Custom Search

Jan 19, 2023

'พระองค์ภาฯ' ของไทย


เปลว สีเงิน

22 ธันวาคม 2565 เวลา 0:01 น.


ในสุข-มีทุกข์, ในทุกข์-มีสุข

นี่แหละ....

คือสิ่งที่เรียกว่า "ชีวิต" มนุษย์

เมื่อเข้าใจ เราก็จะเห็น "จริงที่ประจักษ์"

เมื่อประจักษ์ ทั้งหนทางตนและหนทางประเทศ

ก็เห็นชัด อะไรที่ติดขัดด้วย

จิตข้อง ก็พลันสลาย

มองผ่านน้ำใส ย่อมเห็นก้นลำธาร ฉันใด,

มองอนาคตชาติ อนาคตตนผ่านใจที่หลุดข้อง

ย่อมกระจ่างใสก็ฉันนั้น

การที่ "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี

กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา"

ทรงมี "พระอาการประชวร" ดังทราบ

นั่นไม่ต่างสายฟ้าฟาด "กลางใจ" ประชาชน!

ทุกข์ "ร่วมใจ" โดยมิได้นัดหมาย เฉียบพลัน

เมื่อมีแถลงการณ์ "ฉบับแรก" ออกมา คำว่า "ถอนหายใจโล่งอก"

เป็นอย่างไร รับรู้ได้ในแต่ละตัวคน ว่าเช่นนี้เอง

ต่างใจจดจ่อ รอแถลงการณ์ ฉบับที่ ๒

ท่ามกลางการ "ปล่อยข่าว" ในทางร้ายจากสามานย์มนุษย์เจ้าเดิม

ต่างๆ นานา

เมื่อฉบับที่ ๒ ออกมา ปวงประชาประหนึ่งยอดหญ้าได้รับ

แสงตะวันอาบยามเช้า หมอกจาง สายตาเศร้าเจือยิ้มอุ่น

ประเมินน้ำหนักจากแถลงการณ์ว่า "พระองค์ภาฯ"

ทรงผ่านพ้นช่วงวิกฤตขีดสุดแล้ว

เหล่าข้าราชการ องค์กร พ่อค้า ประชาชน คนรุ่นเก่า-รุ่นใหม่

ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

เดินทางมาถวายพระพรชัย "พระองค์ภาฯ"

ที่อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาฯ สภากาชาดไทย

ไม่ขาดสาย

ในหมู่ดารา ต่างทวีต โพสต์ ข้อความ ถวายพระพรชัย

ขอให้ "พระองค์ภาฯ" ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว

มากมาย  อันมิเคยมีปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน

ที่ผมเท้าความมาทั้งหมดนี้....

เพื่อจะบอกว่า "ในทุกข์มีสุข, ในสุขมีทุกข์"

เป็นเหตุปัจจัยต่อกันและกัน ประมาณนี้

พระองค์ภาฯ ประชวร ประหนึ่ง "ทุกข์ประเทศ"

"สิ่งดี" ในทุกข์ครั้่งนี้่ คือ....

ทำให้เรารู้ว่า ประชาชนมีทัศนคติอย่างไร

ต่อสถาบันและต่อพระองค์ภาฯ?

คำตอบที่ชัดออกมา คือ.........

ในหัวใจประชาชน มีสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งพระองค์ภาฯ

ประทับสนิทแน่นอยู่ มั่นคง มิคลอนคลาย

การประชวรของ "พระองค์ภาฯ"

ไม่ต่างปรอทวัด "อุณหภูมิสังคมภักดิ์" ต่อสถาบัน

ต่อพระองค์ภาฯ

ผลปรากฏ ประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกชนชั้่น ทุกวัย-ทุกรุ่น

รักในพระองค์ภาฯ ท่วมท้นใจทั้งแผ่นดิน

รักไม่มีชนชั้น รักไม่มีขีดคั่น รักมีวรรณะเดียวคือ

"เสมอเหมือนกัน" ด้วยรัก

ดังนั้น จึงเห็นภาพที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน....

