เพลงของ Byrd & Heart

 https://www.facebook.com/playguitarbyheart/

Artist : Byrd & Heart

เบิร์ด – กุลพงษ์ บุนนาค
ฮาร์ท – สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล

• https://teetwo.blogspot.com/2009/12/byrd-heart.html

ข้อความครั้งแรกจาก พี่เบิร์ดกะพี่ฮาร์ท
ผู้ประกอบการธุรกิจที่ไหน
ไม่มีเพลงเปิดให้ลูกค้าฟัง
เพราะกังวลเรื่องลิขสิทธิ์ ก็เอาเพลงของ 
Byrd & Heart
ไปเปิดได้เลยนะครับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ไปจับ
แต่เบิร์ดกับฮาร์ท อาจจะขอไปแจกลายเซ็นต์ถึงที่
#หาฟังได้ตามYoutubeทั่วไป #มีคนอัพไว้เยอะ
#ไม่เคยได้ค่าลิขสิทธิ์เลย

โพสล่าสุดของพี่ ๆ เบิร์ดกะฮาร์ท

มีคำถามเข้ามาเยอะเหมือนกันครับ
ตั้งแต่วันที่โพสออกไปเรื่องการอนุญาตให้เปิด
เพลงของ Byrd & Heart ได้
ว่าทำไมเพลงของเราถึงไม่ติดลิขสิทธิ์กับ
คนแต่งเนื้อร้อง ทำนอง หรือกับ ค่ายเพลง
หลายคนอาจไม่ทราบว่า
ส่วนใหญ่แล้วเพลงที่เราสองคนเล่นมาตลอดนั้น
เป็นเพลงที่ Byrd & Heart มีส่วนร่วมในการแต่ง
และเรียบเรียงกันมา

หลายบทเพลงที่ทุกคนรู้จักกันก็มาจากเพื่อนพ้อง น้อง พี่ ที่สนิทกัน
รักกันมาร่วม 30 ปี และในช่วงหนึ่งเรา
ยังเคยเปิดค่ายเพลงภายใต้ชื่อ ‪#‎ร่องเสียงลำไย‬ ด้วยครับ
ดังนั้น เพลงส่วนใหญ่เราสองคนจึง
เป็นคนถือลิขสิทธิ์เองทั้งหมด เพลงเท่าที่นึกออก
ก็มีประมาณนี้นะครับ เอาไปเปิดฟังได้สบายใจเลยครับ

Single 

1 This songs for you

2 แก้วตา

3 Happy Birthday Baby

4 อยากให้เธอได้รู้

5 จากกันด้วยดี

ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล พูดคุยกันเกี่ยวเรื่องที่ทุกคนต้องอยากรู้ 28/05/63

• http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_1515.html
• https://teetwo.blogspot.com/2020/04/blog-post_79.html
• https://teetwo.blogspot.com/2020/07/050563.html

28 พฤษภาคม 63 20.00 น. ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล วันนี้เราจะมาพูดคุยกับคุณ ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล นักร้องดูโอ้ในตำนาน เบิร์ดกะฮาร์ท ที่แฟนๆน่าจะรู้จักกันดี เราจะมาพูดคุยกับคุณฮาร์ทในหัวข้อที่ทุกคนอยากรู้! •พูดคุยเรื่องส่วนตัว ชีวิตครอบครัวที่มีความสุข •ผลงานเพลงที่เป็นตำนาน •อัพเดทสถานการณ์

Bryd & Heart : เบิร์ด กะ ฮาร์ท อัลบั้ม ที่รัก (พ.ศ. 2539)

• https://teetwo.blogspot.com/2009/12/byrd-heart.html

ชุดที่รัก (พ.ศ. 2539)

1 รักสีส้ม

2 Anywhere You Are

3 ที่รัก

4 กระต่ายหมายจันทร์

5 Once Again

6 เพื่อนที่รู้ใจ

7 ขวัญใจ

8 จากกันด้วยดี

9 เธอรู้ดี

10 Friend

11 รักรสส้ม

Bryd & Heart : เบิร์ด กะ ฮาร์ท อัลบั้ม Moonlighting (พ.ศ. 2538)

