Custom Search

Apr 16, 2023

“อะไรที่เราควบคุมไม่ได้ก็ปล่อย” เมื่อเราต้องปล่อยวางบ้าง เพื่อชีวิตที่มีความสุขขึ้น


ธรรมะย่อยมาแล้ว

ในเมื่อเราควบคุมสิ่งภายนอกไม่ได้
ก็ให้กลับมาควบคุมตัวเอง 100%
คุยกับใคร แล้วไม่สบายใจ
ก็อย่าไปคุย
ฟังอะไร แล้วไม่สบายใจ
ก็อย่าไปฟัง
อยู่ที่ไหน แล้วไม่สบายใจ
ก็เดินออกมา

Instagram : ธรรมะย่อยมาแล้ว

ByMission To The Moon

ธรรมชาติของมนุษย์นั้นย่อมโหยหา “การควบคุม” อยู่เสมอ พวกเรามักจะมีค่านิยมว่า หากเราสามารถควบคุมชีวิตของตัวเองได้ ย่อมเป็นเรื่องที่ดี ฟังดูเหมือนง่าย แต่ในความจริงแล้ว นอกจากการกระทำ คำพูด หรือความคิด เราหลายคนกลับไม่สามารถควบคุมสิ่งอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ คำพูดของเพื่อน หรือแม้แต่อนาคตข้างหน้าก็ตาม

ซึ่งการพยายามควบคุมสิ่งเหล่านี้ นอกจากจะเป็นการฝืนที่เปล่าประโยชน์นั้น มันมีแต่จะนำตัวเราไปสู่อารมณ์แง่ลบต่างๆ จนทำให้ใครหลายคนเกิดความทุกข์ในชีวิตโดยที่ไม่จำเป็น

แต่การไม่มีการควบคุมแง่มุมต่างๆ ในชีวิตนั้นจะช่วยให้ชีวิตมีความสุขได้จริงหรือ?

มีหลายวิธีที่เราสามารถทำได้ในการเพิ่มความสุขในชีวิต แต่หนึ่งวิธีที่เรียบง่ายและจับต้องได้มากที่สุดวิธีหนึ่งคือการ ‘ปล่อยวาง’ แต่ทำไมเราควรทำเช่นนั้น และเราจะเริ่มอย่างไร? มาทบทวนสิ่งที่เราต้องรู้เกี่ยวกับสาเหตุที่ว่าทำไมเราถึงควรหยุดพยายามควบคุมทุกสิ่งในชีวิตและปล่อยวางเสียบ้าง รวมถึงขั้นตอนที่เราจะสามารถปล่อยวางได้อย่างแท้จริงกัน

แล้วการพยายามจะควบคุมมากเกินไปส่งผลเสียต่อชีวิตเราอย่างไร?

1. ความเครียดและความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น

การวิจัยจาก The Japanese Journal of Health Psychology ระบุว่า คนที่พยายามควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างอาจประสบกับความเครียดและความวิตกกังวลมากกว่าคนที่ไม่พยายามจะควบคุมทุกอย่างของชีวิต รวมไปถึงทำให้เกิดอาการเครียดสะสม จนสามารถทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้

2. ไม่มีความพอใจในชีวิต

การที่เรารู้สึกว่าจำเป็นต้องควบคุม แต่กลับไม่สามารถทำได้ ก็อาจทำให้ความพึงพอใจในชีวิตลดลงได้เช่นกัน จากผลการศึกษาของ Personality and Social Psychology Bulletin พบว่า คนที่มีระดับความต้องการที่จะควบคุมสิ่งต่างๆ สูง จะมีความรู้สึกไม่สบายใจ ครั่นเนื้อครั่นตัว และอึดอัดมากกว่ากลุ่มคนที่มีความต้องการที่จะควบคุมสิ่งต่างๆ ต่ำ ซึ่งสุดท้ายแล้วจะส่งผลกับระดับความพึงพอใจในชีวิตของพวกเขาที่น้อยลง

3. โทษตัวเองโดยไม่จำเป็น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เราก็ไม่มีทางที่จะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตได้ การให้ความสำคัญมากเกินไปเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองหรือการโทษตัวเองโดยไม่จำเป็น เป็นเหตุให้ทำให้เรามีสุขภาพจิตที่แย่ลง คิดกังวลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด รู้สึกไม่มีความสุขกับชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ และอย่างแย่ที่สุดคือลามไปถึงโทษและตำหนิผู้อื่น

แต่แล้วทำไมเราถึงต้องปล่อยวางกันนะ?