พี่น้องวินมอเตอร์ไซค์ สวมเสื้อวิน ถือดอกไม้คนละช่อ

เข้าแถวถวายพระพรชัย หน้าพระรูป "พระองค์ภาฯ" 

เป็นภาพสะท้อน "เจ้าฟ้า" ทอดสายใย เชื่อมโยงใจ

"ยอดหญ้า" คือสามัญชนต่ำศักดิ์ เสมอด้วยรัก ค่าเหนือคำบรรยาย

นี่เทียบเท่ากับ "สุขในทุกข์" ยามนี้!

เท่าที่ฟังเสียงระดับชาวบ้าน ว่าเขารักพระองค์ภาฯ เพราะเหตุใด?

คำตอบที่ออกมาเหมือนๆ กัน คือ

พระองค์ภาฯ "ไม่ถือพระองค์" เป็นถึงเจ้าฟ้า แต่ทรงเรียบง่าย

นอบน้อม ถ่อมตน แม้กับชาวบ้านที่เรียกกันว่า "ตาสี-ตาสา"

ยามทักทาย "พระองค์ภาฯ" ก็ยังทรงยอบกาย

มีพระจริยวัตรงดงาม ทรงห่วงใยชาวบ้าน

สอดส่องดูแลทุกข์สุขชาวบ้านสม่ำเสมอ

อีกทั้งเป็นพระธิดาที่รักพ่อ แบ่งเบาราชภารกิจของพ่อคือ

"ในหลวง" โดยมิห่วงพระองค์เอง

เป็นแบบอย่างที่ดี ให้ "รุ่นเก่า-รุ่นใหม่"

ยึดถือเป็นแบบอย่างทางสังคมชาติ-สังคมครอบครัวได้

เหล่านี้ ค่อยๆ หล่อหลอมเป็นรักบริสุทธิ์สะสมจน

"ตกผลึกในหัวใจประชาชนโดยมิรู้ตัว

เมื่อข่าว "พระองค์ภาฯ ประชวร" แพร่ออกไปเท่านั้่นแหละ

ทั้งแผ่นดิน ใจแทบแตกสลาย

ไม่เป็นอันกิน-อันนอนกันทั้งประเทศ

นั่นแหละ แต่ละคนถึงประจักษ์แก่ใจตัวเอง "รักพระองค์ภาฯ"

ฝังลึกกันขนาดไหน?

ถอดความคำว่า "รัก" ในพระองค์ภาฯ เป็นภาษาชาวบ้านก็คือ

ทุกคน "เอ็นดู" พระองค์ภาฯ" มากๆๆๆ และมากๆๆๆ

ค่าที่ว่า เห็นเจ้าฟ้า "องค์น้อยๆ" พระองค์นี้กันมา

ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ จนเจริญเติบใหญ่

ทุกคน วางตำแหน่ง "พระองค์ภาฯ" ในฐานะเป็นกำลังใจให้พ่อ

คือในหลวง

และเป็นกำลังแผ่นดินให้ประชาชน คือประเทศไทย

การประชวรของพระองค์ภาฯ....

ไม่เพียงวัดปฏิกิริยาสังคมประเทศเท่านั้น  ยังบ่งบอกถึง

"ความรับรู้" นานาประเทศ ต่อพระองค์ภาฯ ด้วย

เห็นได้จาก สาส์นแสดงความห่วงใยในพระอาการ

และถวายพระพรชัยให้ทรงหายประชวรโดยเร็ว

และวันนี้ ๒๒ ธันวา.๖๕ เวลา ๑๐.๐๐ น.

"สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก"

แห่งราชอาณาจักรภูฏาน ที่ทรงแนบแน่นกับพระราชวงศ์ไทย

จะเสด็จฯ มาลงพระนามถวายพระพร

"สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา 

นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา"

ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ

นับเป็นที่สุดของ "ความสุดซึ้ง" ในหัวใจปวงชนชาวไทย

ความผูกพัน แนบแน่น ระหว่าง ๒ ประเทศ ๒ ราชวงศ์นี้

ประทับ-รับรู้ ในจิตวิญญาณชาวไทย สุดจะหาคำใดเอ่ย

"จิตตานุภาพ" พวกเรา ปวงชนชาวไทย อย่าลืมกันนะครับ

สวดมนต์ ส่งจิตถวายเป็นพระพรชัย มุ่งตรงที่

"พระองค์ภาฯ" กันมากๆ ให้สม่ำเสมอ

ในจักรวาลนี้ ไม่มีอะไรเหนือ

"พลานุภาพแห่งจิตบริสุทธิ์"

ปาฏิหาริย์ "มีจริง" ได้จากสิ่งเดียว คือ...

"ปาฏิหาริย์แห่งจิต"!

ท่านอย่าเชื่อผมหรือเชื่อใคร แต่จงเชื่อใน

"ความบริสุทธิ์แห่งจิต" ของตัวท่านเอง

"พระองค์ภาฯ" คือ "พลังแผ่นดิน"

ยามนี้ พระองค์ดุจ "พระมหาชนก" ลอยคอกลางทะเล

พระองค์ต้องทรง "ผ่านด่านทดสอบ" นี้่ ไปสู่จุดนั้น

ในอนาคตได้แน่นอน

ด้วย "พลังแห่งรัก" จากรากสู่ยอดนี้แหละ

จะเป็น "ปาฏิหาริย์" ปลุกพระองค์ภาฯ

ให้ทรงตื่นขึ้นมาอยู่กับประชาชน ที่ "เฝ้ารัก-เฝ้าหวัง"

ในพระองค์มาตลอด ๔๔ ปี

"พระองค์ภาฯ" ต้องไม่ทอดทิ้่งประชาชน!



Jan 17, 2023

น้าเน็กเปิดปณิธานวันเกิด จะใช้ทุกนาทีในชีวิตที่เหลือ เพื่อให้แม่ภูมิใจ

น้าเน็กเปิดปณิธานวันเกิด จะใช้ทุกนาทีในชีวิตที่เหลือ เพื่อให้แม่ภูมิใจ

17 มกราคม 2566 - 17:57 น.




‘แม่ฮะ’ เกตุเสพสวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา หรือ น้าเน็ก ของแฟนๆ เขียนขึ้นต้นไว้อย่างนั้นในอินสตาแกรม nanake555
วันเกิดของเขาคือวันที่ 17 มกราคม 2512
จากนั้นผู้ที่มีอายุครบ 54 ปีเต็มในวันนี้ ก็เขียนอีกว่า ‘ตลอดชีวิตที่ผ่านมา รวมถึงชีวิตที่เหลืออยู่ของผมไม่ว่านานเท่าไหร่ก็ตาม
ผมจะใช้ทุกนาทีเพื่อทำให้แม่ภาคภูมิใจ ในฐานะที่แม่ให้กำเนิด และเลี้ยงดูผมอย่างยอดเยี่ยม
ผมรักแม่มากๆเลยนะฮะ
หนูลูกเน็กของแม่เอง
17 มกราคม 2566

Jan 16, 2023

16 มกราคม พ.ศ. 2566

"วันครู 2566" 16 มกราคมของทุกปี รวมคำขวัญวันครูจากนายกรัฐมนตรี "พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา"

16 มกราคม 2566, 11:30 น.