• https://teetwo.blogspot.com/2009/12/byrd-heart.html

1 เพื่อนกัน
2 More ‘n’ More
3 ดั่งตะวัน
4 Am, I Love You
5 You (English Version)

Bryd & Heart : เบิร์ด กะ ฮาร์ท อัลบั้ม จากกันมานาน (พ.ศ. 2534)

• https://teetwo.blogspot.com/2009/12/byrd-heart.html

ชุดจากกันมานาน (พ.ศ. 2534)
1 จากกันมานาน
2 รอรัก
3 ฉันคอย
4 ทำอย่างไร
5 ฝน
6 เพียงเรา
7 Wonder Woman
8 เมืองงาม
9 บทเพลงสุดท้าย
10 ลืม (Previously Unreleased)

Bryd & Heart : เบิร์ด กะ ฮาร์ท อัลบั้ม ด้วยใจรักจริง (พ.ศ. 2529)

• https://teetwo.blogspot.com/2009/12/byrd-heart.html

ชุดด้วยใจรักจริง (พ.ศ. 2529)

1 Goodbye Song

2 ด้วยใจรักจริง

3 เอื้อมดาว

4 Lucky Star

5 ฉันเอง

6 ฟ้าสีคราม

7 I Need Your Love

8 รักเสมือนป่า

9 คืนนั้น

10 Goodbye Song (ภาคภาษาไทย)

Bryd & Heart : เบิร์ด กะ ฮาร์ท อัลบั้ม ห่างไกล (พ.ศ. 2528)

• https://teetwo.blogspot.com/2009/12/byrd-heart.html

ชุดห่างไกล (พ.ศ. 2528)

1 ไม่ลืม
2 ห่างไกล
3 อาลัยเธอ
4 เพ้อ
5 คิดถึง II
6 ลืม
7 คิดถึง
8 Susan Joan
9 สนุก
10 รักนอกใจ

31 พ.ค. 2563 น้อมรำลึก 140 ปี วันคล้ายวันทิวงคตสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี

สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา ร่วมน้อมรำลึก 140 ปี วันคล้ายวันทิวงคต
สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี 
ณ วัดราชาธิวาสวิหาร ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2563
เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป

ผู้สนใจร่วมถวายผ้ามหาบังสุกุล เครื่องไทยธรรมและปัจจัยถวายพระ สามารถติดต่อได้ที่สำนักศิลปะและวัฒนธรรม
หรือโทร. 02-1601216

30 พ.ค.วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

• http://teetwo.blogspot.com/2012/12/blog-post_10.html

คณะรัฐมนตรีได้กำหนดให้วันที่ 30 พ.ค. ของทุกปี ซึ่งเป็นวันสวรรคตของพระองค์เป็น "#วันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว" เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติให้เป็นที่ประจักษ์และเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อปวงชนชาวไทยนานัปการ

Happy Hormones

https://ne-np.facebook.com/BodyYoung/posts/135166537886791/

• http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_1515.html
• https://teetwo.blogspot.com/2020/05/blog-post_18.html

Body and Mind EP.2 Happy Hormones Part1

หายไปนานเพราะมีงานเขียนวิชาการที่ต้องใช้สมาธิอย่างมาก

เลยไม่ได้เข้ามาเขียนต่อ บัดนี้ ได้เวลาอันสมควรแล้วววว!!

