Custom Search

Feb 23, 2018

กัมปะนี





กัมปะนี วงดนตรีแนวอิเลคโทรนิคร็อกสัญชาติไทยจาก
แกรมมี่ เอนเตอร์เทนเม้นท์ โด่งดังในช่วงปี 2534 - 2535
โดยสมาชิกของวงประกอบไปด้วยโปรดิวเซอร์ฝีมือดี
ของแกรมมี่ทั้งหมด 3 คนคือ
จ๊อด กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา ในตำแหน่งมือเบสและร้องนำ , 
ฉ่าย สมชัย ขำเลิศกุล ในตำแหน่งมือกีตาร์และร้องนำ และ
ป๋อง อรรณพ จันสุตะ ในตำแหน่งมือกลองและร้องนำ


guitarthai


กัมปะนี วงดนตรีที่เกิดจาก สุดยอดนักดนตรีและโปรดิวเซอร์
ที่เป็นมันสมองสรรสร้างบทเพลงเจ๋งๆให้กับศิลปินมากมาย
ใน GMM และเมืองไทย
วงดนตรีนี้ประกอบด้วย
ฉ่าย สมชัย ขำเลิศกุล
ป๋อง อรรณพ จันสุตะ
จ๊อด กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา (หนึ่งในสมาชิกวง Butterfly)

การเกิดของ กัมปะนี เกิดจาก ช่วงนึงห้องอัดใน GMM ว่าง
ทั้ง 3 ท่าน เลยทำเพลงขึ้นมา และตอนเเรกว่าจะหาใครมาร้อง
แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจร้องกันเอง และทำจนเสร็จอัลบั้ม
วงกัมปะนี ออกอัลบั้ม ไม่มีจำกัดในปี พศ.2535
กับบทเพลงชั้นครูที่วางโปรเกสชั่นคอร์ดสุดล้ำ มีความผสมผสาน
โปรเกสซีพ และเมโลดีที่สวยงาม และเนื้อร้องสุดลึกซึ้ง
บทเพลงของ กัมปะนี มีความยากเเละซับซ้อน
แต่ด้วยความสามารถของทั้ง 3 ท่าน
จึงเรียบเรียงเเละถ่ายทอดความซับซ้อนนั้น
มีเเต่ความสวยงามจนคนฟังที่ไม่ได้เจาะลึกเข้าไป
เเทบไม่รู้ว่าในความสวยงามนี้มีความยากและ
ซับซ้อนซ่อนอยู่เต็มไปหมด
เพลงอย่าง นักเดินทาง หรือ กลับคำเสีย
และเพลงอีกมากมายในอัลบั้มนี้กลายเป็นเพลงชั้นครูขึ้นหิ้ง
ของเมืองไทยตลอดกาล








รูปถ่ายพร้อมลายเซ็นต์
วง กัมปะนี


เทปพี่ซีดีเพื่อน

คนหลังด้านซ้ายเสื้อขาว :
พี่ฉ่าย สมชัย ขำเลิศกุล(กีต้าร์)
คนหลังด้านขวาเสื้อสีแดง :
พี่จ๊อด กฤษณ์ โชคทิพย์พัฒนา(เบส)
และสวมแว่น ใส่เสื้อกั๊กนั่งหน้า :
คือ อจ.ป๋อง อรรณพ จันสุตะ(ผู้ล่วงลับ)

ศิลปินระดับโปรดิวเซอร์แถวหน้าของแกรมมี่
รวมตัวกันไว้ให้เป็นตำนานแค่ชุดเดียว..

ภาพนี้เป็นสมบัติของ
พี่สุรักษ์ สุขเสวี
ผู้แต่งเนื้อเพลง นักเดินทาง
ให้วงกัมปะนี ครับ

(ภาพจากเฟซบุ๊ค : สุรักษ์ สุขเสวี)


Feb 22, 2018

Koisuru Fortune Cookie (The Fall-in-Love Fortune Cookie) / AKB48


Koisuru Fortune Cookie (The Fall-in-Love Fortune Cookie) / AKB48[Official] Lyrics: Yasushi Akimoto / Composer: Shintaro Ito / Arranger: Seiji Muto


