Custom Search

Jun 8, 2016

เซ็กส์ ความรัก และความควรจะเป็น



มติชนรายวัน

พฤ. 24 มี.ค. 54

วรากรณ์ สามโกเศศ

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
(รวม 3 หน้า)


http://kobkij.blogspot.com/2011/03/blog-post.html




นับตั้งแต่มีหญิงชายเกิดขึ้นมาในโลก
ความช้ำใจของหญิงและชายก็เป็นเงาคู่กันกับการมีสองเพศ
สาเหตุหลักของน้ำตาก็เพราะทั้งสองฝ่ายมีความต้องการและมีความคิดแตกต่างจากกัน
แต่ว่าแต่และฝ่ายมักทึกทักเอาว่าอีกเพศหนึ่งคิดเหมือนตนเอง
ดังนั้นถ้า แต่ละฝ่ายเข้าใจจุดสำคัญของความไม่เหมือนกันแล้วความชอกช้ำก็อาจลดน้อยลงไป
มนุษย์ยืน 2 ขามีหน้าตาเหมือนมนุษย์ปัจจุบันนี้ตั้งแต่เมื่อ 150,000 ปีก่อน
ก่อนหน้านี้และ 150,000 ปีที่ผ่านมา ธรรมชาติสร้างให้มนุษย์ผู้ชายมีหน้าที่สำคัญคือ procreate
หรือผลิตลูกเพื่อให้ขยายเผ่าพันธุ์ให้ได้มากที่สุด นอกจากมนุษย์ตาย
เพราะสัตว์ร้ายง่ายดายเนื่องจากไม่มีเขี้ยวงาแล้วก็ยังตายด้วยสารพัดโรคอีก แถมภัยธรรมชาติอีกมากมาย
ผู้ชายจึงเปรียบเสมือนถูกฝังชิบไว้ในสมองให้นึกถึงเรื่องสำคัญอยู่เสมอ
เรื่องหนึ่งนั่นก็คือการมีเซ็กส์ ถ้าไม่มีความต้องการทางเพศก็ไม่มีการ procreate
ถ้าไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจทางเพศ (ถ้าน่าเบื่อหน่ายเหมือนการออกกำลังกายแล้วมนุษย์สูญพันธุ์แน่นอน) แล้ว ก็คงไม่มีมนุษยชาติ
ธรรมชาติจึงสร้างให้ชายสามารถมีความสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงได้ ในเวลาใดก็ได้ ในฤดูใดก็ได้
(สัตว์นั้นจะผสมพันธุ์ตามฤดูกาล) และกับคนแปลกหน้าได้โดยไม่ต้องมีความรัก
ในทางตรงกันข้ามหญิงนั้นธรรมชาติสร้างมาให้เป็นผู้ให้กำเนิดทารก
สัญชาติญาณของการเป็นแม่จึงมีสูง ต้องการดูแลลูกตนเองและคนรอบข้าง
ต้องการความรักความอ่อนโยน มีความใฝ่ฝันที่จะมีคนรักที่ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ต้องการคนที่ฉลาดและมีทรัพยากรที่จะดูแลเธอและลูกได้มาเป็นคู่
หนังสือชื่อ The Mating Game(Why Men Want Sex & Woman Need Love โดย
Alsan Barbara Pease (2010)
และ The Male Brain โดย Louann Brizendine (2010)
เป็นแหล่งข้อมูลสำคัญของการเขียนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายชิ้นนี้
ฮอร์โมนชาย testosterone มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเด็กชายให้เป็นหนุ่มและทำให้เรื่องเพศเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต
ระหว่างอายุ 9 ถึง 15 ปี ระดับของฮอร์โมน testosterone
ในเลือดจะมีปริมาณเพิ่มถึง 20 เท่าตัว และลดลงเป็นลำดับเกือบเป็นเส้นตรงจนถึง 100 ปี
สิ่งพื้นฐานที่ผู้ชายต้องการเสมอจากผู้หญิงก็คือ
(1) เซ็กส์
(2) บริการพื้นฐานเรื่องอาหาร ดูแล การเป็นแม่ ฯลฯ
(3) มีคนรักใคร่และเป็น “หมายเลขหนึ่ง” เสมอ
(4) มีเวลาที่จะอยู่คนเดียวโดยไม่ถูกคู่รบกวน
ไม่ว่าผู้ชายคิดหรือทำอะไรก็ตามจะกรองผ่านความต้องการ 4 อย่างนี้เสมอ
เซ็กส์นั้นอยู่ในทุกอณูของความคิดของผู้ชายตั้งแต่เด็กจนแก่เนื่องจากชิบถูกฝังมาอย่างนั้นโดยธรรมชาติเพื่อprocreate
เหตุที่ต้องการบริการพื้นฐานของชายก็เพราะความอยู่รอดของตนเองในถ้ำแต่
