20.2.2018
มีคนแขวะฉันว่าเป็น สว. สอบตก กทม.
เมื่อหลายปีก่อน...แม่ประไพ...
คุณรสนา ได้คะแนนประมาณห้าแสน...
ฉันได้ที่สอง ได้คะแนนประมาณเกือบสามแสน...
แพ้หลุดลุ่ย แต่ได้ที่สอง สมัครเพราะอยากรู้ โดยไม่มีฐานเสียงและ
เงินสนับสนุนเลย ควักกระเป๋าตัวเอง ล้านกว่าบาท ทำแค่ป้ายห้าร้อย
กว่าแผ่น ไปติดแบบโง่ๆ
แต่นั่นคือความภูมิใจนะ อย่างน้อยฉันก็ได้ลงพื้นดิน ไปหาเสียงทั่วกทม...หนักกว่า สส.เขตอีก เพราะ ต้องไปหาเสียงทั้งกรุงเทพ
ไปแม่งทุกเขต...
ชีวิตนี้กูไปถึงจุดนั้นได้ยังไง...แม่ประไพ มีแค่ทีมงานที่อาสามาช่วยไม่เอาตัง แค่ขอมีอาหารกิน มีน้ำกิน
ใครไม่รับบัตรแนะนำตัว ฉันก็บอกทีมงานว่าอย่าไปให้เขา...เปลือง
เป็นช่วงที่รัฐธรรมนูญเขียนว่า จังหวัดใหญ่จังหวัดเล็ก มึงก็มี สว.ได้คนเดียว...
กูก็ช่างกล้านะ...ทั้ง ๆที่รู้ว่าไม่มีพื้นฐานเสียงเชี่ยอะไรเลย...
มีแต่ประสบการณ์เจ็บปวดกับการไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง
มีคนดูหมิ่น โต๊ะพนัน แทงกันว่า ฉันคงได้คะแนนประมาณลำดับเกือบบ๊วย...
กูไม่มีอะไรแบ๊คอัพเลย...นอกจากพี่ ๆ น้อง ลงขัน สามแสนห้าแสนด้วยความสงสาร...ให้ทำป้าย
กูได้ที่สอง...กูดีใจมากเลยจ้ะ...
ถ้าฉันได้เป็น สว.แทนพี่รสนาในวันนั้น
ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้นักหรอก...
ที่พูดนี่คือจะบอกว่า.....
ฉันไม่ได้ต่อต้านระบอบประชาธิปไตย...
แต่เบื่อคนอ้างประชาธิปไตยในเวลาที่ยังซ่อมความสูญเสียจากความเป็นประชาธิปไตยที่ล้มเหลวยังไม่สำเร็จ
ฉันไม่ได้ต่อต้านการเลือกตั้ง แต่เบื่อคนอยากเลือกตั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งอะไร หรือมีเป้าหมายว่าจะเลือกใครอยู่แล้วแบบเดิมๆ
ฉันไม่อยากให้รัฐบาลเผด็จการที่มีบุญคุณในช่วงที่มาดับไฟบ้านเมือง มายึดถือบุญคุณกับประเทศชาตินานไปกว่านี้
ฉันรำคาญ ขอบ่นนะ...ฉันรำคาญพวกเรียกร้องการเลือกตั้งในตอนนี้ มันวุ่นวายไง....แต่ฉันอยากให้จ้องไปที่โรดแมปที่เขาสัญญาไว้
เขาบอกไว้ว่าจะเลือกตั้ง ช่วงนั้นนี้ เพราะเขาสัญญาไว้แล้ว ก็รอบ้างได้ไหม
เอาเหอะ อย่าเคลื่อนไหวนักเลย...
ถ้าเขาไม่ทำตามสัญญา ค่อยเคลื่อนไหว...
แล้วฉันจะไม่ว่าอะไรเลย...
ถ้าปี 2562 มันยังไม่มีอะไรเป็นตามสัญญาโรดแมป
ฉันจะเป็นประชาชนคนหนึ่งที่จะเรียกร้องการเลือกตั้ง
ถึงไม่รู้ว่าแม่งจะเลือกใครก็เถอะ...