Custom Search

Dec 29, 2014

เกียรติศักดิ์ – อัสราภา เสนาเมือง รักแท้แค่เข้าใจ

 http://women.kapook.com/view18092.html
22 ตุลาคม 2553

รักแท้...แค่เข้าใจ อัสราภา-ร.ต.ท.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง (Woman’s story)

          ฉบับนี้ Woman’s story มีโอกาสได้เข้าไปเจาะลึกถึงเรื่องราวความรักของนักเตะตำนานหมายเลข 13 ขวัญใจชาวไทยอย่าง ซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง พร้อมกับเปิดตัวภรรยาสาวสวย คุณเปิ้ล-อัสราภา เสนาเมือง ผู้ซึ่งคอยอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กันเสมอมา เรื่องราวของรักแท้ครั้งนี้จะมีความเป็นมาอย่างไรนั้น เราไปติดตามพร้อม ๆ กันเลยค่ะ...

ย้อนวันวานเรื่องราวความรักครั้งนี้เป็นมาอย่างไรคะ

          คุณซิโก้ : ตอนนั้นผมก็เล่นฟุตบอล แล้วเปิ้ลเขาทำงานในสมาคมกรีฑา

          คุณเปิ้ล : พอดีเจ้านายเขามีบริษัทที่ทำเว็บไซต์เกี่ยวกับกีฬา แล้วเปิ้ลก็ต้องเข้ามาทำตรงนี้ ซึ่งเจ้านายก็อยากให้ทำเว็บไซต์ที่เป็นประวัติของซิโก้...ก็เลยมีโอกาสได้ รู้จักกันตอนนั้น เปิ้ลก็ต้องมีหน้าที่ไปตามขอข้อมูลของพี่โก้น่ะค่ะ (ยิ้ม)

          คุณซิโก้ : ตอนนั้นเปิ้ลก็ยังไม่รู้จักผมหรอก ไม่รู้ว่าผมเป็นใคร ผมเองก็คิดว่าเขาก็เป็นนักข่าวที่มาขอสัมภาษณ์ประมาณนั้น แล้ววันแรกที่ได้เจอกันก็เป็นวันงานเลี้ยงนักกีฬา ที่ทำเนียบรัฐบาลครับ ตอนนั้นก็ได้คุยกัน แต่ผมเองก็ยังไม่ได้คิดอะไร แต่รู้สึกว่าจะตามอะไรนักหนา (หัวเราะ)

          คุณเปิ้ล : คือตอนแรกเปิ้ลก็จะตามหาตัวก่อนว่าคนไหนคือซิโก้ แล้วก็ต้องตามข้อมูลเขา เพื่อที่จะเอามาทำเว็บไซต์ ซึ่งต้องเป็นข้อมูลที่เจาะลึก ก็เลยต้องตามตื้อนิดนึง (ยิ้ม) ตามอยู่เป็นเดือน ๆ เลยค่ะ (ยิ้ม) ด้วยเหตุนี้มันกลายเป็นว่าเราต้องคุยกันทุกวันเลย

ครั้งแรกที่เจอกันความรู้สึกเป็นอย่างไรบ้างคะ

          คุณเปิ้ล :  ตอนแรกแค่รู้จักว่าเค้าคือ ซิโก้- เกียรติศักดิ์ เท่านั้นเอง เพราะวันที่เจอกันครั้งแรก คนเยอะมาก มีนักกีฬาทุกประเภทเลย เปิ้ลก็คิดว่าวันนี้จะได้เจอเขา ก็จะได้นัดขอข้อมูลมาทำงาน ไม่ได้คิดมากไปกว่านั้น ก็เข้าไปที่สมาคมฟุตบอล ไปหาตัวเขา หาอยู่นานก็ไม่เจอ คือเปิ้ลก็จินตนาการไปว่าซิโก้ต้องสูง แล้ววันนั้นเขายืนอยู่ข้าง ๆ ปีเตอร์ วิท เราก็เลยมองข้ามไปเลย อืม...แล้วก็ไปบอกคนที่ทำงานด้วยกันว่าวันนี้ซิโก้ไม่มา เพื่อนก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะฟุตบอลได้เหรียญซิโก้ต้องมา ก็เลยพากันไปดูหมดเลย แล้วเพื่อนก็บอกว่า ซิโก้ยืนอยู่ข้างปีเตอร์ วิทไง เปิ้ลก็มองแล้วก็คิดในใจว่าจะเล่นฟุตบอลได้เหรอ ตัวเล็กจัง (หัวเราะ)

