Custom Search

Jul 10, 2008

สามก๊ก : ศึกเช็กเพ็ก ตอนโจโฉแตกทัพเรือ


เรื่องราวใน Red Cliff เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 208 ในประเทศจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น
แม้จะมีจักรพรรดิ คือพระเจ้าเหี้ยนเต้ แต่แผ่นดินก็แบ่งออกเป็นก๊กเป็นเหล่ามากมาย
ขุนศึกและผู้สำเร็จราชการผู้ทะเยอทะยาน โจโฉ ใช้จักรพรรดิเป็นเครื่องมือ
ประกาศสงครามกับดินแดนจ๊กก๊กทางตะวันตกที่ปกครองโดยเล่าปี่
ผู้มีศักดิ์เป็นลุงของจักรพรรดิ
เป้าหมายของโจโฉคือกำจัดทุกก๊กให้ราบคาบเพื่อรวมประเทศจีนเป็นหนึ่งเดียว
และตั้งตนเป็นจักรพรรดิ
ล่าปี่ส่งขงเบ้ง ที่ปรึกษาของเขาไปยังดินแดนง่อก๊กทางใต้ในฐานะทูตสันถวไมตรี
เพื่อโน้มน้าวให้ซุนกวน ผู้นำง่อก๊ก เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทำสงครามกับโจโฉที่นั่น
ขงเบ้งได้พบกับจิวยี่ ที่ปรึกษาแห่งง่อก๊กและกลายเป็นมิตรกันท่ามกลางไฟสงคราม
ที่กำลังคุกรุ่น
เมื่อได้รู้ว่าสองก๊กรวมตัวเป็นพันธมิตรกัน โจโฉก็โกรธมาก
และรวบรวมกำลังพลกว่า 8 แสนนาย พร้อมด้วยเรืออีกกว่า 2 พันลำ
มุ่งหน้าลงใต้หวังฆ่านกสองตัวด้วยก้อนหินก้อนเดียว
กองทัพของโจโฉตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่ป่าอีกา (Crow Forest หรือ อู่หลิม)
ริมฝั่งแม่น่ำแยงซี โดยที่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำคือผาแดง (Red Cliff)
ฐานที่มั่นของฝ่ายสัมพันธมิตรด้วยเสบียงอาหารที่ขาดแคลนและกองทัพจำนวนมหาศาล
ของโจโฉ

ฝ่ายสัมพันธมิตรดูเหมือนจะตกที่นั่งลำบาก
จิวยี่และขงเบ้งจึงต้องร่วมกันใช้ปฏิภาณเพื่อเปลี่ยนกระดานศึก
สงครามครั้งนี้เต็มไปด้วยการต่อสู้ทั้งเชิงบู๊และเชิงบุ๋น, ทั้งในน้ำและบนบก
จึงกลายเป็นสงครามที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์จีน
ที่ซึ่งเรือสองพันลำถูกเผาวอดวาย
และเป็นเหตุให้ประวัติศาสตร์จีนเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
สงครามดังกล่าวนั้นก็คือ “ศึกผาแดง” นั่นเอง
ศึกผาแดงได้รับการถ่ายทอดให้เป็นอมตะในวรรณกรรมเรื่อง "สามก๊ก"
(The Romance of Three Kingdom)
แม้จะถูกเขียนขึ้นกว่า 700 ปีแล้ว แต่สามก๊กก็ยังได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางจาก
นักอ่านทั่วเอเชีย และขยายวงกว้างกลายเป็นวิดีโอเกมส์
และหนังสือการ์ตูนมากมาย ผู้กำกับ จอห์น วู
สนใจวรรณกรรมเรื่องนี้มากว่า 20 ปีแล้ว
แต่ตอนนั้นเทคโนโลยีและตลาดหนังยังไม่เอื้อต่อ
ภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ขนาดนี้
กระทั่งฤดูร้อนปี 2004 โอกาสก็มาถึงเขา
เมื่อผู้อำนวยการสร้างคู่บุญ เทอเรนซ์ จาง
เดินทางไปปักกิ่งเป็นครั้งแรก และเริ่มวางแผนระดมทุน
และงานสร้างด้วยกัน


