Custom Search

Aug 31, 2008

12 เชื่อ “อย่างประภาส” : Prapas.com


๑. ไม่พูดถึงเรื่องการเมือง ในที่สาธารณะ หรือ ในบทสัมภาษณ์ใดๆ
๒. “ถ้าคัน ต้องทำให้หายคัน” แม้ว่า ต้องตัดป้ายยี่ห้อแพงที่คอเสื้อออก
๓. “ไท(ย)นิยม”= ปรับโลกเข้าหา “ไทย”
๔. มีดนตรีในหัวใจ (อย่างน้อย ควร “เคาะโต๊ะ” เป็น)
๕. มีศรัทธา (ต่อสิ่งดีงาม)
๖. มีทัศนคติดี โดยเฉพาะ การชื่นชมคนอื่น
๗. สนใจในสิ่งที่(จะ)ทำ มากกว่า สิ่งที่(จะ)ได้
๘. ตอบปัญหา โดยการตั้งคำถาม
๙. อย่าหยุดคิด แต่ต้องสร้าง “ผลงาน” ด้วย
๑๐. “ความรู้” กับ “ความฝัน – จินตนาการ” ควรสมดุลกัน
๑๑. เชื่อเรื่อง “ตายแล้วเกิดใหม่” เกิดมาเพื่อมีจิตสูงขึ้น
จนหลุดพ้นการเกิดแก่เจ็บตาย
๑๒. เชื่อว่า “อย่างประภาส” นั้น ไม่มี (จบ)





ยินดีต่อมหาอำนาจโลกชาติใหม่



เปิดฟ้าส่องโลก
ไทยรัฐ
26 ส.ค. 51

ขณะที่ลากปากการับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพในฉบับอังคารวันนี้
ผมกำลังชมพิธีปิดกีฬาโอลิมปิก ค.ศ.2008 ยอมรับนะครับว่า
มหกรรมกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ ทำให้ทั้งโลกเชื่อได้แน่สนิทอย่างไม่ติดใจว่า
สาธารณรัฐประชาชนจีนก้าวเข้าสู่ความเป็นมหาอำนาจชาติอันดับหนึ่งของโลกอย่าง
ไม่มีข้อกังขาสงสัย ไม่ว่าจะมีสื่อมวลชนคนไหนชาติใดกระแทกกระทุ้ง

พยายามดึงจีนให้ลงต่ำก็คงจะเล่นงานจีนได้ไม่สำเร็จ
ย้อนหลังไปในอดีตก่อนโน้น สองฟากฝั่งแม่น้ำฮวงโหมีมนุษย์เผ่าพันธุ์ต่างๆ
มากมายหลากหลายอาศัยอยู่ กระทั่งเมื่อ 4,600 ปีก่อน หวงตี้ชนะเหยียนตี้
ซึ่งเป็นทายาทของเสินหนงซื่อและซือโหยว จึงประกาศตัวตั้งตนขึ้นเป็นประมุขชนเผ่าต่างๆ
มีแสนยานุภาพแผ่ไปในตลอดลุ่มน้ำตอนกลางไปจนถึงปากแม่น้ำฮวงโหวันเวลานาที

ที่หวงตี้ตั้งตนเป็นคนนำดินแดนแคว้นนี้นี่แหละครับ
ประเทศจีนจึงอุบัติขึ้นมาในโลกมนุษย์

เวลาต่อมาไม่นานนัก เหวยจู่ มเหสีของพระเจ้าหวงตี้ก็ค้นพบวิธีเลี้ยงไหม
พระเจ้าหวงตี้กับบรรดาผู้ช่วยก็เริ่มก่อร่างสร้างพระราชวัง
ริเริ่มจัดทำเสื้อผ้าอาภรณ์ รัถนาวา อาวุธธนูคันศร
เริ่มประดิษฐ์ตัวอักษร ระบบปฏิทิน ดนตรี มีการใช้เครื่องยาสมุนไพร
ในการรักษาโรคของผู้คนในปกครอง ฯลฯต่อมามีการสถาปนาราชวงศ์ซย่า