วันครู 2566 วันครูแห่งชาติ 16 มกราคมของทุกปี เป็นวันสำคัญสำหรับระลึกถึงความสำคัญของครู คณะรัฐมนตรี (ครม.)
ได้มีมติกำหนดให้ วันที่ 16 มกราคม ของทุกปีเป็นวันครูแห่งประเทศไทย 
สำหรับงานวันครูประจำปี 2566 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “พลังครู คือ หัวใจของการพลิกโฉมคุณภาพการศึกษา”
Teacher’s Power is the Heart of Transforming the Educational Quality
มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบพิธีระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ส่งเสริมสามัคคีธรรมระหว่างครู และความเข้าใจอันดีระหว่างครูกับประชาชน
และส่งเสริมยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ประกอบคุณงามความดี
หรือทำคุณประโยชน์ต่อวงการศึกษาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน และเป็นแบบอย่างให้เยาวชนรุ่นหลังได้ยึดถือปฏิบัติตาม 


ปี 2566 ครูดี ศิษย์ดี มีอนาคต

ปี 2565 พัฒนาครู พัฒนาเด็ก เรียนรู้ สู่อนาคต

ปี 2564 ครูวิถีใหม่ ใส่ใจดิจิทัล สร้างสรรค์ คุณธรรม ประจำชาติ

ปี 2563 ครูไทย รักศิษย์ คิดพัฒนา

ปี 2562 ครูดี ศิษย์ดี มีพัฒนา ก้าวหน้า สู่เทคโนโลยี

ปี 2561 ศิษย์ดี ก็ด้วยครูดี มีศรัทธา

ปี 2560 ชาติพัฒนา ด้วยครูดี มีคุณภาพ ศิษย์ซาบซึ้ง ในพระคุณครู

ปี 2559 อนาคตก้าวไกล ด้วยครูดี มีคุณภาพ

Jan 9, 2023

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 36 พรรษา 8 มกราคม 2566

ในโอกาสอันเป็นมงคลทรงเจริญพระชันษา 36 ปี ในปีพุทธศักราช 2566 นี้

ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานถวายพระพร

“ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก ตลอดจนพระเทวานุภาพแห่งพระสยามเทวาทิราช

และพระบรมเดชานุภาพ แห่งองค์สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์ ได้โปรดอภิบาลรักษาใต้ฝ่าพระบาท

ให้ทรงพระเกษมสำราญ มีพระชันษายิ่งยืนนาน มีพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง

สถิตเป็นมิ่งขวัญปกเกล้าปกประหม่อมพสกนิกรชาวไทยตลอดกาลนานเทอญ"

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ประธานในพิธีลงนามถวายพระพร

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

พร้อมด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างกรมการพัฒนาชุมชน 

วันที่ 9 มกราคม 2566

https://th-th.facebook.com/prcdd/

Jan 7, 2023

7 มกราคม วันก่อตั้ง “โรงเรียนเพาะช่าง”

วันนี้ 7 มกราคม เมื่อปี พ.ศ. 2456 เป็นวันก่อตั้ง “โรงเรียนเพาะช่าง”

โดย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดโรงเรียนเพาะช่างเป็นครั้งแรก

“โรงเรียนเพาะช่าง” ตั้งอยู่ที่ถนนตรีเพชร แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มีสี แดง–ดำ

เป็นสัญลักษณ์ของสถาบัน “โรงเรีนเพาะช่าง” เป็นสถาบันศิลปะการช่าง ซึ่งคำว่า “เพาะช่าง”

ได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวในวาระที่ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียน”

และในปี พ.ศ. 2550 “โรงเรียนเพาะช่าง”ถูกเปลี่ยนชื่อให้เป็นวิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์

ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน

สัญลักษณ์ของวิทยาลัยเพาะช่าง ใช้วงกลมเป็นสัญลักษณ์ และองค์พระวิษณุกรรม

ซึ่งแสดงรัศมีสื่อถึงความรอบรู้และปัญญาของช่างศิลปะ

ปัจจุบัน เพาะช่างได้เปิดหลักสูตรการสอนในระดับปริญญาตรี 4 ปี ทั้งภาคปกติและภาคสบทบ

