Custom Search

Jul 31, 2022

เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2565

ไอ่เป็ด


ที่ผ่านมา..

เป็นครึ่งปีแรก

ที่โคตรเหนื่อยยยย


เรื่องราวไม่ดี..

อาจจะห้ามไม่ได้

แต่ขอให้มีน้อยๆนะ

ขี้เกียจสู้กับมันแล้ว เหนื่อย

5555555


ครึ่งปีหลังจากนี้..

ขอให้สุขมากกว่าทุกข์

หัวเราะ มากกว่าร้องไห้

ชีวิตขอให้ดีขึ้นในทุกๆเรื่อง

โดยเฉพาะการเงิน ขอให้รุ่งเรือง

: )


ฉันจะเป็นตัวเอง..

ในเวอร์ชั่นที่เข้มแข็ง

และโตขึ้นกว่าที่ผ่านมา

Jul 29, 2022

วันกรรชัย


วันกรรชัย

วันกรรชัยทอล์ค EP15 Exclusive Talk Part1 | วันกรรชัยXวันธงไชย


วันกรรชัยทอล์ค EP15 Exclusive Talk Part2 | วันกรรชัยXวันธงไชย

เรวัต พุทธินันทน์ พูดถึง "เต๋อ 1"

บทสัมภาษณ์จาก นิตยสารวัยหวาน
รายปักษ์ เมษายน พ.ศ.2527
ฉบับที่ 13 ปักษ์แรก



โดย ดาลัด
ที่มา
ย้อนอดีตหลายปีก่อนสมัยวงสตริงรุ่นเดอะอย่าง "ดิอิมพอสซิเบิ้ล"
ยังโด่งดังให้สาวๆได้กรี๊ดกร๊าดกัน ทุกคนรู้จัก “เขา”
ในนามของ เรวัต พุทธินันทน์ ก็คนนั้นไง คนที่เป็นนักร้องนำของวง
เขาอยู่ในวงการเพลงมานานหลายสิบปี ประทับใจอย่างแรงกับดนตรีประเภท ร็อค แอนโรล
สมัยผมยาวเสื้อกางเกงทรงจิ้งเหลนกําลังเลื้อยเดฟม็อตกำล้งฮิตเฉียบขาด ทันสมัยมาก
พอ “ดิอิม" ล้ม แต่ละคนต่างแยก ย้ายกันไป “เรวัด” ก็ไปโน่นที่มานี้ที่จนสุดท้ายมาร่วมกับ
วง ดิโอเรียนเต็ลฟังค์ ตอนนั้นชื่อเสียงของเขาอิ่มตัวซะแล้ว
จนถึงพอศอนี้เรารู้จักเขาในนาม ของ “เต๋อ” นักร้องหนุ่มใหญ่มากประสบการณ์
ที่บูมมาครั้งนี้เล่นเอาวงการ เพลงบ้านเราหรือหวาฮือฮากับแนวดนตรีมัน ๆ
แต่มีความหมายเข้าใจง่ายจากชุด “เต๋อ 1” กันมาแล้ว
เวลาผ่านไปย่อมมี ส่วนทําให้หลาย ๆ อย่างในตัวคนเรา เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
แม้กระทั่งพอของน้อง ๆ หน้าตา บุคลิกอันสุขุม ความรู้สึกนึกคิดต่อสังคมต่อชีวิตและ อื่น ๆ
แต่สิ่งเดียวที่พี่เต๋อยังเหมือนเดิมก็คือ ร็อค แอนโรล ในหัวใจไง


Bird Thongchai 22

สักวันต้องได้ดี เรวัต พุทธินันทน์ feat ธงไชย แมคอินไตย์
Lyricist: เรวัต พุทธินันทน์
Composer: ชาตรี คงสุวรรณ
Composer: เทิดศักดิ์ จันทร์ปาน



Jul 28, 2022

วันเฉลิมพระชนพรรษา 70 พรรษา วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม 2565


ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/news/news/1017601


บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จัดทำแสตมป์เฉลิมพระเกียรติชุด

“วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

โดยอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ที่ฉายคู่กับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

มาพิมพ์บนดวงแสตมป์พร้อมเทคนิคพิมพ์ฟอยล์ทอง ออกจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ

ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 นี้

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า

เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ทรงเจริญพระชนมพรรษา 70 พรรษา

ไปรษณีย์ไทยจึงได้จัดทำแสตมป์ที่ระลึกชุด “วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”

โดยอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ที่ฉายคู่กับสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

และตราสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยย่อ ว.ป.ร. มาจัดพิมพ์บนดวงแสตมป์