Feb 20, 2018

วาทะร้อนแรง : ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค












20.2.2018

มีคนแขวะฉันว่าเป็น สว. สอบตก กทม.
เมื่อหลายปีก่อน...แม่ประไพ...
คุณรสนา ได้คะแนนประมาณห้าแสน...
ฉันได้ที่สอง ได้คะแนนประมาณเกือบสามแสน...
แพ้หลุดลุ่ย แต่ได้ที่สอง สมัครเพราะอยากรู้ โดยไม่มีฐานเสียงและ
เงินสนับสนุนเลย ควักกระเป๋าตัวเอง ล้านกว่าบาท ทำแค่ป้ายห้าร้อย
กว่าแผ่น ไปติดแบบโง่ๆ
แต่นั่นคือความภูมิใจนะ อย่างน้อยฉันก็ได้ลงพื้นดิน ไปหาเสียงทั่วกทม...หนักกว่า สส.เขตอีก เพราะ ต้องไปหาเสียงทั้งกรุงเทพ 
ไปแม่งทุกเขต...
ชีวิตนี้กูไปถึงจุดนั้นได้ยังไง...แม่ประไพ มีแค่ทีมงานที่อาสามาช่วยไม่เอาตัง แค่ขอมีอาหารกิน มีน้ำกิน
ใครไม่รับบัตรแนะนำตัว ฉันก็บอกทีมงานว่าอย่าไปให้เขา...เปลือง
เป็นช่วงที่รัฐธรรมนูญเขียนว่า จังหวัดใหญ่จังหวัดเล็ก มึงก็มี สว.ได้คนเดียว...
กูก็ช่างกล้านะ...ทั้ง ๆที่รู้ว่าไม่มีพื้นฐานเสียงเชี่ยอะไรเลย...
มีแต่ประสบการณ์เจ็บปวดกับการไปพบผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง
มีคนดูหมิ่น โต๊ะพนัน แทงกันว่า ฉันคงได้คะแนนประมาณลำดับเกือบบ๊วย...
กูไม่มีอะไรแบ๊คอัพเลย...นอกจากพี่ ๆ น้อง ลงขัน สามแสนห้าแสนด้วยความสงสาร...ให้ทำป้าย
กูได้ที่สอง...กูดีใจมากเลยจ้ะ...
ถ้าฉันได้เป็น สว.แทนพี่รสนาในวันนั้น
ฉันก็คงทำอะไรไม่ได้นักหรอก...
ที่พูดนี่คือจะบอกว่า.....
ฉันไม่ได้ต่อต้านระบอบประชาธิปไตย...
แต่เบื่อคนอ้างประชาธิปไตยในเวลาที่ยังซ่อมความสูญเสียจากความเป็นประชาธิปไตยที่ล้มเหลวยังไม่สำเร็จ
ฉันไม่ได้ต่อต้านการเลือกตั้ง แต่เบื่อคนอยากเลือกตั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกตั้งอะไร หรือมีเป้าหมายว่าจะเลือกใครอยู่แล้วแบบเดิมๆ
ฉันไม่อยากให้รัฐบาลเผด็จการที่มีบุญคุณในช่วงที่มาดับไฟบ้านเมือง มายึดถือบุญคุณกับประเทศชาตินานไปกว่านี้
ฉันรำคาญ ขอบ่นนะ...ฉันรำคาญพวกเรียกร้องการเลือกตั้งในตอนนี้ มันวุ่นวายไง....แต่ฉันอยากให้จ้องไปที่โรดแมปที่เขาสัญญาไว้
เขาบอกไว้ว่าจะเลือกตั้ง ช่วงนั้นนี้ เพราะเขาสัญญาไว้แล้ว ก็รอบ้างได้ไหม
เอาเหอะ อย่าเคลื่อนไหวนักเลย...
ถ้าเขาไม่ทำตามสัญญา ค่อยเคลื่อนไหว...
แล้วฉันจะไม่ว่าอะไรเลย...
ถ้าปี 2562 มันยังไม่มีอะไรเป็นตามสัญญาโรดแมป
ฉันจะเป็นประชาชนคนหนึ่งที่จะเรียกร้องการเลือกตั้ง

ถึงไม่รู้ว่าแม่งจะเลือกใครก็เถอะ...

