อ่านเต็มๆ สุทธิชัย หยุ่น ในวันอำลาเนชั่น
สุทธิชัย หยุ่น ผู้ก่อตัง เนชั่น อำลาแล้ว "สุทธิชัย หยุ่น" อำลา "เนชั่น" ในที่สุดก็ถึงวันที่ คุณสุทธิชัย หยุ่น ที่ปรึกษากองบรรณาธิการเครือเนชั่น ประกาศอำลา เกษียณอายุ ในวัย 72 ปี นับเป็นเวลาที่อยู่ในวงการ สร้างตำนานสื่อมวลชน เป็นเวลาถึง 47 ปี อะไรคือสาเหตุการตัดสินใจครั้งนี้ แล้วอนาคตของเครือเนชั่นหลังจากนี้ จะเป็นอย่างไร สุทธิชัย หยุ่น ในวัย 72 ปี อำลาบ้านหลังใหญ่ที่สร้างมากับมือ ด้วยเหตุผลสุขภาพ และเป็นความตั้งใจที่จะเกษียณอายุการงาน รวมทั้งหมดสัญญาจ้างตามกลไกตามปกติของบริษัทมหาชน บรรยากาศงานเลี้ยงอำลาเป็นไปอย่างอบอุ่นที่ทั้งพนักงานและอดีตพนักงานเนชั่นรวมมอบดอกไม้เป็นจำนวนมาก แต่สิ่งที่ บก.สุทธิชัย ต้องการมากกว่าดอกไม้ คือขอให้คนเนชั่น รักษาความเป็นเนชั่นไว้ แม้ภายหน้าจะต้องเผชิญกับอุปสรรคขวากหนามก็ตาม การอำลาครั้งนี้รวมถึงการยุติบทบาทบนหน้าจอเนชั่นทีวี รวมทั้งจะเขียน คอลัมน์ "กาแฟดำ" เป็นชิ้นสุดท้ายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์นี้ สร้างความใจหาย และสั่นคลอนความรู้สึกของพนักงานไม่น้อย สุทธิชัย เริ่มต้นทำข่าวครั้งแรกกับหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษบางกอกโพสต์ เมื่อปี 2511 ในขณะที่ยังเรียนอยู่ที่แผนกอิสระสื่อสารมวลชน หรือ คณะนิเทศศาสตร์ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เรียนไม่จบเพราะเวลาเรียนกับเวลาทำงานไม่ตรงกัน หลังจากนั้น เขาเลื่อนตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยหัวหน้าข่าวที่บางกอกโพสต์ ด้วยวัยเพียง 20 ต้นๆ แต่สุทธิชัยในวัยหนุ่มเห็นว่า หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษที่มีชาวต่างชาติเป็นเจ้าของ ไม่สามารถเป็นกระบอกเสียงให้กับคนในชาติได้อย่างชัดเจน แนวคิดการทำหนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ ที่มีคนไทยเป็นเจ้าของเป็นครั้งแรกจึงเกิดขึ้น และสุทธิชัย พร้อมกับเพื่อนๆ ทำภารกิจนี้สำเร็จ หนังสือพิมพ์เดอะวอยซ์ ออฟ เดอะเนชั่น ฉบับแรกเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ปี 2514 และมันเป็นวันแรกที่เครือเดอะเนชั่นกำเนิดขึ้น จากแท่นพิมพ์ สุทธิชัย หยุ่น มาโลดแล่นอยู่ในจอแก้ว จากการรายงานข่าว ทางช่อง 3 และช่อง 9 เป็นใบเบิกทาง ให้เครือเนชั่นเริ่มผลิตรายการโทรทัศน์ รายการ เนชั่น นิวส์ ทอล์ก ทางช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ทำให้เอกลักษณ์ของ สุทธิชัย กลายเป็นที่รู้จักและจดจำไปทั่ว แต่สิ่งต้องจดมากกว่าเอกลักษณ์ ของ สุทธิชัย คือ การเป็นนักต่อสู้ และเรียกร้องเสรีภาพในการรายงานข้อเท็จจริงของสื่อมวลชน กับรัฐบาลเผด็จการในทุกรูปแบบ ผลพวงจากเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ปี 2535 ที่สื่อมวลชนถูกรัฐบาลแทรกแซงการรายงานข่าว คือการเรียกร้องให้ทีวีเสรีเกิดขึ้นโดยปราศจากการครอบงำจากรัฐ สถานีโทรทัศน์ ไอทีวีจึงเกิดขึ้น โดยมีสุทธิชัย หยุ่น และกลุ่มเนชั่น เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง มันสถานีโทรทัศน์ ที่ปฏิวัติรูปแบบการรายงานข่าวสาร ที่ยังส่งผลมาจนถึงทุกวันนี้ แต่หลังจากที่กลุ่มทุนการเมือง เข้าถือหุ้นในไอทีวี กลุ่มเนชั่นก็ออกมา ตั้งสถานีโทรทัศน์เป็นของตัวเอง กระทั่งเครือเนชั่น สามารถประมูลทีวีดิจิทัลได้ 2 ช่องคือ ช่องข่าว NationTV 22 และ ช่องวาไรตี้ Now 26 แต่ความปั่นป่วนของเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ สุทธิชัย รู้ดีและบอกเตือนนักข่าวทุกคนมาโดยตลอด ซึ่งที่ผ่านมา เขาตื่นตัวอย่างมาก ในการทดลองนวัตกรรมใหม่ๆ และมักเป็นคนแรกเสมอ ที่ใช้เป็นช่องทางในการรายงานข่าวสาร คงมีคำถามว่า เมื่อเนชั่นไม่มีชายที่ชื่อ สุทธิชัย หยุ่น แล้วจะเป็นอย่างไร แต่เขามีคำอธิบาย ขณะเดียวกัน คนที่คอยยืนเคียงข้าง สุทธิชัย หยุ่นมาในวิกฤติ "เทพชัย หย่อง" ก็เตรียมประกาศอำลาบ้านเนชั่นหลังนี้ตามพี่ชายด้วย เช่นเดียวกัน อนาคตของเครือเนชั่น หลังจากนี้ ไม่มีใครรู้ แต่ความหวังที่ยังเหลืออยู่คือพนักงานทุกคน ที่คงจะกลับมาต้องทบทวนตัวเอง ทบทวนหลักการที่คนทั้งคู่ทำให้เห็นมาตลอด 4 ทศวรรษ เนชั่น จะยังรักษา ความเป็นเนชั่น ต่อไปได้หรือ คนที่ให้คำตอบได้ดีที่สุดที่ ผู้อ่าน ผู้ชม และชิ้นงานที่ปรากฏหลังจากนี้...