มาเริ่มกันต่อเลย

ครั้งที่แล้วเกริ่นว่าจะพูดถึงเรื่องสุขภาพใจกับสารสื่อสมอง
อันนี้ก็ไปเรียนรู้เพิ่มเติมมาจากการฝึกสติในรูปแบบที่เป็นวิทยาศาสตร์มากๆ และค้นคว้าเอกสารเพิ่มเติม
ว่าเราสามารถสร้างสารสื่อประสาทที่สร้างความสุขได้
ในชีวิตประจำวัน ซึ่งวิทยาศาสตร์ก็อธิบายไว้ชัดเจน
มีหลักฐานเชิงประจักษ์มากมาย
ซึ่ง นพ.มนตรี แสงภัทราชัย พูดถึงสารสื่อสมองสร้างสุข เรียกสั้นๆ
ว่า D.O.S.E วันนี้จะพูดสองตัวแรกก่อน คือ
D = Dopamine หรือคุณหมอเรียกว่า “น้อง Joy”
มีหน้าที่ช่วยให้กระบวนการทำงานของสมองและ
การเคลื่อนไหวของร่างกายเป็นไปอย่างปกติ
ช่วยควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็ก ควบคุมอารมณ์ความรู้สึก
ช่วยในเรื่องของการรับรู้ ส่งเสริมระบบความจำ
และการเรียนรู้ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
โดยทางการแพทย์ยังได้วิจัยแล้วพบว่าสารนี้
ยังมีหน้าที่ในการสร้างบุคลิกของผู้คนให้กลาย
เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีได้
เนื่องจากร่างกายของคนเราหากมีสารโดพามีนอย่างเพียงพอ
จะทำให้สมองตัดเรื่องแง่ลบหรือแง่ร้ายออกไปได้อย่างอัตโนมัติ
รวมไปถึงในช่วงเวลาที่คุณเกิดปัญหานั้น
จะช่วยทำให้มีสมาธิในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ง่ายและ
รวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
วิธีการสร้างโดพามีนอย่างง่ายๆ คือ การยิ้ม, หัวเราะ,
การให้ทานแก่ผู้อื่น, การให้ความรู้สึกดีๆกับผู้อื่น
เช่น คำชม หรือการกินผักสลัดใบเขียว
ก็ช่วยกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนนี้ได้เช่นกัน
ยังมีประโยชน์ช่วยให้คุณกลายเป็นบุคคลที่มองโลกในแง่ดีมาก
ยิ่งขึ้น เพราะเมื่อสารนี้เข้ามากระตุ้นการทำงานของสมอง
จะทำให้คุณรู้สึกอารมณ์ดีและรู้สึกดีได้ง่ายๆ ต่อสิ่งรอบตัว
โดยจะช่วยทำให้เป็นคนจดจำได้แม่นยำยิ่งขึ้น
สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
ระบบการเคลื่อนไหวต่างๆ โดยเฉพาะระบบกล้ามเนื้อจะทำได้
อย่างมีประสิทธิภาพ มีความกระฉับกระเฉง
มีความตื่นตัวอยู่เสมอ
และหากร่างกายขาดสารโดพามีนมากจนเกินไป
จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายชนิด เช่น
โรคพาร์กินสัน แต่ในทางตรงกันข้าม
ถ้าร่างกายที่หลั่งสารโดพามีนมากจนเกินไป
จะทำให้กลายเป็นคนที่ย้ำคิดย้ำทำ อารมณ์ร้อน
หรือหากมีจำนวนมากผิดปกติอาจจะ
ทำให้เกิดอาการป่วยทางจิตได้
แหม่ แค่ตัวแรกก็เยอะแล้ว มาดูตัวต่อไป
O = Oxytocin หรือคุณหมอเรียกว่า “น้อง Love”
เป็น ‘ฮอร์โมนแห่งความเชื่อใจ (trustworthiness)’
หรือ ‘ฮอร์โมนแห่งการกอด’ (hug hormone หรือ cuddling
hormone)

เมื่อได้รับสัมผัสอันอบอุ่นจากคนที่เรารัก
สารนี้จะหลั่งออกมาทำให้รู้สึกปลอดภัย
ซึ่งพบได้ในมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ
โดยแรกเริ่มฮอร์โมนนี้เป็นรู้จักกันว่าช่วยเตรียม
พร้อมความเป็นแม่ให้กับสัตว์ ช่วยให้เกิดนํ้านม
ซึ่งสามารถสร้างได้ด้วยการ “กอด” “การสัมผัสอย่างอ่อนโยน”
หรือ “การแผ่เมตตา” ทั้งหมดทำให้เกิดฮอร์โมนนี้ได้
และช่วยให้เราอารมณ์ดี ทำให้เราเข้ากับคนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
แต่มีงานวิจัยโดย Carsten de Dreu จาก University of
Amsterdam ในปี 2011 พบว่าแม้ Oxytocin
จะทำให้เกิดความใจดี แต่ในการทดลอง
Prisoner’s Dilemma หากผู้เล่นถูกแบ่งเป็น 2 ทีมแล้ว