1. ชีวิตมีความสงบผ่อนคลาย

หนังสือ The Surrender Experiment โดย Michael Alan Singer ที่เป็น Best Sellers ของ New York Times ที่ได้อธิบายว่าชีวิตของตัวเขาดีขึ้นอย่างไรเมื่อเขาหยุดพยายามควบคุมทุกอย่างและปล่อยวาง และยังมีแนวคิดที่ว่าหากการพยายามควบคุมทุกอย่างทำให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวล การปล่อยวางที่เป็นขั้วตรงข้ามก็อาจจะนำพาความสงบและการผ่อนคลายเข้ามาในชีวิต

2. เมื่อไม่คาดหวัง ก็จะไม่ผิดหวัง

เมื่อเราเลิกยึดติดหรือคาดหวังกับสิ่งที่เราต้องการจากสถานการณ์ต่างๆ ไม่ไปยึดติดกับผลลัพธ์บางอย่างที่นอกเหนือการควบคุมของตัวเอง อาจช่วยทำให้ความกดดันในชีวิตของเรานั้นลดลง ไม่ต้องไปเคร่งเครียดกับทุกเรื่องในชีวิต เรียกได้ว่า ถ้าไม่คาดหวัง ก็จะไม่ผิดหวังนั่นเอง

3. รักตัวเองกับรักคนอื่นได้ดีขึ้น

การที่เราพยายามควบคุมทุกอย่างทำให้เราโทษและตำหนิตัวเองกับผู้อื่นมากขึ้น โดยไปยึดติดว่าทุกคนและตัวเราเองจะต้องทำตัวแบบที่เราคาดหวัง เพียงแค่ปล่อยให้คนอื่นเป็นอย่างที่เขาเป็น รวมถึงปล่อยวางทางความรู้สึกกับตัวเอง อนุญาตให้ตัวเองมีความรู้สึกอย่างอิสระ โดยไม่ต้องคำนึงถึงบริบทมากจนเกินไป แค่นี้ก็จะทำให้เราสามารถรักตัวเอง และรักคนอื่นอย่างแท้จริงได้ดีขึ้น

รู้จัก 3 วิธีการปล่อยวางสิ่งต่างๆ ในชีวิต

1. แยกแยะสิ่งที่คุณควบคุมได้และควบคุมไม่ได้

เราจะไม่มีวันปล่อยวางได้ จนกว่าเราจะรู้ว่าเราต้องการและไม่ต้องการอะไรในชีวิต ลองตั้งคำถามภายในใจว่าแท้จริงแล้วเราต้องการอะไรกันแน่ ลองนึกถึงด้านต่างๆ ของชีวิตที่อยู่และไม่อยู่ในความควบคุมของเรา จินตนาการดูว่าถ้าเกิดสถานการณ์ต่างๆ ไม่เป็นไปอย่างที่เราหวังไว้ในหลายๆ แบบดู แล้วพยายามทำใจให้สบาย โดยรู้ว่ามันอยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา สุดท้ายแล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะยังโอเคและผ่านมันไปได้

2. ไม่พอใจอะไรให้จดลงไป

การระบายอารมณ์ด้วยการเขียนนั้นเป็นหนึ่งในวิธีคลายเครียดที่ดีมาก เมื่อเราจดบันทึกสิ่งต่างๆ ลงไป จะช่วยทำให้เราได้ฉุกคิดถึงอะไรหลายๆ อย่างในระดับที่ลึกขึ้น และสำหรับคนที่ไม่คุ้นชินกับการปล่อยวาง การจดบันทึกนั้นสามารถเป็นที่ระบายอารมณ์ชั้นดี เพื่อไม่ให้ความรู้สึกหงุดหงิดนั้นขยายตัวจนเป็นปัญหาได้

3. ให้คนรอบตัวและคนที่เรารักอยู่เคียงข้าง

สุดท้ายแล้ว เราไม่จำเป็นต้องรับมือกับอารมณ์เหล่านี้ด้วยตัวคนเดียว อย่างน้อยแล้วเราน่าจะมีเพื่อน พี่น้อง หรือพ่อแม่ที่เข้าใจความรู้สึกอยากจะควบคุมทุกอย่างในชีวิตเหมือนกันอยู่บ้าง เพราะฉะนั้นลองเปิดใจกับคนที่เราไว้ใจ บอกว่าเราอยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนปล่อยวางมากขึ้น และอยากให้เรากับเขาเป็น Support System ของกันและกัน ในเส้นทางของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

ท้ายที่สุดนี้ การปล่อยวางนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่คนเราจะทำได้ง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่มีต้องรับผิดชอบอะไรหลายๆ อย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการงาน ครอบครัว หรือความรัก แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงว่า เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่างในชีวิตได้ และความไม่แน่นอนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

อย่างไรก็ตาม เราขอให้กำลังใจกับใครก็ตามที่กำลังพยายามฝึกฝนตัวเองเพื่อให้กลายเป็นคนที่สามารถปล่อยวางสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้มากขึ้น และสำหรับใครก็ตามที่ยังไม่สามารถปล่อยวางได้นั้น ในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ดีที่สุดก็คือตัวเราเอง

อ้างอิง
https://bit.ly/3NCcg6B
https://bit.ly/3xComai
https://bit.ly/3H9xupP

#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration
#lettinggo

writer : Natchapol Nademahakul