Custom Search

Nov 15, 2018

สแตน ลี : ผู้กำเนิดชีวิตยอดมนุษย์ซูเปอร์ฮีโร่ แห่งจักรวาลมาร์เวล




สแตน ลี (Stan Lee) (1922–2018) อดีตผู้บริหารมาร์เวล คอมิกส์ (Marvel Comics) และนักเขียนชาวอเมริกัน เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 95 ปี เขาคือมนุษย์ผู้อยู่เบื้องหลังชีวิตของบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ที่ออกมาโลดแล่นบนหน้าหนังสือการ์ตูนและแผ่นฟิล์มที่ครองใจแฟน ๆ ทั่วโลก

บริษัทตั้งขึ้นในปี 1961 โดยมีผลงานในช่วงเริ่มต้นคือ The Fantastic Four ก่อนจะมีผลงานตามมาอีกหลายเรื่อง อย่างเช่น Spider-Man และ The Incredible Hulk

แฟนการ์ตูนของเขาหลงใหลคาแรคเตอร์ของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ ที่แม้จะมีพลังพิเศษแต่พวกเขาก็ยังเผชิญกับปัญหาในชีวิตประจำวัน อันเป็น "สูตรสำเร็จ" ที่เปลี่ยนแปลงวงการการ์ตูนไปตลอดกาล

เดอะฮัลค์ ไอรอนแมน แดร์เดวิล และแฟนแทสติก โฟร์ ล้วนเป็นผลงานการสร้างสรรค์จากจินตนาการที่พรั่งพรูของลี และถูกถ่ายทอดลงบนหน้ากระดาษ และแม้ว่าอาชีพการเป็นนักเขียนการ์ตูนของเขา จะเริ่มต้นจากปากกาและน้ำหมึก แต่มันได้เดินทางออกไปไกลกว่านั้นมากนัก

จากการ์ตูนสู่นวนิยายภาพในรูปแบบดิจิทัลสู่ภาพยนตร์ฮอลลีวูดทำเงินมหาศาล และเปลี่ยนอาณาจักรของการ์ตูนมาร์เวล จากเดิมที่เป็นเพียงแผนกเล็ก ๆ ของสำนักพิมพ์ หนึ่งกลายมาเป็นบริษัทมัลติมีเดียยักษ์ใหญ่ นี่คือพลังอันไม่จบสิ้นของสแตน ลี

เขาเกิดเมื่อปี 1922 มีพื้นเพเป็นชนชั้นแรงงานที่ยากจนและเป็นชาวยิวอพยพจากประเทศโรมาเนีย ลี ซึ่งมีชื่อในขณะนั้นว่า สแตน ลีเบอร์แมน ได้งานทำที่สำนักพิมพ์ไทม์ลี่ ซึ่งมีญาติคนหนึ่งของเขาเป็นเจ้าของ และสำนักพิมพ์นี่เองที่ในเวลาต่อมากลายเป็นบริษัท มาร์เวล คอมิกส์

ลี ได้รับมอบหมายให้ทำงานในแผนกการ์ตูน ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งบรรณาธิการเมื่อมีอายุได้เพียง 18 ปี ซึ่งนั่นต้องขอบคุณ จินตนาการอันล้ำเลิศของเขา

กว่า 20 ปี ลี เป็นเหมือนดั่ง "กลจักรแห่งความสำเร็จ" ในการสร้างสรรค์เรื่องราวทั้ง การ์ตูนแนวอาชญากรรม สยองขวัญ แนวตะวันตก หรืออะไรก็ตามที่เติมเต็มความกระหายความต้องการอ่านช่วงวัยเยาว์ของเขา

ชื่อตัวการ์ตูนของ สแตน ลี มีความยาวน้อยกว่าสองพยางค์ทั้งสิ้น ลักษณะของตัวละคร ไม่ดีอย่างสุดขั้ว ก็เลวอย่างสุดขีดไปเลย อีกทั้งไม่มีช่องว่างสำหรับตัวละครที่มีลักษณะเทา ๆ

เขาไม่ค่อยชอบนามสกุลลีเบอร์แมนเท่าไรนัก ดังนั้น ลีจึงไม่เคยใช้ชื่อนามสกุลจริงของเขาเลยในการลงชื่อเป็นผู้แต่ง แต่เขายอมรับที่จะใช้ชื่อ "ที่ดูทึ่ม ๆ" อย่าง สแตน ลี แทน ซึ่งเวลาต่อมาเขาก็ทำเรื่องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลนี้อย่างถูกกฎหมาย