เป็นครั้งแรกที่มีตำแหน่งเจ้าผู้ครองราชย์
มีการสืบสันตติวงศ์ นำลูกหลานของกษัตริย์ขึ้นสืบทอดราชบัลลังก์
ราชวงศ์แรกของจีนดำรงคงอยู่ได้ 500 ปี
ก็มีราชวงศ์ซังขึ้นมาปกครองอีก 550 ปี
ตามด้วยราชวงศ์โจว 770 ปี
ก่อนที่ราชวงศ์ฉินจะขึ้นมาเป็นระยะเวลาสั้นๆ 15 ปี

ราชวงศ์ฮั่น 422 ปี
ยุคสามก๊ก 46 ปี
ราชวงศ์จิ้น 156 ปี
ยุคราชวงศ์เหนือ-ใต้ 170 ปี
ราชวงศ์สุย 38 ปี
ราชวงศ์ถัง 290 ปี
ยุคห้าราชวงศ์ สิบอาณาจักร 54 ปีราชวงศ์ซ่ง 320 ปี
ราชวงศ์หยวน 98 ปี
ราชวงศ์หมิง 277 ปี
และราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้าย
มนุษย์ในราชวงศ์ชิงครองราชย์อยู่ได้ยาวนาน 267 ปีราชวงศ์ของจีนสิ้นไป
เพราะในรัชศกกวงซี่ว์ปีที่ 31 ดร.ซุนยัดเซน ร่วมมือกับหวงซิง
รวมพลังจับมือกับสมาคมซิงจง หฺวาซิง และกวงฟู่ เข้าเป็นสมาคมเดียว
เรียกว่า สมาพันธ์ถงเหมิงแห่งชาติจีน (ถงเหมิงฮุ่ย)
โดยมีเป้าหมาย "ขับไล่แมนจู ฟื้นฟูชาติจีน สถาปนาประชาชาติ

และกระจายสิทธิ์ครองที่ดิน"ผู้คนศรัทธา ดร.ซุนยัดเซนแทนที่จะเชื่อถือศรัทธากษัตริย์
เพราะ ดร.ซุนยัดเซนเข้าใจความต้องการของประชาชนคนฟื้นราก
ท่านประกาศหลักการสำคัญ 3 อย่างลงในหนังสือพิมพ์หมินเป้า
คือ หลักการประชาชาติ ประชาธิปไตย และประชาชีพ
มนุษย์คนใดจากชาติพันธุ์ไหนก็ตาม ทำงานมุ่งมั่นปฏิวัติเปลี่ยนแปลงความเป็นไป
โดยมีประสงค์เพียงเพื่อช่วยเหลือบุคคล ความมุ่งมั่นนั้นย่อมไม่เป็นผล
คนบางกลุ่มของไทยก่อร่างสร้างพรรคการเมืองเพียงเพื่อแก้ไขสถานะของเจ้านายเก่า อุดมการณ์ตื้นแคบอย่างนี้ ไม่มีวันประสบความสำเร็จดังที่มุ่งมาดปรารถนาหรอกครับลองดูตัวอย่างการก่อตั้งของคนจีนที่ทำงานประสบความสำเร็จ

ดร.ซุนยัดเซนก่อตั้งสมาคมซิงจงตั้งแต่ พ.ศ. 2437
โดยมีเป้าหมายว่าจะ
"ขับไล่อนารยชน ฟื้นฟูชาติจีน สถาปนารัฐบาลมหาชน"
ทำคนเดียวอยู่ตั้งนาน ไม่ประสบความสำเร็จ จึงไปร่วมกับสมาคมหฺวาซิง
ซึ่งก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2446 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะ

"ขับไล่อนารยชน ฟื้นฟูชาติจีน"
และไปรวมกับสมาคมกวงฟู่ ที่ก่อตั้งใน พ.ศ. 2447 สมาคมนี้มีคำขวัญ
"ฟื้นฟูชาติฮั่น นำแผ่นดินคืน ร่างอุทิศให้ชาติ งานสำเร็จถอนตัว"เมื่อรวมกันเป็น

"พันธมิตรเพื่อการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์" แล้ว
พวกนี้ก็ค่อยทยอยปฏิบัติการในยุทธการต่างๆ เช่น ยุทธการเนินดอกไม้เหลือง
จนกระทั่งมีการสถาปนาสาธารณรัฐจีนเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2455
และสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนได้ในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 249259 ปีพอดี