เรื่องย่อสามก๊ก โจโฉ แตกทัพเรือ

เรื่องราวเปิดฉากขึ้นใน ค.ศ. 208 ช่วงปลายราชวงศ์ฮั่น
แม่ทัพโจโฉผู้ชาญฉลาด (ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแห่งอาณาจักรฮั่น)
ชักจูงจักรพรรดิเหี้ยนเต้ที่อ่อนแอให้ประกาศสงครามกับง่อก๊กทางตะวันตกและตะวันออก
และจ๊กก๊กทางใต้ โดยอ้างว่าจุดประสงค์ของเขาคือรวมประเทศจีนให้เป็นหนึ่งเดียว
ซึ่งเป็นผลดีต่อราชวงศ์ฮั่น แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาคือการตั้งตนเป็นใหญ่
หลังจากโน้มน้าวพระเจ้าเหี้ยนเต้ได้สำเร็จ โจโฉก็นำกองทัพนับล้านสู่สงคราม
เป้าหมายแรกของเขาคือจ๊กก๊ก อาณาจักรที่เพิ่งสถาปนาขึ้นใหม่โดยผู้นำจิตใจเมตตา
นามว่าเล่าปี่ เมื่อยกทัพมาถึงจ๊กก๊ก
กองกำลังของโจโฉก็ตีทัพใหญ่ของเล่าปี่แตกอย่างง่ายดาย
ทำให้เล่าปี่ต้องอพยพราษฎรหลบหนีออกจากเมืองซินเอี๋ย
ภายใต้การคุ้มกันของกองทหารและสองขุนพลเอก กวนอู และเตียวหุย
น้องชายร่วมสาบานของเล่าปี่ที่คอยเสี่ยงชีวิตระวังหลังให้ไพร่พลตลอดทาง
ขณะเดียวกัน จูล่ง ขุนศึกของเล่าปี่ ได้นำทารกบุตรชายของเล่าปี่ใส่ไว้ในชุดเกราะ
แล้วควบม้าฝ่ากองทัพของโจโฉ
โดยฆ่าทหารของโจโฉเท่าที่จะทำได้ เพื่อนำบุตรชายไปส่งคืนให้เล่าปี่
หลังจากยืดหยัดต่อสู้กับโจโฉเยี่ยงวีรบุรุษ กวนอู, เตียวหุย
และกองทหารก็ลี้ภัยตามเล่าปี่ไปพร้อมประชาชนที่เหลือ