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเดชาดิศร





Feb 12, 2018

คำถาม 9 ข้อ จาก พี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค

12 ก.พ. 2561









“อยากเลือกตั้งมั่งอ้ะแม่ประไพ พ่อทิดเอิบ..
แต่มีคำถามในใจตัวเอง ดังต่อไปนี้…
คำว่า “มึง” คือฉันถามตัว “กู” เองจ้ะ
1.มึงจะเป็นคนเลือก…มึงจะเลือกใครวะ มึงก็เลือกมาแล้วหลายที เลือกมาแล้ว มันก็งั้น ๆ จะเลือกหรือไม่เลือก ก็ไม่เห็นแตกต่าง
2.หรือกูจะเสนอตัวเป็นคนให้เขาเลือก….กูจะได้ไปทำแบบที่กูคิดไว้ว่าดี แต่กูจะไปสมัครที่ไหน พรรคไหน เขาจะรับกูไหมถ้าเขารู้ว่า กูไม่ชอบคำว่า “มติพรรค”
3.รัฐธรรมนูญไม่ให้คนลงการเมืองเป็น สส.อิสระ ต้องอยู่ในพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น ต้องทำตามมติพรรค…เออ แค่นี้ก็เผด็จการในพรรคละ ประชาธิปไตยตรงไหนวะ
4.แต่ถ้าอิสระได้หมด..ใครอยากสมัครเป็นผู้แทน ก็อิสระ ก็เข้าใจได้เลยว่า ส่วนหนึ่งอาจจะมีความคิดเป็นของตัวเองสูงที่จะทำงานเพื่อชาติโดยไม่คิดถึงพวกพ้อง….แต่ส่วนที่เป็นปัญหาคือ…แม่งพร้อมจะขายตัวยกมือ….คือเป็นกะหรี่การเมืองขายปลีก….วุ้ย กลุ้มใจ
5.งั้นขอตั้งพรรคใหม่ละกัน…ชาวบ้านธรรมดาที่ก็เป็นคนไทยที่อยากทำงานให้บ้านเมือง ที่ไม่ใช่สองสามพรรคใหญ่นั่น…ตั้งพรรคใหม่แล้วจะรอดไหมจ๊ะ
6.ต่อจากข้อที่ห้า…การอยากอาสาเข้าไปทำงานการเมือง ต้องมีเงินแค่ไหน…ต้องมีเงินด้วยหรือ
7.คนจน คนชั้นกลาง มนุษย์เงินเดือน รวมเงินได้ ตั้งพรรคได้ไหม อันนี้ถามจริงๆ…หมายถึงไม่ใช่แค่ตั้งพรรคไปอย่างสิ้นหวังนะ…อันนั้นรู้ว่ามีกฎหมายว่าตั้งพรรคได้…แต่พรรคเบี้ยน้อยหอยน้อยมันเคยเกิดขึ้นไหม
8.ประชาธิปไตยย่อมเป็นญาติกับเสรีนิยม…และเสรีนิยมเป็นญาติกับทุนนิยมไหม แล้วทุนนิยมมันจะย้อนกลับไปเป็นญาติที่แท้จริงกับประชาธิปไตยเพื่อปวงชนไหม…
9.สิ่งหนึ่งทีฉันสับสนคือ…เผด็จการในเมืองไทยวันนี้ เป็นเผด็จการที่หน่อมแน้ม รู้สึกผิดว่าตัวเองมาจากวิธีที่เขาหาว่าไม่เป็นประชาธิปไตย…จะเด็ดขาดก็ไม่กล้าเด็ดขาด แถมยังเฟอะฟะอีกหลายเรื่องให้อีกฝ่ายเย้ยหยันได้ตลอดเวลา…
แต่ฝ่ายที่ต่อต้านเผด็จการ…อยากเลือกตั้ง…เคลื่อนไหวไปเรื่อย…
ซ้ำๆซากๆ…ไม่มีข้อเสนออะไรเลย…ย้ำ ไม่มีข้อเสนออะไรเลย นอกจากอยากจะมีเลือกตั้ง…
ประชาธิปไตยคือเผด็จการอีกรูปแบบหนึ่งที่ห่อหุ้มแพกเกจให้ดูงดงาม ถ้าหากยังตอบคำถามเก้าข้อของฉันนั้นไม่ได้…
ประชาธิปไตยแบบอนาล็อก…ตั้งแต่ 2475 มันไม่เวิร์คละ…
ตอนนี้ต้องประชาธิปไตยแบบดิจิตอลโซเชียลมีเดียละเผด็จการก็ไม่รอด…
ประชาธิปไตยทุนนิยม…เสรีนิยมสร้างภาพ..ก็จะไม่รอด..
ตอนนี้โซเชียลมีเดีย….สร้างสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริงละแม่เอ๋ย
แม่ประไพเอ๋ย…
เปิดหูเปิดตาเถิด…
และเข้าใจไว้ด้วย..
ว่า ประชาธิปไตย ห่าเหวนี่…
ถ้าไม่มีเงิน ตั้งพรรคการเมืองไม่ได้ดอกสมัคร สส.ไม่ได้
เลือกตั้งใช้เงิน…
แล้วจะมีใครที่จะเสียสละทำงานเพื่อชาติ…โดยที่ต้องเสียเงินอีกต่างหาก แบกงาน แถมยังพร้อมโดนด่า…
มันถึงได้ต้องเอาคืนไง…
วงจรเอาเงินคืนมันถึงได้เกิดขึ้น…
ประเทศไทย…ไม่เหมาะกับระบอบประชาธิปไตยแบบฝรั่ง
ประเทศไทย…เหมาะกับประชาธิปไตยแบบพ่อขุนรามฯ
แล้วจะบอกให้เลยว่า ประชาธิปไตยแบบพ่อขุนรามคำแหงมหาราช…โคตรจะจริงใจ ไม่ดัดจริตแบบกระบวนการรัฐสภาห่าหอย…
ฉันอยากเลือกตั้งเหมือนกันนะ…
แต่ช่วยตอบคำถามหน่อยว่ามึงจะเลือกตั้งไปทำห่า(น)ไร…
หรืออยากเลือกตั้งแค่ให้คุณประยุทธ์ จันทร์โอเค…เด้งไปไกลๆ
ฉันก็ชอบแกนะ…แต่พักหลังแกเสียรูปมวยไปเยอะ…
ยิ่งรุ่นพี่แก ยิ่งโดนโห่…ฉันก็โห่
แต่ตอบคำถามฉันหน่อย เก้าข้อนั่น.
จะเลือกตั้ง…
ฉันอยากตั้งพรรค
อยากสมัครทำงานการเมือง…
มีเงินในกระเป๋าอยู่ สองร้อยห้าสิบบาท…
ตั้งพรรคได้ไหม…”

Greyhound cafe




 

 



Feb 11, 2018

ภาณุ อิงคะวัต

ครีเอทีพโฆษณา/เจ้าของธุรกิจ Greyhound