ที่จีนดิ้นรนฝ่าฟันอุปสรรคนานานัปการ
กว่าจะเข็นประเทศที่เคยถูกดูหมิ่นถิ่นแคลน

จากบรรดาชาติตะวันตกว่ากระจอกงอกง่อย
ประเทศที่เคยถูกบางชาติเอเชียด้วยกันที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
หลอกกระหน่ำซ้ำแล้วซ้ำอีกการเมืองที่นิ่ง

ท้องทะเลเงียบสงบไร้พายุโหมโจมกระหน่ำ
รัฐนาวาที่ลากสาธารณรัฐประชาชนจีนข้ามทะเลกว้างจึงสามารถพาได้มาถึงฝั่ง
บรรลุฝันอันยิ่งใหญ่ในฐานะที่เป็นคนไทยซึ่งเป็นชาติเอเชียด้วยกัน
ฐานะที่มีบรรพบุรุษบางท่านเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่เมืองไทย
นิติภูมิขอแสดงความยินดีต่อมหาอำนาจชาติใหม่ของโลก....สาธารณรัฐประชาชนจีน

และขอขอบคุณสาธารณรัฐประชาชนจีนแทนชาวเอเชียที่ท่านทำให้
คนเอเชียด้วยกันรู้สึกว่าเผ่าพันธุ์ผิวเหลืองผมดำก็มีพละกำลังและมีโอกาสบนโลกใบนี้.
นิติภูมิ นวรัตน์

Aug 12, 2008

ศ.ดร.จูงใจ ปั้นประณต



ศ.ดร.จูงใจ ปั้นประณต
ภาควิชาวิศวกรรมเคมี

คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ประจำปีพ.ศ.
2549

http://www.maceducation.com/index.php?option=content&id=60&showtitle=1&more=1

http://www.eng.chula.ac.th/node/672

ดร.จูงใจ ปั้นประณต คือ อาจารย์สาวผู้นี้ ...
วันวารของอาจารย์ก่อนมาถึงวันนี้อาจารย์จูงใจ
ในสมัยเด็กๆ เริ่มต้นเข้าศึกษาที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์
แล้วย้ายมาเรียนต่อในชั้นมัธยมที่โรงเรียนจิตรลดา
ในสมัยนั้นนักเรียนนิยมสอบเทียบกันรวมทั้งอาจารย์ด้วย
เพราะหลังจากที่สอบเทียบในขณะที่เรียนอยู่ในชั้น ม.5 ได้

อาจารย์ก็ตัดสินใจสอบเอนทรานซ์เข้ามาเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์
ภาควิชาเคมีเทคนิค สาขาเคมีวิศวกรรม ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เมื่อจบแล้วก็ได้ลองเปิดโอกาสด้วยการไปทำงานที่บริษัทคอสโมออย
ต่อมาด้วยความที่อาจารย์จูงใจมีความสนใจที่จะศึกษาต่ออยู่แล้ว
อีกทั้งทางบ้านก็สนับสนุนอยากให้ประกอบอาชีพเป็นแม่พิมพ์ของชาติ
อาจารย์จึงได้ตัดสินใจศึกษาต่อโดยได้รับทุนจากของกระทรวงวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม (ทางภาควิชาวิศวกรรมเคมี จุฬาลงกรณ์เป็นผู้ขอไป)
เพื่อไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและเอก (ทุนต่อเนื่อง)
ทางด้านปิโตรเคมีเพื่อกลับมาเป็นอาจารย์ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์เคมี
ตามวัตถุประสงค์ของภาควิชา

อาจารย์จูงใจเล่าว่าในสมัยเด็กๆ นั้นการเรียนของอาจารย์ก็เหมือนจะเก่ง คือเรียน ได้ที่ 1