บัดนี้แม่น้ำแยงซีเกียงเป็นปราการธรรมชาติเพียงอย่างเดียวที่ป้องกัน
ไม่ให้กองทัพขนาดมหึมาของโจโฉเคลื่อนตามมาได้
พวกเขารู้ดีว่าไม่ช้าก็เร็ว กองกำลังของโจโฉต้องตามมาและฆ่าทุกคนอย่างแน่นอน
จึงไม่มีทางอื่นนอกจากส่งขงเบ้ง ไปเป็นตัวแทนเจรจากับง่อก๊ก
เพื่อสร้างกองทัพพันธมิตรทำสงครามกับโจโฉ
เมื่อเดินทางมาถึงอาณาจักรอันเฟื่องฟูของง่อก๊ก
ปรากฎว่าข้อเสนอของขงเบ้งถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยจากกษัตริย์วัย 26 ปี ซุนกวน
และสภาที่ปรึกษาของเขา แต่โลซก ที่ปรึกษาคนหนึ่งของซุนกวนบอกขงเบ้งว่า
ถ้าจะให้ซุนกวนยินยอม ต้องโน้มน้าวจิวยี่
ขุนพลคนสำคัญของเขาให้เห็นด้วยก่อน
ขงเบ้งจึงเดินทางไปหาจิวยี่ที่สนามซ้อมรบในผาแดง
ซึ่งจิวยี่กำลังฝึกกองทหารชั้นเลิศของเขาอยู่กับกำเหลง
คืนนั้น จิวยี่กับขงเบ้งแสดงฝีมือการดีดพิณร่วมกัน
และปรึกษากันเรื่องสงคราม นอกจากนี้ ขงเบ้งยังได้พบกับเสี่ยวเกี้ยว
ภรรยาของจิวยี่ที่ได้ชื่อว่าเป็นสตรีที่สวยที่สุดในประเทศจีน
ซึ่งบิดาของเสี่ยวเกี้ยวนั้นมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับโจโฉมาเป็นเวลานานหลายปี
หลังจากผูกมิตรกันในคืนนั้น จิวยี่และขงเบ้งก็กลับไปหาซุนกวนอีกครั้ง
และโน้มน้าวให้เขายอมร่วมมือกับเล่าปี่ เพื่อประโยชน์ของอาณาจักร
ประกอบกับเวลานั้น โจโฉได้ส่งสารถึงซุนกวนขอให้เขายอมแพ้อย่างเป็นทางการ
ซุนกวนจึงตกลงเปิดสงครามกับโจโฉด้วยความโมโห
โจโฉที่กำลังกระหายศึก ส่งทหารเอก แฮหัวเอี๋ยน
พร้อมด้วยกำลังทหารไปโจมตีฝ่ายพันธมิตรบนหลังม้า
แต่จิวยี่และขงเบ้งคาดการณ์ไว้อยู่แล้ว และเตรียมพร้อมรับมือเต็มที่
แฮหัวเอี๋ยนถูกจู่โจมโดย ซุนฮูหยิน น้องสาวทอมบอยของซุนกวนก่อน
และเกิดความโมโห จึงควบม้าไล่ตามเธอไปจนติดกับ
จากนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรก็ใช้กลศึกอันแยบยลจัดการกับเหล่าทหารของแฮหัวเอี๋ยน
จนยอมแพ้ ตัวแฮหัวเอี๋ยนนั้นได้รับการไว้ชีวิต
และเดินทางกลับค่ายด้วยความอับอาย จิวยี่ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
จากการต่อสู้อย่างองอาจครั้งนี้ ซึ่งเขาได้ช่วยชีวิตจูล่งไว้ด้วย
กองทัพง่อก๊กที่ยังคงฮึกเหิมกับชัยชนะ ตั้งค่ายอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียงทางตอนใต้
ใกล้บริเวณหุบเขาสูงชันที่เรียกว่า “ผาแดง” ส่วนทางตอนเหนือของแม่น้ำ
ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันพอดี
โจโฉได้สร้างป้อมปราการสูงชันที่กลางค่ายอย่างโออ่า
ในบริเวณที่เรียกว่า “ป่าอีกา” พร้อมกับล้อมรั้วตั้งค่ายเรือรบจำนวนกว่า 2 พันลำ
แต่ขณะที่ทหารกำลังเตรียมพร้อมรับศึกอยู่นั้น
โจโฉกลับบอกให้ทหารของเขาเล่น “ฉูจู้” หรือกีฬาโบราณลักษณะคล้ายฟุตบอล
ซุนฮูหยิน น้องสาวของซุนกวนผู้มีนิสัยกล้าหาญเยี่ยงนักรบ
ได้ออกเดินทางข้ามแม่น้ำและปลอมตัวเป็นทหารของโจโฉเพื่อสอดแนมและสืบข่าว
โดยผูกมิตรกับทหารหนุ่มชื่อซุนซูฉาย จนได้ร่วมเล่นในทีมฉูจู้ด้วย
แต่แล้วโจโฉก็ประสบปัญหา เมื่อทหารหลายนายของเขาที่ไม่คุ้นเคย
กับสภาพแวดล้อมทางตอนใต้ ล้มป่วยจากโรคระบาดร้ายแรง
เมื่อเห็นว่าโรคระบาดทำให้กองทหารของเขาล้มตายจำนวนมาก
โจโฉก็ส่งศพติดเชื้อลอยไปทางฝั่งตรงข้ามหวังให้ทหารฝ่ายสัมพันธมิตรล้มป่วย
แม้จิวยี่กับขงเบ้งจะรีบลงมือแก้ไขอย่างรวดเร็ว
แต่ก็ยังมีทหารจำนวนมากติดเชื้อและล้มป่วย
ส่วนทหารที่เหลือก็เสียขวัญและกำลังใจอย่างหนัก
