Custom Search

Sep 22, 2023

100 ปรัชญา ดร.เทียม โชควัฒนา (อย่าให้เวลา ผ่านไปอย่างไร้ค่า)


BizpromptinfoFanpage

ข้าพเจ้าถือว่าตนเองเรียนมาน้อย รู้น้อย ดังนั้น จึงพยายามจดจำบทเรียนและประสบการณ์ทั้งการค้าและ
การดำเนินชีวิตประจำวันจากผู้อื่นเสมอ ๆ เพื่อที่จะได้ยึดเป็นแนวทางและป้องกันมิให้ตนเองต้องผิดพลาดและล้มเหลว

ในระยะแรกที่แยกตัวออกมาเปิดร้านของตนเอง ข้าพเจ้ายังไม่รู้แจ้งในการค้าขายสินค้าประเภทเบ็ดเตล็ด
จึงจำเป็นต้องไปว่าจ้างคนนอกมาเป็นหลงจู๊ คอยจัดการเกี่ยวกับการขายของทั้งหมด
และหนึ่งในหลงจู๊ที่ข้าพเจ้าจ้างมานั้น เมื่อแรกมาทำงาน เป็นคนมีความรู้มากและเชี่ยวชาญในงานด้านนี้อย่างที่สุด
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขากลับอยู่เฉย ๆ ไม่พยายามศึกษาหาความรู้ เวลาส่วนใหญ่สูญเสียไปกับการเล่นไพ่
คบเพื่อนเที่ยวเตร่ ความคิดความอ่านและความรู้ของเราทรงอยู่กับที่
ในขณะที่ข้าพเจ้าซึ่งไม่รู้อะไรในตอนนั้น กลับพัฒนาตนเองไปจนรู้มากกว่าเขา

เรื่องนี้ทำให้ข้าพเจ้าได้นึกถึงเพื่อนฝูงที่เคยร่วมเรียนกันมา หลายคนเรียนได้คะแนนพอ ๆ กัน
มีความคิดความอ่านใกล้เคียงกัน แต่พอเติบใหญ่ขึ้นมากลับมีเส้นทางชีวิตที่แตกต่างกัน
ห่างไกลกันอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้ง ๆ ที่ในเวลาเรียนหนังสือที่โรงเรียนนั้นก็ใช้ตำราเล่มเดียวกัน
มีกฎระเบียบเดียวกันคอยควบคุมบังคับ แต่ยามเติบใหญ่อยู่นอกโรงเรียน
ต้องเข้ามหาวิทยาลัยชีวิตที่ไม่มีกฎระเบียบมาคอยตามจี้ ขึ้นอยู่กับใครจะตักตวงเอาความรู้และประสบการณ์สู่ชีวิตของตน
บางคนจึงก้าวทันโลก แต่บางคนก็ก้าวไม่ทัน เพราะนึกไม่ถึงว่าเวลานั้นผ่านไปเร็วเกินกว่าที่จะรอช้าได้

เวลานั้นมีค่าและไม่ไหลย้อนกลับ จึงควรหมั่นศึกษาไขว่คว้าหาความรู้และประสบการณ์ที่ดีให้มากที่สุด


Sep 20, 2023

มีคนจำนวนมาก ไม่ชอบถูกเตือน

พศิน อินทรวงค์

มีคนจำนวนมาก ไม่ชอบถูกเตือน
เวลาใครมาเตือน
ก็มักแสดงอาการหงุดหงิด อารมณ์เสีย
ซึ่งเป็นเรื่องที่ก็พอเข้าใจได้
แต่อยากให้ลองมองอีกมุม
การที่ชีวิตของเรายังมีคนเตือน
ก็ย่อมดีกว่าชีวิตที่ไม่มีคนเตือน
โดยเฉพาะถ้าเขาเตือนเรา
ด้วยเหตุผล ด้วยความรักและหวังดี
เราก็ควรจะรับฟังไว้บ้าง
เพราะไม่มีใครหรอก
ที่จะเห็นตัวเองได้ทุกมุม
แน่นอนว่า หลายครั้ง
ความหวังดีนั้น
อาจมาพร้อมความหงุดหงิดนิดๆหน่อยๆ
ถ้าเป็นไปได้
ก็ให้เรารู้จัก คัดกรองของเสียออก
เลือกเอาแต่เนื้อหาสาระที่ดี
มาปรับปรุงตนเอง
การรับฟังอะไรที่บาดหูบาดใจนิดๆ
ด้วยใจที่เปิดกว้าง สงบนิ่ง
ถือเป็นการฝึกวุฒิภาวะ
ทำให้เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น