แต่แท้จริงแล้วจะเรียกให้ถูกก็คงเรียกว่าเก่ง
เป็นบางวิชาที่ตนถนัดมากกว่า
แต่เท่าที่ผู้เขียนสังเกตแล้ว
อาจารย์จูงใจเป็นนักเรียนที่เรียนเก่งคนหนึ่ง
เนื่องจากในสมัยมัธยมต้นท่านได้รับรางวัลนักเรียนเรียนดี (เกรดเฉลี่ยเกิน 3.8) ของโรงเรียนด้วย
และหลังจากนั้นเมื่อเข้าเรียนในระดับมัธยมปลาย อาจารย์ก็เริ่มคิดว่าจะเลือกเรียนในแผนการเรียนใดดี
เนื่องจากท่านชอบวิชาภาษาอังกฤษมาก
แต่ก็มีความใฝ่ฝันจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว
ไม่นานอาจารย์ก็ตัดสินใจเลือกเรียนในสายวิทยาศาสตร์
เพราะรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างจะสนุกกับการเรียนวิชาที่เกี่ยวข้องกับการทดลอง
รวมทั้งชอบและถนัดวิชาทางด้านวิชาคณิตศาสตร์มาตั้งแต่สมัยเด็ก
เนื่องจากอาจารย์รู้สึกสนุกกับการเรียนวิชาคณิตศาสตร์

ตั้งใจเรียนในห้องเรียน... พื้นฐานแห่งความสำเร็จการเรียนในห้องเป็นสิ่งที่สำคัญ
เพราะเป็นพื้นฐานของแก่นความรู้ทั้งหมด อาจารย์เองก็เป็นคนหนึ่งที่ตั้งใจเรียนในห้องเรียน
แม้ว่าจะมีเกเรบ้างตามประสาของวัยรุ่น

เคล็ดลับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยของอาจารย์จูงใจ

คือตั้งใจเรียนในห้อง ถ้าไม่เข้าใจก็ถามอาจารย์ผู้สอน
หรือเพื่อนที่ถนัดในวิชานั้น และเพิ่มเติมด้วยการเรียนพิเศษเฉพาะบางวิชา
และที่ไม่ลืมคือ ฝึกฝนการทำโจทย์และข้อสอบให้ได้มากที่สุด
ส่วนนักเรียนคนไหนที่เรียนแล้วไม่เกิดผลสัมฤทธิ์และอยากเรียนให้ได้ดี
ก็อยากจะให้ลองมองดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร
เพราะการที่เราเรียนได้ไม่ดีอาจเกิดจาก
การที่เราไม่ชอบอาจารย์ผู้สอน ไม่ชอบเพื่อน หรือบรรยากาศในการเรียน
ก็อาจจะสอบถามจากเพื่อนที่ทำคะแนนได้ดีว่าทำไมถึงเรียนได้ดี


แต่ถ้าบรรยากาศการเรียนในห้องไม่ดี ก็หาทางลัดในการเรียนคือ
ไปเรียนพิเศษ หรือให้เพื่อนที่เก่งติวให้ อาจช่วยการแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง
ส่วนการเลือกคณะในตอนนั้น... แม้ว่าอาจารย์จะเรียนได้ดี
แต่ก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้มาก

ท่านกลับคิดว่าหากมีโอกาสเอนทรานซ์ติดก็ดีใจมากแล้ว เพราะไม่ได้รับความกดดัน
ไม่เครียดมาก เพราะคิดว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือไม่ได้
ไม่ได้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต และหากมีโอกาสได้เข้าไปเรียน
ไม่ว่าจะติดในอันดับไหนก็ตาม เพราะเพื่อที่จะได้เข้าใจระบบการเรียนในเบื้องต้น
อาจารย์ได้ศึกษามาคร่าวๆ แล้วว่าแต่ละคณะที่ตนเองเลือกไปนั้นเรียนการสอนอะไรบ้าง

ซึ่งท่านก็มีความชอบและสนใจอยู่แล้ว

โดยในขณะนั้นอาจารย์ก็ได้เลือกคณะวิศวกรรมศาสตร์ด้วย
แต่อาจเพราะอาจารย์ทำคะแนนวิชาพื้นฐานวิศวฯ ได้ไม่ค่อยดี
ซึ่งท่านก็รู้ตัวเองดีกว่าอาจจะยังขยันไม่พอ
แล้วในที่สุดอาจารย์ก็สามารถสอบเข้าได้ที่คณะวิทยาศาสตร์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ซึ่งอาจารย์ก็ชอบและมีความสุขกับกิจกรรมและการเรียนที่อบอุ่นเป็นอย่างมาก
เมื่อเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ด้วยบรรยากาศการเรียนที่แตกต่างกันของโรงเรียน