Oxytocin จะทำให้ผู้เล่นแทงข้างหลังผู้เล่นจากทีมอื่นรุนแรง
ขึ้นกว่าเดิม เนื่องจาก Oxytocin ทำให้เรามีความรักและเชื่อใจ
เกิดความเมตตาเอื้ออาทรกับคนที่ ‘เป็นพวกเดียวกับเรา’
เท่านั้น และปฏิบัติรุนแรงกับคนที่รู้สึกว่าเป็นภัย
หรือไม่ใช่ ‘พวกของเรา’

ในอีกงานศึกษาโดย Carsten ยังพบอีกว่า Oxytocin
ทำให้กลุ่มตัวอย่างมีอคติที่รุนแรงขึ้นกับคนนอกกลุ่ม
(ในการทดลองคือ คนเยอรมันและคนจากตะวันออกกลาง) Oxytocin อาจเป็นฮอร์โมนแห่งการโอบกอด ทำให้อุ่นใจ
ปลอดภัยกับเพื่อนและพวกพ้องของเรา
แต่การตัดสินคนที่ไม่ใช่พวกตัวเองอย่างรุนแรงไม่ใช่
‘ความเอื้ออาทร’ แต่คือการเหยียดเชื้อชาติ และเป็น ethnocentrism
(ทัศนคติที่เชื่อว่าวัฒนธรรมของตัวเองเป็นใหญ่)
ฮอร์โมนที่ทำให้เรามีความรักและมองโลกในแง่ดี
กลับทำให้เรามีอคติรุนแรงและเกลียดคนที่ต่างจากเรา
หรืออยู่นอกกลุ่มของเรา (out-group)
เพราะเมื่อตัดสินว่าไม่อยู่ในพวกพ้องเผ่าเรา เราจะไม่ไว้ใจ
ความรู้สึก ‘เหม็นหน้า’ คนที่เราไม่ไว้ใจจึง
เป็นคำเรียกที่เหมาะสมมาก

เอ๊ะๆๆ.. ทำไมรู้สึกคุ้นๆ กับสิ่งเหล่านี้ล่ะ
แค่ 2 ตัวก็เห็นทั้งประโยชน์และโทษอย่างมหาศาลแล้ว
แต่การสร้างให้เกิดความสุขด้วยตัวเองจากฮอร์โมนทั้งสองนี้
ก็นับว่ามีคุณประโยชน์กับตัวเรามากแล้ว
แต่ก็ต้องลือกใช้ให้เหมาะสมและไม่มากจนเกินไป

พอแค่นี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวมาต่ออีก 2 ตัวในคราวหน้า
ขอให้สร้างฮอร์โมนความสุขแต่พอดีกันทุกท่านทุกคนนะจ๊ะ 

อ้างอิง
https://www.honestdocs.co/what-is-the-benefit-of-dopamine
https://thematter.co/thinke…/oxytocin-love-make-hatred/49833
https://www.nicetofit.com/

ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล

https://th-th.facebook.com/legalintelligencethailand/

https://th-th.facebook.com/Dr.Keawlawyer

การพิจารณาเรื่อง Work form Home เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันกับนายจ้าง จะกระทำโดยพลการไม่ได้ เพราะถือเป็นการขัดคำสั่งนายจ้าง ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ทนายความ

• http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_1515.html
• https://teetwo.blogspot.com/2020/05/blog-post_25.html

#เรื่องมวลชนกับทนายมนต์ชัย Full Podcast 1

https://th-th.facebook.com/nanake555/ 
https://th-th.facebook.com/legalintelligencethailand

• https://teetwo.blogspot.com/2020/08/full-podcast-2.html
• http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_1515.html

(Day10) ตลาดใจ LIVE สด (โอ๊ต ปราโมทย์ กับป๊อป ปองกูล)

• http://teetwo.blogspot.com/2018/10/the-driver-ep27.html
• http://teetwo.blogspot.com/2020/01/blog-post_53.html
• http://teetwo.blogspot.com/2019/06/5-60.html
• https://teetwo.blogspot.com/2020/03/silly-fools-deleted-scene-ep4.html