***ติดต่อ พศิน อินทรวงค์***
วิทยากร/บรรยาย/หนังสือ/บทความ
***ติดตามช่องยูทูป***
พศิน อินทรวงค์ - Pasin Intarawong



Shakespeare once said



   Jason Tidd


Sep 19, 2023

On this Day: 17 ปี รัฐประหาร 19 กันยา 2549 ยึดอำนาจทักษิณ

ภาพจาก https://news.mthai.com/webmaster-talk/588165.html


๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖


เหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ส่งผลสืบเนื่องถึงปัจจุบัน เพราะแม้จะผ่านมาถึง 16 ปี ประชาธิปไตยไทยก็ยังดูกระท่อนกระแท่นและไม่เข้าร่องเข้ารอยเสียที

คืนวันที่ 19 กันยายน 2549 คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เข้ายึดอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ขณะที่ปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ถัดมาจึงเปลี่ยนชื่อเป็นคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) จากนั้นได้แต่งตั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 24 ในวันที่ 1 ตุลาคม

รัฐประหารครั้งนี้ เป็นผลจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ดำเนินมาตั้งแต่ปลายปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ได้วิจารณ์ปมการทุจริต ใช้อำนาจโดยมิชอบ และไร้ความสามารถในการจัดการปัญหาชายแดนใต้ของรัฐบาลทักษิณ

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2549 เมื่อตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ เทขายหุ้นชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้แก่ เทมาเส็ก โฮลดิ้ง จำกัด จำนวนถึง 73,271 ล้านบาท สิ่งนี้สร้างความไม่พอใจแก่ชนชั้นกลางไทยเป็นอย่างมาก เพราะไม่มีการเสียภาษีรายได้ เสมือนการเอื้อประโยชน์แก่ครอบครัว ทำให้ผู้คนจำนวนมากออกมาเคลื่อนไหวในนามกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

เหตุการณ์คุกรุ่นเรื่อยมา เพราะแม้ว่าจะมีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ หากแต่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้การเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะ เพราะเป็นการเลือกตั้งที่มิชอบ แล้วจึงกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 โดยที่สถานะรักษาการนายกฯ ของทักษิณยังคงอยู่ตามกฎหมาย ทำให้การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เรียกร้องให้ทักษิณลงจากตำแหน่งยังดำเนินต่อไป

เดือนกันยายน พ.ต.ท.ทักษิณ มีกำหนดการปฏิบัติภารกิจต่างประเทศระหว่างวันที่ 10-21 กันยายน โดยช่วงท้ายคือการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา จนกระทั่งเช้าของวันที่ 19 กันยายน ตามเวลาของสหรัฐฯ เมื่อเกิดกระแสข่าวการรัฐประหาร ทักษิณจึงมีคำสั่งการให้เผยแพร่สัญญาณสดจากนิวยอร์กมาไทย แต่ยังไม่ทันอ่านแถลงการณ์จบ สัญญาณภาพก็ขัดข้อง สืบเนื่องจากในตอนนั้นเองที่ทหารเข้าควบคุมสถานีโทรทัศน์ รวมถึงสถานที่สำคัญในกรุงเทพฯ ไว้หมดแล้ว

ตรงกับช่วงค่ำของวันที่ 19 กันยายน 2549 ตามเวลาประเทศไทย คณะรัฐประหารนำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน จึงแถลงยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณผ่านสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง อ้างว่า “การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลทักษิณ ทำให้เกิดความขัดแย้งแบ่งฝักแบ่งฝ่าย สลายความรู้รักสามัคคีของคนในชาติอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย” พร้อมให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตยใน 1 ปี

นับแต่วันนั้น ผ่านมา 16 ปี เหตุการณ์ยังคงวนลูป ทั้งกระแส ‘รับไปก่อน แก้ทีหลัง’ ในการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ช่างดูละม้ายคล้ายคลึงกับช่วงร่างรัฐธรรมนูญ 2560 หรือกระแส ‘ปรองดอง’ ที่มักหลุดออกมาจากปากของผู้มีอำนาจในแต่ละยุค รวมไปถึงรัฐประหารในปี 2557 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็อ้างถึงจุดประสงค์เพื่อมุ่งสร้างความปรองดองของคนในชาติเช่นกัน

การต่อสู้ทางอุดมการณ์การเมืองยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องนับแต่นั้น ทั้งเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงในเดือนพฤษภาคม 2553 เพื่อเรียกร้องให้มีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ การเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส. เพื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เรื่อยมาจนถึงการเคลื่อนไหวของม็อบราษฎรปี 2563 จึงอาจกล่าวได้ว่า การรัฐประหารของ ‘บิ๊กบัง’ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในวันนั้น ส่งผลต่อภูมิทัศน์การเมืองไทยในวันนี้อย่างใหญ่หลวง

