Custom Search

Feb 17, 2013

Men Iconic : ดวงฤทธิ์ บุนนาค



ภาพ/เรื่อง จาก นิตยสารเปรียว
(เพื่อการศึกษา)


“การที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต
ไม่ได้เป็นคนที่คิดเก่งหรอก
แต่เป็นคนที่ลงมือทำ”

สถาปนิกมากประสบการณ์ ด้วง-ดวงฤทธิ์ บุนนาค เจ้าของบริษัทดวงฤทธิ์ บุนนาค จำกัด เริ่มต้นจากความ คุ้นเคยในสมัยเด็ก แปรเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจใน การร่ำเรียน พร้อมผลักดันให้เขามายืนเป็นหนึ่งในสถาปนิกแถวหน้าของเมืองไทย 20 กว่าปีที่เดินบนถนนสายนี้ ไม่มี วันไหนที่หยุดทำ ทุกก้าวที่เติบโตล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วย พลังแห่งความรัก ความตั้งใจและความมุ่งมั่นที่จะสรรค์สร้างผลงานที่ดีมีคุณภาพ

สัมผัสแรกก่อเกิดแรงบันดาลใจ
“คุณลุง (พันเอกจิระ ศิลปกนก) เป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมาก สมัยนั้นออกแบบสกาล่า และเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้จักคำว่าสถาปนิก เด็กๆ ผมวิ่งเล่น ในออฟฟิศท่านตลอด สมัยก่อนเขาจะเขียนแบบด้วยกระดาษไข ก็จะมีกลิ่นกระดาษไขที่เราคุ้นเคย รู้สึกว่ามันเป็นพื้นที่ของเรา เป็นที่ที่เราชอบ คนในออฟฟิศสนุกสนาน เฮฮา อารมณ์ดี นั่นเป็นสัมผัสแรกจากวิชาชีพนี้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นว่าเราคงจะพอเป็นสถาปนิกได้ ผมเรียนจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถานที่บ่มเพาะให้รู้จักกับวิชาชีพนี้มากขึ้น รู้สึกอยากเรียนและอยากทำงานอาชีพนี้ ชัดเจนกับตัวเอง เป็นอาชีพที่เหมาะกับนิสัย มันมีความยากของ วิชาชีพอยู่ แต่รู้สึกว่าอยู่กับมันได้ ยังเพลิดเพลินกับมันจนถึงทุกวันนี้”

หยุดคิดและลงมือทำ
“ความสำเร็จที่ได้มันเรียบง่ายมาก เป็นเรื่องของคนคนหนึ่งที่ตั้งใจทำอะไรอย่างหนึ่งอย่างชัดเจน และก็ไม่คิด คือไม่คิดว่าจะทำหรือไม่ทำ แต่ลงมือทำเลย จริงๆ แล้วความสำเร็จไม่ได้เริ่มจากความฉลาดที่จะคิด แต่เริ่มจากการลงมือทำ อันนั้นคือความสำเร็จจริงๆ ผมเป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับวิธีทำงานที่พอเริ่มจะทำ ก็ทำเลย หมายความว่าไม่คิดเยอะ และระหว่างทำจะเกิดความคิดไปด้วยพร้อมกันเป็นเรื่องที่วิเศษมาก ที่ผ่านมาผมใช้ชีวิตอยู่กับการทำงานในลักษณะที่ว่ามีอุปสรรคก็ต้องอดทน หลังๆ ผมปล่อยวาง แต่ไม่ใช่ไม่อดทน แต่มองเห็นว่าไม่มีอะไรต้องอดทน ถ้าเกิด


เราทำอะไรที่ชอบจริงๆ สิ่งที่เราต้องอดทนมากที่สุดคือตัวเราเอง ไม่ใช่เรื่องที่อยู่รอบข้าง ถ้าตัวเราไม่ได้ทำให้เป็นปัญหา มันก็จะไม่เป็นปัญหา”

อุทิศการทำงานให้กับสังคม
“ผมมีความสนใจเรื่องนี้อยู่แล้วและพยายามทำอะไรต่างๆ กลับคืนสู่สังคม ทุกเวลาที่ทำได้ ผมเข้ามาช่วยวิชาชีพในส่วนของสมาคมสถาปนิกสยาม และเป็นกรรมการส่วนของสภาสถาปนิก ทั้งหมดนี้รวมกันเป็น 10 ปีแล้ว เรียกว่าตลอดเวลาที่อยู่ในอาชีพนี้มา 20 กว่าปีครึ่งหนึ่งอยู่กับการอุทิศการทำงานให้สังคมตลอด นอกจากนั้นก็ตั้งใจเลยว่ามีใครมาเชิญเราไปบรรยาย เราจะไป อะไรก็ตามที่ สามารถจะให้กับเด็ก ให้กับคนที่อยู่ในวิชาชีพด้วยกันได้ หรือใครก็ตามแต่ที่ อยากฟังเราพูด อยากฟังความคิดเรา ถ้าเราสามารถให้อาจจะไม่ได้ให้เงินหรือให้ เวลาเยอะ แต่ถ้าเรื่องของความคิดที่สามารถให้ได้เราก็ให้”
 

COGNITIVE INTUITION