ช่วงราวอายุ 40 ปี ลีตัดสินใจกับตัวเองว่า เขาคงจะ "แก่" เกินไปสำหรับสายการ์ตูนในวงการนี้ โจแอน ภรรยาชาวอังกฤษของเขา ได้แนะนำว่า เขาไม่มีอะไรจะสูญเสียแล้วในช่วงอายุเท่านั้น และเพื่อสร้างงานชิ้นสุดท้ายของชีวิต เขาควรสร้างตัวการ์ตูนที่เขาอยากจะเห็นมันจริง ๆ

หลังจากที่สำนักพิมพ์คู่แข่งออกตัวการ์ตูน "ซูเปอร์ทีม" อย่าง แบตแมน ซูเปอร์แมน และวันเดอร์วูแมนมา ทางไทม์ลีก็ต้องเริ่มหาทางโต้กลับบ้างแล้ว

คำตอบของลี ในปี 1961 คือ เดอะ แฟนแทสติก โฟร์ (The Fantastic Four) ซึ่งเป็นมนุษย์อวกาศ 4 คนที่ได้รับพลังพิเศษหลังเกิดอุบัติเหตุทำให้ได้รับรังสีคอสมิกเข้าสู่ร่างกาย

เหล่า Fantastic Four ได้เปลี่ยนชีวิตของลี และอุตสาหกรรมการ์ตูนอย่างตลอดกาลนับแต่เวลานั้น

ลีสร้างบุคลิกตัวละครแต่ละตัวให้แตกต่างกันออกไป เติมแต่งให้มีคาแรกเตอร์แบบชีวิตทั่วไปธรรมดา ๆ วัยรุ่นที่เจอปัญหาในแต่ละวัน ตั้งแต่เรื่องรังแคที่ศีรษะ เล็บคุด สิว มักทะเลาะกับพ่อแม่ รวมทั้งทะเลาะกันเอง

หลังจากแฟนแทสติกโฟร์ออกสู่สายตาผู้ที่ชื่นชอบเหล่าฮีโร่มาร์เวล ก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม จากปรากฏการณ์นั้น สแตน ลี ได้กลายเป็นผู้นำทางให้เกิดยุคทองของวงการการ์ตูน และจินตนาการของเขาได้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง "จักรวาลแห่งมาร์เวล" ที่เต็มไปด้วยตัวการ์ตูนที่มีความสัมพันธ์กัน ได้ถือกำเนิดใหม่ในชื่อว่า มาร์เวล คอมิกส์ (Marvel Comics)

หลังจากนั้นไม่นาน ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ผู้แสนเนิร์ด ก็ถูกแมงมุมที่โดนรังสีกัด และกลายมาเป็นมนุษย์ที่สามารถตะกายตึกระฟ้าเหนือนครนิวยอร์ก และนั่นคือกำเนิดของสไปเดอร์แมน

สไปเดอร์แมนหรือ สไปดี้ ได้กลายเป็นไอคอนแห่งยุคสมัยใหม่ของวัฒนธรรมป็อบ แม้จะมีพลังอันยิ่งใหญ่ แต่ก็มีชีวิตแบบคนทั่วไปที่มีปัญหาในที่ทำงาน ที่บ้าน และกับแฟนสาวของเขา ในท้ายที่สุด สไปเดอร์แมนไม่ได้เป็นแค่ตัวประกอบอีกต่อไปแต่กลายเป็นพระเอกคนสำคัญของมาร์เวล และเขาก็ไม่ได้มีแค่พละกำลัง แต่มีสมองด้วย

"แค่เพราะว่าเขาเป็นฮีโร่และมีพลังพิเศษ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่มีปัญหาเลย" ลี เคยกล่าวกับบีบีซี

ทั้งเดอะฮัลค์ ,ไมท์ตี้ ธอร์, ไอรอนแมน และตัวละครอื่น ๆ ต่างต้องต่อสู้ดิ้นรนกับปัญหา อย่างการใช้ยาเสพติด ความดันทุรัง และความไม่เท่าเทียมทางสังคม

ลียังได้ปฏิวัติวงการด้วยการ ให้เครดิตกับศิลปินนักวาดที่ออกแบบตัวละครแต่ละตัวด้วย ผู้ที่ร่วมงานกับเขาอย่าง แจ็ค เคอร์บี้, แฟรงค์ มิลเลอร์, จอห์น โรมิแทนด์ และคนอื่น ๆ ต่างบรรลุความสำเร็จในรับการนับถือของแฟน ๆ ของมาร์เวล