ในวาระครบ 15 ปี รัฐประหาร (ปี 2564) จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้วิเคราะห์ความสำคัญของเหตุการณ์ครั้งนั้นผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า เป็นครั้งแรกที่ขบวนการตุลาการภิวัฒน์และองค์กรอิสระทำผิดกฎหมายอย่างไม่จำกัด คณะรัฐประหารใช้การทำประชามติที่ไม่เสรีและไม่เป็นธรรม มาสร้างความชอบธรรมแก่รัฐธรรมนูญที่ไม่มีประสิทธิภาพเป็นครั้งแรก ขณะที่การรัฐประหารในปี 2557 เป็นความต่อเนื่องของการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ การสร้างระบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยให้เข้มแข็งมั่นคงมากยิ่งขึ้นและสืบทอดต่อเนื่องไปให้ยาวนานที่สุด

ทั้งกฎกติกาและการออกแบบรัฐธรรมนูญที่ซับซ้อนในฉบับปัจจุบัน ก็มีไว้เพื่อสกัดกั้นพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม รวมถึงขั้วการเมืองที่มีอุดมการณ์ต่างจากฝ่ายทหาร ดังกรณีรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ห้ามการดำรงตำแหน่งนายกฯ เกินระยะเวลา 8 ปี (ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ กลับเป็นคนแรกที่ต้องรอคำวินิจฉัย) สิ่งนี้สะท้อนว่า ในช่วงเวลา 16 ปี การเมืองไทยยังดูเหมือนเทปเล่นซ้ำ คำถามจึงอยู่ที่ว่า เราจะถอดบทเรียนจากอดีตและก้าวต่อไปในปัจจุบันอย่างไร หรือเรามาถึงองค์สุดท้ายของละครการเมืองเรื่องนี้แล้วกันแน่

19 กันยายน 2566 “วันคเณศจตุรถี” ฤกษ์มงคลบูชาพระพิฆเนศ

https://www.pptvhd36.com

19 กันยายน 2566 “วันคเณศจตุรถี” ฤกษ์มงคลบูชาพระพิฆเนศ เพราะถือเป็นช่วงเวลาที่พระองค์จะเสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อประทานพรแก่ผู้ศรัทธา

“วันคเณศจตุรถี” เป็นวันไหว้พระพิฆเนศที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ในบางตำราอาจบอกว่าเป็นวันประสูติของพระคเณศ ทำให้หลายคนสับสนกับ “วันคเณศชยันตี” ซึ่งเป็นวันประสูติของพระองค์เหมือนกัน   

แต่ถ้าอิงจากชาวฮินดูในรัฐมหาราษฏระ รัฐที่บูชาพระคเณศเป็นใหญ่และบูชาอย่างเคร่งครัด จะถือว่าวันนี้นั้นเป็น วันเฉลิมฉลององค์พระคเณศอันยิ่งใหญ่”

วันแรกของ “เทศกาลคเณศจตุรถี” ช่วงเวลาที่เราจะได้อยู่ใกล้ชิดกับองค์พระพิฆเนศเป็นพิเศษ ประชาชนแห่กราบสักการบูชา พลังแห่งศรัทธาท่วมท้น วัดแขก สีลม

ประชาชนหนาแน่นเทวลัย ร่วมบูชาพระพิฆเนศใน “วันคเณศจตุรถี” ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 19-28 กันยายน 2566 เชื่อกันว่าในช่วงนี้องค์พระพิฆเนศจะเสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อประทานพรให้แก่ผู้ศรัทธาพระองค์ ถือเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้อยู่ใกล้ชิดกับพระองค์เป็นพิเศษ 

ผู้เลื่อมใสศรัทธาจึงมักทำการเฉลิมฉลอง เพื่อต้อนรับพระองค์ ด้วยการบูชาในบ้านของตัวเองหรือเทวลัย เป็นเวลา 1 วัน 3 วัน หรือตลอดระยะ 10 วัน

Sep 16, 2023

ไพโรจน์ ธีระประภา (PAIROJ TEERAPRAPA) ศิลปินศิลปาธร สาขาเรขศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2557




การศึกษา
- ปริญาตรี ออกแบบนิเทศศิลป์ มัณฑนศิลป์ ศิลปากร กรุงเทพฯ ประเทศไทย
- ปริญญาโท ออกแบบนิเทศศิลป์ มัณฑนศิลป์ ศิลปากร กรุงเทพฯ ประเทศไทย

ผลงาน
- เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มแรงบันดาลไทย
- เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มเซียมไท้ 

รางวัล
- ศิลปินศิลปาธร สาขาเรขศิลป์ 2557
- นักออกแบบเกียรติยศ สาขากราฟิกดีไซน์ ปี 2560

การแสดงงาน
- Rang Bun Darn Thai , 2013 : Inspirational Thai Arts 
- Siam App, 2014 : Inspirational Thai Arts  
- Zine, Tokyo, 2015 : Hand Crafted books from a Thai designer describes in his own way how Thai style would be. 
- Kraft, 2015 : Hand Crafted books from a Thai designer describes in his own way how Thai style would be.
- Fark Thai, 2015 : Souvenirs and Gifts from the interpretational eyes of foreign tourists about “being Thailand” 
- ชุมทางร้อยไทย : โครงการออกแบบงานร่วมสมัยจากต้นทุนศิลปวัฒนธรรมไทย จากหลากหลายสถาบันตามหลักคิด “แวดล้อมคือตัวตน” โดย.  
  ความร่วมมือของกลุ่มเซียมไล้ และ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม (ม.ค. 2563)  