ด้วยเทคนิคพิมพ์ฟอยล์ทองบริเวณตัวเลขราคา เพื่อเพิ่มความงดงาม จำหน่ายราคาดวงละ 10 บาท

(เต็มแผ่น 10 ดวง)

สำหรับซองวันแรกจำหน่ายเป็นภาพดอกรวงผึ้ง

ดอกไม้ประจำรัชกาลที่ 10

ที่นักออกแบบนำมาประยุกต์เป็นลายไทย

พร้อมพิมพ์ฟอยล์ทอง ราคาซองละ 20 บาท ออกจำหน่าย 28 กรกฎาคมนี้ ที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศ

และทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ www.thailandpostmart.com

สอบถามเพิ่มเติมที่ฝ่ายบริหารลูกค้า

และพัฒนาผลิตภัณฑ์บริการไปรษณีย์ โทร 0 2573 5480, 0 2573 5463


Jul 25, 2022

พลังเสียงระดับตำนาน มิกกี้ & อู๋ ธรรพ์ณธร ไม่ดูถือว่าพลาด !!! #คุยให้เด็กมันฟัง EP.23 (7/23/65)


เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ธรรพ์ณธร ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา
ภาพถ่ายจาก  Gao Gornviwan

  Gao Gornviwan


https://th-th.facebook.com/nanake555/

คุยให้เด็กมันฟัง!!! กับศิลปินยุค90 รุ่นใหญ่ในตำนานของจริง !! อู๋ ธรรพ์ณธร และ มิคกี้ ปิยะวัฒน์ เพลงยุคเก่า ฟังเมื่อไหร่ก็เพราะ รอฟังกันได้เลยย !!!
00:00 มาเเละฮะน้องๆ ใครรอพวกพี่อยู่บ้าง ใครมาทันเริ่มต้นไลฟ์นี่ถือว่าได้โบนัส 02:00 เรื่องสิขขะลิท ที่เราเสียและไม่ได้ตังค์ ช่วยเเชร์ให้พี่หน่อยเถอะ 03:15 ต้อนรับกันอย่างเป็นทางการ อู๋ ธรรพ์ณธร และพี่มิคกี้ ปิยะวัฒน์ 06:01 กว่าจะชวนมาได้แต่ละคน 07:22 เมาปลดล๊อค วันนี้จะเป็นอีกมั้ย 08:08 ถังหลอย จุดเริ่มต้นของพี่มิคกี้ 14:06 พี่อู๋หล่ะเป็นมายังไง 14:56 พี่หอยอยากเข้าแก๊งค์เลยเติมหนวด นึกว่าเปาบุ้นจิ้น 20:02 เรามีสุดยอดมือเปียโนมาด้วยวันนี้ น้องเเมนที่พี่อู๋หนีบมา 21:28 #อย่าให้เขารู้ - มิคกี้ เพลงสร้างชื่อของพี่มิคกี้ เสียงสะเทือนออฟฟิศมาก 29:25 ย้อนเวลาไปเพลงสร้างชื่อของพี่อู๋บ้าง #ร่ำลา - อู๋ ธรรพ์ณธร 36:15 #กระจกร้าว - อู๋ ธรรพ์ณธร 36:51 เสียงสูงเกร็งตู๊ดไม่ไหว คอเป็นยังไงบ้างพี่ 40:00 #เดิมพันชีวิต - มิคกี้ เพลงที่ทำทีมงานบ่นกันเพราะต้องแบกเปียโนถ่ายเอ็มวี 45:22 อู๋ป๋องแย่งหญิงกัน มาเคลียร์ให้จบตรงนี้! 56:26 ตำนานจีบสาวพี่หอยในผับ เห็นครบทุกคน เคล็ดลับคือดักหน้าห้องน้ำ 1:02:31 #หัวใจกระดาษ - อู๋ ธรรพ์ณธร เพลงนี้ต้องมา!! 1:12:31 ใครคิดถึงเพลงนี้บ้าง #ครึ่งใจ - มิคกี้ 1:16:10 อวดลูกชายพี่มิคกี้กันหน่อย 1:21:03 อ่ะๆ กลัวน้อยหน้าแนะนำแฟนพี่อู๋บ้าง จะมีข่าวดีเเล้ว 1:27:05 ตอบให้หายสงสัย ทำไมนามสกุลเหมือนกัน 1:31:36 แล้วนามสกุลพี่หอยอ่ะ เสนามาจากไหน 1:40:30 #HaveItoldyoulately - มิคกี้,อู๋ งานคู่สักเพลง 1:43:30 ใครเคลียร์ Rod Stewart ให้หล่ะทีนี้ 1:53:48 พี่มิคกี้ร้องไกด์ให้ #มอสปฏิภาณ มาก่อน 1:54:41 แนท วาสนา เก่ามากกก ใครทันบ้างเนี่ย 2:03:28 #เกิดเป็นผู้ชาย - อู๋ ธรรพ์ณธร เพลงนี้ดีมาก อยากให้ทุกคนได้ฟัง 2:14:30 โทรหาพี่ไก่สุธี แสงเสรีชนวงแกรนด์เอ็กซ์ และเป็น Music Directorชื่อดัง คนปั้นอู๋ ธรรพ์ณธร 2:26:48 #อย่าเสียดาย - มิคกี้ เพลงนี้พี่เค้าขอเล่นเปียโนเองฮะ 2:32:38 #อย่ามองฉันเป็นคนอื่น - มิคกี้,อู๋ 2:35:58 #ยิ่งสูงยิ่งหนาว - มิคกี้,อู๋ 2:41:18 #ครึ่งใจอีกสักรอบ เวอร์ชั่นพี่มิคกี้เล่นเปียโน 2:42:29 #เดิมพันชีวิต เวอร์ชั่นเล่นเองเช่นกัน คิดถึงภาพพี่มิคกี้เล่นเปียโนเเล้วร้องเพลงมาก 2:45:04 #เมื่อรักมันห่วย - อู๋ ธรรพ์ณธร 2:51:55 #วันนั้นวันนี้วันไหน - บิลลี่โอแกน by อู๋ 2:56:52 พี่จะเอาพี่ #เบิร์ดธงไชย มาให้ได้ 3:06:32 #ผู้ชายอย่างฉัน - เบิร์ด by อู๋ ปิดจบสวยๆด้วยเพลงนี้