และมหาวิทยาลัยทำให้นักศึกษาคนอื่นๆ
และอาจารย์จูงใจต้องรู้จักการปรับตัวให้กับตัวเองทั้งเรื่องกิจกรรม และการอ่านหนังสือ
ซึ่งก็จะไม่หักโหมอ่านทีเดียวหมดเพราะมันหนักเกินไป ควรอ่านให้จบเป็นเรื่องๆ
และไม่ลืมที่จะเข้าเรียนตามรายวิชาที่นักศึกษาได้ลงทะเบียนไป
เพื่อได้รับความรู้อย่างเต็มที่

อาจารย์กล่าวว่าพอมาเป็นอาจารย์เอง ทำให้ทราบว่าในวิชาเรียน
ที่นักศึกษาต้องเรียนรวมกันมากๆ นั้น ด้วยปริมาณนักศึกษา
และขนาดของห้องเรียนทำให้ยากที่จะเข้าใจในการเรียน
ดังนั้นถ้าคนไหนอยากที่จะเข้าใจในบทเรียนมากๆ
ก็ควรจะเลือกเรียนในด้านหน้าของห้องเรียน

ภาษาอังกฤษ... อาวุธลับคนเก่งในด้านการเรียนนั่น ทางบ้านของอาจารย์ไม่ได้มีการบังคับอะไร

คือทั้งคุณพ่อและคุณแม่ได้เปิดโอกาสให้เลือกสิ่งที่ชอบ
แต่ก็สนับสนุนการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษา
เช่น การไปเข้าค่ายเรียนภาษาอังกฤษ หรือค่ายกิจกรรมเพื่อเพิ่มทักษะความรู้ในด้านต่าง ๆ
ทุกวันนี้ที่อาจารย์จูงใจประสบความสำเร็จก็คงไม่ได้
เพราะอาจารย์เก่งหรือมีความสามารถทางด้านเคมีมากกว่าคนอื่นๆ
เนื่องจากผู้ที่เก่งด้านนี้ก็ยังมีอีกมาก
แต่ในการทำงานวิจัยนั้นอาจารย์สามารถเขียนเพื่อมาตีพิมพ์ซึ่งจะต้องนำไปเผยแพร่ได้
ซึ่งภาษาอังกฤษนี่แหละที่ให้ทำได้ดี และเท่าที่อาจารย์สังเกตดู

ก็พบว่าผู้ที่เรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์บางคนซึ่งมีความสามารถในวิชาคำนวณ
มักจะไม่ชอบวิชาภาษาอังกฤษ
ทั้งที่ในความจริงแล้วภาษาอังกฤษจะช่วยเปิดโลกทางการศึกษาและการทำงาน
ทำให้เรามีทางเลือกได้มากขึ้นกว่าเดิมอีกมากดังนั้นการที่เรียนให้ได้ดีนั้น
ส่วนหนึ่งนอกจากความสนใจแล้วต้องมาจากความถนัดด้วย

เพราะบางคนก็มีความถนัดทางด้านการคำนวณ และในบางคนก็ไม่ได้การท่องจำ
จะให้ทุกคนสมบูรณ์แบบหมดก็คงเป็นไปไม่ได้
แต่การขยันฝึกฝนนั้นก็ช่วยได้ในระดับหนึ่ง อย่างส่วนตัวอาจารย์นั้น
ท่านให้ความสนใจวิชาภาษาอังกฤษไม่แพ้กับวิชาอื่นๆ
และทำการทบทวนและฝึกฝนความรู้ทักษะให้กับตนเองด้วยการอ่านการ์ตูน
ฟังเพลงภาษาอังกฤษที่เราชอบ คำไหนที่เราไม่เข้าใจไม่รู้ความหมาย
ก็เปิดหาความหมายจากดิกชันนารี จะช่วยทำให้เราจดจำและ