          คุณซิโก้ : (ยิ้ม)

หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์มีการพัฒนาไปอย่างไรบ้างคะ

          คุณเปิ้ล : ก็เป็นเพื่อนกันค่ะ

          คุณซิโก้ : ครับ ส่วนใหญ่ก็จะคุยกันเรื่องงาน เรื่องข้อมูลที่จะเอาไปทำเว็บไซต์ ผมก็ให้ความร่วมมือเขาในการทำงาน ก็ทำให้เราได้คุยกัน เจอกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็เป็นเหมือนเพื่อนกันซะมากกว่าครับ เพราะผมก็โฟกัสเฉพาะเรื่องฟุตบอล ก็ไม่ได้มีเวลาที่จะไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลงอะไร จะมีบ้างก็ไปทานข้าวกัน (ยิ้ม)

          คุณเปิ้ล : แต่ก็น้อยมากค่ะ ไม่ค่อยมีโอกาสแบบนั้นเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คุยกันเรื่องงานเลย

          คุณซิโก้ : เหมือนเป็นเพื่อนร่วมงานกันมากกว่าครับ (ยิ้ม)



แล้วความรักเริ่มมางอกเงยขึ้นตอนไหนคะ

          คุณซิโก้ : ตอนนั้นผมจะไปอังกฤษ ไปเล่นอาชีพที่นั่น ก็เลยปรึกษาเรื่องข้อมูลการไปอยู่ต่างประเทศจากเปิ้ล เพราะเขาเคยไปอยู่ต่างประเทศ พูดภาษาอังกฤษได้ แล้วผมเองก็คิดว่าถ้าเราไปคนเดียวคงลำบาก น่าจะมีล่ามไปด้วย แล้วตอนนั้นเราก็สนิทกันแล้ว ก็เลยชวนเปิ้ลไปช่วยเป็นล่ามให้หน่อย ให้เขาไปส่งที่อังกฤษ เขาก็โอเค ก็เลยโทรไปขอกับคุณพ่อคุณแม่เขา

          คุณเปิ้ล : คือตอนนั้นเปิ้ลเป็นไกด์อยู่ด้วย ไปแถบยุโรปบ่อยอยู่แล้ว พอเขาชวนให้ไปส่ง เราก็เลยตกลงไป ก็คิดแค่ว่าไปส่งเขาเสร็จก็กลับ เพราะเราก็มีงานที่ต้องทำอยู่

          คุณซิโก้ : แต่มันไม่เป็นอย่างที่คิดครับ เพราะพอไปถึงมันก็เจอปัญหาหลายอย่าง ซึ่งทำให้เปิ้ลมีความจำเป็นที่ต้องอยู่ช่วยต่อไปเรื่อย ๆ ก่อน

          คุณเปิ้ล : สรุปก็คือ เปิ้ลต้องคอยดูแลในเรื่องต่าง ๆ ของเขา เหมือนเป็นผู้จัดการประมาณนั้น เพราะที่โน่นขึ้นชื่อว่าเป็นนักเตะ ก็คือมีหน้าที่เล่นฟุตบอลอย่างเดียวเลย

          คุณซิโก้ : เราใช้เวลาร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตรงนั้นประมาณปีนึงได้ พอกลับมาเมืองไทย ก็เลยมาคิด ๆ ดูว่าเปิ้ลเขาเป็นคนเดียวที่คอยอยู่กับเรา ในเวลาที่เราไม่มีใครนะ เพราะที่ผ่านมาก็เจอผู้หญิงมาเยอะนะ (ยิ้ม) แต่เวลาที่เราลำบาก คนที่อยู่ข้าง ๆ เราคือเปิ้ลคนเดียว ก็เริ่มมีความรู้สึกดี ๆ มากขึ้น แล้วก็มาคิด ๆ ดู เราก็อายุมากขึ้น ถ้าจะคบใครแบบเปิดเผยก็คงไม่ผิด แล้วจากที่เราได้ไปร่วมลำบาก เจอกับเหตุการณ์ต่าง ๆ มาด้วยกัน ก็เลยรู้สึกว่านั่นคือชีวิตจริง

