การละเมิดลิขสิทธิ์กับการแสดงชุด 'หมู่ วาไรตี้โชว์' ของ โน้ส อุดม แต้พานิช ที่ถูกเทคโนโลยีในยุคปัจจุบันอาทิ Facebook Live ทำการละเมิดผลงานอันมีลิขสิทธิ์ถูกต้อง
นายสุทธิสรร สุรนันท์กิ่งเพชร อายุ 60 ปี หรือเฮียเสก ประธานกรรมการบริษัท อี.วี.เอส. เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้ได้รับลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่าย CD/ DVD 'หมู่ วาไรตี้โชว์' เปิดเผยกับทีมข่าวสายตรวจโซเชียลว่า ทางบริษัทได้จัดเตรียมสินค้าไว้ประมาณ 2 แสนชุด โดยใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งหลังจากที่เริ่มจัดจำหน่ายเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ผ่านมา 5 วัน เช็กยอดขายกับร้านสะดวกซื้อพบว่าขายออกได้ประมาณ 13,000 แผ่นเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะปกติแล้วยอดขายแผ่นการแสดงประเภทนี้ จะขายได้ในช่วงแรกๆ เท่านั้น และตนคิดว่ายอดขายของการแสดงชุดนี้น่าจะขายได้เยอะกว่านี้
"โซเชียลมีเดียมันโหดร้ายมาก เฟซบุ๊กไลฟ์ เว็บหนังเถื่อน ได้เข้ามาละเมิดลิขสิทธิ์เรา ซึ่งจากการที่เราได้ขอความร่วมมือไปพบว่าบางแห่งทำการปิดให้ แต่ขณะที่บางส่วนตอบกลับมาว่าไม่ปิดแล้วจะทำไม ซึ่งเบื้องต้นตนได้ไปแจ้งความไว้ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. แต่ส่วนตัวคิดว่าหากจับผู้กระทำผิดได้ เขาคงได้แต่ร่ำไห้ขอโทษอ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์" นายสุทธิสรร กล่าว
นอกจากนี้ นายสุทธิสรร ยังระบุต่อว่า ก่อนหน้านี้การแสดงชุดเดี่ยว 10 และเดี่ยว 11 ก็มียอดขายที่ตกลงเหลือเพียงราวๆ 1 แสนชุดเท่านั้น โดยปีก่อนๆ ทางบริษัทฯ
ได้รับความร่วมมือจากทางยูทูบประเทศไทยที่ช่วยปิดกั้นผลงานละเมิดลิขสิทธิ์ แต่มาเจอปีนี้ถือว่าเข้าขั้นสาหัสจากระบบเฟซบุ๊กไลฟ์ ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร หากปีหน้าสถานการณ์ยังคงวิกฤตเช่นนี้ ธุรกิจที่ดำเนินการมากว่า 35 ปีคงต้องปิดกิจกาาร ซึ่งอดีตที่ผ่านมาเมื่อ 6-7 ปีก่อนเคยมีคนงานถึง 400 คน แต่ปัจจุบันเหลือเพียงราวๆ 100 คนเท่านั้น จึงอยากใคร่ขอความกรุณาและความเมตตาผู้บริโภคทุกท่านให้ช่วยกันอุดหนุนสินค้าลิขสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นของบริษัทใดก็ตาม มิเช่นนั้นไม่ต่างกับการทำลายธุรกิจของคนไทยด้วยกันเอง สุดท้ายเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงแนวคิดการจัดจำหน่ายในรูปดิจิตอล นายสุทธิสรร กล่าวว่าที่ผ่านมาเคยทดลองมาแล้วกับแอพพลิเคชั่นดูหนังชื่อดัง แม้ว่าผู้ชมจะเสียเงินเพียงไม่กี่บาท แต่พบว่ายังไม่ค่อยเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ปีนี้จึงผลิตแต่ในรูปแบบ CD/DVD ส่วนบลูเรย์นั้นพบว่ายังไม่ค่อยเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค ปีนี้จึงผลิตแต่ในรูปแบบ CD/DVD ส่วนบลูเรย์นั้นพบว่ายังไม่ค่อยได้รับความนิยมเช่นกัน.
อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.thairath.co.th/content/817096
https://pantip.com/topic/35930630
http://teetwo.blogspot.com/2009/10/udomteam.html