“จริง ๆ แล้วผมเล่นดนตรีกลางคืนครับ หาเงินเรียนช่วงมหาวิทยาลัย จากนั้นพี่ป้อม อภิไชย เย็นพูนสุข เห็นผมเล่นดนตรีในผับ เขาก็ไปบอกพี่เต๋อว่า ไปเจอผมมานะ เสียงไอ้เด็กคนนี้ เหมือนพี่เต๋อเลย พี่เต๋อก็เลยเรียกผมมาเจอ แล้วผมก็ได้สกรีนเทสต์เสียงร้อง เป็นเพลงสากลก่อนที่จะเป็นนักร้อง แล้วก็มาทำเบื้องหลัง แล้วก็ค่อยออกอัลบั้ม ต้องขอบคุณ พี่เต๋อ เรวัต พุทธินันทน์ ครับ”

Jul 23, 2022

หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี (1922-2022)



หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี สิ้นชีพิตักษัยแล้วเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2565 เวลา 03.00 น. ณ โรงพยาบาลศิริราช สิริชันษา 100 ปี ทรงเป็นพระอนุวงศ์อาวุโสที่เป็นที่เคารพยิ่งในราชสำนักไทยมาเป็นเวลานาน จากที่เคยถวายงานสนองพระเดชพระคุณมาแต่รัชกาลก่อนๆ ท่านภีฯ ทรงเป็นเจ้านายฝ่ายหน้าของไทยที่ทรงเจริญชันษาขึ้นหลักร้อยพระองค์แรกในรอบทศวรรษ และยังเป็นพระอนุวงศ์สายบวรราชสกุลพระองค์สุดท้าย

หม่อมเจ้าภีศเดช (ประสูติ 20 มกราคม 2465) ทรงเป็นพระโอรสในพระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ โดยทรงเป็นพระนัดดาในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ กรมพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) พระองค์สุดท้ายแห่งสยาม พระมารดาคือหม่อมเจ้าพรพิมลพรรณ วรวรรณ พระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ ท่านภีฯ จึงทรงเป็นพระราชปนัดดาในทั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 และพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระเชษฐภคินีร่วมครรภ์โภทรคือพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต

เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ และวชิราวุธวิทยาลัยในช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนเสด็จไปศึกษาที่ดัลลิช คอลเลจ กรุงลอนดอน และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ช่วงเจริญพระชนม์นั้น ท่านภีฯได้พบพานเหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงพระองค์เองเพื่อความอยู่รอด ทั้งเรื่องการประทับอยู่ต่างแดน และการปรับพระองค์ในช่วงสงคราม ทรงรับบทมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งทหาร ชาวบ้าน และสายลับให้กองทัพอังกฤษ