ได้รับความรู้มากขึ้นอย่างแน่นอน
แต่ในสมัยนี้ถ้าจะพูดถึงการ์ตูนก็คงต้องเลือกที่เหมาะสมกับวัยของเรา
และแบ่งเวลาในการอ่านให้ถูกต้องด้วย
นอกจากนี้ท่านยังชื่นชอบการชมภาพยนตร์ต่างประเทศด้วย
โดยเฉพาะถ้าเรื่องไหนที่ชอบก็สามารถนั่งดูได้เป็น10 ๆ รอบได้เลย
คือพูดแทนตัวละครได้เลย

นักวิทยาศาสตร์ รุ่นใหม่
นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ คือบุคคลที่ทำงานวิจัยเยอะหลากหลาย

และได้รับการตีพิมพ์จนเป็นที่ยอมรับ
สำหรับตัวอาจารย์เองก็ศึกษาเรื่องตัวเร่งปฏิกิริยาทางเคมี ที่ใช้กันในบ้านเรา
คือ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี การผลิตเม็ดพลาสติก การทำน้ำมัน
โดยทำการศึกษาคุณสมบัติและวิธีการทำให้ปฏิกิริยาการทำงานได้ผลรวดเร็วขึ้น
เพื่อเป็นการลดเวลา ลดต้นทุน ประหยัดพลังงาน

อย่างบางอย่างต้องใช้อุณหภูมิสูงๆ ในการทำงานจึงก่อนให้เกิดปฏิกิริยา
ถ้าเราสามารถลดพลังงานที่ใช้ในการทำให้มันเกิดปฏิกิริยาได้เร็วขึ้น
เราก็จะประหยัดหลายๆ อย่าง

ยิ่งอ่านมาก ยิ่งได้ประโยชน์มาก

ด้วยความที่อาจารย์จูงใจเป็นนักอ่านตัวยงคนหนึ่ง
ซึ่งท่านชอบอ่านหนังสือทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเรียน หนังสือแปล
หนังสืออ่านนอกเวลา หรือที่อาจารย์ชอบมากคือ หนังสือการ์ตูน
ซึ่งอาจารย์ยอมรับว่าการที่เราอ่านหนังสือมันมีประโยชน์ต่อเรามาก
เพราะนอกจากจะได้รับความรู้จากหนังสือเหล่านั้นแล้ว

ยังส่งผลต่อความเร็วในการเก็บรายละเอียดให้กับอาจารย์ด้วย
นั่นคือ ยิ่งอ่านมากยิ่งมีทักษะในการเปิดรับสารมาก
ทำให้เมื่อถึงเวลาทำข้อสอบอาจาย์ก็สามารถอ่านโจทย์และตีความหมายออกมาได้รวดเร็ว
ทำให้มีเวลาคิดแก้ปัญหาได้มากกว่าคนอื่น ที่ต้องเสียเวลาในการอ่านโจทย์
ซึ่งกว่าจะจบกระบวนความก็ทำให้เสียงเวลาแก้ไขปัญหาไปมาก
ส่วนเทคนิคการอ่านหนังสือแล้วจำนั้น ง่ายๆ

คือถ้าเราคิดจะอ่านแล้วจำต้องตั้งใจที่อ่านเท่านั้นเอง
เด็กรุ่นนี้มีโอกาสในการพัฒนาตนเองมากขึ้น
เพราะการศึกษาต่างๆ ได้พัฒนาไปมาก และเป็นโชคดี
เพราะนักเรียนจะได้ทราบคะแนนของตนเองก่อน
ทำให้ทราบคร่าวๆ ได้ว่าตนเองเหมาะสมกับจุดไหน

คือดูคะแนนแล้วก็รู้อนาคตตัวเองได้ในระดับหนึ่งเลย
แต่ก็อยากจะฝากไว้ว่าขอให้สร้างความพยายามให้กับตนเองนิดหนึ่ง
และตระหนักอยู่เสมอว่ามันมีสิ่งใดได้มากง่ายๆ
โดยปราศจากการดิ้นรนขวนขวาย และความพยายามเหล่านั้น
ก็ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทางดีตามที่ฝันไว้อย่างแน่นอน