ส่วนซูเปอร์ฮีโร่ตัวอื่น ๆ ก็ได้เปิดพื้นที่ใหม่ ๆ ให้กับวงการการ์ตูน อย่าง แดร์เดวิลซึ่งตาบอด แบล็คแพนเธอร์ ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนผิวสี และซิลเวอร์เซิร์ฟเฟอร์ (Silver Surfer) ซึ่งสะท้อนมุมด้านมนุษยธรรม อย่างไรก็ตาม อิทธิพลในการสร้างตัวละครในแบบของลี ยังคงหลงเหลืออยู่ ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ ฮีโร่ของมาร์เวล ที่ชื่อว่า นอร์ธสตาร์ ก็เผยโฉม

ในยุคที่รุ่งเรืองถึงขีดสุด มาร์เวลสามารถขายผลงานการ์ตูนได้ 50 ล้านฉบับต่อปี จนกระทั่งลีได้ลาออกจากตำแหน่งบรรณาธิการในปี 1971 และหันมาเขียนการ์ตูนฉบับสำหรับขึ้นปกเพียงอย่างเดียว

ในปี 1999 บริษัทของลี ภายใต้ชื่อ สแตนลีมีเดีย พยายามนำการ์ตูนเรื่องยาวลงสู่แพลตฟอร์มใหม่ทางอินเทอร์เน็ต แต่การประเมินที่ผิดพลาด ทำให้ลีหมดตัว และหุ้นส่วนของเขาต้องถูกจำคุกจากข้อหาฉ้อโกง

ปี 2001 ลีก่อตั้งบริษัทใหม่ที่ชื่อว่า พีโอดับเบิ้ลยู (POW) เน้นอุตสาหกรรมบันเทิง ผลิตภาพยนตร์และรายการทีวี

ประสบการณ์การสร้างสรรค์กว่า 50 ปีของลียังคงใช้การได้ดีเช่นเคย พล็อตการ์ตูนอย่างเอ็กซ์เมน, แฟนแทสติกโฟร์, ฮัลค์ , แดร์เดวิล, ไอรอนแมน และดิเอเวนเจอร์ส ถูกนำไปพัฒนาเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูด

- สไปเดอร์แมน ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทำรายได้ถล่มทลาย ทั้งภาคแรกในปี 2002 และภาคต่อในปี 2004 ทำรายได้จากการขายตั๋วทั่วโลกเกือบ 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่นับรวมรายได้จากการขายดีวีดีและสินค้าอื่น ๆ

- กัปตันอเมริกา (Captain America) ภาพยนตร์ที่นำแสดงโดยคริส อีแวนส์ สร้างรายได้ทั่วโลก 2.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ไอรอนแมนที่นำแสดงโดยโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ส ทำรายได้ 2.4 พันล้านดอลลาร์

และแฟน ๆ ก็จะยินดีมากที่จะได้เห็นลีมาปรากฎตัวในหนังแทบทุกเรื่องที่เกิดจากการ์ตูนของเขา

ลียังได้กลับมาเขียนหนังสือนวนิยายภาพ (graphic novels) อีกครั้ง ปี 2012 เขาร่วมเขียนเรื่องโรมิโอและจูเลียต:เดอะ วอร์ ซึ่งได้ขึ้นเป็นหนึ่งในรายชื่อหนังสือขายดีของนิวยอร์กไทมส์ เขายังได้เปิดช่องยูทิวบ์ด้วยชื่อว่า Stan Lee's World of Heroes

เขาได้เปิดตัวนิยายภาพ เรื่อง Stan Lee's God Woke ในงานเทศกาลหนังสือการ์ตูน Comic Con ปี 2016 และหนังสือได้รับรางวัลในหมวดเสียงแห่งอิสระ จากงานแจกรางวัลสำนักพิมพ์อิสระในปี 2017

ในช่วงปีหลัง ๆ เขามักบ่นว่าสายตาเริ่มไม่ค่อยดีแล้ว ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถอ่านหนังสือการ์ตูนที่สร้างชื่อให้เขาได้อีกต่อไป เขาบอกว่ารายการเรดิโอ ไทมส์ในปี 2016 ว่า "คิดถึงการอ่านหนังสือ 100%"

ลีบอกเสมอว่า โชคคือพลังซูเปอร์พาวเวอร์ที่พิเศษสุด

"ทุกครั้งที่ได้ไปงานเทศกาลการ์ตูนตามที่ต่าง ๆ จะมีแฟนหนังสืออย่างน้อยหนึ่งคนถามผมว่า อะไรคือพลังพิเศษที่สุดยอดที่สุด และผมมักจะตอบว่า โชคชะตา คือพลังพิเศษที่ยอดเยี่ยมที่สุด เพราะถ้าคุณมีโชคที่ดี ทุกอย่างก็จะเป็นของคุณ" ลีกล่าว