เมื่อช่วงที่ไทยต้องเข้าร่วมกับญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้สถานะพลเรือนและเจ้านายไทยในต่างแดน โดยเฉพาะชาวไทยที่อาศัยอยู่ทั้งในสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับญี่ปุ่น ประสบปัญหาในการดำรงชีวิตอยู่ กระทั่งช่วงเวลาหนึ่งที่ชาวไทยจำนวนหนึ่งรวมตัวกันเข้าร่วมกับกองทัพอังกฤษ เพื่อร่วมแสดงจุดยืนการเป็นปฏิปักษ์กับกองทัพฝ่ายอักษะ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของขบวนการไทยเสรี (หรือที่เรียกกันต่อมาว่า “เสรีไทย”) ท่านภีฯ ก็ทรงร่วมกับกลุ่มขบวนการเพื่อเข้ากับกองทัพอังกฤษ ทรงผ่านการฝึกจนช่ำชองและได้โอกาสคืนถิ่นสู่ดินแดนไทยครั้งแรก หากแต่ในฐานะ “นายมั่น” ชาวบ้านธรรมดา

นายมั่นและพรรคพวกร่วมสอดแนมและส่งข้อมูลของการดำเนินการทางทหารของกองกำลังญี่ปุ่นให้กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นอย่างดี กระทั่งสงครามโลกสิ้นสุดเนื่องจากญี่ปุ่นยอมแพ้สงครามจากการถูกทิ้งระเบิดปรมาณูโดยสหรัฐอเมริกา ขบวนการเสรีไทย มีอำนาจต่อรองว่าไทยเองไม่เคยเป็นศัตรูเฉกเช่นญี่ปุ่น ทำให้ไทยรอดพ้นชะตากรรมแบบผู้แพ้สงครามอย่างญี่ปุ่นมาได้

หลังสงคราม ทรงศึกษาต่อด้านนิติศาสตร์ก่อนเปลี่ยนไปศึกษาต่อด้านประวัติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์ ที่วิทยาลัยทรินิตี มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ กระทั่งสำเร็จการศึกษาและเสด็จนิวัติประเทศไทย ทรงทำงานในบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย ในแผนกขายต่างจังหวัด ก่อนดำรงตำแหน่งผู้จัดการด้านโฆษณา ในปี 2491 ท่านภีฯ เสกสมรสกับหม่อมราชวงศ์ดัชรีรัชนา วรวรรณ (ธิดาในหม่อมเจ้านิตยากร วรวรรณ กับหม่อมแก้ว เอี่ยมจำนงค์ และเป็นพระนัดดาในเสด็จในกรมนราธิปประพันธ์พงศ์เช่นกัน) มีธิดา 2 คน และโอรส 1 คน

ท่านภีฯ ทรงมีความสนิทสนมกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 กับสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งประทับอยู่ต่างประเทศ ซึ่งได้มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท และเข้าเฝ้าบ่อยครั้ง กระทั่งเมื่อสมเด็จฯเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จขึ้นสืบราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ท่านภีฯ จึงทรงเป็นอีกพระองค์หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญกับการขับเคลื่อนพระราชกรณียกิจ รวมไปถึงพระชนม์ชีพส่วนพระองค์ด้วย

ในด้านการสนับสนุนพระราชกรณียกิจ และพระบรมราโชบายในการดำเนินโครงการในพระราชดำริเพื่อพัฒนาประเทศในยุคนั้น เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริในการส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวแก่ชาวเขา เพื่อเป็นการหารายได้ทดแทนการปลูกฝิ่น ท่านภีฯ จึงก้าวเข้าสู่บทบาทการเป็นประธานโครงการหลวง และคอยถวายงานและตามเสด็จตามพื้นที่ท้องถิ่นตลอดหลายสิบปีในภัทรมหาราชาสมัย

นอกจากนี้ ด้วยประสูติในครอบครัวนักเขียน ทรงเจริญรอยตามพระบิดา พระมารดา และพระเชษฐภคินี ในฐานะนักเขียนที่มีผลงานหนังสือนิพนธ์ โดยทรงใช้นามปากกาว่า ภ.ณ ประมวญมารค ตามอย่างพระเชษฐภคินีที่ทรงใช้นามปากกา "ว. ณ ประมาญมารค"

หม่อมเจ้าภีศเดช ได้รับการถวายรางวัล ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญาและมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย ปี 2554 จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จากที่ทรงมีผลงานโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ในระดับประเทศและระดับนานาชาติ และมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย โดยส่งเสริมการปลูกพืชเมืองหนาวแก่เกษตรกรบนพื้นที่สูง ทดแทนการปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย ซึ่งส่งผลให้ลดการทำลายธรรมชาติลง และเป็นการรักษาผืนดินให้อุดมสมบูรณ์ได้


Prince Bhisadej Rajani of Thailand has died on 23 July 2022 , at 03.00 hrs at Siriraj Hospital in Bangkok. He was 100 years. He was one of the most respected royal figures among the royal court, for his long-serving duties since the previous reign. Bhisadej was the first male member who reached centenary in decades. He was the last surviving member from the Viceroy line.