Sep 15, 2023

131th SILPA BHIRASRI DAY (15th September 2023 )


๑๓๑ ปี วัน ศิลป์ พีระศรี  ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖

 



 

Sep 12, 2023

9/11/2023

Cr: ทพญ.เพกา จรุงกิจอนันต์

9/11
เล่าช้าไป 1 วัน พอดีได้ไปอ่านใน group The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก แล้วได้คำตอบในเรื่องที่สงสัยมานาน คือสงสัยว่าคนไทยที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่ทำงานที่ Window of the World ชื่ออะไร จากโพสในเพจทำให้ทราบว่า ชื่อคุณอรศรี เลียงธนสาร เป็น 1 ใน 2 คนไทยที่เสียชีวิตในตึก World Trade Center ขอยกเรื่องมาเล่าไว้ตรงนี้นะคะ
ช่วงนั้นคุณวาณิชเป็น columnist นสพ. ฉบับหนึ่ง มีชื่อเสียงพอสมควร จะมีจดหมายจากแฟนๆคอลัมน์ส่งมาที่นสพ. ฉบับนั้น และมีการส่งต่อให้นักเขียน คุณวาณิชจะเอากลับมาที่บ้านเพื่อเปิดอ่าน เราก็จะชอบเข้าไปนั่งเล่นในห้องทำงานพ่อเพราะแอร์เย็น
☺️
แล้วก็เปิดอ่านจดหมายไปด้วย หลังเหตุการณ์ 9/11 มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมา พร้อมกับแนบรูปผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย ตอนที่เราเห็นเรารู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้สวยมากกกก จดหมายเขียนโดยคุณพ่อ เล่าเรื่องลูกสาว เนื่อหาอื่นๆ เราก็จำไม่ได้ซะแล้ว จำไ้ด้แต่ความรักต่อลูก และความสูญเสีย และจำได้ว่า ผู้หญิงท่านนี้ทำงานที่ Window of the World จึงน่าจะเป็นคุณอรศรี ต่อมาคุณวาณิชได้เขียนถึงเหตุการณ์นี้ลงนสพ. ฉบับนั้น โดยลงรูปคุณผู้หญิงท่านนี้ประกอบกับคอลัมน์ด้วย ตอนนั้นคิดว่าความเป็นนักเขียนคอลัมนิสท์ของคุณวาณิชนั้น ผู้อ่านรู้จักคุณวาณิชผ่านตัวอักษร เคยเจอกัน หรือรู้จักกัน จริงๆหรือก็เปล่า แต่เมื่อมีเรื่องราวในชีวิต ก็อุตส่าห์เขียนจดหมายทางไกลมาหา รู้สึกดีใจแทนว่า คุณวาณิชประสบความสำเร็จในอาชีพ (จริงๆจดหมายด่าก็เยอะ
😅
คงคล้ายๆเม้นท์ด่าในเฟสสมัยนี้)
เราพยายามหาว่าผู้หญิงไทยท่านนี้คือใคร ชื่ออะไร มานาน ตัวเองเพิ่งไป memorial 9/11 ที่นิวยอร์คเมื่อต้นปี ใจก็คิดถึงผู้หญิงไทยท่านนี้ตลอด ตอนนี้ได้ทราบคำตอบแล้ว นอกจากนี้ในเพจยังมีคนที่จำเรื่องในคอลัมน์ที่เขียนได้ด้วย เป็นการยืนยันว่าดิชั้นไม่ได้มั่วค่ะ
😌
อันนี้แถมให้ด้วยความเนอร์ดของตัวเอง พนง.ร้าน Window of the World วันนั้นเสียชีวิตทั้งหมดนะคะ ส่วนเจ้าของร้านตอนเกิดเหตุเค้าอยู่ที่ lobby ที่เค้ามาช้ากว่าปรกติเพราะเค้าไปตัดแว่นก่อน เลยรอด แต่เอาใจเค้ามาใส่ใจเราก็อดใจหายไม่ได้ เป็น the day that chaged the world จริงๆ