มีทั้งหมด 4 กลุ่มวิชา คือ ศิลปประจำชาติ ศิลปหัตถกรรม วิจิตรศิลป์ และออกแบบ

โดยสังกัดมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์

Jan 1, 2023

"ในหลวง" พระราชทานพร ในโอกาสปีใหม่ 2566

 

ภาพพระราชทานจาก https://www.thaipbs.or.th/news/content/323120

ในหลวง พระราชทานพรปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ให้ประชาชนคนไทยมีความสุขกาย สุขใจ

มีสติปัญญาแจ่มใสและเข้มแข็ง สุขภาพที่แข็งแรง

วันนี้ (31 ธ.ค.2565) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย

ในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ความว่า

เนื่องในวาระขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2566 ข้าพเจ้าขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมาอำนวยพรแก่ทุกๆ ท่าน

ให้มีความสุขกาย สุขใจ มีสติปัญญาแจ่มใสและเข้มแข็ง ตลอดจนสุขภาพที่แข็งแรง ประสบแต่ความสุขความเจริญด้วยทั่วกัน

คนไทยเรานั้น มีน้ำใจไมตรีต่อกัน ใส่ใจ ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันเสมอมา ไม่ว่าจะมีเรื่องราวเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น

เราคนไทยก็ต่างพร้อมจะร่วมมือร่วมใจกันปัดเป่าบรรเทาความทุกข์ยากเดือดร้อนของกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูล ให้กำลังใจ

ปลอบโยนซึ่งกันและกัน เพื่อให้ความทุกข์ยากนั้นผ่อนคลายและบรรเทาลง

การที่เราทั้งหลายสามารถร่วมมือร่วมใจรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ของโรคระบาด

หรือเหตุการณ์ภัยพิบัติใดๆ ที่เกิดขึ้น เราคนไทยก็สามารถร่วมมือแก้ไขและป้องกัน

จนสถานการณ์ต่างๆ เหล่านั้นผ่านพ้นและคลี่คลายไปได้ด้วยดี

นั่นเป็นเพราะพื้นฐานจิตใจที่ดีงามของคนไทย ซึ่งมีความเมตตา เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน

น้ำใจไมตรีอันทรงคุณค่าที่เราทุกคนมีให้แก่กันนี้ เปรียบเสมือนพลังอันยิ่งใหญ่ ที่ผนึกเข้าด้วยกัน

เป็นกำลังสำคัญให้บ้านเมืองของเรานั้น มั่นคงดำรงอยู่ และพัฒนาก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปได้อย่างยั่งยืนถาวรตลอดไป

ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านเคารพนับถือ

พร้อมด้วยพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

จงคุ้มครองรักษาทุกท่านให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัย และมีความสุข ความสำเร็จในสิ่งอันพึงปรารถนา ตลอดศกหน้านี้ และตลอดไป

ในหลวง สมเด็จพระราชินี พระราชทานบัตรอวยพรปีใหม่ 2566 แก่ปวงชนชาวไทย

พร้อมกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานบัตรอวยพรปีใหม่

ประจำปีพุทธศักราช 2566 แก่ปวงชนชาวไทย

ด้านหน้าของบัตรพระราชทานพรปีใหม่ มีตราประจำพระราชวงศ์จักรีอยู่กึ่งกลาง

ด้านล่างเป็นตราพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และตราพระนามาภิไธย ส.ท. เมื่อเปิดบัตรพระราชทานพร

ด้านขวา มีพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงฉายกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ใต้พระบรมฉายาลักษณ์ระบุพระปรมาภิไธย "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และพระนามาภิไธย "สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี"

ส่วนด้านซ้าย มีข้อความว่า “พระราชทานพรปีใหม่ พ.ศ.๒๕๖๖ พร้อมทั้งทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธย

Happy New Year 2023 !


 La Fe



December 31,2022