Prince Bhisadej (born 20 January 1922) was the son of Prince Rajani Chamcharas, The Prince Bidyalongkorn. He was the grandson of the last Viceroy of Siam (so-called The Front Palace) Prince Bovorn Vichaicharn. He mother was Princess Barabimalabarna Varavarn (daughter of Prince Voravarnakorn, The Prince Naradhip Prabanbongse). He was the great-grandson of both King Mongkut (Rama IV) and his brother Vice-King Pinklao. He has an elder sister Princess Vibhavadi Rangsit.

During his childhood, he enrolled Debsirin School and Vajiravudh College before moving to Dulwich College, the independent school in London. Throughout his early life, he adapted his life abroad, particularly the wartime. He changed himself into soldier, villager, and spy for the British army.

When his home country joined Japan in the Axis’ alliance during the World War II, Thai citizens met such difficulties, especially for those who lived in the Allied countries like in the UK, or USA. There was a number of Thais who lived in the UK became pro-Allied resistance and joined the British Army. The Free Thai Movement was then organised to resist the Axis powers in Thailand. Bhisadej as a member, recruited himself with others to be a part of the British Army.

Bhisadej was one of the members of the underground resistance movement who arrived Thailand as villagers. They were an important source of military intelligence for the Allies in the region. After Japan surrendered after the atomic bombing in 1945, the Free Thai Movement had an important role to help Thailand to be recognised as neutrality.

After the war, Bhisadej continued his studies in Law, and then History and Economics at the Trinity College, University of Cambridge. He returned to Thailand and worked as sale assistant and advertising manager of the Shell Company. In 1948, he married with Mom Rajawongse Datchari Ratchana Voravarn (daughter of Prince Nityakorn Voravarn and Kaew Iamchamnonga. She was also the granddaughter of the Prince Naradhip Prabanbongse). The couple have 2 daughters and 1 son.

Prince Bhisadej had a close relationship with King Ananda Mahidol (Rama VIII) and then Prince Bhumibol Adulyadej for their meeting several times abroad. When Bhumibol ascended the throne as King Rama IX. Bhisadej became one of the most prominent members who helped the King in public duties and personal affairs.

The Prince also supported the King’s public duties for developing local communities at the time. As Bhumibol wished to support temperate planting industry replacing planting opium among villagers in the mountains. Bhisadej became the King’s assistance as the President of the Royal Project. The Prince escorted the King visiting the local areas for decades during his reign.

The Prince was active in sporting activities including driving to the mountainous spots even he reached his nineties of age. Prince Bhisadej has still been widely remembered for his serving public duties receiving great contribution by the Royal Family and the royal court.

Born in a family of writer, Bhisadej followed the footsteps of his parents and his elder sister to become a writer as well, under his pseudonym "Bh. of Pramualmark", similarly to his sister Vibhavadi's "V. of Pramulmark" (Pramulmark means "The Road of Pramual" which locates their residence Pramual Palace)

Prince Bhisadej received Agricultural Philosopher Awards 2011 from his longstanding contributions in Thai agricultural duties which is widely recognised domestically and internationally. The Prince supported growing winter corps in rural areas replacing growing opiums and shifting cultivation, resulting natural and soil conservation and environment.

Jul 17, 2022

เรามาจากไหน 3

ขณะที่กำลังเตรียมทำวิทยานิพนธ์วิชาสถาปัตย์ ซึ่งเป็นวิชาสุดท้ายก่อนจะเรียนจบ จู่ๆพี่เต๋อก็ติดต่อมาว่า

พี่เต๋อรับงานมางานหนึ่งจากอาเปี๊ยก โปสเตอร์ เป็นเพลงประกอบหนังวัยรุ่น

พี่เต๋ออยากชวนผมไปช่วยเขียนเนื้อเพลง

ขึ้นชื่อว่าวิทยานิพนธ์สถาปัตย์ฯใครๆก็รู้ว่าโหดเพียงใด

เพราะต้องใช้เวลาทั้งเทอมนั้นทำอาคารนั้นเพียงเรื่องเดียว

ทั้งศึกษาหาข้อมูลและเขียนแบบตัดโมเดลจนเลย

ไปถึงนำเสนอต่อคณะอาจารย์ แบบก่อสร้างนั้นต้องเขียนกันแผ่นใหญ่และ

มีจำนวนหลายแผ่นสร้างบรรยากาศให้นิสิตรู้สึกเหมือนกับว่าโครงการทีสิสนี้นี้จะนำไปสร้างจริงๆ

