f Wichian Nick Rerkpaisan
ช่วงนี้ว่างงานเลยอยากจัดบ้าน
เลยขอเอาวิชา “how to ทิ้ง“ ของ ชิโฮมิ ชิโมมูระ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดบ้าน
และลดสิ่งของแบบมินิมอลจากญี่ปุ่นมาเป็นแนวทาง
นางแนะว่า “การทิ้งของไม่ใช่แค่เรื่องการกำจัด แต่เป็นการสร้างพื้นที่ให้กับความสุขและความสงบในชีวิต”
1. เริ่มจากสิ่งที่ “ไม่ต้องคิดมาก” ก่อน
เริ่มจากหมวดที่ง่าย เช่น ถุง กล่องเปล่า แผ่นพับ
ของที่พังแล้ว ไม่ต้องใช้ความรู้สึกมากในการตัดสินใจ
จะได้เริ่มต้นได้เร็ว
2. ถามตัวเองว่า “ใช้มันครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?”
ถ้าคำตอบคือ “จำไม่ได้” มีโอกาสสูงที่เราไม่จำเป็นต้องเก็บมันไว้
3. ของบางอย่างไม่ต้องเก็บเพื่อเป็นที่ระลึก
การ “เก็บความทรงจำ” ไม่จำเป็นต้อง “เก็บของ” ถ่ายรูปของนั้นเก็บไว้แทนก็ได้
4. อย่ารู้สึกผิดกับของที่เราไม่ได้ใช้
แต่ได้เรียนรู้ว่ามันไม่เหมาะกับเราแล้วปล่อยมันไป
5. “การทิ้ง” คือการเลือกสิ่งที่อยากมีในชีวิต
นี่ไม่ใช่แค่การกำจัดของเก่า แต่เป็นการตัดสินใจว่า “สิ่งไหนที่เราอยากให้เหลืออยู่รอบตัวเรา”
6. จัดพื้นที่ที่ว่างให้เป็น “ที่ว่างที่มีค่า”
“พื้นที่ว่าง” ไม่ใช่ของเสียเปล่า มันคือพื้นที่สำหรับความสบายตา การหายใจ และจิตใจที่สงบ
ชิโฮมิ ชิโมมูระ แนะนำให้ “คัดแยกของตามหมวดหมู่”
ไม่ใช่ตามห้อง ซึ่งต่างจากวิธีจัดบ้านแบบทั่วไป
เพราะมันทำให้เรามองเห็นภาพรวมของสิ่งที่เรามี และตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เริ่มต้นจาก…
1. เสื้อผ้า (Clothes)
เป้าหมาย: เหลือแค่ชุดที่ “ใส่บ่อย” และ “รู้สึกดีตอนใส่”
แนวทาง:
• วางเสื้อผ้าทั้งหมดรวมไว้ที่เดียว (ไม่ว่าอยู่ห้องไหน)
• หยิบขึ้นมาทีละชิ้นแล้วถามตัวเองว่า
→ “ฉันอยากใส่อันนี้ไปข้างนอกวันนี้ไหม?”
ถ้าลังเล = ไม่ต้องเก็บ
• แยกประเภท: ใช้บ่อย / นานๆ ใส่ที / ไม่เคยใส่
• เสื้อผ้าบางตัวเราเก็บไว้ “เผื่อผอมลง” หรือ “เผื่อโอกาสพิเศษ” ถ้าไม่ได้ใส่มานานแล้ว = ปล่อยไปได้เลย
2. หนังสือ (Books)
เป้าหมาย: เหลือเฉพาะเล่มที่ “อยากอ่านตอนนี้” หรือ “ให้แรงบันดาลใจ”
แนวทาง:
• รวบรวมหนังสือทุกเล่มมากองไว้
• หยิบทีละเล่มแล้วถาม
→ “ถ้ามีเวลา 1 ชั่วโมง ฉันอยากอ่านเล่มนี้ไหม?”
• เล่มที่อ่านแล้วแต่ไม่คิดจะกลับมาอ่านอีก = ปล่อยไป
• หนังสือเรียนเก่า / คู่มือที่ไม่ได้ใช้ = บริจาคหรือรีไซเคิล
• เธอบอกว่า “ถ้าเราจำเนื้อหาไม่ได้ แสดงว่ามันไม่สำคัญพอ”
3. เอกสาร (Papers)
เป้าหมาย: เหลือแค่สิ่งที่ “ต้องใช้จริงๆ”
แนวทาง:
• แบ่งเป็น 3 กอง:
1. ต้องเก็บ (เอกสารทางราชการ สำเนาสำคัญ)
2. กำลังใช้ (บิลเดือนนี้ เอกสารโครงการที่ยังทำอยู่)
3. ทิ้งได้ (ใบปลิว แพมเฟล็ต ใบเสร็จที่หมดอายุ)
• ใช้แฟ้มแยกประเภทชัดเจน
• เอกสารที่สแกนได้ ก็ควรเก็บไว้ในรูปแบบดิจิทัล
4. ของเบ็ดเตล็ด (Komono / Miscellaneous)
เป้าหมาย: เหลือแค่ของที่ “ใช้จริง” หรือ “ทำให้รู้สึกดี”
แนวทาง:
• แยกเป็นกลุ่มย่อย: เครื่องครัว, เครื่องสำอาง, ของใช้ในบ้าน, สายไฟ, ของจุกจิก
• พิจารณา:
→ “ฉันใช้มันในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาไหม?”
→ “มันยังใช้งานได้ดีไหม?”
• ตัวอย่าง:
• สายชาร์จเก่า = ทิ้ง
• กล่องเปล่า/ถุงกระดาษ = ถ้าไม่ใช้งานจริง ให้ปล่อย
• เครื่องครัวที่ไม่ได้ใช้เลย = ปล่อยให้คนอื่นได้ใช้แทน
5. ของที่มีคุณค่าทางใจ (Sentimental Items)
เป้าหมาย: เก็บเฉพาะที่ “สำคัญจริงๆ กับหัวใจ”
แนวทาง:
• ทำเป็นหมวดสุดท้าย เพราะใช้พลังใจเยอะที่สุด
• หยิบของแต่ละชิ้นขึ้นมาแล้วถาม
→ “ฉันอยากเก็บไว้เพราะความสุข หรือเพราะรู้สึกผิด?”
• ถ้าแค่เก็บไว้เพราะ “เสียดาย” หรือ “กลัวลืม” ให้ถ่ายรูปไว้แทน