เชิดชูเกียรติความสามารถของสตรีในสายงานวิทยาศาสตร์
บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด ได้จัดงานพิธีมอบทุนวิจัย ลอรีอัล ประเทศไทย
"เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์" ครั้งที่ 7 ประจำปี 2552
ณ พระที่นั่งเทวราชสภารมย์ พระราชวังพญาไท

โครงการทุนวิจัย ลอรีอัล ประเทศไทย "เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์"
เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด
กับสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์
และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
โดยมอบทุนวิจัยทุนละ 200,000 บาท จำนวน 4 ทุน
สำหรับสาขาวัสดุศาสตร์ และสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ สาขาละ 2 ทุน
ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ สตรีที่มีอายุระหว่าง 25-40 ปี
ทั้งนี้เพื่อสร้างโอกาสให้สตรีมีบทบาทและส่งเสริมความสามารถของผู้หญิง
ในสาย งานวิทยาศาสตร์
ผู้ที่ได้รับทุนสาขานี้อีกคนคือ ผศ.ดร.จูงใจ ปั้นประณตจากภาควิชาวิศวกรรมเคมี
คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เช่นกัน
ได้ศึกษาการสังเคราะห์อนุภาคขนาดนาโนเมตร
สำหรับการประยุกต์ ใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา
เพื่อลดการสิ้นเปลืองพลังงานและช่วยลดมลพิษ
กล่าวว่า การเป็นผู้หญิงสามารถทำงานวิจัยได้ดี
เพราะมีความอดทนกับงาน ช่างสังเกตและละเอียดอ่อน


รองศาสตราจารย์ ดร.จูงใจ ปั้นประณต

ประวัติการศึกษา

พ.ศ. 2538 วท.บ. (เคมีเทคนิค สาขาเคมีวิศวกรรม) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
พ.ศ. 2541 M.S. (Chemical Engineering) West Virginia University, USA
พ.ศ. 2545 Ph.D. (Chemical Engineering) Clemson University, USA

ผลงานด้านการวิจัย
  • ผลงานที่ได้รับการตีพิมพ์ ในวารสารระดับนานาชาติ 83 เรื่อง
  • จำนวนการอ้างอิงรวมจากฐานข้อมูล Scopus นับ 10 ปี ย้อยหลัง 417 ครั้ง

รางวัลที่เคยได้รับ
รางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ปี 2549 มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์
รางวัลนักวิจัยรุ่นใหม่ดีเด่น ปี 2549 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
รางวัลผลงานวิจัยดีเด่นสำหรับนิสิตขั้นมหาบัณฑิต ปีการศึกษา 2550
กองทุนรัชดา- ภิเษกสมโภช จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
(อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ น.ส.พัชราภรณ์ วีระชวนะศักดิ์)
รางวัลผลงานวิจัย (ระดับดีเด่น) ปี 2552 สภาวิจัยแห่งชาติ เรื่องการพัฒนาตัวเร่ง
ปฏิกิริยาแบบวิวิธพันธุ์สำหรับใช้ในการผลิตสารเคมีมูลค่าเพิ่มสูง
รางวัลทุนวิจัยเพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์ ปี 2552 บ.ลอรีอัล ร่วมกับ องค์การยูเนสโก (UNESCO) ประเทศไทย
Young Women Researcher Award (First runner-up)
สาขา Engineering and Technology ปี 2552
จาก The Academy of Sciences for the Developing World (TWAS)
-The Third World Organization for Women in Science (TWOWS)
ร่วมกับ SCOPUS สำนักพิมพ์ Elsevier
รางวัลศักดิ์อินทาเนีย ปี 2553 ประเภทผู้ทำชื่อเสียงให้คณะวิศวฯ
รางวัล Researcher Awards สาขา Chemical and Pharmaceutical Sciences ปี 2554
Thailand Research Fund (TRF)-Commission on Higher Education (CHE)-SCOPUS