พวกเราชาวสถาปัตย์จึงแทบจะใช้เวลาและพลังทั้งหมด

ในเทอมนั้นพาให้ตัวเองเรียนจบให้ได้ แต่… โปรเจคที่พี่เต๋อมาชวนไปทำนี่สิ

ทำไมความฝันมันช่างหอมหวนอย่างนี้

หนำซ้ำชื่อของผู้กำกับหนังที่พี่เต๋อชวนไปทำด้วยคือศิลปินขวัญใจของผมตั้งแต่เด็ก

เท้าความเล็กน้อย แม้จะเป็นเพียงแค่นักศึกษาที่เรียนยังไม่จบ แต่ก็ถือว่าโชคดีได้จับพลัดจับผลูได้รู้จัก

และเคยร่วมงานกับพี่เต๋อพี่ชายใจดีของคนดนตรี

ทั้งวงการแน่นอนแม้จะกังวลเรื่องวิทยานิพนธ์ซึ่ง

เราก็ไม่ได้นับเป็นนักเรียนที่เรียนดีนัก แต่ก็ตอบรับพี่เต๋อไปในทันที

พี่เต๋อนัดผมไปเจออาเปี๊ยกเพื่อให้อาเปี๊ยกเล่าให้ฟังว่า

หนังที่ชื่อวัยระเริงเรื่องนี้มันเกี่ยวกับอะไร และอาเปี๊ยกอยากได้เนื้อเพลงแบบไหน

ผมยังจำวันที่ได้เจอศิลปินในดวงใจที่เราติดตามงานของเขาทั้งงานวาดภาพและงานภาพยนตร์ได้ดี

ผมไปเจออาเปี๊ยกที่สำนักงานแถวสะพานขาว ตอนเดินไปนั่งคุยด้วยผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเดินไปหาภูเขา

แต่อาเปี๊ยกเป็นภูเขาที่น่ารักเหมือนอย่างที่คิดไว้

แกเล่าเรื่องชัดเจน สนุก และก็ให้เกียรติเด็กน้อยเรียกชื่อผมทุกคำ

ผมรู้สึกเลยว่าแกเป็นคนหัวสมัยใหม่มากและพร้อมส่งเสริมคนรุ่นใหม่ ดูจากหนังที่อาเปี๊ยกสร้างมาตลอด

ล้วนนำเสนอของใหม่ๆเสมอ ไม่ว่าจะเป็นพล็อตเรื่อง หรือการปั้นพระเอกนางเอกใหม่มากมาย

ทั้งไพโรจน์ ใจสิงห์ ,ไพโรจน์ สังวริบุตร, อุเทน บุญยงค์ ,ทูน หิรัญทรัพย์ ,วันดี ศรีตรัง ฯลฯ

หลังจากนั้นเกือบเดือนพี่เต๋อก็ส่งทำนองดนตรี

ที่ทำโดยจอมยุทธทางดนตรียุคนั้นมาให้ผมฟังสี่ห้าเพลงงานของวิชัย อึ้งอัมพร

และ อุกฤษณ์ พลางกูร ทำนองที่ฟังแล้วทำให้คนที่บ้าดนตรี

อย่างผมแบ่งเวลาระหว่างการทำวิทยานิพนธ์

และการแต่งเพลงแบบลำเอียง

เพื่อนที่สนิทกันเห็นวิทยานิพนธ์ของผมไม่ค่อยคืบหน้า ก็สะกิดด่าเบาๆว่า เฮ้ย ระวังไม่จบนะ

ผมแต่งเนื้อส่งไปให้พี่เต๋อสี่ห้าเพลง ผ่านไปราวสักอาทิตย์หนึ่ง

พี่เต๋อก็บอกว่าอาเปี๊ยกอยากคุยด้วยอีกที ผมก็นึกในใจสงสัยว่าเพลงคงไม่ผ่าน

แล้วก็ได้เจออาเปี๊ยกอีกครั้ง ผิดคาดอาเปี๊ยก

ขอแก้เพลงนิดๆหน่อยๆ แต่ประโยคที่ทำให้

ผมทั้งดีใจและกังวลใจคือ “อยากเขียนบทหนังมั้ย”

ความดีใจนั้นคือการได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะได้ร่วมงานกับศิลปินในดวงใจ แต่ในความกังวลคือ