ดึกดำบรรพ์นั้นจำเป็นต้องมีบริการนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาต้องเป็น “หนึ่ง” เสมอ
และปรารถนาที่จะมีเวลาเป็นอิสระของตนเองอีกด้วย เพื่อสรวลเสเฮฮากับเพื่อนหรือเล่นของเล่นเพื่อความเพลิดเพลิน
(“เด็กกับผู้ใหญ่ผู้ชายแตกต่างกันตรงราคาของเล่น”)
สำหรับผู้หญิงนั้นเธอต้องการ 5 สิ่งจากผู้ชาย
(1) ความรัก (2) ความซื่อสัตย์ (3) ความเมตตากรุณา (4) ความผูกพัน และ (5) การศึกษาและความฉลาด
ถ้าขาดความรัก ความซื่อสัตย์ และความผูกพัน คู่ของเธอก็คงทิ้งไปถ้ำอื่นจนหาความมั่นคงในชีวิตไม่ได้
เพราะคงถูกทิ้งให้เธอและลูกอดตายแน่นอน เธอต้องการคนที่มีทรัพยากรและมีความเมตตากรุณาที่จะแบ่งให้เธอและลูก
ถ้าฝ่ายชายไม่ฉลาดไม่มีอาหารที่เก็บตุนไว้มาแบ่งแชร์กับเธอ ก็ไม่เอามาเป็นคู่
การเลือกคนฉลาดมาเป็นพ่อของลูกจึงเท่ากับเป็นการคัดสรรยีนส์ที่มีคุณภาพโดยธรรมชาติจนสามารถสืบทอดมนุษยชาติ
(มนุษย์ทำสิ่งที่อัศจรรย์ด้านเทคโนโลยีได้ แต่ไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติและเอาชนะใจตนเองได้) มาจนถึงทุกวันนี้ได้
โดยทั่วไปชายนั้นถูกขับเคลื่อนด้วย “สมองที่อยู่ข้างล่าง”
จึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จนหญิงหลงเชื่อว่าชายคิดเหมือนตนคือมีความรัก ความซื่อสัตย์
ความผูกพันเป็นพื้นฐาน รักกันไม่เสื่อมคลาย แต่เมื่อความตื่นเต้นหายไป “สมองที่อยู่ข้างล่าง”
ของชายก็ทำงานใหม่ไปเรื่อย ๆ และหญิงก็ช้ำใจไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้ตระหนักว่าสิ่งที่ขับเคลื่อนผู้ชายนั้นไม่ใช่ความรัก หากเป็นเซ็กส์
ถ้าหญิงรู้ว่าชายต้องการอะไรอย่างแท้จริง ก็จะระวังความรู้สึกของตัวเอง
ระวังการตกหลุมหลอกตัวเองว่าเขารักเธอ ซื่อสัตย์ต่อเธอ ผูกพันกับเธอ ความช้ำใจก็จะลดลงไปได้มาก
ชายก็เช่นเดียวกัน หากรักหญิงคนนั้นอย่างแท้จริงและตระหนักว่า
ตนเองถูกขับเคลื่อนด้วยสิ่งใดแล้วก็ต้องปรับเปลี่ยนความคิดและระวังตัวเองที่จะไม่ทำให้หญิงที่รักเจ็บช้ำ
ถ้าแต่ละฝ่ายเข้าใจสิ่งปรารถนาพื้นฐานของกันและกันเช่นนี้
น้ำตาคงจะไม่ไหลท่วมโลกเช่นทุกวันนี้อันเนื่องมาจากหญิงเข้าใจว่าชายรักเธอ
เหมือนที่เธอรักเขา และหญิงมองข้ามการชอบความตื่นเต้นโลดโผนแปลกใหม่ของเขาไป
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้คือการวิเคราะห์ความเป็นจริงของชายและหญิงทั่วไป
ดังที่เรียกว่า positive statement (พูดว่ามันคืออะไร เช่น ฝนตกเมื่อวาน)
ไม่ใช่ข้อความที่เรียกว่า normative statement (พูดว่ามันควรจะเป็นอะไร เช่น ฝนไม่ควรตกเมื่อวาน)
การศึกษาอบรมบ่มเพาะทำให้ชายไม่จำเป็นต้องถูกขับเคลื่อนตลอดเวลาด้วยเซ็กส์
ความมีศีลธรรมจรรยาควรข่มความปรารถนาพื้นฐานที่จะ procreate ของมนุษย์ได้
ผู้ชายสามารถมีรักจริง มิได้มุ่งหวังแต่เพศสัมพันธ์ มีความผูกพัน มีความซื่อสัตย์ได้
และก็ควรเป็นเช่นนั้นเพื่อทำให้ความรักที่เขามีต่อหญิงนั้นยั่งยืนเพราะสนองตอบสิ่งที่เธอต้องการ
ชายชาตรีที่แท้จริงจึงควรมีสมองอยู่ในที่ ๆ ควรจะเป็นของมัน
ไม่เคลื่อนย้ายลงมาต่ำกว่าเอวจนทำให้เกิดปัญหาชีวิตส่วนตัว ปัญหาครอบครัว
และสร้างความเจ็บช้ำระกำใจให้แก่หญิงที่เป็นเพศเดียวกับแม่