ประวัติอ.ฟูจิ ฟูจิซากิ

อาจารย์ฟูจิ สอนทำธุรกิจ

• http://teetwo.blogspot.com/2009/07/blog-post_1515.html
• http://teetwo.blogspot.com/2019/11/fujisaki-fuji.html
• www.thaipbs.or.th/DoHiRuYouTube

Social Talk : Social "ฟูจิ ฟูจิซากิ" 

บทเรียนชีวิต ความสำเร็จอยู่ที่การลงมือทำ (27 ม.ค. 60)

Social Talk : ศาสตร์แห่งความสำเร็จ (3 ก.พ. 60)

20 ธันวาคม 2559 

ที่มา https://news.thaipbs.or.th/content/258886

"ฟูจิ" พิธีกรญี่ปุ่นหัวใจไทยกับแรงบันดาลใจที่สร้างได้

ช่างพูดช่างคุยจนเป็นพิธีกรลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นอีกคนที่มีแฟนรายการจำนวนมาก แต่กว่า ฟูจิ ฟูจิซากิ

จะประสบความสำเร็จในอาชีพได้ ก็เคยท้อ จนต้องใช้พลังใจเปลี่ยนชีวิตมาก่อน

จะพาไปดูมุมคิดบวกของเขากับเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเปลี่ยนแปลงเยาวชนไทย

ถึงอยู่เมืองไทยมาหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พิธีกรอารมณ์ดี ฟูจิ

ได้เข้ามาเยือนชุมชนลับแล ย่านอินทามระ ซอย 1 เป็นลูกมือช่วยภารกิจของ โคกิ เพื่อนชาวญี่ปุ่น

ให้ลุล่วงไปได้กับการลงเยี่ยมบ้านผู้ป่วย และเด็กๆ

ที่ยังต้องการความช่วยเหลือทั้งด้านการศึกษา

และชีวิตความเป็นอยู่

หลายปีแล้วที่ โคกิ อดีตนักแสดงเด็กในซีรี่ส์ดังซามูไรพ่อลูกอ่อน ลงพื้นที่ชุมชนแออัดหลายแห่งในบ้านเรา

ช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ด้วยปัจจัย และกิจกรรมเพื่อสังคม

ส่วนสำคัญที่ผลักดันให้จิตอาสาจากแดนอาทิตย์อุทัยมาไกล

ถึงเมืองไทยเดือนละครั้ง เพราะอยากตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

ซึ่งทั้งคู่ยืนยันว่าการเป็นฮีโร่ไม่ได้ง่ายเหมือนในหนัง

โคกิ เล่าว่า นิยามคำว่าฮีโร่ของเขา ไม่ใช่คนเด่นดังอะไร

แต่ต้องเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

อย่างหลายลำคลองในญี่ปุ่น ที่เคยสกปรก แต่พอร่วมใจกันดูแล ก็กลับมาใสสะอาด

จนเด็กๆ ลงไปว่ายเล่นได้ จึงคิดว่าเมืองไทยก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้เหมือนกัน

คำคมสั้นๆ ปลุกใจให้เด็กๆ ในชุมชนฮึดสู้ เป็นภาษาญี่ปุ่นง่ายๆ ที่พิธีกรหนุ่มใช้เรียกพลังให้เด็กๆ

ก่อนจะเริ่มกิจกรรมเล่านิทานสอนใจ เปลี่ยนความคิดให้กล้าแสดงออกในทางที่ถูก

ประสบการณ์ที่เคยเรียนทั้งในไทย และญี่ปุ่นยังทำให้เข้าใจเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี

การสร้างฮีโร่ในห้องเรียน เป็นเทคนิคที่ชาวปลาดิบ ปลูกฝังจากรุ่นสู่รุ่น เน้นการแสดงออก กล้าคิด กล้าตอบ

ซึ่งฟูจิ บอกว่าสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ คือความกล้า และกำลังใจ อย่างที่เราได้เห็นในรายการดูให้รู้