Sep 11, 2023

หนึ่งเดียวคือแม่ Ost.ทองเนื้อเก้า

http://teetwo.blogspot.com/2007/10/blog-post_10.html

เนื้อร้อง ดวงใจ สุริยา

ขับร้อง พลอย พรรณาราย 

ขับร้อง นันทนา พงษ์ปฐม

อันพระคุณแม่นับคณา เกินกว่ายากหาไหน

พสุธาที่กว้างไกล ยังไม่เท่าแม่นี้

รวมแผ่นฟ้ามหานที พระคุณแม่นี้มากเสียยิ่งกว่า

ยามแม่อุ้มท้อง แสนทรมา

เมื่อลูกเกิดมา แม่นั้นยินดี

ยามหนาวลูกนอนแม่ซ่อนอกไว้

ยามร้อนผิวกายแม่ใช้พัดวี

ยามหิวคราใดแม่ให้ห่วงหา

ป้อนน้ำข้าวปลาลูกแสนเปรมปรีดิ์

พระคุณแม่นั้น อนันต์เหลือที่

ผู้ใดจะมีเสมอเหมือนได้

แม่ทนอ่อนล้า เลี้ยงมาจนใหญ่

แม่ยอมเหนื่อยกาย หาเงินส่งเสียให้เรียน

จงอย่าลืมคิดทดแทนคุณท่าน ก่อนบั้นปลาย

แม่เปรียบดังเหมือนร่มไทรใบแก่แผ่เหนือเศียร

วัยผ่านพ้น สักวันคงเปลี่ยน

คอยหมั่นเพียร เยี่ยมเยียนเมื่อท่านชรา

แม่คงชะแง้อยากแลเห็นหน้า

แม้ลูกไม่มา แม่คงเจ็บช้ำฤดี

อย่าทิ้งให้แม่ได้แต่หงอยเหงา

มองหาลูกเต้าสักคนไม่มี

อย่าคิดลืมแม่เมื่อแก่ชรา

ท่านเลี้ยงเรามาช่วยชุบชีวี

เลือดในอกนั้น กลั่นจนล้นปรี่

น้ำนมแม่นี้ มีค่านับอนันต์

ผู้คนหมื่นแสนทั่วแดนนับล้าน

แต่ว่าแม่นั้นเห็นมีอยู่แค่คนเดียว

ผู้คนหมื่นแสน ทั่วแดนนับล้าน

แต่ว่าแม่นั้น เห็นมีอยู่แค่คนเดียว








Sep 7, 2023

#เพลงอื่นๆอีกมากมาย



ศุ บุญเลี้ยง

ยังไม่ได้เขียนถึงเพลงสุดท้าย จะจบได้ยังไง

เรื่องเล่าที่ควรบันทึกไว้นั่นคือ #เพลงอื่นๆอีกมากมาย

ก่อนปิดม่านการแสดง
ก่อนปิดฉากการบันทึก

#อื่นๆอีกมากมาย เป็นเพลงแรกหน้าA เป็นชื่ออัลบั้ม
มักจะกลายเป็นเพลงสุดท้ายของการแสดง
ทางผู้กำกับขอให้มีเนื้อเพลงแต่งใหม่ เพื่อบ่งบอกทิศทางของแต่ละคนในการจากลา

วัชระ เป็นคนแรกที่บรรจงเขียนมา สมกับเป็นนักแสดงเจ้าของรางวัลตุ๊กตาเทียม เพราะเพียงไม่กี่ประโยค แกยังเขียนเป็นเหมือนละคร มีฉากมีตัวละครอยู่ในนั้น และมั่นใจในเนื้อหาแบบไม่มีการแก้ไขใดๆ
(ผู้อ่านควรฮัมทำนองไปในขณะอ่าน หรือร้องออกเสียงให้ตรงกับเมโลดี้)

เจี๊ยบ:
"พี่เจี๊ยบฟังดูดี ทำไมไม่เรียกกัน
เบิร์ดแก่กว่าฉัน เห็นยังเรียกว่าพี่
เมื่อวานไปซื้อหนม ลูกอมน้ำเป๊ปซี่
แคชเชียร์แม่ตัวดี หนมนี่เวฟไหมลุง"
…….
แต๋ง:
เล่นแซกมานมนาน แต่งานไม่ค่อยมี
คอนเสิร์ตคราวนี้ แปดปีถึงได้เป่า
ลูกเต้า ก็โตแล้ว เรื่องงานก็ตัวเบา
ขายแซกดีกว่าเรา เก็บตังค์ไปซื้อยา

…….

เกี๊ยง:
งานการยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือร่ำรวย
ลูกสาวก็สวย อาหมวยเหมือนแม่มัน
ออกแบบตามฮวงจุ้ย แดดลมต้องคู่กัน
แบบบ้านสารพัน ให้ลองมาจ้างดู
…….
ส่วนของฉัตรชัยนั้นมีหลายเวอร์ชั่นกว่าใคร
ตอนแรกจุ้ยลองแต่งให้
นก:เนื้อมีว่า
ปวดหลังมานมนาน ปวดนานเพราะเหตุใด
ยาหม่องไม่หาย สุดท้ายต้องลองผ่า
ผ่าดีก็คงหาย รอดตายค่อยฟื้นมา
เสร็จแล้วค่อยเสริมหน้า ผ่านมสุขสมใจ…