เล่าปี่ขี่ม้าออกจากค่ายไปพร้อมกับ กวนอู, เตียวหุย และจูล่ง
เหมือนกับจะละทิ้งฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อเสบียงเริ่มขาดแคลน
ขงเบ้งก็คิดแผนอันแยบยลเพื่อทำให้กองทัพของโจโฉอ่อนแอ
เขาล่องเรือเบาบรรทุกหุ่นฟางออกไปยังค่ายเรือรบของโจโฉกลางดึก
เป็นเหตุให้แม่ทัพเรือของโจโฉตกใจสั่งให้ทหารยิงธนูกว่าแสนดอก
ใส่เรือเปล่าของขงเบ้ง รุ่งขึ้นจึงดูเหมือนว่าสองแม่ทัพเรือระดับสูงของโจโฉ
มอบลูกธนูให้ฝ่ายศัตรูเป็นของกำนัล ยิ่งไปกว่านั้น
เมื่อจดหมายปลอมที่จิวยี่เขียนขึ้นบรรยายแผนการยิงลูกธนูแสนดอก
ให้ฝ่ายศัตรูโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ โจโฉก็โกรธมากและสั่งประหารแม่ทัพทั้งสองทันที
ฝ่ายทหารเรือเมื่อได้เห็นแม่ทัพถูกประหารก็เกิดกลัวตายและหลบหนีไป
ทำให้ถูกสั่งฆ่าฐานเอาใจออกห่างเกือบทั้งหมด
แต่แม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ โจโฉก็ยังวางแผนจะบุกโจมตีฝ่ายสัมพันธมิตรในเร็ววัน
โดยออกมากล่าวคำปราศรัยกับทหารเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจของกองทัพคืนมา
ที่ผาแดง จิวยี่ ขุนพลแห่งง่อก๊ก คิดแผนโจมตีกองทัพโจโฉด้วยไฟ
ยุทธวิธีนี้แข็งแกร่งในทางทฤษฎี เพราะเรือรบของโจโฉถูกผูกติดกันเป็นแพ
แต่ทิศทางลมตอนนี้มาจากตอนเหนือ ถ้าใช้ไฟ ลมก็จะพัดกลับมาเผาเรือของง่อก๊ก
ส่วนซุนฮูหยิน เมื่อลวงแผนที่ค่ายมาจากโจโฉสำเร็จ ก็เดินทางกลับมาง่อก๊ก
ซึ่งแผนที่นี้เป็นประโยชน์มากในการวางแผนโจมตีโจโฉ แม้จิวยี่จะทัดทาน
แต่เสี่ยวเกี้ยวก็ยืนยันจะเดินทางไปพบโจโฉเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขาถอยทัพกลับ
หรืออย่างน้อยก็ถ่วงเวลาเขาไว้สักพัก โจโฉที่เอ็นดูเสี่ยวเกี้ยวมาตั้งแต่เด็ก
ตกหลุมรักความงามของเธอทันที
(มีข่าวลือว่าแรงจูงใจที่โจโฉยกทัพมาครั้งนี้คือการชิงตัวเสี่ยวเกี้ยว)
ขงเบ้งกลับมาหาจิวยี่และแจ้งว่า พรุ่งนี้จะเป็นวันที่หนาวที่สุด
และทิศทางลมจะเปลี่ยน ดังนั้นยุทธวิธีไฟจะใช้ได้ผล
กองทัพง่อก๊กจึงเตรียมพร้อมจู่โจม โดยเข้าล้อมค่ายโจโฉอย่างเงียบๆ
และซุ่มลอยเรืออยู่บริเวณผาแดงเพื่อรอเวลาลมเปลี่ยนทิศ
ขณะนั้นเสี่ยวเกี้ยวรับหน้าที่พูดคุยกับโจโฉเพื่อถ่วงเวลาและดึงความสนใจจากเขา
ในที่สุดลมก็เปลี่ยนทิศทางและกองทัพง่อก๊กก็บุกเข้าโจมตี
เรือหลายลำถูกจุดไฟเผาแล้วส่งไปพุ่งชนกองเรือของโจโฉจนไฟลุกโชนทั้งค่าย
จากนั้นทหารของจิวยี่ก็บุกเข้าโจมตีค่ายบนบกของโจโฉซ้ำ
การจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวนี้ทำให้โจโฉและทหารตกใจ
แต่กองทหารม้าที่แข็งแกร่งของโจโฉก็เปลี่ยนกระดานศึก
โดยต้อนทัพของง่อก๊กกลับไปยังแม่น้ำหวังกำจัดให้ราบคาบ
ทันใดนั้น เล่าปี่และทหารก็ปรากฎตัวขึ้นมาช่วยตีทัพของโจโฉจนถอยร่นไปอีก
จากนั้นกองกำลังสองก๊กก็ร่วมมือกันโจมตีป้อมปราการของโจโฉ
ส่วนจิวยี่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากจูล่งจนเข้าไปช่วยชีวิตเสี่ยวเกี้ยวได้สำเร็จ
จากป้อมปราการที่กำลังลุกไหม้ ตัวโจโฉนั้นแทบหนีเอาชีวิตไม่รอด
และสงครามครั้งมหึมานี้ก็จบลงที่ชัยชนะของซุนกวนแห่งง่อก๊กและเล่าปี่แห่งจ๊กก๊ก
แทนที่จะตามไปเอาชีวิตโจโฉ ขงเบ้งกลับแนะนำกองทหารให้ปล่อยโจโฉ
กลับไปพบองค์จักพรรดิด้วยความพ่ายแพ้
จากนั้นเขาก็บอกลาจิวยี่และเสี่ยวเกี้ยว
ส่วนโจโฉนั้นมุ่งหน้ากลับบ้านที่ซึ่งบุตรชายกำลังตั้งตารอเขาอยู่