Custom Search

Oct 28, 2018

เส้นทางธุรกิจแสนล้าน 'วิชัย คิงเพาเวอร์'






ปิดประวัติการทำธุรกิจของเจ้าสัว “วิชัย ศรีวัฒนประภา” 30 ปี สร้างอาณาจักรธุรกิจดิวตี้ฟรี ทุ่มสร้างสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และซื้อตึกมหานคร ที่สูงสุดในไทย
วิชัย ศรีวัฒนประภา นามสกุลเดิม คือ รักศรีอักษร (เปลี่ยนหลังได้รับนามสกุลพระราชทาน) เริ่มต้นชีวิตนักธุรกิจดิวตี้ฟรีเมื่ออายุ 31 ปี จนวัยประมาณ 60 ปี ฟอร์บส์ จัดอันดับเสี่ยวิชัยให้เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 3 ของไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 4,700 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 156,000 ล้านบาท โดยหลักๆ มาจากธุรกิจร้านค้าปลอดภาษี หรือดิวตี้ฟรี ที่เปิดในสนามบิน และพื้นที่ใจกลางธุรกิจแหล่งช็อปปิ้งของนักท่องเที่ยว

ระหว่างที่เสี่ยวิชัยดำเนินธุรกิจดิวตี้ฟรี ในช่วงหลังเริ่มเข้าสู่งวงการฟุตบอล โดยเข้าซื้อทีมเลสเตอร์ ซิตี้ สโมสรในพรีเมียร์ ลีกอังกฤษ

เรียงลำดับเวลาข้อมูลบางส่วนจากเว็บไซต์คิงเพาเวอร์  ตั้งแต่เริ่มเปิดธุรกิจดิวตี้ฟรีจนถึงธุรกิจฟุตบอล ดังนี้

2532-2537 ได้รับอนุญาตเปิดร้านดิวตี้ฟรี ตึกมหาทุนพลาซ่า ย่านเพลินจิต กรุงเทพฯ มี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น เป็นประธานเปิดงาน

2534-2545 ได้รับอนุญาตเปิดร้านดิวตี้ฟรีในต่างประเทศ ที่พนมเปญ กัมพูชา เป็นประเทศแรก

2536-2545 ได้สิทธิ์รับสัมปทานพื้นที่ดิวตี้ฟรี ที่สนามบินดอนเมือง (หลังหมดอายุสัมปทาน ได้ต่อสัญญาเป็นระยะจนถึงปัจจุบัน)

2538-2540 ได้สิทธิ์บริหารพื้นที่ดิวตี้ฟรี ที่ปักกิ่ง จีน

2540-2549 ได้รับอนุญาตเปิดร้านดิวตี้ฟรีที่ห้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ หรือชื่อปัจจุบันเซ็นทรัลเวิลด์ ย่านราชประสงค์ และช่วงนี้ยังได้สิทธิ์ที่สนามบินในเมืองหลักในประเทศ คือ ดอนเมือง เชียงใหม่ หาดใหญ่ และภูเก็ต

2547 ได้รับอนุมัติสิทธิ์รับสัมปทานพื้นที่ดิวตี้ฟรี ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดบริการปี 2549 มีการต่อสัญญา 2 ครั้ง จนล่าสุดสิ้นสุดสัญญาปี 2563

2549 เปิดห้างดิวตี้ฟรี ที่คิง เพาเวอร์ คอมเพล็กซ์ ซอยรางน้ำ
2550 ขายของดิวตี้ฟรีบนเครื่องบินการบินไทย
2554 เปิดร้านดิวตี้ฟรีที่พัทยา, ขายของดิวตี้ฟรีบนเครื่องบินแอร์เอเชีย
2556 เปิดร้านดิวตี้ฟรี ที่ศรีวารี คอมเพล็กซ์ สมุทรปราการ
2557 ขายของดิวตี้ฟรีบนเครื่องไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์

ส่วนธุรกิจฟุตบอล เริ่มเมื่อปี 2553 ที่เจ้าสัววิชัย ทุ่ม 5,000 ล้านบาท ซื้อทีมฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ สโมสรพรีเมียร์ลีกในอังกฤษ ที่เขาเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า เพราะชอบฟุตบอล และอยากให้โลกรู้จักประเทศไทยมากขึ้น ผ่านไป 6 ปีในปี 2559 เขาและลูกชายสามารถพาเลสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกนับตั้งแต่ตั้งสโมสรมา 132 ปี