          คุณเปิ้ล : คือมันสนิทสนมกันมากขึ้นทุกวัน ความผูกพันมันก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ความรู้สึกมันก็เพิ่มขึ้นไปเองค่ะ (ยิ้ม) จริง ๆ มันก็คงเริ่มตั้งแต่ตอนไปอังกฤษนั่นแหละ คือตอนที่จะไปมีคนมาส่งซิโก้เยอะมาก เป็นร้อยคนได้ แต่พอไปอยู่ที่โน่นมันคนละเรื่องไงคะ เรามีกันอยู่แค่นี้ที่ต้องคอยช่วยเหลือดูแลกัน มันก็เลยผูกพัน (ยิ้ม)

แล้วอะไรที่ทำให้คิดว่าคนนี้แหละคือคนที่ใช่ของกันและกัน

          คุณซิโก้ : คือผมเองก็คิดดูแล้วว่า ถ้าเราจะคบใครสักคน แล้วจะมาเป็นแม่ของลูก เราก็ต้องดูว่าเขามีอะไรบ้าง การศึกษา ความมีระเบียบวินัย ก็ยอมรับว่ามองหลาย ๆ อย่าง แล้วตอนที่ไปอยู่อังกฤษเราก็ได้เห็นการใช้ชีวิตของกันและกัน แล้วเปิ้ลเค้าเป็นคนที่ลุย ถึงไหนถึงกัน สีทนได้ (หัวเราะ) ก็เลยคิดว่าเขาเป็นคนที่โอเคในทุก ๆ ด้าน เพราะจริง ๆ แล้วเปิ้ลก็มีหน้าที่ที่ดีต้องทำ แต่ทำไมเขาต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับเรา ซึ่งถ้าเขาไม่มาทำกับเราตรงนี้ อนาคตเขาอาจจะดีกว่านี้ด้วยซ้ำไป ก็เลยคิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตร่วมกับเราได้ แล้วถ้าเราคิดจะมีชีวิตคู่ก็น่าจะเป็นเขานี่แหละที่เราจะพิจารณา ก็ดูใจกันมาเรื่อย ๆ ครับ

          คุณเปิ้ล : สำหรับเปิ้ล พี่โก้เขาธรรมดาค่ะ พอเราได้อยู่ด้วยกัน มันสนิทกัน ทำให้เรารู้ว่าเขาเป็นคนธรรมดา เรียบง่าย แล้วเวลาที่เราได้อยู่ร่วมกัน มันจะไม่ใช่แค่เราสองคน แล้วเราก็ได้เห็นการปฏิบัติของเขากับคนอื่น ซึ่งเขาทำกับทุกคนเหมือนกัน เขาเป็นคนที่คอยห่วงคนอื่นก่อนเสมอ เขาห่วงคนรอบข้างทุกคน แล้วเขาเป็นผู้ชายที่ไม่นินทาใครเลย ไม่เคยว่าให้ใครลับหลัง เขาเป็นคนดีอ่ะค่ะ เราก็เลยรู้สึกว่าดีจังเลย (ยิ้ม) ที่สำคัญอีกอย่างคือ พี่โก้เป็นคนรักครอบครัวมาก เขาจะดูแลครอบครัวเขาดีมาก ดูแลตั้งแต่พ่อ แม่ พี่สาว พี่เขย ทุกคนในครอบครัวเขาดูแลหมดเลย เราก็เลยคิดว่าในเมื่อเขาเป็นคนที่รักครอบครัว แล้วถ้าเรามีครอบครัวกับเขา เขาก็คงจะดูแล เป็นผู้นำที่ดี สร้างครอบครัวที่ดีด้วยกันได้ (ยิ้ม)