงชี้ให้พระสงฆ์ดูพร้อมตรัสว่า

“สองคนนั้นจะได้เป็นคู่แห่งอัครสาวกของเรา”

ขอเท้าความเรื่องที่เคยเขียนถึงมาหลายครั้งอีกครั้งหนึ่ง อย่าหาว่าเขียนแบบ “พูดติดอ่าง” เลยขอรับ เมื่ออุปติสสะกับโกลิตะ

สองสหายเห็นความไร้สาระแห่งชีวิต อยากแสวงหาสิ่งที่ประเสริฐเหมาะสำหรับชีวิตของตน ทั้งสองจึงพากันออกจากบ้าน

ไปแสวงหาครูอาจารย์ที่จะช่วยบอกทางสว่างให้

แม้ว่าตอนหลังจะมาศึกษาปฏิบัติอยู่กับอาจารย์สัญชัย เวลัฏฐบุตร เจ้าลัทธิปรัชญาที่มีชื่อเสียง

ก็รู้สึกว่ามิใช่แนวทางที่ตนต้องการ จึงแยกย้ายกันไปเพื่อแสวงหาอาจารย์ต่อ

โดยสัญญากันว่าใครพบก่อนก็ให้มาบอกอีกฝ่ายหนึ่ง

เช้าวันหนึ่ง อุปติสสะมาณพได้พบพระอัสสชิ น้องสุดท้องของปัญจวัคคีย์ กำลังเดินบิณฑบาตอยู่ประทับใจในความสงบสำรวมของท่าน

คิดในใจว่า ท่านผู้นี้ต้อง “มีดี” แน่นอน จึงรีรอโอกาสจะเข้าไปสนทนา

เห็นว่าท่านยังเดินภิกขาจารอยู่จึงมิกล้าเข้าไปสนทนา

ต่อเมื่อท่านเดินออกจากเมือง กำลังหาทำเลจะฉันอาหาร จึงเข้าไปสนทนาด้วย

ขอร้องให้ท่านสอนธรรม พระอัสสชิได้กล่าวคาถา “เยธัมมาฯ” อันแสดงถึงหัวใจแห่งอริยสัจสี่ให้ฟังแต่ย่อๆ

อุปติสสะได้ฟังก็เกิด “ดวงตาเห็นธรรม” รู้ว่าท่านอัสสชิเป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ก็ดีใจอยากจะไปบวชเป็นสาวกของพระองค์บ้าง จึงรีบไปบอกแก่โกลิตะผู้สหาย กล่าวคาถานั้นให้โกลิตะฟัง

โกลิตะก็ได้เกิด “ดวงตาเห็นธรรม” เช่นกัน

ทั้งสองถึงพากันไปเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อทูลขอบวช

ขณะนั้นพระพุทธองค์ประทับนั่งท่ามกลางภิกษุสงฆ์ ทอดพระเนตรเห็นสองท่าน

กำลังเดินเข้าพระวิหารเวฬุวันมา จึงทรงชี้ไปที่ท่านทั้งสองพร้อมตรัสข้อความดังกล่าวมาแล้วข้างต้น

คงไม่ต้องคิดว่า ทำไมพระพุทธองค์ตรัสว่าจะตั้งให้ท่านทั้งสองเป็นพระอัครสาวก

เพราะทรงเห็นแก่หน้าหรือเพราะทรงมีพระเมตตาเป็นพิเศษหรืออะไร

เหตุผลที่สำคัญก็คือ พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าทั้งสองนั้นมีคุณสมบัติเหมาะสม

ที่จะช่วยงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพราะ

1. ท่านทั้งสองเป็นพราหมณ์ผู้จบไตรเพทมาก่อน

2. ท่านทั้งสองจบปรัชญาลัทธิ “อมราวิกเขปิกา” จากอาจารย์สัญชัย เวลัฏฐบุตร ที่เน้นการโต้ตอบใช้วาทะหักล้างกัน และ

3. ท่านทั้งสองเมื่อมาบวชในพระพุทธศาสนาได้บรรลุพระอรหัตแล้ว

ก็จะเป็นผู้มีคุณสมบัติประเภทที่เรียกว่า “รู้เขา-รู้เรา” เหมาะสมในการทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี

หลังจากท่านอุปติสสะและโกลิตะได้อุปสมบทแล้วอุปติสสะได้นามเรียกขานในหมู่สงฆ์ว่าพระสารีบุตร

โกลิตะได้นามว่าพระโมคคัลลานะ 7 วันหลังจากอุปสมบท

พระโมคคัลลานะได้บรรลุพระอรหัต 14 วันหลังจากอุปสมบท พระสารีบุตรก็ได้บรรลุพระอรหัต

พระพุทธองค์ได้ทรงประกาศแต่งตั้งทั้งสองท่านเป็นอัตราสาวกขวา-ซ้าย โดยพระสารีบุตรเป็นเอตทัคคะ (เลิศกว่าผู้อื่น)

ทางด้านมีปัญญามากเป็นอัครสาวกเบื้องขวา พระโมคคัลลานะเป็นเอตทัคคะทางด้านมีฤทธิ์มากเป็นอัครสาวกเบื้องซ้าย

พระบาลีในอังคุตตรนิกาย เอกนิบาต มีว่าดังนี้ “เอตทคฺคํ ภิกฺขเว มม สาวกานํ ภิกฺขุนํ มหาปญฺญานํ ยทิทํ สารีปุตฺโต

อิทฺธิมนฺตานํ ยทิทํ มหโมคฺคลฺลาโน ภิกษุทั้งหลายบรรดาภิกษุสาวกของเรา

ผู้มีปัญญามากสารีบุตรเป็นเลิศ บรรดาภิกษุสาวกของเรา ผู้มีฤทธิ์ มหาโมคคัลลานะเป็นเลิศ”

ตำแหน่งอัครสาวกเบื้องขวาเบื้องซ้าย เข้าใจว่าเป็นตำแหน่งแรกที่พระพุทธองค์ทรงแต่งตั้ง