ผมจะบริหารเวลาอย่างไร ผมจะทำทีสิสผ่านไหมถ้ามีงานนอกเข้ามาพัวพันเพิ่มขึ้น

ผมตอบรับอาเปี๊ยกไปในทันที

บทหนังเรื่องวัยระเริงที่อาเปี๊ยกกำลังทำอยู่นั้น อาเปี๊ยกพล็อตไว้หมดแล้ว และเขียนบทไปบ้างแล้วเล็กน้อย

แกอยากให้ผมลองดู อยากเสนออะไรก็ลองเขียนมา ก่อนจะลงมือเขียนบท

อาเปี๊ยกเอารูปพระเอกหน้าใหม่ที่อาเปี๊ยกเพิ่งเจอให้ดู  ผมเห็นแล้วก็รู้สึกเลยว่า

ดวงตาเศร้าของเขาเศร้าและมีเรื่องราวมากมาย

แล้วอาเปี๊ยกก็พูดถึงพระเอกใหม่คนนี้ด้วยสายตาของผู้กำกับและจิตรกร

“หน้าเขาเท่มากนะ ตาโศก คิ้วกับตาชิดกัน เหมือนพวกอิตาเลี่ยน

แต่ดูแล้วเป็นไทย หน้าอย่างนี้วาดมุมไหนก็สวย” ผมไม่ได้เห็นตัวจริงหนุ่ย อำพล ลำพูนในวันนั้น

แต่ได้มาเห็นอีกทีตอนที่อาเปี๊ยกชวนไปดูการแคสติ้ง

นักแสดงเรื่องนี้ ต้องนับว่าเป็นวิธีการที่ล้ำมากในสมัยนั้น

อาเปี๊ยกจัดให้มีการพบปะกันแบบปาร์ตี้ของวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ที่สมัครกันเข้ามาเป็นนักแสดง

งานปาร์ตี้นี้มีวงดนตรีหน้าใหม่ที่ชื่อไมโครบรรเลงร้องอยู่บนเวที

วัยรุ่นที่มาสมัครก็เต้นรำกันไป บ้างก็เดินไปเดินมาหาของกินที่ทีมงานจัดไว้ให้

แล้วอาเปี๊ยกก็ส่งทีมงานแทรกซึมอยู่ในปาร์ตี้นั้นเพื่อถ่ายภาพนิ่งอิริยาบถเก็บเอาไว้ตอนคัดเลือกนักแสดง

ผมนั่งอยู่กับอาเปี๊ยกเพื่อเรียนรู้การทำงาน

อาเปี๊ยกชี้ให้ดูเด็กสาวคนหนึ่งที่อาเปี๊ยกหมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นนางเอกเรื่องนี้

หน้าตาน่ารัก ชวนมอง มีแก้มป่องๆหน่อย เรียกได้ว่าไม่อยู่ในพิมพ์นิยมของนางเอกหนังไทยเลย

สายตาของอาเปี๊ยกไม่เหมือนใครจริงๆ เธอชื่อวรรษมน วัฒโรดม แล้วอาเปี๊ยกก็บอกว่า

ถ้าผมมองเห็นว่าเด็กคนไหนน่าสนใจที่จะเอามาเล่นเป็นเพื่อนนางเอกก็ให้บอกอาด้วย ช่วยๆกันดู

ผมชี้ให้อาเปี๊ยกดูเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แม้จะดูมีเนื้อมีหนังนิดๆ ใบหน้าของเธอคมคายคล้ายลูกครึ่ง

แต่ผมชอบที่เธอดูเป็นคนอารมณ์ดีตลอดเวลา ดูเป็นเด็กที่เดินไปเดินมาอย่างเป็นธรรมชาติ

ไม่ได้มาเดินเก๊กสวยเพื่อให้แมวมองเห็นเหมือนคนอื่นๆ

อาเปี๊ยกบอก อาก็มองคนนี้อยู่ คิดว่าจะให้อยู่ในเรื่องด้วย

จิกเขียนบทใส่ไปเลย เด็กสาวคนนั้นเมื่อเติบโตมาถึงวันนี้ ทุกคนรู้จักเธอในชื่อ สุริวิภา กุลตังวัฒนา

ในวันนั้นผมได้เห็นหนุ่ยอำพล เดินปะปนอยู่ในกลุ่มวัยรุ่น เขาเป็นจุดศูนย์รวมสายตามากกว่าใครทั้งหมดจริงๆ