ปี 2560 เจ้าสัววิชัยยังได้เทคโอเวอร์ทีม OH Leuven สโมสรฟุตบอลในเบลเยียมอีกด้วย 

ส่วนธุรกิจอื่นยังมีสายการบิน และอสังหาริมทรัพย์ โดยปี 2559 ซื้อหุ้นบริษัทไทยแอร์เอเชีย มูลค่า 3,000 ล้านบาท แต่ในปี 2561 ได้ขายกลับให้เจ้าของเดิมแล้ว
ล่าสุด เม.ย. 2561 ได้ทุ่ม 14,000 ล้านบาท ซื้อตึกสูงที่สุดในกรุงเทพมหานคร จากกลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท คอร์ปอเรชั่น ที่ใช้งบก่อสร้างกว่า 2 หมื่นล้านบาท

27 ต.ค. 2561 ข่าวช็อก เมื่อสื่อในอังกฤษรายงาน เฮลิคอปเตอร์ของเสี่ยวิชัยประสบอุบัติเหตุตกหน้าสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม หลังจบเกมการแข่งขัน ระหว่าง ทีมเลสเตอร์ ซิตี้ กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ขณะนี้รอการแถลงเป็นทางการว่ามีใครอยู่ใน ฮ.ลำดังนี้บ้าง

ตำรวจเลสเตอร์แถลง ‘เสี่ยวิชัย’ เสียชีวิตเหตุฮ.ตก อีก 4 คนก็ไม่รอด
ตำรวจเลสเตอร์แถลงแล้ว เหตุฮ.นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ตก มีผู้เสียชีวิต 5 ราย โดยเชื่อว่าหนึ่งในนั้นคือตัวนายวิชัยเอง...
เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 28 ต.ค. 2561 ตามเวลาในประเทศอังกฤษ สำนักงานตำรวจมณฑลเลสเตอร์เชียร์ออกแถลงการณ์ความคืบหน้าการสืบสวนเหตุเฮลิคอปเตอร์ของ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์และเจ้าของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้ ตกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 ต.ค. ระบุว่า ผู้ที่อยู่บนเครื่องทั้ง 5 คนไม่มีใครรอดชีวิต
“ผู้เคราะห์ร้าย 5 คนเชื่อว่าเสียชีวิตหลังจากเฮลิคอปเตอร์ตกนอกสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (เสาร์ที่ 27 ต.ค.)”
แถลงการณ์ของตำรวจระบุ “มี 5 คนที่โดยสารบนเฮลิคอปเตอร์ตอนเกิดเหตุ ขณะที่การยืนยันอย่างเป็นทางการยังไม่เกิดขึ้น
แต่เชื่อว่าพวกเขาคือ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้, สตาฟฟ์เจ้าหน้าที่ของเขาอีก 2 คนคือ นุสรา สุขหน้าไม้ (Nursara Suknamai) และ Kaveporn Punpare,
นักบิน เอริค สวาฟเฟอร์ (Eric Swaffer) และผู้โดยสารชื่อ อิซาเบล โรซา เลโควิช (Izabela Roza Lechowicz)”
“เจ้าหน้าที่กำลังทำงานเพื่อรับประกันว่าญาติทุกคนได้รับการแจ้งข่าวนี้ก่อนที่จะมีการยืนยันสู่สาธารณะ” แถลงการณ์ระบุ 
“เฮลิคอปเตอร์ลำนี้ตกในลานจอดรถใกล้สนามกีฬาหลังเวลา 20:30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ไม่นาน โดยตำรวจเลสเตอร์เชียร์,
 หน่วยรถพยาบาลอีสต์ มิดแลนด์ และสำนักงานกู้ภัยและดับเพลิงเลสเตอร์เชียร์ ทั้งหมดถูกส่งไปตอบสนองต่อเหตุการณ์”

“เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อว่ามีคนอื่นได้รับบาดเจ็บอีก”