……..
(แต่นกไม่ยอมเอา)
นกจึงไปแต่งมาใหม่ เกี่ยวกับเรื่องเมียเป็นครู ส่งมาในไลน์ไม่มีใครชมว่าเจ๋ง เลยเปลี่ยนใหม่มาอีก สมกับเป็นนักแต่งเพลงมืออาชีพ
นก;
ตัวผมแข็งแรงดี มีสูงแค่ความดัน
เริ่มๆเป็นเบาหวาน ยืนนานก็ปวดเข่า
นั่งนานก็ปวดหลัง ตาขวาชักเริ่มเก่า
หูซ้ายได้ยินเบาๆ อย่างอื่นยังแข็งแรง
……
ส่วนของศุนั้นก็มีหลายเวอร์ชั่น เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาทุกคราที่ซ้อม แก้ไปแก้มาหาคำโน่นนี่ลองฮัมลองร้องว่าอันไหนพอดีกับปาก

จุ้ย:
ร้องเพลงมานมนาน อาการไม่ค่อยดี
อยากเปลี่ยนเวที ไปหาเส้นทางใหม่
จะออกไปตามหา ประชาธิปไตย
ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย แต่เป็นพรรคเพื่อเธอ
…..
คนสุดท้ายที่ต้องร้อง คือ นิติพงษ์
เราให้ผู้อาวุโสเป็นคนจบเพลงพิเศษนี้

ดี้:
ส่วนผมมีทัวร์ลง เจริญก้าวหน้าดี
ทุกฝ่ายทุกสี มาลงที่กูหมด
ลูกทัวร์มีเยอะแยะ หากช้ากลัวมันโกรธ
เลยคิดทุ่มเงินสด จะทำสนามบิน
(ให้ทัวร์ลง)
…..
เพลงอื่นๆอีกมาย จึงกลายเป็นบทบันทึกที่มีความสำคัญต่อการเดินทางต่อไปของแต่ละคน
ตอนแรก
ผมเขียนเนื้อว่า “อยากเปลี่ยนวิถี”
แต่ร้องไปร้องมา รู้สึกคำว่าวิถีดูหรูหราไป
และอันที่จริงผมก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนวิถีไปไหน เพราะวิถีชีวิตตอนนี้ก็พอเหมาะพอดีกับอายุอานาม
จนรอบสุดท้ายขณะที่กำลังจะร้องคำว่า “เวที” ลอยขึ้นมาในความคิด…แทนคำว่า “วิถี”
ใช่แล้ว.. แวบนั้นบอกตัวเองว่า
เราน่าจะอยากเปลี่ยนไปขึ้น “เวที” ที่แปลกใหม่แตกต่างไปจากเดิม
คำว่า “อยากเปลี่ยนเวที” จึงสอดคล้องกับวิถีที่เลือกไว้มากกว่า

หวังว่าจะพบกันใหม่ ในอีกบางเวที ตามแต่วิถีจะดำเนินไป
….อื่นๆอีกมากมาย อีกมากมาย ที่ไม่รู้ อาจจะจริงเราเห็นอยู่ เผื่อใจไว้ที่ยังไม่เห็น
เพลงอื่นๆอีกมากมายจบลง
แล้วดนตรีเพลง เพลง #ฝากเอาไว้ก็ดังขึ้นมา
อ้าววว….ไหนบอกว่าเพลงสุดท้าย
อ๋อ… ต่อจากเพลงสุดท้าย คือเพลงจบเพื่อลาจาก……
(ติดตามได้…ในรวมเล่ม #เฉลียงเอียงกระเท่เร่ ฉบับพิมพ์ซ้ำ >>>โน่นเลย พรีออร์เดอร์กับทางกะทิกะลา) 

Sep 5, 2023

๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๖




CrazyGroovy - เครซี่กรูฟวี่

“งานบางชิ้นจะประสบความสำเร็จได้ ต้องการคนทำงานที่มีความบริสุทธิ์ใจ และจริงใจกับงานชิ้นนั้น ขอบคุณเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ทุกคนที่อุทิศใจให้กับงานชิ้นนี้...” — เรวัต พุทธินันทน์ *

จากวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2529
เป็นเวลาเกือบ 37 ปี ของคอนเสิร์ต “ปึ้กกก...!” การแสดงคอนเสิร์ตที่เป็นบทบันทึกหน้าสำคัญระดับประวัติศาสตร์ของวงการเพลงไทย โดยศิลปินผู้ยกระดับวงการเพลงไทย
ปึ้กกก...! เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก ของ “พี่เต๋อ-เรวัต พุทธินันทน์” ศิลปินเพลง ผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทค่าย “Grammy Entertainment” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2529 ที่อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก หลังการออกอัลบั้มของตัวเองมา 3 ชุด (เต๋อ 1 / เต๋อ 2 / เต๋อ 3)
ซึ่งการจัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ เป็นช่วงโปรโมตอัลบั้ม “เต๋อ 3” ที่วางจำหน่ายก่อนคอนเสิร์ตนี้ไม่นาน และเป็นการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 2 ของทีมงานแกรมมี่ ถัดจาก “แบบเบิร์ดเบิร์ด” ครั้งที่ 1 ในช่วงกลางปีเดียวกัน
.
โดยตลอดการออกอัลบั้มของพี่เต๋อที่ผ่านมา พี่เต๋อไม่เคยเดินสายออกทัวร์เหมือนศิลปินท่านอื่น และยังไม่มีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเอง เพราะวงการเพลงไทยในตอนนั้น ยังไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจกับการจัดคอนเสิร์ตใหญ่เท่ายุคปัจจุบัน
“ความสำเร็จของคอนเสิร์ตปึ้กกก...! เป็นที่กล่าวขวัญกันไม่รู้จบ ถึงความยิ่งใหญ่ของเวทีคอนเสิร์ต และโปรดักชั่นยักษ์ที่สมบูรณ์พร้อม ทั้ง แสง สี เสียง กราฟฟิก และเทคนิคบนเวที ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย
เต๋อภูมิใจกับโปรเจกต์นี้มาก เพราะคอนเสิร์ตครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ทำให้แฟนเพลงของคนดนตรีประทับใจเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ทางวงการดนตรีในเมืองไทยของเราอีกด้วย” — อรุยา พุทธินันทน์ (คุณอี๊ด / ภรรยาพี่เต๋อ เรวัต, พ.ศ. 2559)
เมื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์การผลักดันศิลปินในสังกัดมาได้ระยะหนึ่ง ‘ปึ้กกก...!’ จึงเป็นการลงสนามครั้งสำคัญของพี่เต๋อ ในฐานะ ‘ศิลปิน’ คนสำคัญ ที่ได้นำเพลงเอกของตัวเองมาร้องให้ฟังในงานครั้งนี้ อาทิ เจ้าสาวที่กลัวฝน, ดอกไม้พลาสติก, อกหักไม่ยักกะตาย, ยิ่งสูงยิ่งหนาว, คงจะมีสักวัน
.
โดยนอกจากตัวพี่เต๋อที่คัดเลือกเพลงดีของตัวเองมาร้องให้ฟังสด ๆ เป็นครั้งแรก ยังมีทีมนักดนตรีเบื้องหลังที่ได้ทำงานภาค Studio ให้พี่เต๋อ มาคอยเล่นเป็นนักดนตรี Back-Up ตลอดทั้งคอนเสิร์ตนี้
ตั้งแต่ พี่ป้อม-อัสนี โชติกุล ที่กำลังออกอัลบั้ม ‘บ้าหอบฟาง’ ในตอนนั้น / พี่โอม-ชาตรี คงสุวรรณ จากวง ‘The Innocent’ ที่พี่เต๋อไว้วางใจให้มาทำงานในชุดเต๋อ 3 / พี่ติ๊ก ชิโร่ (ศิริศักดิ์ นันทเสน) ที่เป็นมือกลองคู่ใจของพี่เต๋อ ก่อนจะมาออกอัลบั้มของตัวเอง
และบรรดาศิลปินคุณภาพ ที่ได้ทำงานเบื้องหลังไว้มากมาย อาทิ คุณต๋อง-เทวัญ ทรัพย์แสนยากร / พี่นิ่ม-สีฟ้า (กัลยารัตน์ วารณะวัฒน์) / คุณตี่-กริช ทอมมัส / คุณป้อม-อภิไชย เย็นพูนสุข / คุณตั๋ม-จาตุรนต์ เอมซ์บุตร / อ. มืด ไข่มุก / คุณโย-โยธิน ชีรานนท์ / คุณฑูรย์-ไพฑูรย์ วาทยะกร และ “คุณป๊อก-วิชัย อึ้งอัมพร” ดูแลตำแหน่ง Music Director
ซึ่งนับว่าเป็นการรวมพลคนดนตรีครั้งยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์เพลงไทยอีกด้วย และ ปึ้กกก...! ยังเป็นการขึ้นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของพี่เต๋อ เรวัต เพราะหลังจากนั้นพี่เต๋อก็ได้ไปทำงานบริหาร และดูแลเบื้องหลังค่ายแกรมมี่อย่างเต็มตัว ในช่วง 10 ปีให้หลัง จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
.
และด้วยวาระวันคล้ายวันเกิดของพี่เต๋อ ในปีที่ 40 ของ GMM Grammy หรือวันที่ 5 กันยายนนี้ ทาง Capmusic และ GMM Music Store ได้นำแสดงสดปึ้กกก...! มาอยู่บนรูปแบบ ‘แผ่นเสียง’ Limited เพียง 250 ชุด เป็นครั้งแรกในรอบ 37 ปี หลังจากที่เคยทำเทปคาสเซ็ต Audio มาแล้ว
ใครที่ชื่นชอบการฟังเพลงจากแผ่นเสียง และคอยติดตามฟังผลงานชิ้นสำคัญ สามารถติดตามสั่งจองกันได้ที่ Facebook Capmusic ในวันพรุ่งนี้ เวลา 12.00 น.
“...เราเพิ่งจะเริ่มต้นกันเท่านั้น ผมอยากเห็นสิ่งที่ดีขึ้นไปอีกในอนาคต เพราะผมเชื่อในพลังของคนรุ่นใหม่ ช่วยกันสานต่อด้วยนะ”
— เรวัต พุทธินันทน์ (5 พ.ย. 2529)*

Sep 4, 2023

Bananas are not trees.