ที่พิธีกรหนุ่มตระเวนไปดูการเรียนการสอนทั่วญี่ปุ่น

พิธีกรหนุ่ม ฟูจิ ยังภูมิใจที่ได้เป็นสื่อกลาง 2 วัฒนธรรม นอกจากพาตระเวนไปทุกแห่งหนในญี่ปุ่น

นำเสนอวิถีชีวิต ผู้คน ผ่านรายการดูให้รู้ทางไทยพีบีเอสแล้ว

ยังก่อตั้งโรงเรียนสอนภาษาหลายสิบภาษาทั้งในไทยและญี่ปุ่น

รวมถึงการตั้งสมาคมวัดระดับการใช้ภาษาไทย เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร

ที่รัฐบาลญี่ปุ่นร่วมสนับสนุน เป็นพิธีกรรุ่นใหม่อีกคน ที่นำแรงบันดาลใจมาส่งต่อได้อย่างมีพลัง

รวมไฮไลต์ความสนุก ตอน 10 ป๊อบ ปองกูล และ โอ๊ต ปราโมทย์ [IDEA WAKE UP]

หากต้องการบริจาคสิ่งของให้บุคลากรทางการแพทย์

ติดตามรายละเอียดโครงการฯได้ที่ www.kaokonlakao.com 

http://teetwo.blogspot.com/2009/09/blog-post_18.html

รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. เทอด เทศประทีป

ที่มา https://www.mfu.ac.th/news/news-detail/detail/News/6501.html

• http://teetwo.blogspot.com/2010/04/blog-post_14.html
• https://ted.tesprateep.com/

อาลัย
รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. เทอด เทศประทีป
รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (2544 - 2552)
อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (2552- 2554)
ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (2554- 2562)

ด้วยความเคารพรักและความผูกพันที่พวกเราชาวมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีต่อ รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. เทอด เทศประทีป อย่างต่อเนื่องยาวนาน การถึงแก่อนิจกรรมอย่างกะทันหันของท่านจึงเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่และนำมาซึ่งความโศกเศร้า เสียใจ และอาลัยรักเป็นอย่างยิ่ง

รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. เทอด เทศประทีป หรืออาจารย์เทอดของพวกเราทำงานที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเป็นระยะเวลาประมาณ 18 ปี ในตำแหน่งสำคัญทางการบริหารทั้งสิ้น โดยเริ่มต้นในตำแหน่งรองอธิการบดีเมื่อพ.ศ. 2544 เป็นอธิการบดีในพ.ศ. 2552 และสิ้นสุดการทำงานลงในตำแหน่งที่ปรึกษาอธิการบดีเมื่อพ.ศ. 2562 ทั้งนี้ในบางช่วงเวลาท่านยังทำหน้าที่รักษาการแทนอธิการบดี และรักษาการแทนผู้บริหารบางหน่วยงานด้วย เช่น รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สาขากรุงเทพฯ รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เชียงราย รักษาการแทนคณบดีสำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ รักษาการแทนคณบดีสำนักวิชานิติศาสตร์  กล่าวได้ว่าอาจารย์เป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการพัฒนาหน่วยงานต่างๆ ของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ทุกคนที่ทำงานกับอาจารย์ย่อมประจักษ์ชัดว่าอาจารย์ทำงานอย่างมุ่งมั่นและอุทิศตนในทุกหน้าที่ด้วยความรักในมหาวิทยาลัย และในขณะเดียวกันอาจารย์มีความรัก เมตตา เอื้ออาทรต่อเพื่อนร่วมงานและผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาโดยถ้วนทั่ว คุณงามความดีของอาจารย์จะยังคงประทับติดตรึงใจไปอีกนานเท่านาน

พวกเราชาวมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงขอถือโอกาสนี้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังครอบครัวของรองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร. เทอด เทศประทีป และขอให้อำนาจแห่งคุณงามความดีที่ท่านได้กระทำไว้ตลอดชีวิตเป็นพลังดั่งแสงประทีปนำพาดวงวิญญาณของท่านไปสถิตเสถียรยังสุคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ        
พิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และบำเพ็ญกุศลศพ
รองศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ ดร.เทอด  เทศประทีป 
อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
วันพุธที่ 22 เมษายน 2563 เวลา 16.30 น. และวันที่ 23-25 เมษายน 2563
ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ
วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
**********************
วันพุธที่ 22 เมษายน  2563
เวลา 16.00 น. ผู้ร่วมพิธีพร้อมกัน ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ วัดพระสิงห์ พระอารามหลวง ผู้มีเกียรติรดน้ำศพ
เวลา 16.30 น. ประธานประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ปี่ไฉนกลองชนะประโคม/เจ้าพนักงานสุกำศพ
เวลา 17.30 น. ประธานจุดเครื่องบูชากระบะมุกหน้าพระพิธีธรรม พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม /ทอดผ้าบังสุกล /พระพิธีธรรมอนุโมทนา
เวลา19.00 น. แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์
เวลา 20.15 น. ถวายกัณฑ์เทศน์ พระสงฆ์อนุโมทนา เสร็จพิธี

วันพฤหัสบดีที่ 23 และวันศุกร์ที่ 24 เมษายน 2563
เวลา 19.00 น. พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม
เวลา 19.30 น. แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์
เวลา 20.15 น. ถวายกัณฑ์เทศน์ พระสงฆ์อนุโมทนา เสร็จพิธี

วันเสาร์ที่ 25 เมษายน 2563
เวลา 09.30 น. ประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย พิธีกรอาราธนาศีล /ประธานสงฆ์ให้ศีล พระสงฆ์ 10 รูป สวดพระพุทธมนต์ ถวายไทยธรรม  ทอดผ้าไตรบังสุกุล 10 ไตร /พระสงฆ์พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล พระสงฆ์อนุโมทนา /เสร็จพิธี
เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล
*ปิดศพไว้รอประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ    

รู้จัก "หมอบุ๋ม" ผู้ช่วยโฆษก ศบค.คนใหม่

ที่มา https://www.hfocus.org/content/2020/05/19403

ที่มา https://news.thaipbs.or.th/content/292780

• https://teetwo.blogspot.com/2020/03/covid-19-prepare-dont-panic_17.html

"หมอทวีศิลป์" ฝาก"พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล"
ที่ปรึกษานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เป็นผู้ช่วยโฆษก ศบค.คนใหม่ ช่วยแถลงข่าว COVID-19 เสาร์-อาทิตย์

วันที่ (22 พ.ค.2563) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.กล่าวว่า ได้ทำหน้าที่โฆษก ศบค.มาตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาเพียง คนเดียว นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข จึงให้ที่ปรึกษา มาช่วยกันทำหน้าที่ คือพญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษก ศบค.

“ขอฝากประชาชนว่าให้ติชม เพราะการจะช่วยกันทำงาน แต่ถ้าจะทำให้ COVID-19 หายขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนทุกคน”

จากนั้น พญ.พรรณประภา ขึ้นมาแนะนำตัว
โดยระบุว่าสวัสดีพี่น้องประชาชน
ดิฉัน พญ.พรรณประภา ขอรายงานตัว
ในฐานะผู้ช่วยโฆษก ศบค.จากนี้ ก็จะมาพบ
เจอกับพี่น้องประชาชนเป็นประจำทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อรายงานสถานการณ์การติดเชื้อไวรัส
COVID-19 ประจำวัน

เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์
ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยปฏิเสธที่จะถูกดึงตัว
ไปช่วยงานรัฐบาล โดยยืนยันว่า
ไม่สนใจงานการเมือง
และต้องการที่จะกลับไปทำงานด้านสาธารณสุขที่กระทรวงตามเดิม

สำหรับ พญ.พรรณประภา หรือ หมอบุ๋ม อายุ 32 ปี
ผู้ช่วยโฆษก ศบค.จบปริญญาตรีจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้รับตำแหน่งนางสาวไทย ประจำปี 2551 เป็นนางสาวไทยคนที่ 44
พร้อมรางวัล Miss Healthy และนางงามผิวสวย โดยเป็นเจ้าของ Panprapa Clinic คลินิกเวชกรรมความงามแบบครบวงจร