Aug 6, 2008

หัวใจไม่เคยแพ้


นิตยสารตั้งตัว ฉบับประจำเดือนมีนาคม 2548
ณัฐฐินันท์ จิตตรีมิตร์

ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
วันนี้มีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี แต่พรุ่งนี้อาจจะกลายเป็นคนพิการก็ได้
ใครจะไปรู้อุบัติเหตุเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยน
อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอถ้าคุณหรือทุกคนประมาท
ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นในชีวิตของตัวเองและครอบครัว
เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งสร้างความสูญเสียไม่น้อยเลย
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตหรือทรัพย์สิน
และสร้างความปวดร้าวให้กับทุกครอบครัวที่ประสพ
จากอุบัติเหตุไฟไหม้ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 40 ปีมาแล้ว

เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้ชีวิตของลุงชำนาญ กระตุฤกษ์ พลิกผันไป
ลุงชำนาญแกทำงานขับรถเครนอยู่ในบริษัทน้ำมันแห่งหนึ่ง
วันนั้นรถที่แกขับเกิดเสีย แกจึงต้องซ่อมแซมเครื่องยนต์และต้องใช้น้ำมันเบนซิน
ในการล้างตัวถังเครื่อง เผอิญตอนนั้นก็เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี
ทำให้แกไม่ทันสังเกตว่าพวกคนงานมานั่งสูบบุหรี่อยู่ใกล้ๆ
บริเวณที่แกซ่อมรถอยู่ และอีกไม่กี่อึดใจต่อมาสะเก็ดไฟเล็กๆ
จากก้นบุหรี่ก็กลายเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่ที่ทำให้ร่างของลุงชำนาญจมอยู่ในกองไฟ
แกคิดว่าคงไม่รอด แต่ด้วยแรงใจที่คิดสู้ทำให้ลุงชำนาญลุกขึ้น
ฝ่ากองเพลิงหนีออกมาได้ราวปาฏิหาริย์
ผลจากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ลุงชำนาญได้กลายเป็นคนพิการ
ถึงแม้จะเป็นแค่บางส่วน แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ใครเห็นเป็นต้องวิ่งหนี
กระทั่งเพื่อนฝูงที่เคยรู้จักมักจี่กันก็เลิกคบกันไปหมด
แกมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก แต่แกก็ต้องต่อสู้กับทุกปัญหา
ทั้งทางด้านสภาพร่างกายที่พิการและจิตใจที่แสนจะบอบช้ำที่ยากแก่การเยียวยา
รวมถึงสายตาของคนรอบข้างที่จ้องมองอย่างหวาดกลัวจากสังคมภายนอก
แต่แกก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ถึงแม้ร่างกายของลุงชำนาญจะพิการ
แต่หัวใจของแกไม่ได้พิการ เพราะหลังพักรักษาตัวอยู่ประมาณปีกว่าๆ
แกก็ได้กลับไปทำงานที่เดิมอีกครั้ง
แต่ด้วยความที่มีความรู้ทางด้านศิลปะและได้เล็งเห็นคุณค่าของศิลปะไทย
จึงได้เก็บเศษสแตนเลสที่เขาทิ้งตามกองขยะมาทำเป็นงานฝีมือ
และใช้ความรู้ความสามารถด้านศิลปะออกแบบและสลักสแตนเลสออกมาเป็นลวดลาย
เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นวรรณคดีของไทย เช่น รามเกียรติ์ และอีกหลายๆ เรื่อง
จนทำให้แกสามารถตั้งตัวได้อีกครั้งด้วยอาชีพการตอกสลักสแตนเลสขาย
และได้รับความนิยมในเวลาต่อมา
จากเศษสแตนเลสที่ทิ้งอยู่ตามกองขยะมาสู่สินค้าOTOP
งานตอกสลักสแตนเลสเป็นงานศิลปะหัตถกรรมจากฝีมือ
และมันสมองของคนสู้ชีวิตอย่างลุงชำนาญบวกกับแรงใจที่ได้รับจากภรรยา
ทำให้แกสามารถส่งลูกๆ ทั้งสามคนจนเรียนจบปริญญา
และเลี้ยงสมาชิกในครอบครัวอีก 12 ชีวิต
ใครที่กำลังท้อ ลองฟังข้อคิดดีๆ จากลุงชำนาญ กระตุฤกษ์