 

Did you know World

ธรรมะหลวงปู่ดุลย์ อตุโล สอนเรื่องจิตก่อนตาย


หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม


เรื่องจิตก่อนตายนั้น สำคัญมากหากเวลาดับจิต หากจิต"ดี" ก็ได้ไปที่ "ดีๆ"หากจิต “หมอง” จิต “ร้าย”
ก็จะไปสู่ “อบายภพ” ที่ร้อนร้ายในทันใด
ซึ่งจิตก่อนตายนี้ เป็นของไม่แน่นอน บังคับไม่ได้ แล้วแต่วาระหรือกรรมจะพาให้เป็นไป
ด้วยเหตุนี้บางคน แม้เคยทำบุญมามากต่อมาก
แต่ตายไปกลับไปตกนรกทั้งนี้เป็นเพราะ"จิตหมอง"ก่อนตาย บางคน แม้จะทำบาปทำกรรมมามากมาย
แต่ตายไป กลับไปอยู่บนสวรรค์ทั้งนี้เพราะเกิด"จิตใส"ตอนดับจิต
กรณีทั้งสองแบบ ล้วนมีบันทึกไว้ในพระไตรปิฏกมาแล้วทั้งสิ้นแต่สำหรับคนที่เคย"ฝึกจิต"มาก่อนวินาทีที่รู้ตัวว่า
อย่างไรเสียจะต้องตายหรือดับจิตลงไปแน่ๆหาก"ทำเป็น"
ก็อาจพลิกจิตยกขึ้นสู่ภูมิสูง ไปสู่"สุคติ"หรือ"อริยะ"ไป "สุคติภพ"หรือ"อริยภูมิ"เลยก็ได้
สำหรับวิธีตกกระไดพลอยกระโจน (สู่สุคติภพหรืออริยภูมิ) ของ
พระราชวุฒาจารย์หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม สุรินทร์ ก็คือ
ปล่อยวางทั้งอดีต อนาคต และปัจจุบันอยู่กับความไม่มีไม่เป็น ว่าง สว่าง บริสุทธิ์ หยุดการปรุงแต่ง
หยุดการแสวงหา หยุดกิริยาจิต ไม่มีอะไรเลยไม่ยึดถืออะไรสักอย่าง
พระอริยเจ้ามีจิตไม่ส่งออกนอกจิตไม่หวั่นไหว จิตไม่กระเพื่อมมีสติอย่างสมบูรณ์เป็น วิหารธรรมมีสติอย่างสมบูรณ์
เป็นเครื่องอยู่วิธีทำหยุดคิด อย่าส่งจิตออกนอกมีสติอย่างสมบูรณ์เป็นเครื่องอยู่แต่เรื่องของการ"พลิกจิต"
ช่วงสุดท้ายนี้ หลวงปู่ดุลย์ท่านว่าบุคคลนั้นๆต้องเคย"ฝึก"มาก่อน จึงจะทำได้จริง พอดี


The 48 Laws of Power


   
8 บรรทัดครึ่ง

ทำยังไงให้มี Power?

ทำตัวให้เข้าใจยาก ช่วยเพิ่ม Power ยังไง?
ของฟรีไม่ได้ดีเสมอไป จริงไหม?


📌 หาคำตอบได้ที่ https://bit.ly/3OUlb4U

#8halfPodcastMedley

สรุป 48 กฎลับ
สร้างอำนาจให้ตัวเอง


#สรุปหนังสือ
รู้วิธีเล่นเกมอำนาจจากหนังสือ Best Seller ของนิวยอร์กไทม์ กับ The 48 Laws of Power โดย Robert Greene นักเขียนชาวอเมริกัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในเรื่องกลยุทธ์อำนาจ สงคราม และการล่อลวง (Seduction)

หนังสือเล่มนี้กลั่นมาจากเทคนิคการเพิ่มและรักษาอำนาจของบุคคลตามหน้าประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน เหมาะกับคนที่มองหาวิธีลัดในการครอบครองอำนาจ และกลยุทธ์การเล่นเกม วางตัวให้เป็นในที่ทำงาน

ติดตามสรุปหนังสือแบบนี้ และสาระดี ๆ สำหรับคนทำงานที่ไม่มีเวลาเช่นคุณได้ที่ Youtube แปดบรรทัดครึ่ง เท่านั้น