หลังจากนั้นสองเดือน ผมก็ตกอยู่ในภาวะเหนื่อยยากแต่มีความสุขเหลือเกิน

ผมต้องค้างคณะเพื่อทำทีสิสไปด้วยแต่งเพลงไปด้วยและเขียนบทไปด้วย

บางคืนก็นั่งเขียนบทดึกๆดื่นๆจนเพื่อนที่รู้ว่าผมทำอะไรอยู่ก็คอยถีบหลังว่า

เฮ้ย เขียนแบบได้แล้ว จะจบไหมเนี่ยมึง

บางวันผมต้องรีบสะดุ้งตื่นแต่เช้า แล้วโบกแท๊กซี่ไปกองถ่ายหนังเพื่อเอาบทไปส่ง

มือสมัครเล่นอย่างผมบางทีก็ทำงานล่าช้าส่งไม่ตรงตามนัด

คราวหนึ่งผมไปถึงกองถ่าย และแอบมองเห็นว่าฉากที่ผมเขียนมาและยังไม่ได้ส่งนั้น

อาเปี๊ยกกำลังถ่ายทำอยู่ ผมคิดในใจอาเปี๊ยกคงรอไม่ไหว และถ่ายไปก่อน

พอพักกอง ผมก็เดินตัวลีบเอาบทไปส่งแก

แกไม่พูดอะไรสักคำนอกจากให้พักกองแล้วนั่งอ่านบทที่ผมเพิ่งเอามาส่ง ยื่งแกไม่พูด

ผมยิ่งรู้สึกผิดแต่นั่งรอสักพัก ผมก็เห็นแกเรียกทีมงานให้เอาบทของผมไปถ่ายสำเนา

แล้วก็เตรียมถ่ายฉากนั้นทั้งหมดจากบทของผม

กราบอาเปี๊ยกมา ณ ที่นี้อีกครั้งครับ

และเมื่อหนังออกฉาย ผมจึงรู้ว่าหลายฉากที่ผมเขียนไป อาเปี๊ยกคงเห็นว่ามันเด๋อด๋าไม่สมจริง

แกเลยเขียนขึ้นใหม่ ซึ่งก็ดูดีกว่าที่ผมเขียนมากมาย ในที่สุดผมก็เรียนจบสถาปัตย์ฯ

วิทยานิพนธ์ฉบับนั้นผมได้เกรด C ซึ่งต้องบอกว่าแค่เรียนจบมาก็บุญโขแล้ว

แต่ภาพยนตร์ไทยเรื่องที่ผมมีส่วนร่วมเรื่องนี้ต้องเรียกว่าได้เกรด A

เพราะมันได้สร้างปรากฏการณ์มากมายในวงการบันเทิง และกลายเป็นจุดกำเนิดของอะไรต่ออะไรอีกมากมาย

หนุ่ยอำพล และ หมีวรรษมน ได้กลายเป็นดาราแม่เหล็กอีกคู่หนึ่งของวงการ

และหลังจากนั้นหนุ่ยก็เข้ามาเป็นนักร้องนำของวงไมโคร วงดนตรีร็อคที่ดังที่สุดวงหนึ่ง แหม่มสุริวิภา

ได้เติบโตต่อมาในฐานะนักแสดงและเป็นพิธีกรหญิงแถวหน้าในวงการโทรทัศน์

แหวนฐิติมา ที่มาร้องเพลงใช้เสียงแทนวรรษมน ได้กลายเป็นนักร้องชื่อดังต่อมา

พี่อ้องสุรสีห์ อิทธิกุล นักร้องจากวงบัตเตอร์ฟลายที่มาใส่เสียงร้องแทนอำพล เริ่มเป็นที่รู้จักนับแต่นั้น

เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ฟังเพลงจากหนังเรื่องนี้ก็ต้องถามหาว่า ใครคือเจ้าของเสียงนั้น

ส่วนเพลงที่ผมรับมาจากพี่เต๋อนั้น  ด้วยจำนวนเพลงที่มากเลยเกรงว่าจะเขียนไม่ทันกำหนด

และลึกๆก็เชื่อมั่นในพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ชื่อ นิติพงษ์ ห่อนาค

ผมจึงส่งเพลงหนึ่งเพลงให้เขาช่วยเขียน เพลงนั้นคือเพลงดนตรีในหัวใจ ซึ่งในความเห็นของผมแล้ว

ต้องบอกว่ามันเป็นเพลงไทยที่ดีที่สุดเพลงหนึ่ง

ที่สำคัญเพลงนี้เป็นผลงานชิ้นแรกที่ออกสู่สาธารณะชนของนักแต่งเพลง

ที่ต่อมาได้กลายเป็นแม่ทัพใหญ่ของบริษัทผลิตเพลงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ…